อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก! - ตอนที่ 676 กลับมาเจอกันอีกครั้ง (3)
ลงมาชั้นล่างใบหน้าของเธอยังขาวซีดเหมือนเดิม
เดินเข้าไปในห้องทำงานก่อนจะทิ้งตัวลงบนเก้าอี้และใช้นิ้วคลึงระหว่างคิ้วแรงๆ เธอหวังว่าทุกอย่างจะไม่ดำเนินไปตามที่เธอคิดไว้!
ไป๋หลางเปิดประตูเข้ามาด้วยความเป็นห่วง พอเห็นท่าทางของเธอจึงเรียกให้เลขาชงชาเข้ามาเสิร์ฟ เขาปิดประตูเอาน้ำชาวางไว้บนโต๊ะทำงานใกล้ๆ เธอ
ไป๋ซู่เย่ยืดหลังตรงปรับสีหน้าให้จริงจัง “ขอบคุณ”
ไป๋หลางกล่าวเสียงนิ่ง “วันนี้มีนายพลหลายท่านรีบร้อนมาเพื่อพูดคุยเรื่องของไฟเรนเซ่แต่เช้า”
“พวกเขาคุยกับฉันแล้ว แต่แค่ไม่กี่ประโยคก็ให้ฉันลงมาก่อน”
ไป๋หลางเริ่มกังวล “พวกเขา อยากให้คุณเข้าใกล้…”
“ไม่มีอยากหรือไม่อยาก สำหรับเรื่องนี้เบื้องบนยังไม่มีวิธีแก้ที่ได้ผลออกมา อย่าเพิ่งคิดไปไกล”
ไป๋ซู่เย่พูดขัดไป๋หลาง ทั้งที่ตนบอกว่าอย่าเพิ่งคิดไปไกลแต่ในหัวกลับวุ่นวายยิ่งกว่าสิ่งใด
แต่เรื่องเดียวที่นับได้ว่าโชคดีนักคือช่วงสิบวันนี้เย่เซียวไม่ได้ปรากฏตัวในโลกของเธออีก
ชั่ววินาทีนี้เธอหวังเหลือเกินว่าเย่เซียวจะไม่ปรากฏตัวอีกตลอดชีวิต…
หลีกเลี่ยงเธอไปชั่วชีวิต…
“ไปเอาข้อมูลทั้งหมดของไฟเรนเซ่มาให้ฉันชุดหนึ่ง ฉันต้องการดูให้ละเอียดว่ามีช่องโหว่ตรงไหนบ้างหรือเปล่า”
“ครับ” ไป๋หลางได้รับคำสั่งเลยปิดประตูออกไปแล้ว
ไป๋ซู่เย่นั่งศึกษาเรื่องของไฟเรนเซ่ตลอดช่วงเช้า ความจริงข้อมูลของไฟเรนเซ่เธอคุ้นเคยยิ่งกว่าอะไร ในบรรดาเป้าหมายที่รัฐบาลทั่วโลกให้ความหวาดระแวงไฟเรนเซ่อยู่ในสามอันดับแรก เขาไม่ได้ผันมาจากยศตำแหน่งทหารอะไร เขาเป็นแค่คนชนชาติผิวขาวคนหนึ่งที่นั่งบนเก้าอี้เข็นและมือที่อ่อนแรงคนหนึ่งเท่านั้น แต่ผู้ชายคนนี้กลับเป็นพ่อค้าอาวุธรายใหญ่ของโลก เพื่อความมั่งคั่งเขาเคยจุดประกายสงครามขนาดเล็กและใหญ่มาครั้งนับไม่ถ้วน
ผู้ชายคนนี้ก็คือพ่อบุญธรรมของเย่เซียว
เธอรู้ถึงความสำคัญที่ผู้ชายคนนี้มีต่อเย่เซียว เย่เซียวได้รับการเลี้ยงดูจากเขามาตั้งแต่เด็ก สอนให้เขารู้ว่าอะไรคือความจงรักภักดี อะไรคือน้ำใจ อะไรคือความสัมพันธ์ฉันพี่น้อง อะไรคือเห็นความตายจนชินชา
เย่เซียวต้องยอมสละกระทั่งชีวิตเพื่อเขาได้แน่ๆ
ไป๋ซู่เย่ปิดข้อมูลของไฟเรนเซ่ รู้สึกปวดหัวเหมือนหัวจะแตกร้าว
ช่วงบ่ายเปลี่ยนเสื้อผ้า ทานมื้อเที่ยงเสร็จกลับไปรับฮูหยินคุณหญิงไป๋กับเซี่ยต้าไป๋ที่จงซัน
“คุณป้า!” เซี่ยต้าไป๋เห็นเธอก็วิ่งมาแต่ไกล เห็นรอยยิ้มใสซื่อของเด็กน้อยถึงช่วยปัดเป่าอารมณ์หม่นหมองของเธอไปได้บ้าง ฮูหยินคุณหญิงไป๋แต่งตัวเป็นพิธีการอย่างมากในวันนี้ อยู่ในชุดกระโปรงยาวสีฟ้าอ่อนและสร้อยคอมุก ท่านผู้เฒ่าคุณท่านในชุดสูทสไตล์จีนสีน้ำเงินเข้ม ขับให้ดูมีชีวิตชีวาอย่างมาก
“ขึ้นรถกันเถอะ สายแล้ว” ไป๋ซู่เย่อุ้มเซี่ยต้าไป๋ขึ้น “เหมือนหลานตัวหนักขึ้นอีกแล้วนะ”
“อื้ม! ตอนนี้เป็นช่วงที่ตัวผมกำลังโต” เซี่ยต้าไป๋อมอมยิ้ม “คุณป้า จะเอาสักเม็ดมั้ยไหมครับ?”
“ได้ ให้ป้าสักเม็ดสิ” เซี่ยต้าไป๋แกะลูกอมกลมๆ เม็ดหนึ่งใส่ปากไป๋ซู่เย่ ท่านผู้เฒ่าคุณท่านที่อยู่ข้างๆ พูดขึ้น “บอกแล้วว่าเด็กกินลูกอมยิ้มเยอะฟันจะผุ คุณก็ตามใจเขาไปเถอะ เดี๋ยวกลับมาเย่ฉิงโทษขึ้นมาก็โทษคุณแล้วกัน”
ท่านผู้เฒ่าคุณท่านพูดตำหนิฮูหยินคุณหญิงไป๋
ฮูหยินคุณหญิงไป๋ถือกระเป๋าเดินอ้อมไปนั่งเบาะหลัง “คุณไม่ตามใจทำไมไม่เห็นคุณห้ามต้าไป๋กินบ้างล่ะ! อยากให้ฉันสวมบทคนร้าย ไม่มีทาง มา ต้าไป๋ มานั่งข้างหลังกับคุณย่า”
ประโยคหน้าน้ำเสียงดุดันแต่พอประโยคหลังที่พูดกับเด็กน้อยกลับอ่อนโยนเหลือเกิน
ไป๋ซู่เย่อุ้มเด็กน้อยไป วันนี้เธอได้เตรียมเบาะนั่งสำหรับเด็กก่อนออกจากห้องมาโดยเฉพาะ รัดเข็มขัดเสร็จถึงขับรถไปที่บ้านพักแช่น้ำร้อน
“ซู่ซู่ ทำไมแม่รู้สึกว่าช่วงนี้ลูกผอมลงไปเยอะเลยหล่ะ?” ฮูหยินคุณหญิงไป๋หยอกหลานไปก็คุยกับเธอไปพลาง
“แม่คิดไปเองหรือเปล่า หนูก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว”
ท่านผู้เฒ่าคุณท่านเหลือบข้างมองเธอ “ช่วงนี้งานกดดันมากไปใช่มั้ยไหม?”
“ยังดีค่ะ”
“อืม เรื่องานอย่าฝืนตัวเองมากเกินไป”
“หนูรู้ค่ะ”
ท่านผู้เฒ่าคุณท่านเองก็ไม่ได้ถามมาก งานของเธอค่อนข้างพิเศษกว่าปกติหลายอย่างเลยจึงไม่อาจบอกให้คนภายนอกรู้รวมถึงคนในครอบครัว
กลุ่มคนขับรถมาถึงบ้านพักแช่น้ำร้อน พวกเขาถือว่ามาสายที่สุดเนื่องจากที่บ้านพักมีผู้คนที่มาเพื่อร่วมฉลองวันเกิดตั้งมากแล้ว
พ่อแม่ยวิ๋นอวิ๋นเห็นพวกเขามาถึงก็ดีใจอย่างมาก เดิมทีกำลังอยู่กับแขกคนอื่นก็รีบขอตัวกับแขกคนอื่นเพื่อมาต้อนรับทางนี้แทน
ท่านผู้เฒ่าคุณท่านเอาของขวัญไว้บนมือคนตระกูลยวิ๋นอวิ๋น ยวิ๋นอวิ๋นมู่เทียนหัวเราะเสียงดัง “พี่ บอกแล้วว่าแค่มาแต่ตัวก็พอ ของขวัญอะไรนี่ งดได้ก็งด!”
“ร้อยปี ไม่ใช่อายุธรรมดา ของขวัญก็ต้องมี”
“วันนี้มีคนมาไม่น้อยสินะถึงได้ครึกครื้นขนาดนี้” ฮูหยินคุณหญิงไป๋กวาดมองรอบข้างพบว่ามีทั้งคนที่รู้จักและไม่รู้จัก แต่ทุกคนล้วนอยู่ในชุดเป็นทางการ เซี่ยต้าไป๋ที่น้อยครั้งจะได้เจอผู้คนมากมายเช่นนี้เลยตื่นเต้นอย่างมาก
“ก็ใช่น่ะสิ ทั้งจากวงการการเมือง วงการธุรกิจ ขอแค่คนที่สนิทกันหน่อยก็อยู่นี่หมด ทุกคนมารวมตัวจะได้คึกคัก ยวิ๋นอวิ๋นช่วน ลูกมานี่สิ ซู่ซู่มาแล้ว”
ไป๋ซู่เย่เพิ่งจอดรถเสร็จก็ได้ยินคุณหญิงยวิ๋นอวิ๋นเรียกยวิ๋นอวิ๋นช่วน พอเงยหน้ามองเห็นยวิ๋นอวิ๋นช่วนกำลังต้อนรับแขก วันนี้เขาแต่งกายให้ดูสมกับเป็นสุภาพบุรุษ ตอนที่เธอเห็นเขาเขาเองก็เงยหน้าขึ้น ทั้งคู่สบตายิ้มให้กันเบาๆ
ยวิ๋นอวิ๋นช่วนบอกอะไรบางอย่างกับแขกก่อนรีบสับเท้ามาทางนี้
สีหน้าระรื่นใจนัก
ฉากนี้เหล่าผู้ใหญ่เห็นเองกับตา รู้สึกปลื้มใจอย่างมาก
“ผมคิดว่าคุณจะไม่มาแล้วซะอีก” ยวิ๋นอวิ๋นช่วนพูดด้วยน้ำเสียงดีใจอย่างปิดไม่มิด
ท่าทีของไป๋ซู่เย่กลับราบเรียบดังเดิม “งานวันเกิดของคุณลุงคุณป้า ต้องมาแสดงความยินดีอยู่แล้ว”
“พอแล้วๆพอแล้ว เราก็อย่ามัวยืนตรงประตูเลย” ยวิ๋นอวิ๋นมู่เทียนพูดอย่างดีใจ “ทุกคนเข้าไปข้างในสิ ผมน่ะ จะพาพวกคุณไปเดินดูห้องแช่น้ำร้อนก่อน”
“ให้พนักงานพาเราไปก็พอ แขกเยอะขนาดนี้พวกคุณก็ยุ่งพอแล้ว” ท่านผู้เฒ่าคุณท่านถือไม้เท้าเดินเข้าไปข้างใน
“ฮ่าๆฮ่า ยุ่งขนาดไหนก็ต้องต้อนรับพวกคุณก่อน” คุณหญิงยวิ๋นอวิ๋นหันกลับไปบอกลูกชาย “ยวิ๋นอวิ๋นช่วน ลูกพาซู่ซู่ไปดูห้องของซู่ซู่แล้วกัน”
“ผมจะนอนห้องเดียวกับคุณป้า ผมจะแช่น้ำร้อนกับคุณป้า” เซี่ยต้าไป๋โพล่งขึ้นมา มือเล็กคว้ามือของไป๋ซู่เย่ไว้
ก้างขวางคอตัวน้อยนี่หนอ
ฮูหยินคุณหญิงไป๋รีบพูดขึ้น “เดี๋ยวพ่อของหลานก็มาแล้ว หลานไม่อยู่กับเขาหรือไง?”
“ผมไม่อยากอยู่กับเสี่ยวไป๋หรอก ผมจะอยู่กับคุณป้า”
“…” ฮูหยินคุณหญิงไป๋กำลังจะพูดอะไรไป๋ซู่เย่ก็กล่าวขึ้น “ก็ให้ต้าไป๋อยู่กับหนูเถอะ ไม่เป็นไร”
“ก็ได้” ฮูหยินคุณหญิงไป๋พยักหน้ารับ
ดังนั้นเพียงชั่วครู่ทุกคนต่างก็กระจายไปต่างทิศ ผู้อาวุโสตระกูลยวิ๋นอวิ๋นทั้งสองท่านเดินนำท่านผู้เฒ่าคุณท่านกับฮูหยินคุณหญิงไป๋ไปทางใต้ ส่วนเธอกับยวิ๋นอวิ๋นช่วนพาเซี่ยต้าไป๋เดินไปทางเหนือ
บริเวณบ้านพักแช่น้ำร้อนนี้กว้างใหญ่มากและมีบ่อน้ำร้อนมากด้วยเช่นกัน มองไปน่าจะรับรองแขกได้หลายพันคนทีเดียว
บ้านพักนี้ตกแต่งได้งามสง่าและดูสดชื่น ไอลอยโขมงขึ้นจากสระน้ำทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในโลกเซียนชั่วขณะ
…………………………………