อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก! - ตอนที่ 645 กลับสู่อ้อมกอดของเขาอีกครั้ง (5)
ตอนถังซ่งถูกปลุกตื่นจากความฝันก็แทบระเบิดอารมณ์
พอขับรถมาถึงห้องฉุกเฉินในตึกโรงพยาบาลขนาดใหญ่ของตัวเอง พยาบาลตัวเล็กร้องไห้กระซิกเพราะเย่เซียวตั้งนานแล้ว พอเห็นถังซ่งก็เหมือนเจอฮีโร่ผู้ช่วยชีวิตไว้ก็ไม่ปาน
“ผู้อำนวยการ ในที่สุดคุณก็มา ถ้ายังไม่มา โรงพยาบาลนี้ต้องถูกรื้อออกแน่ๆ”
“ไม่ต้องกลัว มีผมปกป้องพวกคุณอยู่ คุณ เข้าไปเป็นลูกมือช่วยผมที” เขาชี้ไปยังหนึ่งในพยาบาลเหล่านั้น
พยาบาลตัวน้อยส่ายหัวถอยกรูดไปด้านหลังเล็กน้อย “ฉันกลัว”
“ดูสภาพขี้ขลาดของคุณสิ!” ถังซ่งลากพยาบาลตัวน้อยคนนั้นออกมาจากข้างหลังทันที “หน้านิ่งๆ ของเขาถึงจะน่ากลัวไปหน่อยแต่ก็ไม่กินคุณเข้าไปหรอกน่า”
……………………
ถังซ่งเข้าไปในห้องฉุกเฉิน ได้เห็นสภาพของเย่เซียว อย่าว่าแต่พยาบาลตัวน้อยเลยแม้แต่ตัวเองยังตกใจกับภาพที่เห็น
บนตัวไม่มีเสื้อผ้าก็แล้ว เศษกระจกยังเสียบคาบนผิวหนังและเลือดไหลไม่หยุด ตรงหน้าผากเลือดออกมากเสียยิ่งกว่า ไหลลงตามหางตา เมื่ออยู่คู่กับใบหน้าที่ดูดีปนเย็นชานั่นเหมือนปีศาจดูดเลือดที่ปรากฏตัวในภาพยนตร์ชัดๆ
“พี่ใหญ่ กลางคืนดึกๆ วิ่งมาหลอกคนอย่างฉัน ต้องทำขนาดนี้เลยเหรอ? นั่งสิ ให้ฉันดูแผลให้นายหน่อย ถึงขนาดทำให้นายรีบร้อนจนไม่ทันใส่รองเท้าด้วยซ้ำ” ถังซ่งว่าแล้วจับหน้าเขาหันซ้ายขวา เย่เซียวปัดมือเขาออก
“ไม่ใช่ฉัน เธอต่างหาก”
“เธอ?”
พยาบาลตัวน้อยรีบเปิดม่านข้างๆ ขึ้น “ผู้อำนวยการ หลังศีรษะเธอบาดเจ็บ”
ถังซ่งเดินเข้าไปก็เห็นไป๋ซู่เย่กำลังนอนคว่ำบนเตียง ตัวอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำนอนหลับตาเบาๆ คล้ายอ่อนแรงนักหนา
ถังซ่งมองเธอแล้วหันกลับมามองเย่เซียวแวบหนึ่ง ใช้สายตาประเมินกวาดมองเขาก่อนจะจิปากที “นายเป็นสัตว์เดรัจฉานหรือไง? กอดผู้หญิงนิดหน่อยก็ทำจนหลังหัวเธอเป็นแบบนี้?”
เย่เซียวตวัดตาเย็นชาไป
พยาบาลตัวน้อยข้างๆ หน้าแดงแปร๊ด มองผู้หญิงที่นอนคว่ำหน้าบนเตียงอีกครั้งด้วยสายตาสงสาร
คุณเย่เซียวเหมือนรูปลักษณ์ภายนอกไม่มีผิด ไม่รู้จักทะนุถนอมผู้หญิงเลย
“ฉันว่านาย…”
“นายหุบปาก! รีบทำแผลก่อน” เย่เซียวไม่มีอารมณ์ฟังคำสอนของเขา
“ได้ๆๆ รีบทำแผลให้เธอก่อน” พยาบาลได้เตรียมยามาพร้อมแล้ว ถังซ่งเปลี่ยนเสื้อกาวน์ไปใส่ถุงมือไปก็มองเย่เซียวข้างๆ แวบหนึ่ง
เห็นเขานั่งอยู่ริมเตียงมองหญิงสาวบนเตียงนิ่งด้วยแววตาล้ำลึกยากจะคาดเดาว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
“นายเองก็ออกไปให้คนจัดการแผลบนตัวให้นายด้วย อย่างกับแต่งคอสเพลย์ผีดูดเลือด กลางคืนดึกดื่นมันน่าตกใจนะ” ถังซ่งกล่าว
“แผลเล็กน้อย”
“เธอเองก็แผลเล็กน้อย นายไม่ต้องประหม่าขนาดนั้น”
“…” เย่เซียวเม้มปากไม่พูดอะไรและไม่ขยับตัวอีก ถังซ่งรู้ว่าเขาไม่ฟังจึงหันกลับไปทำแผลให้ไป๋ซู่เย่ ไล่ตรวจแผลของเธอตั้งแต่หลังศีรษะมาจนถึงลำคอเธอ เขาถึงใช้ปลายนิ้วเปิดคอเสื้อคลุมอาบน้ำ เสียงเรียบนิ่งดังขึ้นฉับพลัน “ถ้านายยังมองลงไปอีก ระวังตาตัวเองด้วย”
“บัดซบ!” ถังซ่งสบถหยาบที “นายมันโรคจิต! คอเธอกับไหล่เธอมีแต่แผล จะไม่ให้ทำแผลหรือไง?”
“ไม่ต้องสนใจเขา…” ไป๋ซู่เย่กึ่งหลับกึ่งตื่น ลดคอเสื้อคุลมอาบน้ำลงมาด้วยตัวเองเปิดเผยลาดไหล่ทั้งสองข้าง ผิวขาวเนียนแต่กลับเต็มไปด้วยรอยกุหลาบและรอยฟันจากใครบางคน
“โรคจิตจริงๆ ด้วย นายทำลงไปได้ยังไง…ไม่สิ ใช้ปากสินะ!”
ผิวที่มีแต่จ้ำๆ มองดูแล้วน่าสะพรึงจริงๆ เย่เซียวไม่มีคำตอบโต้สำหรับคำกล่าวหาของถังซ่ง เขาย่ำเท้าไปประคองตัวเธอที่นอนคว่ำตัวอยู่มากึ่งพิงที่อกตัวเอง มือหนึ่งปัดเส้นผมยาวลอนของเธอไปอีกข้าง มือหนึ่งประคองเอวเธอไว้ เชยตาตวัดมองถังซ่งเป็นการตักเตือนวูบหนึ่ง “ถ้ากล้ามองไปทั่ว จะควักลูกตานายออกมาดองเหล้า”
“ของสวยงามอยู่ตรงหน้าฉันขนาดนี้แต่ฉันกลับมองไม่ได้ นายรู้ไหมว่ามันทรมานขนาดไหน?”
“หุบปาก” เย่เซียวถลึงตาดุดันใส่เขาที
ถังซ่งรู้ว่าจะหยอกล้อไป๋ซู่เย่ไม่ได้ อย่างน้อยจะหลอกล้อต่อหน้าเย่เซียวไม่ได้ ต่อให้ตอนนี้เขาเกลียดเธอ แต่เธอยังคงเป็นขีดความอดทนเส้นสุดท้ายของเขา เขาจะไปกระตุ้นไปท้าทายหรือล้อเล่นไม่ได้ทั้งนั้น
“เอากรรไกรมาให้ผม” เขาหันกลับไปบอกพยาบาล
เย่เซียวขมวดคิ้ว “จะตัดผมเหรอ?”
“อืม ต้องเย็บแผล ตัดจุกเดียวน่าจะดูไม่ออก”
“หลังเย็บแผลแล้วจะงอกขึ้นมาใหม่ไหม?”
“ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว” ถังซ่งเขม่นใส่เย่เซียวแวบหนึ่ง “ทำไมนายมีปัญหาเยอะจังก็แค่ตัดผมเอง เมื่อก่อนไม่เห็นรู้สึกนายจะมีปัญหาเยอะขนาดนี้”
“รีบทำงานของนายไป!” เย่เซียวเม้มปากไม่พูดอะไรอีก
ไป๋ซู่เย่เท้าคางไว้ที่ไหล่เขา รู้สึกถึงความเย็นเล็กน้อยตัวเธอจึงสั่นกึกก่อนจะถูกเย่เซียวกระชับกอดไว้แน่น
สักพักได้ยินพยาบาลวิ่งเข้ามา “ผู้อำนวยการคะ เอ่อ…”
“เอ่ออะไร? อย่าอ้ำๆ อึ้งๆ”
“…ที่นี่ไม่มียาชาแล้วค่ะ กุญแจโกดังอยู่ที่คุณหมอหู ตอนนี้เขาอยู่ที่อื่น พรุ่งนี้เช้าถึงจะกลับมา”
“โรงพยาบาลพวกนายมันตกต่ำขนาดนี้เชียวเหรอ?” เย่เซียวเริ่มมีน้ำโห
“ใครจะรู้ว่านายจะทรมานคนเขาจนเป็นแบบนี้กลางดึกได้ล่ะ? ถ้านายบอกแต่เร็วหน่อยฉันคงเตรียมยาชาไว้ให้นายอยู่นี่นานแล้ว”
“นายอย่ามาต่อปากต่อคำ รีบคิดหาวิธีเร็ว!”
“หาวิธีอะไร? ไม่นายเปลี่ยนโรงพยาบาลก็ไม่ต้องใช้ยาชาไง”
“ไสหัวไป!” เย่เซียวไม่แม้แต่จะคิดเตรียมช้อนตัวเธอขึ้น ปลายนิ้วไป๋ซู่เย่จิกไหล่เขา “เย่เซียว อย่าขยับ…ฉันมึนหัวจะตายอยู่แล้ว…”
“นายไม่ต้องลำบากอะไรแล้วน่า จะเปลี่ยนโรงพยาบาลก็อีกตั้งสิบกว่ากิโลเมตร ไม่รีบเย็บแผลเกิดแผลติดเชื้อขึ้นมาจะเจ็บยิ่งกว่านี้”
“เย็บเถอะ” ไป๋ซู่เย่มุ่นคิ้วเป็นปม กัดฟันแน่น “เจ็บแค่นี้ ฉันพอทนได้…”
“เจ๋ง วีรสตรีของประเทศไม่ใช่เล่นๆ จริงๆ ด้วย เย่เซียว นายอย่าดูถูกเขาเชียว”
เย่เซียวหน้าตึงเสียยิ่งกว่าตึง ‘วีรสตรีของประเทศ’ ฉายานี้เธอได้มาเมื่อสิบปีก่อนที่เขาบาดเจ็บหนัก พอมาได้ยินเองกับหูตอนนี้มันช่างเสียดสีดีเหลือเกิน
………………
ถังซ่งใช้แอลกอฮอล์เช็ดปากแผลให้เธอแล้วเริ่มเย็บแผล
เธอเจ็บจนเหงื่อแตกพลั่ก ฟันล่างกัดจนริมฝีปากล่างเลือดซึมแต่ยังอดทนไว้ไม่ให้ตัวเองหลุดเสียงออกมา
ผู้หญิงคนนี้!
“เจ็บก็ร้องออกมา ไม่มีใครล้อเลียนคุณหรอก”
“บางทีความเจ็บพวกนี้ก็ต้องทนรับให้ได้ ทำไมต้องร้องออกมาล่ะ? ร้องออกมาก็ไม่ได้ช่วยบรรเทาความเจ็บ…”
เย่เซียวตาล้ำลึกขึ้นอีกนิด สายตาจ้องเธอไม่ห่าง
ฉะนั้น…
เมื่อครู่อยู่บนเตียงเธอถึงได้ไม่ร้องขอชีวิต?
ดื้อด้านจนน่าโมโห!
“นายเบาหน่อย!” เขาถลึงตาใส่ถังซ่งอย่างหงุดหงิด
ถังซ่งรู้สึกไม่ยุติธรรม “ฉันเบามากแล้วนะ อีกอย่างคนที่โดนเย็บไม่ทันร้องเจ็บ แต่นายกลับเก็บอารมณ์ไม่ได้ซะก่อน”
สุดท้ายเย่เซียวก็ไม่ตอบกลับอะไรอีก คอยมองหญิงสาวในอ้อมแขน เห็นขนตาเธอสั่นระริกรุนแรง ในใจทั้งอึดอัดทั้งเจ็บปวด
……………………………….