อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก! - ตอนที่ 706 จดจำฝังใจ (3)
อีกฟากหนึ่ง
ช่างซ่อมโทรศัพท์ถูกชายหนุ่มผู้แสนเย็นชาจ้องจนเหงื่อแตกพลั่ก มือที่กำโทรศัพท์อยู่สั่นรุนแรง
“นี่…นี่เป็นโทรศัพท์รุ่นเก่า เดิมทีก็เสียง่ายอยู่แล้วแถมตอนนี้ก็แตกขนาดนี้ อยากจะซ่อมให้เหมือนเดิม คิดว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้…”
ช่างซ่อมโทรศัพท์พูดตัวสั่นไปจนจบ จากนั้นก็รู้สึกเย็นวาบที่หน้าผาก
ปืนกระบอกหนึ่งจ่อตรงขมับเขา
“นายน้อย ไว้ชีวิตผมด้วย!” ช่างซ่อมขาอ่อนคุกเข่าร้องขอชีวิต “ไว้ชีวิตผมด้วย!”
“ฉันไม่อยากบีบบังคับคุณ” เย่เซียวขยับปากพูดทุกคำราวกับเคลือบน้ำแข็ง “ฉันแค่ต้องการคลิปเสียงท่อนเดียวในนั้น คุณหาทางเอามันออกมาให้ได้”
“เอาแค่คลิปเสียงท่อนเดียว?”
“ใช่”
อีกฝ่ายพรูลมหายใจยาว “งั้นผมจะลองพยายามดู”
“ไม่ใช่พยายาม แต่ต้องทำให้ได้” เย่เซียวเก็บปืนกลับที่เดิม
ช่างซ่อมหยิบชิ้นส่วนโทรศัพท์เหล่านั้นแล้วมองเขาอย่างนึกทำตัวไม่ถูก “เอ่อ…นายน้อย ให้ผมซ่อมตรงนี้เลยเหรอ?”
นี่ห้องของนายน้อยเชียว!
“อืม นั่งลง” เย่เซียวพยักพเยิดปลายคางไปทางโซฟา
“ท่านไม่พักผ่อนเหรอ?”
เย่เซียวเชยตามองเขาแวบหนึ่งทำให้คนคนนั้นรีบหดคอเพราะรู้ว่าตนสอดรู้เกินไป รีบหุบปากไม่กล้าพูดอีกแม้แต่คำเดียว
ช่างซ่อมโทรศัพท์เปิดโน้ตบุ๊คแล้วซ่อมโทรศัพท์ในห้องอย่างจริงจัง เย่เซียวที่ไม่รู้สึกง่วงเทเหล้าหนึ่งแก้วยืนตรงระเบียงข้างนอก ลืมตามองท้องฟ้าที่เริ่มสว่างช้าๆ
ผู้หญิงคนนั้น…
ยังโทรมาที่เบอร์นี้เพราะติดใจเรื่องเมื่อสิบปีก่อนโดยที่เธอยังจดจำแม่นยำ หรือเพราะเบอร์นี้บันทึกไว้ในโทรศัพท์เธอมาตลอดไม่เคยลบทิ้ง?
เขารู้ว่าเธอคงเมาไม่น้อย
คงมีแค่ตอนเมาเธอถึงโทรหาเขาได้
เย่เซียวนึกถึงคำยินดีสุดท้ายที่เธอมอบให้นั้นก็แหงนหน้ายกแก้วดื่มรวดเดียวก่อนจะเทให้ตนอีกแก้ว
…………………………
ท้องฟ้าสว่างแล้ว
เช้าตรู่
แปดโมงกว่า
น่าหลันเดินเข้าห้องทานอาหารแต่กลับไม่เจอตัวเย่เซียว
“เย่เซียวยังไม่ตื่นเหรอ?” น่าหลันถามอาชิงที่พากลับเมืองเยียวมาจากประเทศ S เทียบกับตอนอยู่ประเทศ S ช่วงนี้สีหน้าน่าหลันดูดีขึ้นมาก ใบหน้าเปื้อนความสุขทุกวัน
“ค่ะ” อาชิงเตรียมอาหารเช้าให้เธอไปแล้วตอบไป “ได้ยินว่านายท่านไม่ได้นอนทั้งคืน เมื่อคืนกลางดึกเรียกช่างซ่อมโทรศัพท์คนหนึ่งมา ตอนนี้ยังซ่อมโทรศัพท์อยู่แหนะ!นายท่านก็อยู่เป็นเพื่อนไปทั้งคืน”
“โทรศัพท์นั่นสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ?” น่าหลันถามด้วยความสงสัย
“อันนี้ก็ไม่รู้แล้วค่ะ” อาชิงกล่าว “คุณก็รู้ว่าเรื่องของนายท่านไม่ว่าใครก็ไม่กล้าถาม”
น่าหลันเงียบไปอึดใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
อาชิงยิ้มกล่าว “คุณน่าหลัน คุณรีบทานอาหารเช้าเถอะ ทานอาหารเช้าเสร็จต้องไปสวัสดีคุณไฟที่เรือนหลักอีก!”
“อืม ถ้าไปช้าเกรงว่าคุณไฟจะไม่พอใจเอา”
“คุณยังเรียกคุณไฟอีกหรือคะ อีกไม่กี่วันก็ต้องเรียกท่านว่า‘คุณพ่อ’เหมือนนายท่านแล้ว!”
ใบหน้าน่าหลันฉายแววเขินอายน้อยๆ “จะเปลี่ยนคำเรียกเร็วขนาดนั้นได้ยังไง? อีกไม่กี่วันก็แค่งานหมั้นเฉยๆ แต่ว่า…จนตอนนี้เย่เซียวยังไม่ยอมตกลง…”
พูดถึงประโยคสุดท้ายสีหน้าน่าหลันหม่นหมองลงมากทีเดียว ไฟเรนเซ่ได้เตรียมเชิญแขกร่วมงานและคนจากประเทศต่างๆ ก็ล้วนทราบข่าวแล้ว แต่จนถึงตอนนี้เย่เซียวกลับไม่เคยพยักหน้าตอบตกลงสักครั้ง
แต่ไฟเรนเซ่ทำอะไรย่อมมีความมั่นใจเสมอ ในเมื่อเขากล้าเชื้อเชิญแขกตรงๆ แบบนี้ คิดว่าเย่เซียวก็ปฏิเสธไม่ได้
ไม่มีใครกล้าตอกหน้าคุณไฟเรนเซ่
โดยเฉพาะงานใหญ่ขนาดนี้
หากเกิดข้อผิดพลาดใดๆ ในงานหมั้น ต้องไม่ผ่านด่านคุณไฟเป็นแน่
………………
“นายน้อย ได้แล้วครับ!” ช่างซ่อมโทรศัพท์โต้รุ่งจนตาแดงก่ำ พอกู้ไฟล์คลิปเสียงคืนมาได้ถึงถอนหายใจโล่งอกยาว
เสียงตื่นเต้นราวกับกู้ชีวิตไว้ได้
ก็กู้ชีวิตกลับมาได้จริงๆ ไม่ใช่หรือ?
“เอามาให้ฉัน!” เย่เซียววางแก้วเหล้าสับเท้าเข้าไปหา
อีกฝ่ายรีบหันจอโน้ตบุ๊คให้อย่างนอบน้อม “แค่คัดลอกคลิปเสียงนี้ลงก็พอ”
เย่เซียวนั่งลงบนโซฟาใช้เม้าส์กดที่คลิปเสียงจากนั้นเสียงคุ้นเคยดังมาอีกครั้ง เขาหลับตาที่แดงก่ำลงก่อนจะทิ้งร่างที่เหนื่อยอ่อนลงโซฟา
ช่างซ่อมที่อยู่ข้างๆ มึนไปแล้ว
นี่มันเรื่องอะไรกัน?
เดิมทีคิดว่าน่าจะเป็นคลิปเสียงสำคัญแต่กลับไม่คิดว่าจะเป็นเสียงผู้หญิงคนหนึ่ง อีกทั้งเป็นคลิปเสียงแค่ประโยคเดียวสั้นๆ แปลกเกินไปแล้ว!
แต่คำพูดเหล่านี้อีกฝ่ายได้แต่เก็บไว้ในใจไม่กล้าพูดออกปากเด็ดขาด
เขาไม่กล้ารบกวนเย่เซียวที่กำลังหลับตาฟังคลิปเสียงครั้งแล้วครั้งเล่า รีบเก็บของเดินออกจากห้องไปอย่างเร่งรีบ
น่าหลันทานอาหารเช้าเสร็จเดินออกจากห้องอาหารพลางเดินสวนไหล่ช่างซ่อมโทรศัพท์พอดี
“เอ๊ะ คุณรอเดี๋ยวก่อน!” น่าหลันเรียกอีกฝ่ายไว้
“นี่คือคุณน่าหลัน” คนรับใช้ที่กำลังเดินไปส่งช่างซ่อมแนะนำ
ช่างซ่อมรีบโค้งคำนับเป็นการทักทายอย่างนอบน้อม
น่าหลันพยักหน้ารับเล็กน้อย ถาม “คุณคือคนที่ซ่อมโทรศัพท์ให้เย่เซียว?”
“ครับ”
“ในโทรศัพท์มีเอกสารอะไรที่สำคัญมากงั้นเหรอ? ตอนนี้จัดการเสร็จหรือยัง?”
“เสร็จแล้วครับ แต่ว่า…เหมือนไม่ใช่เอกสารสำคัญ อาจจะเป็นของที่มีความหมายกับนายน้อยมากๆ มั้งครัง”
“มีความหมายมาก?” น่าหลันอดถามอีกคำถามเพราะความสงสัยไม่ได้ “เป็นอะไรกันแน่?”
“ก็คือคลิปเสียงสั้นๆ แค่นั้น”
“พูดให้ละเอียดหน่อย”
“เป็นเสียงของผู้หญิงคนหนึ่ง เหมือน…กำลังบอกให้นายน้อยรับโทรศัพท์ อาจจะเป็นเสียงเรียกเข้าของนายน้อยเมื่อก่อน”
น่าหลันหายใจหนักอึ้ง
แทบไม่ต้องพิสูจน์ก็รู้ว่าเสียงนั่น…
ต้องเป็นเสียงไป๋ซู่เย่แน่ๆ!
ผู้หญิงคนนั้นสำคัญต่อเขาขนาดนั้นเชียวหรือ? แค่คลิปเสียงสั้นๆ กลับมีค่าขนาดให้เขาใส่ใจต้องอยู่โต้รุ่งกับช่างซ่อมทั้งคืน?!
“คุณน่าหลัน ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอกลับก่อนนะครับ” ช่างซ่อมบอกลาเธอ
น่าหลันดึงสติกลับมาพลางรู้สึกเย็นวาบที่หัวใจ เธอไม่ได้สนใจอีกฝ่ายแค่พยายามกลั้นน้ำตาไว้แล้วเดินไปที่ห้องเย่เซียว
“เย่เซียว”
เสียงอ่อนโยนของน่าหลันดังขึ้นนอกประตู
เย่เซียวหลุดจากภวังค์ค่อยๆ หลับตาลง เสียงโอนอ่อนในคลิปเสียงยังดังสะท้อนข้างหูแต่ก็ฟังดูห่างไกลเหลือเกิน…
เขาพับจอโน้ตบุ๊ค พูดเสียงเบา “เข้ามา”
น่าหลันผลักประตูเข้ามา
รอยยิ้มจางๆ ปรากฏบนใบหน้า “คุณไม่ได้นอนทั้งคืนเลยเหรอ?”
เย่เซียวมองใบหน้านั่นของเธอนิ่งด้วยแววตาล้ำลึก สายตาที่มองจนน่าหลันยิ่งรู้สึกเจ็บปวดหัวใจราวกับถูกมีดกรีด
เห็นได้ชัดว่า…เขาไม่ได้มองตัวเธอแต่กำลังมองผู้หญิงอีกคนผ่านตัวเธอ!ใช้แววตาที่ลึกซึ้ง หนักหน่วงและเจ็บปวดสุดหัวใจ!
……………………………