อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก! - ตอนที่ 763 หัวใจที่เต้นระส่ำ(3)
เย่เซียวในเมืองเยียวแทบจะชูแขนข้างเดียวบังมิดน่านฟ้าได้ ยิ่งไปกว่านั้นอยู่ใต้การจับตามองของเขาแล้วย่อมไม่มีทางจะซื้อยาได้อีก
เธอแค่พยักหน้ารับ ยอมจำนนอยู่ใต้ท่าทีแข็งกร้าวของเขา
ตอนเที่ยงเย่เซียวให้เธอเปลี่ยนชุดเพื่อพาเธอลงไปทานข้าวที่ห้องอาหารชั้นล่างของโรงแรม
ไม่รู้ว่าด้วยความที่ดื่มนมมาหนึ่งแก้วเมื่อเช้าหรือไม่ หรือเพราะมีเขาอยู่ ไม่ว่าอย่างไรอาหารมื้อนี้เป็นครั้งแรกที่เธออิ่มเอม—ความจริงหลายวันในเมืองเยียว เธอไม่ค่อยเจริญอาหารมากเท่าไหร่
มื้ออาหารดำเนินถึงตอนท้าย
เย่เซียวดูนาฬิกาข้อมือแวบหนึ่ง ใกล้จะบ่ายโมง
ไป๋ซู่เย่วางตะเกียบลง “คุณยุ่งมากเลยเหรอ?”
ตลอดมื้ออาหารโทรศัพท์ดังขึ้นหลายที พอดูออกว่ามีงานรัดตัวมากมาย
“ไม่เท่าไหร่” เย่เซียวพูดเรียบง่าย มองเธอแวบหนึ่ง “ทานอิ่มแล้วเหรอ?”
“อืม แน่นท้องนิดหน่อย”
“ผมจะไปจ่ายเงิน คุณไปรอผมอยู่ข้างนอก”
“เจ้านายก็ต้องจ่ายเหรอ?”
“ไม่มีกรณียกเว้น”
“งั้นฉันไปรอคุณข้างนอก” ไป๋ซู่เย่ลุกยืน เย่เซียวรวดวางเสื้อกันหนาวของตัวเองไว้บนแขนเธอ เธอรับไปกอดไว้ มองเขาครู่หนึ่งก่อนเดินไปนอกห้องอาหาร
เย่เซียวเซ็นชื่อก่อนจะเดินออกจากห้องอาหารของโรงแรม เห็นเธอใส่รองเท้าส้นสูงยืนนิ่งอยู่ตรงทางเดินผ่านประตูกระจกแต่ไกล ในมือมีเสื้อกันหนาวของเขา ขณะนี้เธอกำลังเงยหน้าชมภาพไม่กี่ภาพที่แขวนอยู่บนกำแพงอย่างตั้งใจ
ใบหน้ามุมข้างดูดีอย่างมาก
“เสี่ยวฉิน” ขณะที่กำลังใจจดใจจ่ออยู่ๆ มีผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่งโผล่มาด้านหลังเธอ เรียกผู้หญิงแปลกหน้าที่ยืนอยู่ข้างไป๋ซู่เย่ที
หญิงสาวหันหน้ามาเห็นว่าเป็นแฟนหนุ่มตนก็เผยยิ้มกว้างชอบใจทันที วิ่งโผเข้าอ้อมกอดของชายหนุ่มราวกับนกตัวน้อยที่ต้องการการคุ้มครอง
“รอคุณตั้งนานแล้ว ทำไมคุณเพิ่งออกมา”
“คนรอจ่ายเงินเยอะอยู่น่ะ อย่าโกรธเลย” ชายหนุ่มพูดกล่อมอย่างอ่อนโยน
“งั้นคุณจุ๊บฉันทีหนึ่ง จุ๊บฉันทีหนึ่งฉันจะไม่โกรธแล้ว” หญิงสาวออดอ้อน
“จุ๊บ”
คู่รักวัยรุ่นตระกองกอดเดินผ่านตรงหน้าไป๋ซู่เย่ไป ในอากาศยังสามารถได้กลิ่นของความรัก
เย่เซียวมองภาพฉากนี้ ไป๋ซู่เย่เองก็มองภาพฉากนี้ ในสายตาของทั้งคู่เผลอสติหลุดไปชั่วขณะรวมถึง…อิจฉา…
จากนั้นสองคนสบตากัน ความรู้สึกสั่นไหวนั่นยังไม่หายไป ยังค้างคาอยู่ในแววตาของกันและกัน ซึมซาบไปทั้งหัวใจ…
“ใส่เสื้อกันหนาวเถอะ ข้างนอกค่อนข้างเย็น” ไป๋ซู่เย่เดินนำไปก่อนพลางยื่นเสื้อกันหนาวไปให้
เย่เซียวไม่ได้ว่าอะไรแค่สวมเสื้อสูทตัวนอก
“ช่วงบ่ายคุณหมอจะมาฉีดยาให้คุณ”
“งั้นฉันจะรอที่ห้อง”
เย่เซียวพยักหน้ารับ ทั้งสองคนเดินขนาบข้างไปถึงประตูลิฟต์ เย่เซียวมองเธอแวบหนึ่ง “บริษัทมีงานอื่น คุณขึ้นไปคนเดียวไม่มีปัญหาใช่มั้ย?”
“ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ฉันพักอยู่ที่นี่คนเดียวตั้งนาน คุณมีธุระก็รีบไปเถอะ”
“อืม” เย่เซียวรับคำที ยื่นบัตรกดเงินสดให้เธอใบหนึ่ง เธอมองเขาด้วยความฉงน
“เก็บเผื่อไว้ การ์ดประเทศ S ของพวกคุณกดถอนเงินที่นี่ไม่ค่อยสะดวก”
ไป๋ซู่เย่หัวเราะแต่ไม่ปฏิเสธ รับบัตรไปแล้วจับพลิกไปมา “เงินที่ฉันใช้จากบัตรใบนี้ วันหลังจะขอคืนมั้ย?”
“ถ้าจะคิดจริงๆ คุณติดค้างผมมากมายนับไม่ถ้วน คุณคืนไหวเหรอ?”
เธอเบ้ปาก “ฉะนั้นปากบอกว่าไม่ต้องให้ฉันคืนแต่ความจริงคุณคอยจำอยู่ในใจทั้งหมด”
เย่เซียวกำลังจะพูดบางอย่างแต่ทันใดนั้นเองเสียง ‘ติ้ง–’ ดังขึ้น ประตูลิฟต์ค่อยๆ เปิดตัว
ลูกค้าข้างในทยอยกันออกมาเ เย่เซียวใช้มือคอยกั้นประตูลิฟต์ไว้แล้วมองเธอแวบหนึ่ง “ขึ้นไปเถอะ”
“…อ่อ” ไป๋ซู่เย่รับคำ มองเขาที ไม่รู้ว่าเขาไปครั้งนี้จะไม่ปรากฎตัวอีกนานแสนนานอย่างคราวก่อนหรือเปล่า…
แล้วครั้งหน้าที่พวกเขาพบกัน คือเมื่อไร?
แค่คิดว่าจะไม่พบกันอีกนานไป๋ซู่เย่ก็เกิดรู้สึกผิดหวังปนน้อยใจอย่างรุนแรง จากนั้นก็ก่อตัวเป็นความอาลัยอาวรณ์…
เธอเดินเข้าลิฟต์ตามลูกค้าคนอื่น
ประตูลิฟต์ปิดลงช้าๆ เห็นหน้าของเย่เซียวหายไปจากสายตาทีละนิดๆ หัวใจเธอก็บีบรัด
แทบไม่คิดรีบยกมือแทรกนิ้วไปในช่องประตูลิฟต์ที่ยังไม่ทันปิดสนิทดี
ประตูลิฟต์สัมผัสได้เลยรีบแยกตัวออกไป
“เย่เซียว!” เธอเรียกเขา
เย่เซียวยังไม่ไปด้วยซ้ำ ฉากเมื่อครู่ทำเอาเขาใจหล่นวูบ มุ่นคิ้วอย่างคาดโทษ “คุณทำแบบนี้มันอันตรายนะ!”
หากประตูลิฟต์ขัดข้องขึ้นมาล่ะ เธอไม่คิดจะเก็บมือนี้ไว้แล้วหรืออย่างไร
ไป๋ซู่เย่ยังไม่รู้สึกถึงความอันตราย เดินออกมาจากลิฟต์ปล่อยให้ประตูลิฟต์ปิดตัวลงช้าๆ ก่อนจะเลื่อนขึ้นไปชั้นต่างๆ เธอยืนอยู่ตรงหน้าเย่เซียว เย่เซียวก้มมองเธอ “มีเรื่องอะไรอีกหรือเปล่า?”
“อืม”
“ทำไม?”
“…เนกไทคุณเบี้ยวแล้ว” ไป๋ซู่เย่มองเขาวูบหนึ่งตามด้วยยกมือจัดเนกไทเขา เดิมทีเขาคิดว่าเธอแค่จะจัดเนกไทให้ตรงเท่านั้น แต่ถัดจาดนั้นจู่ๆ เธอก็ออกแรงกระชากเบาๆ ดึงเนกไทให้ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาของเขาโน้มลงมา
ทีนี้…
ทั้งสองคนอยู่ใกล้กันมาก
ใกล้เสียจนแพขนตางอนยาวของเธอแทบปัดโดนแก้มเขา…
ใกล้เสียจนลมหายใจของทั้งคู่ในตอนนี้พัวพันกันไปหมด ยิ่งอยู่ยิ่งร้อนแรง…
ใกล้เสียจนเขาได้ยินเสียงหัวใจเต้นรัวของเธอ รวมไปถึง…ชีพจรที่รัวเร็วไม่เป็นจังหวะของตัวเอง…
จากนั้นเธอแหงนหน้าแนบริมฝีปากกับของเขา
เย่เซียวชะงัก ร่างสูงที่กำลังโค้งตัวหน่อยๆ เกร็งแข็งอยู่อย่างนั้น
ความรู้สึกในใจมันสั่นไหว
เริ่มแรกไป๋ซู่เย่แค่ต้องการแตะปากสัมผัสกับปากของเขาเบาๆ แต่รสชาตินั่นมันเสพติดได้ เธอคิดถึงกลิ่นอายของเขา คิดถึงลมหายใจของเขา ดังนั้นจึงไม่ถอยหลังกลับ ลองจูบตอบอย่างลึกซึ้ง
เย่เซียวไม่เคยทนการยั่วยวนหรือหยอกเย้าจากเธอได้มาโดยตลอด เมื่อปลายลิ้นชื้นของเธอที่ไล้ผ่านกลีบปากเขา เขายื่นแขนรั้งเธอเข้ามาในอ้อมกอดทันที ต่อไปริมฝีปากก็รุกล้ำอย่างแข็งขัน รวบตำแหน่งผู้ควบคุมจังหวะได้อย่างง่ายดาย
เพียงแต่…
นี่จะเป็นทางผ่านที่ลูกค้าทั้งตึกต้องเดินผ่าน
เขาเป็นเจ้านายที่นี่เสียด้วย ในที่สาธารณะ การจูบกันอย่างร้อนแรงนั้นมันไม่เหมาะสมจริงๆ
ฉะนั้น…
ก่อนที่สติจะหายไม่เหลือแม้แต่เงา เย่เซียวชิงปล่อยเธอก่อนหนึ่งก้าว
จูบร้อนแรงถูกหยุดกะทันหัน แถมยังเป็นฝ่ายถูกเขาผลักออกอย่างเด็ดขาด
ความรู้สึกแบบนั้นมันแย่เหลือเกิน
ไป๋ซู่เย่หายใจหอบหน่อยๆ มือที่จับเนกไทเขาไว้ละออก กล่าวเสียงเบาประโยคหนึ่งโดยที่ไม่มองเขา “งั้นฉันขึ้นไปก่อน…”
เสียงติดอึมครึมเล็กน้อย
เธอหมุนตัวเตรียมก้าวเข้าลิฟต์
แต่ยังไม่ทันก้าวออกมาหนึ่งก้าว ข้อมือถูกคนตะครุบจากด้านหลัง จากนั้นรอเธอได้สติกลับมาเจ้าตัวก็ถูกเย่เซียวลากเข้าไปที่ทางออกบันไดหนีไฟ ตรงทางออกหนีไฟนั่นแค่ประตูบานใหญ่ปิดลงเธอก็แทบจะแนบไปกับกำแพง ร่างสูงใหญ่ของเย่เซียวทาบทับตัวเธอ มือหนึ่งจับเอวเธอ อีกมือสอดเข้าไปในกลุ่มผมยาวของเธอ ประคองท้ายทอยก่อนจะประทับจูบลึกซึ้งพัวพันที่ไม่มีวันพอลงไป…
…………………………