อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก! - ตอนที่ 711 เจอกันในที่ที่เคยใช้ชีวิตมา (3)
ไป๋ซู่เย่รู้สึกแค่เหมือนมีก้อนสำลีอุดตรงลำคอให้พูดไม่ออก
เย่เซียวไม่ได้พูดอะไรอีก หันหลังหยิบหูโทรศัพท์ไร้สายในห้องกดไปยังเบอร์หน้าเคาน์เตอร์
“เอายาขึ้นมาหนึ่งหลอด…แก้อักเสบ อืม ชั้นบนสุด ห้อง 8801”
พูดจบก็วางสาย
ไป๋ซู่เย่ยืนนิ่งตรงนั้นคอยฟังเสียงทุ้มต่ำของเขา อยากถามอะไรแต่ก็ดันพูดอะไรไม่ออก
เย่เซียววางโทรศัพท์ไว้ที่เดิมก่อนสายตาจะหยุดชะงักเมื่อเห็นยานอนหลับที่เธอวางไว้บนโต๊ะ ไป๋ซู่เย่หวั่นใจรีบวางแก้วไวน์คว้ายามาไว้ในมือ เธอเปิดกระเป๋าเดินทางหมายจะยัดยาเข้าไปแต่เพิ่งรูดซิปฝั่งหนึ่งได้ อาจเป็นเพราะใจร้อนเกินไปเลยทำให้ยาขวดอื่นๆ ที่มากกว่ากลิ้งออกมา
เธอลนรีบนั่งยองจะเก็บขวดยาขึ้นมาแต่มีสองสามขวดที่กลิ้งไปข้างเท้าของเย่เซียว
มือใหญ่ของชายหนุ่มก้มเก็บขวดยาก่อนเธอหนึ่งก้าว
ในมือนอกจากเป็นยานอนหลับยังมียาต้านโรคซึมเศร้า
เย่เซียวมองนิ่งๆ ลมหายใจเริ่มติดขัด
“คุณเอายาคืนฉันมา” ไป๋ซู่เย่เดินไปตรงหน้าเขาขณะที่เธอยืนเท้าเปลือยบนพรม เขากลับสวมรองเท้าบูธหนังยิ่งขับให้เจ้าตัวสูงกว่าเดิม พอทั้งสองคนประชันหน้ากันท่าทางเธอเลยดูอ่อนกว่าเขาเมื่อเทียบกันแล้ว
“คุณยังกินยาพวกนี้อยู่?” เย่เซียวถามเสียงเย็นชา คืนนั้นที่เคยนอนค้างห้องเธอนั้นเคยเห็นยาพวกนี้ในกล่องยาเธอ แม้เธอจะปากแข็งแต่เขาพอเดาได้ว่าปกติเธอต้องกินยาพวกนี้ไปไม่น้อย
“บางครั้ง”
“ถ้าแค่บางครั้ง ออกนอกบ้านทีคุณจำเป็นต้องพกยามาปริมาณมากขนาดนี้เลยเหรอ?”
ไป๋ซู่เย่ไม่รู้ควรแก้ตัวกับเขาอย่างไรแต่แค่ช่วงนี้กินมากกว่าปกติเท่านั้น เธอได้แต่ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “คุณคืนฉันเถอะ ฉันกลัวนอนไม่หลับถ้านอนบนเตียงแปลกที่ เลยพกยาพวกนี้ไว้เผื่อได้ใช้”
“เตียงแปลกที่?” เย่เซียวเลิกคิ้วหันมามองเตียงในห้องแวบหนึ่งด้วยแววตาเย็นชา “ห้องนี้ เตียงนี้ คุณน่าจะเคยนอนได้หลายสิบครั้งแล้วสินะ? แปลกที่จริงๆ หรือความจริงคุณแค่ลืมไปแล้วเท่านั้น?”
ไป๋ซู่เย่เหมือนโดนทิ่มแทงที่หัวใจ
ที่แท้…เขาเองก็จำได้…
พวกเขาต่างไม่เคยลืมเลือน
ไป๋ซู่เย่กำลังจะพูดบางอย่างจู่ๆ เย่เซียวกลับหันหลังหยิบยาเดินเข้าไปทางห้องน้ำ เธอเดิมตามไปโดยอัตโนมัติ เย่เซียวเปิดฝาขวดยานอนหลับแล้วเทเม็ดยาสีขาวลงชักโครกทั้งหมดก่อนจะกดน้ำชักโครกอย่างไม่ลังเล
“เย่เซียว!”
“นอนไม่หลับก็ไม่ต้องนอน คุณชอบเหม่อมองวิวตรงริมหน้าต่างนี้มากไม่ใช่เหรอ? ก็อยู่ดูทั้งคืนก็ไม่มีอะไรเสียหาย” เย่เซียวคืนขวดยาเปล่าให้เธอด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง
ยาเหล่านี้หากใช้ขนาดเกินมันมีผลข้างเคียงรุนแรงมาก ในอดีตเขาเคยมีลูกน้องที่พึ่งยานอนหลับในปริมาณเกินขนาดจนสุดท้ายควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ เกรี้ยวกราด ซึมเศร้าแล้วยิงตัวตาย
คนที่พึ่งยาเหล่านี้ไม่มีใครมีจุดจบที่สวยสักคน
เย่เซียวปรายสายตาเรียบนิ่งมองเธอ “เดี๋ยวผมจะให้คนเอาตั๋วเครื่องบินมาให้คุณ พรุ่งนี้เช้าหยิบตั๋วเครื่องบินกลับประเทศ S ถ้าแปลกที่ อยากกลับไปนอนยังไงก็นอนอย่างนั้น”
ไป๋ซู่เย่น้ำตาเอ่อคลอ
เธอมองเย่เซียว “เย่เซียว พรุ่งนี้เป็นวันหมั้นของคุณ…”
เย่เซียวขมวดคิ้วแน่นใช้สายตาเย็นชามองเธอ “แล้วยังไง? เกี่ยวอะไรกับคุณ?”
ไป๋ซู่เย่เข้าใจทันที บัตรเชิญนั่นไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขา
“ไฟเรนเซ่เอาบัตรเชิญมาให้ฉันกับคนในกระทรวง ดังนั้น…”
เย่เซียวหัวคิ้วกระตุกแล้วพูดต่อเธอ“ดังนั้นที่วันนี้คุณปรากฏตัวที่เมืองเยียว เป็นเพราะ…คุณคิดจะมาร่วมงานหมั้นของผม?”
ผู้หญิงคนนี้!
พูดคำยินดีกับเขาในโทรศัพท์ไม่พอยังคิดจะมาแสดงความยินดีกับเขาต่อหน้าอีกใช่ไหม?
“…ตัดสินใจว่าอย่างนั้น”
เย่เซียวแค่นเสียงเย็นชาก่อนจะกัดฟันพูดออกมาทุกคำ “ผมไม่อยากเห็นคุณในงานหมั้นผม!พรุ่งนี้เช้าคุณรีบไปจากที่นี่!”
ใจเขารู้ดีถึงความหมายที่ทำไมไฟเรนเซ่ถึงเอาบัตรเชิญให้เธอ!เขากลัวว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นในงานหมั้น ดังนั้นเอาคุณแม่มาข่มขู่เขาไม่พอยังดึงตัวเธอมา พอมีจุดอ่อนตกอยู่ในมือเขาทั้งสอง เขามั่นใจว่าเย่เซียวไม่กล้าทำอะไรอุกอาจ!
และมีอีกเหตุผลหนึ่ง…
ไฟเรนเซ่อยากให้เธอเห็นเขาหมั้นกับผู้หญิงอีกคนเองกับตา ตัดขาดความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาให้เด็ดขาด!
ถ้อยคำของเย่เซียวรุนแรง
รุนแรงราวกับหินก้อนใหญ่กระแทกใจเธอ
“คุณเป็นคนหมั้น ในเมื่อคุณไม่ต้อนรับฉันงั้นฉันจะไม่ไป” เสียงของเธอเบาหวิวฟังดูอ่อนแรงลอยไปตามลม คล้ายหมอกควันชั้นบางๆ เธอเงยหน้ามองเย่เซียวแวบหนึ่ง “แต่ในเมื่อเราเจอกันแล้ว ฉันก็อยากบอกคุณต่อหน้า…”
“ไป๋ซู่เย่ ทางที่ดีคุณหุบปากซะ!” เขาพูดขัดเธออย่างนึกโกรธ แทบมีเปลวไฟพ่นจากสองตา
คำแสดงความยินดีบ้าอะไร!ไปให้พ้น!
เธอรู้นิสัยเขาดี มองใบหน้าเย็นชาดุดันของเขาทำให้เธอกลืนคำพูดที่จะพูดกลับเข้าไป คำพูดที่สวนทางกับหัวใจเหล่านั้นเดิมทีก็เจ็บปวดมากพอถ้าได้พูดจริงๆ ในเมื่อเขาไม่อยากฟังเธอจะไม่ทรมานตัวเอง
เย่เซียวถลึงตาใส่เธอวูบหนึ่ง ปากบางเซ็กซี่เม้มแน่นหันหลังก้าวขายาวเดินไปที่ประตูโดยไม่พูดอะไร ทิ้งไว้เพียงแผ่นหลังแสนเย็นชา
ไป๋ซู่เย่กำขวดเปล่ายืนอยู่ตรงนั้น มองแผ่นหลังของเขาที่จากไปอย่างเหม่อลอยพร้อมหัวใจว่างเปล่าที่ปวดหนึบ…
เย่เซียว…
เธอพึมพำอย่างไม่รู้ตัวทีราวกับต้องมนต์ ยกขาก้าวตามไปหนึ่งก้าว
เขาเดินไวมาก
เขากลัวว่าถ้าเดินช้ากว่านี้อีกนิดตัวเขาจะอดหันกลับมาจัดการเธอไม่ได้
หัวใจของเธอแข็งขนาดไหนกัน ใจร้ายขนาดไหน? ที่จะมาร่วมงานหมั้นของเขาหลังได้รับบัตรเชิญได้อย่างหน้าตาเฉย!อีกทั้งไม่ร้องไห้ไม่โวยวาย แล้วยังจะแสดงความยินดีกับเขาอย่างใจกว้าง!
นี่คงเป็นแฟนเก่าที่ใจกว้างที่สุดแล้วสินะ—ถ้า เธอนับว่าเธอเป็นแฟนเก่าของเขาล่ะก็!
เย่เซียวกำหมัดแน่นทุกย่างก้าวที่เดินออกไปด้วยความเร็วนั้นหนักหน่วง ชั่วขณะที่ประตูถูกเขากระชากเปิด เขารู้สึกเจ็บจี๊ดตรงอก
เขาครางฮึมยกมือกุมหน้าอกไว้แรงๆ
สูดหายใจ ความเจ็บนั่นทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาแทบยืนตัวไม่ตรง
“เย่เซียว!” เสียงเป็นห่วงของไป๋ซู่เย่ดังขึ้นข้างหู เขาลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก ใบหน้าเล็กที่แสดงความห่วงใยของเธอตรงหน้าเริ่มพร่ามัว
ไป๋ซู่เย่ได้ยื่นมือกอดเขาไว้ “เจ็บมากใช่ไหม? คุณพิงฉันก่อน ฉันจะพยุงคุณไปนอนลง!”
เขาหลุบตามองต่ำ
ในโพรงจมูกเต็มไปด้วยกลิ่นหอมสดชื่นหลังอาบน้ำของเธอ
เขาซบหน้าตรงไหล่เธอให้หน้าแนบผิวตรงลำคอเธอ พลันรู้สึกความเจ็บตรงหน้าอกบรรเทาลงไม่น้อย
เขาตัวใหญ่และหนักมาก ทำให้เกิดความยากลำบากอย่างมากเมื่อไป๋ซู่เย่จะประคองร่างเขา ตัวเอียงไปเอียงมา ใช้แรงทั้งหมดไปถึงจะพาเขามาบนเตียงได้
…………………………………