อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก! - ตอนที่ 705 จดจำฝังใจ (2)
“ใครบอกคุณว่าผมไม่มีทางรับสาย?” เขาถามต่อ
“ไม่ต้องให้ใครบอกฉัน ฉันก็รู้ได้เอง…”
“คุณรู้มาจากไหน?” เขามีความอดทนที่น่าเหลือเชื่อมาต่อบทสนทนาที่แสนจะไร้เหตุผลนี้ คุยไปก็เดินไปหยิบรูปภาพกับการ์ดธนาคารใบนั้นใส่ในกระเป๋าเงินอีกครั้ง
“เบอร์ที่คุณโทรหาฉันเป็นเบอร์หมายเลขแปลกๆ ที่ผ่านการจัดการมาโดยเฉพาะ…” ไป๋ซู่เย่นั่งยองอยู่ทางนั้นคอยมองไปที่ตึกสูงที่ไร้แสงไฟใดๆ หางตาเปียกชื้น “ฉันรู้ คุณกังวลว่าสักวันฉันจะตามตื๊อคุณ…”
เย่เซียวหยุดชะงักไปชั่วครู่
สายตาฝ่าความมืดที่ไร้พรมแดนนิ่ง ผ่านไปครู่ใหญ่ถึงถามเสียงเรียบ “งั้น…ถ้าผมให้เบอร์ผมกับคุณ คุณจะตามตื๊อผมไหม?”
อีกฝั่งเงียบ
จากนั้น…
เป็นเสียงเศร้าปนถอนหายใจแผ่วเบา “ไม่…”
หัวใจที่เพิ่งถูกชุบขึ้นใหม่ก็ถูกซ้ำเติมให้จมสู่บ่อน้ำหนาวเย็น
เสียงเย่เซียวแข็งกระด้างขึ้น “ในเมื่อไม่ แล้วครั้งนี้โทรมาทำไม?”
“เย่เซียว…คุณบอกสุขสันต์วันเกิดฉันเป็นครั้งสุดท้ายหน่อยสิ” จู่ๆ เธอก็พูดคำขอขึ้นมา
เย่เซียวกำโทรศัพท์แน่น คำว่า‘ครั้งสุดท้าย’ทำให้หัวใจเขาอึดอัด “ทำไมผมต้องบอกคุณว่า ‘สุขสันต์วันเกิด’?”
ในเมื่อไม่มีใจแล้วทำไมถึงมายั่วเขาในตอนที่เขาเตรียมจะลบทิ้งทุกอย่างไป?
“เมื่อก่อนคุณเคยสัญญากับฉัน คุณสัญญากับฉันว่าจะให้ของขวัญวันเกิดฉันทุกปี จะอยู่ฉลองวันเกิดกับฉันทุกปี…” ไป๋ซู่เย่สูดจมูกเสียงปนสะอื้น “ของอดีต อนาคต ฉันไม่เอาแล้ว…วันนี้…วันนี้คุณพูดให้ฉันหน่อยเถอะ”
เย่เซียวเริ่มหายใจหนักอึ้ง “ไป๋ซู่เย่ ทำไมคุณถึงขอได้ใจกล้าขนาดนี้? เพราะผมเคยสัญญากับคุณ? แล้วสิบปีก่อนที่คุณเคยสัญญากับผมไว้คุณเคยทำได้ไหม? สิบปีก่อนคุณบอกว่าคุณจะรักผมไปตลอดชีวิต!คุณบอกว่าต่อให้วันไหนผมขาหักแขนขาดคุณก็จะไม่ทอดทิ้งผม!คุณยังบอกว่า…”
พูดถึงนี่เย่เซียวหยุดชะงักไปกึก
สุดท้ายกัดฟันพูด “คุณยังเคยบอกว่าคุณจะแต่งงานกับผม!”
ไป๋ซู่เย่ที่อยู่อีกฟากใช้มือปิดปากร้องไห้ปล่อยให้น้ำตาเม็ดโตร่วงหล่นกระทบพื้นเย็นเฉียบ แต่ต่อให้เมามายไม่ได้สติเธอก็ไม่กล้าให้เสียงร้องไห้ของเธอเล็ดลอดเข้าไปในสายโทรศัพท์
เย่เซียวซักถามด้วยใบหน้าบึ้งตึง “ทุกอย่างนี้เป็นแค่คำลวงที่คุณแต่งมันมาเพื่อฆ่าผม ในเมื่อคุณใช้คำโกหกนี้จัดการผม แล้วมีสิทธิ์อะไรให้ผมทำตามคำสัญญาที่มีให้คุณในอดีต?!หืม?”
ไม่ใช่คำลวง…
ตัวเธอรู้ดีที่สุดว่าถ้อยคำบอกรักเหล่านั้นนอกจากจะไม่ใช่คำลวงแล้วยังเคยเป็นความคาดหวังของเธอ…ความคาดหวังที่สิ้นหวังที่สุด…ความคาดหวังที่รู้ดีว่าไม่มีความเป็นไปได้…
“ฉันเมาไปแล้ว…” ไป๋ซู่เย่ยิ้มทั้งน้ำตา “ฉันเมาเลยโทรมา…ขอโทษ…”
ในใจของเย่เซียวเกิดเปลวไฟนิรนามกำลังมอดไหม้
สิ่งที่เขาอยากได้ยินไม่ใช่พวกนี้!เขาอยากฟังเธอบอกเขาว่าคำสัญญาในอดีตไม่ใช่แค่วิธีที่เธอใช้หลอกเขา ความจริงยังแฝงด้วยความต้องการส่วนหนึ่งของเธอ!ไม่ เขาไม่ได้ต้องการมากขนาดนั้น ขอแค่นิดเดียว แค่ความต้องการนิดเดียวก็พอแล้ว!
“ไป๋ซู่เย่ คุณต้องการอะไรกันแน่?!” เย่เซียวเรียกชื่อเธออย่างขุ่นเคือง
“ฉัน?” ไป๋ซู่เย่ค่อยๆ หยัดตัวลุกขึ้นและเพราะนั่งนานเกินไปเลยทำให้สองขาชาไปทั้งหมดจนร่างโงนเงนเล็กน้อย สักพักถึงได้ยินเสียงกล่าวที่ชัดเจนและมีสติ “เย่เซียว ฉันหวังว่าต่อไปนี้คุณ…จะมีชีวิตคู่…ที่ดีกับน่าหลัน…”
ถ้อยคำที่สวนทางกับหัวใจพอออกจากปากก็เจ็บไปทุกอณูของร่างกาย…
เย่เซียวที่อยู่อีกฝั่งหอบหายใจ “คุณพูดอีกครั้งสิ!”
“คุณยินดีกับฉันว่า ‘ขอให้มีความสุขกับชีวิตแต่งงานใหม่’ไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้…ฉันขอคืนคำนี้ให้คุณ…”
น้ำตาอาบไปทั้งแก้มนานโข พอพูดจบเธอรู้สึกเพียงร่างกายหมดแรง ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็ตกพื้นอย่างแรงเกิดเสียง ‘พลั่ก’ ก่อนที่ภาพตรงหน้าดับมืดลง สองขาที่อ่อนระทวยทำให้เธอหมดแรงประคองร่างกายได้อีก เจ้าตัวล้มลงพื้นเหมือนตุ๊กตาที่ไร้ชีวิต
หากเป็นไปได้ เธอไม่อยากยินดีกับชีวิตแต่งงานใหม่เขาเลย…
หากเมากว่านี้อีกนิดบางทีเธออาจจะอดพูดไม่ได้ว่า ‘เย่เซียว อย่าแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น คุณเคยบอกว่าจะไม่แต่งงานกับใครนอกจากฉัน…’
ช่างเสียดายที่เธอยังคงมีสติไปตราบช่วงนาทีสุดท้าย
“รัฐมนตรี!” ไป๋หลางร้องอย่างตกใจ กระโดดลงจากรถพุ่งตัวเข้าไปหา
อีกทางหนึ่ง
เย่เซียวไม่สามารถได้ยินอะไรอีกมีแค่เสียง ‘ตู๊ดๆ’ แสนเย็นชาของระบบดังก้องหูวนไปมา
ครู่ใหญ่ที่ในหัวเขามีแค่ประโยค ‘มีความสุขกับชีวิตแต่งงาน’…
มีความสุขกับชีวิตแต่งงานบ้าอะไรของเธอ!!
สบถในใจทีโทรศัพท์ก็ถูกเขาเขวี้ยงออกไปอย่างหงุดหงิด
‘ปัง!’ เสียงดังเพราะโทรศัพท์กระแทกพื้นแรงๆ จนเครื่องแตกเป็นเสี่ยงๆ ชิ้นส่วนกระจายออกไป
จากนั้นคล้ายว่าเขาจะคิดอะไรออกร่างสะท้านรีบก้าวไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาใหม่ เขาลองเปิดเครื่องแต่ไม่ว่าจะกดอย่างไรจนปุ่มกดแทบจะถูกเขากดเสียคามือรอมร่อ หน้าจอกลับไม่มีแสงขึ้นมาสักนิด
“มีใครอยู่บ้าง!” เขาไม่เคยร้อนใจขนาดนี้มาก่อนและแทบจะเป็นเสียงคำราม
“นายน้อย!” ไม่นานประตูถูกคนผลักเข้ามาและมีคนพุ่งตัวเข้ามาอย่างเร่งรีบ “นายน้อย เกิดเรื่องขึ้นหรือเปล่า?”
“หาช่างซ่อมโทรศัพท์ที่ดีที่สุดมา!”
“ตอนนี้?” อีกฝ่ายฉงนน้อยๆ
“เดี๋ยวนี้!”
“…” ใกล้เที่ยงคืนเต็มทีให้ไปหาช่างซ่อมโทรศัพท์มามันน่าแปลกจริงๆ แต่คิดแล้วในโทรศัพท์เครื่องนั้นน่าจะมีเอกสารหรือข่าวสำคัญอะไรกระมัง! อีกฝ่ายเห็นใบหน้าเย่เซียวเรียบนิ่งปานน้ำแข็งก็ไม่กล้าชักช้า รีบออกไปตามช่างมา
…………………………
ไป๋ซู่เย่ถูกไป๋หลางพาส่งโรงพยาบาลในคืนนั้นโดยมีฟู่อี้เฉินช่วยดูอาการให้เธอ
“เป็นยังไงบ้างคุณหมอฟู่ รัฐมนตรีเราอาการเป็นยังไงบ้าง? เกิดอะไรขึ้นกับร่างกายไหม?” ไป๋หลางกระวนกระวายอย่างมาก
“ช่วงนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเธอหรือเปล่า?” ฟู่อี้เฉินสีหน้าหนักอึ้ง
“ทำไมถามแบบนี้ครับ?”
“นอนไม่หลับ หักโหม ซึมเศร้าถึงได้จู่ๆ ก็เป็นลมไป ถ้าผมไม่ได้ดูผิดเธอน่าจะกินยานอนหลับมาระยะหนึ่งแล้ว แบบนี้ไม่มีผลดีต่อเธอสักนิด ถ้าร่างกายเกิดความเคยชินกับยา จากนี้นอกจากจะเลิกไม่ได้แถมยังมีผลข้างเคียงอีก คุณเป็นคนที่เธอเชื่อใจที่สุด รอเธอตื่นมาลองเกลี้ยกล่อมเธอดีๆ”
ไป๋หลางถอนหายใจ สุดท้ายพยักหน้าแต่ให้กล่อมเธอจะมีประโยชน์อะไร? มีโรคบางอย่างเกี่ยวกับรัก คิดว่าคงมีคนเดียวที่จะมียารักษาโรค
“คุณหมอฟู่ เมื่อก่อนรัฐมนตรีเคยเป็นโรคซึมเศร้า จากสถานการณ์ตอนนี้ หรือว่า…” ไป๋หลางถามอย่างเป็นห่วงย
ฟู่อี้เฉินหยักหน้ารับอย่างหนักหน่วง “จากสถานการณ์ตอนนี้ของเธอแล้วใช่ว่าจะไม่มีโอกาสกำเริบใหม่ ดังนั้นผมแนะนำให้เธอไปพบจิตแพทย์อีกที ให้ปรับสภาพจิตใจดีๆ ก่อน”
ไป๋หลางยิ่งหนักใจเข้าไปอีก
ความรักช่างเป็นสิ่งที่ฆ่าคนให้ตายได้จริงๆ!
………………………………