อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก! - ตอนที่ 685 เหวลึกของความรัก (4)
คนข้างนอกประตูได้ยินเสียงปืนก็รีบพุ่งเข้ามา
หยูอันถือปืนเดินนำอยู่หน้าสุดและแทบจะอดใจไม่ให้ลั่นไกใส่ไป๋ซู่เย่ไม่ได้ แต่พอเห็นว่าคนที่ยิงปืนไม่ใช่เธอแล้วถึงถอนหายใจเฮือกหนึ่ง
“นายท่าน ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?”
“เรียกถังซ่งเข้ามา!”
เย่เซียวพูดสั่ง
บนเตียงผ้าปูสีขาวสะอาดนั่น ยามนี้เต็มไปด้วยเลือด
ของเขา
และของเธอ
ไป๋ซู่เย่กดแผลตรงไหล่ไว้ เชยตามองเย่เซียวแวบหนึ่ง “เย่เซียว…ฉันไปได้แล้วใช่ไหม?”
เย่เซียวกลับไม่คิดสนใจเธอ
เธอหยัดตัวลงจากเตียง
ขณะนั้นเองถังซ่งก็เข้ามา เห็นเลือดเต็มเตียงก็แอบหวั่นใจ พอเห็นแผลบนไหล่เธอก็รู้ได้ทันทีว่าครั้งนี้ไป๋ซู่เย่ได้ทำให้เย่เซียวโกรธถึงขีดสุดแล้ว ไม่อย่างนั้นเขาจะกล้าลงมือได้อย่างไร?!
เพียงแต่ว่า…
ตำแหน่งของไป๋ซู่เย่ในใจเขายังสำคัญมากอยู่ดี ไม่อย่างนั้นเขาจะทำใจปลิดชีวิตเธอไม่ได้ทั้งที่ตัวเองตกอยู่ในสภาพโทรมขนาดนี้ได้หรอก
“พาเธอไปทำแผล!” เย่เซียวปรายตาไปทางถังซ่ง “อย่าให้เธอตายล่ะ ฉันยังเล่นไม่พอ!”
“นายท่าน แผลของท่าน…” หยูอันขมวดคิ้ว เขาไม่เข้าใจ จนขนาดนี้แล้วไป๋ซู่เย่ตายก็ไม่ใช่เรื่องน่าเสียดาย ทำไมถึงยังสนใจแผลของเธออีก?
“วางใจเถอะ มีฉันอยู่ ไม่มีใครตายได้หรอก” ถังซ่งตบบ่าหยูอันเป็นเชิงปลอบทีหนึ่งก่อนให้ทีมพยาบาลของตนเข้ามา หลังทำแผลให้เย่เซียวใหม่เขาก็พาไป๋ซู่เย่ออกจากห้องด้วยตัวเอง “ตามผมมาเถอะ ผมจะทำแผลให้คุณ”
…………………………
ไป๋ซู่เย่เดินตามหลังถังซ่งจากไปโดยมีหยูอันเฝ้าเย่เซียวไว้ สั่งให้คนมาเปลี่ยนผ้าปูหลังทำแผลให้เขาเสร็จ
หยูอันยืนอยู่ข้างเตียง ปากขยับหลายครั้งคล้ายมีอะไรอยากจะพูด เย่เซียวมุ่นคิ้ว “มีอะไรก็พูด อย่ามาอ้ำๆ อึ้งๆ”
“ผมไม่เข้าใจ ทั้งที่เอาชีวิตเธอได้”
“เอาชีวิตเธอ?” เย่เซียวแค่นหัวเราะเสียงเย็นที เงยหน้ามองหยูอันแวบหนึ่ง “ตอนนี้ฉันก็แทบจะปางตาย นอนอยู่ตรงนี้ขยับตัวไม่ได้ ถ้าตอนนี้ฉันฆ่าเธอแล้วคนของกระทรวงความมั่นคงมา คนของรัฐบาลมาขอเจ้าตัวคืน นายว่าฉันควรตอบรับพวกเขายังไง? โยนซากศพให้พวกเขา ให้พวกเขาฆ่าพวกนายให้หมดเพื่อชดเชยให้ไป๋ซู่เย่? คุ้มเหรอ?”
หยูอันเม้มปากไม่ได้พูดอะไรอีก สิ่งเหล่านี้ใช่ว่าเขาจะไม่ทราบ แต่ว่า…เหตุผลที่เย่เซียวไม่แตะต้องไป๋ซู่เย่ คาดว่าไม่ได้มีเพียงเหตุผลนี้เท่านั้น
“พอแล้ว นายออกไปเถอะ ฉันเหนื่อยแล้ว” เย่เซียวไม่ได้พูดอะไรอีก
หยูอันรอทีมพยาบาลออกไปทั้งหมดแล้วตนก็ค่อยปิดประตูเดินออกไปช้าๆ
เย่เซียวนอนอยู่บนเตียง แม้จะเหนื่อยมากและเจ็บตรงแผลที่ปริออกเนืองๆ แต่กลับไม่ง่วงสักนิด ในหัวมีแต่ภาพที่เธอกุมไหล่ไว้ทั้งหมด…
ผู้หญิงคนนั้น ช่างหัวรั้นยิ่งนัก!
ต่อให้ลูกกระสุนทะลุไหล่เธอก็ไม่เคยจะหลุดเสียงครางสักนิด!
ปืนจ่อหัวเธอ เธอกลับไม่แม้แต่กะพริบตา ไม่แม้แต่จะร้องขอชีวิต! หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นที่กล้าท้าทายเขาขนาดนี้ ถูกเขาลั่นไกให้หัวแบะนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว!
……………………
อีกฟากหนึ่ง
ถังซ่งทำแผลให้ไป๋ซู่เย่ด้วยตัวเอง ขณะผ่าเนื้อตรงไหล่เธอเพื่อเอาลูกกระสุนออกมานั้นตรงบริเวณหัวคิ้วเธอชื้นไปด้วยเหงื่อบางๆ
“ผมเห็นนิ้วมือคุณก็ไม่ปกติ บาดเจ็บเหมือนกันใช่ไหม?”
“อืม” เธอตอบกลับเสียงจางๆ
“ให้ผมดูหน่อย”
ไป๋ซู่เย่ยกมือขึ้น ถังซ่งดูแวบหนึ่ง “เย่เซียวหักเหรอ?”
เธอหยักหน้าพูดเบาๆ “เขาเองก็ไม่รู้”
ถังซ่งถอนหายใจ สั่งให้คนข้างๆ จัดการทำแผลตรงนิ้วให้เธอ ส่วนถังซ่งก็ทำแผลตรงไหล่ให้เธอ
“ถ้าเจ็บก็ร้อง เย่เซียวไม่อยู่นี่ คุณไม่จำเป็นต้องทำเป็นเข้มแข็ง”
ถ้อยคำของถังซ่งคล้ายจี้จุดบางอย่างของไป๋ซู่เย่จนขอบตาแดงก่ำในทันที แต่สุดท้ายเธอก็แค่สูดหายใจเฮือกใหญ่ ยิ้มขมขื่น “ถังซ่ง เย่เซียวคิดว่าเรื่องดักฟังความเคลื่อนไหวของไฟเรนเซ่คราวนี้ เกี่ยวกับฉันใช่ไหม?”
“ไม่เกี่ยวกับคุณเหรอ?” ถังซ่งเองก็ไม่ได้มองเธอ “นั่นเป็นการกระทำของกระทรวงความมั่นคงของพวกคุณ คุณเองก็เป็นรัฐมนตรี บ่ายเบี่ยงไม่ได้หรอกมั้ง?”
ไป๋ซู่เย่พยักหน้าที ประโยคนี้เถียงกลับไม่ได้จริงๆ
แต่…
“ครั้งนี้กระทรวงความมั่นคงไม่ได้บอกฉันเลยสักนิด ฉะนั้น ฉันไม่ได้ร่วมกระบวนการด้วยเลยตั้งแต่ต้น”
“คำพูดเหล่านี้ เย่เซียวจะเชื่อไหม?”
“เขาคิดว่าฉันกำลังปั่นหัวเขาเล่น ฉันพูดอะไร เขาก็ไม่เชื่อฉัน”
“ไม่แปลก” ในที่สุดถังซ่งก็เชยตามอง “เหมือนตอนนี้ที่ผมคุยกับคุณ…ผมก็ไม่เชื่อคุณเหมือนกัน เมื่อไหร่ที่ความเชื่อใจระหว่างกันถูกทำลายก็ยากจะซ่อมมัน หนึ่งเดือนนี้ของคุณกับเย่เซียว เดิมทีก็ไม่มีความเชื่อใจอะไรให้กันอยู่แล้ว ดังนั้น ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็ต้องคิดบัญชีคุณก่อน แต่นี่ก็ไม่ได้ใส่ร้ายคุณเพราะบัญชีระหว่างคุณกับเย่เซียว มันคิดยากมาตั้งนานแล้ว”
ความเศร้าจู่โจมเข้ามาในใจของไป๋ซู่เย่
ช่วงเวลานี้ของเธอกับเย่เซียว ความจริงก็มีแต่ความระแวงกัน ความลองใจกัน ไม่มีใครกล้าก้าวไปข้างหน้าก่อนสักคน
เขากลัวเธอหลอกใช้ ทรยศหักหลัง วางแผนใส่อีกครั้ง
ส่วนเธอก็คอยระวังตัวกับความเกลียดชังและความต้องการแก้แค้นของเขา…
“งั้นแผลของเย่เซียว…ตอนนี้ไม่มีอันตรายถึงชีวิตแล้วสินะ?”
ถังซ่งก้มมองเธอแวบหนึ่ง “คุณเจ็บเพราะเขาขนาดนี้ คุณยังเป็นห่วงเขาอีกเหรอ?”
“…” ไป๋ซู่เย่ไม่ตอบ
“ไม่รู้ว่าอันตรายต่อชีวิตไหม แต่ตรงหัวใจเขายังมีลูกกระสุนอีกนัดที่ผ่าออกมาไม่ได้” พูดถึงตรงนี้น้ำเสียงของถังซ่งฉายแววผิดหวัง
ไป๋ซู่เย่หายใจติดขัด “คุณหมายความว่า…”
“แผลตรงหัวใจ ลูกกระสุนมันเชื่อมกับหัวใจ ถ้าผ่าออกมาตามอำเภอใจ มีโอกาส 80% ที่เขาจะตายเพราะเสียเลือดมาก ไม่มีกล้าเสี่ยง ไฟเรนเซ่สงสารเขา ห้ามไม่ให้ใครมาเสี่ยง”
ไป๋ซู่เย่นั่งนิ่งอยู่ตรงนั้นพักใหญ่ ในหัวขาวโพลน
ปากขยับหลายครั้งจนสุดท้ายก็หาเสียงตัวเองพบ “ถ้า…ถ้าไม่เอาออกมา ลูกกระสุนอยู่ในร่างกาย ตามแรงขยับของกล้ามเนื้อมีโอกาสที่ลูกกระสุนจะทะลุกล้ามเนื้อหัวใจเข้าไปในหัวใจ…”
“ถ้าถึงวันนั้น เขาตายอย่างไม่ต้องสงสัย!”
‘ตายอย่างไม่ต้องสงสัย’ ประโยคนี้ทำให้ไป๋ซู่เย่กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ “หมายความว่านี่เหมือนระเบิดเวลา พร้อมจะปะทุเมื่อไหร่ก็ได้…”
“ใช่”
ไป๋ซู่เย่นั่งพิงเก้าอี้อย่างหมดแรง หลับตาลงแน่นแต่กลับมีน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ยิ่งไหลยิ่งเยอะ ยิ่งไหลยิ่งมาก
ถังซ่งก้มมองผู้หญิงที่ใบหน้าซีดเซียว น้ำตาอาบแก้มคนนี้อย่างนึกสงสารในใจ
ตัวเธอบาดเจ็บขนาดนี้ไม่เห็นจะมีน้ำตาตกสักหยด แต่พอรู้อาการของเย่เซียว อารมณ์กลับพังทลายอย่างสิ้นเชิง…
เดิมทีเขาคิดว่าไป๋ซู่เย่ไม่มีความจริงใจจริงๆ เสียอีก
………………………………