อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก! - ตอนที่ 785 การเลือกครั้งสุดท้าย (2)
ไป๋ซู่เย่ไม่ได้กลับไป
ตลอดช่วงบ่ายเธอรอคอยเงียบๆ ในห้อง ปืน อาวุธอย่างเช่นยาชา ถูกหยิบออกมาจากช่องเก็บกระเป๋าเดินทาง ของพวกนี้ล้วนเป็นสิ่งที่อาเช่อเตรียมไว้ให้เธอทันทีที่มาถึงเมืองเยียว จึงยังใช้ปืนได้ไม่คล่องมือเท่าไร
แต่ว่า…
น่าจะไม่ได้ใช้ ก็ไม่สนใจแล้วว่าจะคล่องมือหรือเปล่า
เมื่อกริ่งหน้าประตูดังขึ้นดึงสติเธอกลับมา หยิบเสื้อผ้าลวกๆ คลุมอาวุธบนโต๊ะไว้ถึงไปเปิดประตู
ฉงนใจเล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้าคุ้นเคยจากตาแมวของประตู
“นายมาได้ยังไง?” เปิดประตู ไป๋หลางยืนอยู่ตรงหน้าประตู
“คุณบอกว่าจะเอาบัตรเชิญไม่ใช่เหรอ?” ไป๋หลางเข้ามาแล้วส่งบัตรเชิญให้เธอ
“ฉันก็ไม่ได้บอกให้นายมานี่นา”
ไป๋หลางมองเธออย่างจริงจังแวบหนึ่ง “ผมเป็นห่วงคุณจะเป็นอะไรไป”
ไป๋หลางตาวาววับชั่ววูบแต่นั่นเกิดขึ้นในพริบตาเดียวเท่านั้น ทันใดนั้นเธอก็กลับไปคงท่าทางเรียบนิ่งและมีสติเหมือนเช่นเคย “เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ยังไงก็ไม่พ้นเสี่ยงอันตรายหรอก”
“พรุ่งนี้ผมจะไปด้วยกันกับคุณ” ไป๋หลางกล่าว “ผมปลอมสถานะเป็นนักธุรกิจคนหนึ่ง ต้องการคู่ เหมาะกับเราสองคนพอดี”
เธอหัวเราะที “ได้ ในเมื่อนายจะไปฉันก็ไม่ว่าอะไร แต่…นายต้องสัญญาฉันเรื่องหนึ่ง”
“ว่ามาเลยครับ”
“พรุ่งนี้…ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ห้ามทำร้ายเย่เซียว”
ไป๋หลางมุ่นคิ้ว จู่ๆ ก็รู้สึกลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นตงิดๆ “งั้นคุณคิดว่า…พรุ่งนี้จะเกิดเรื่องอะไรล่ะครับ?”
“นายสัญญากับฉันก่อน ไม่อย่างนั้นฉันไม่อนุญาตให้นายไปด้วย!นอกจากนายต้องสัญญาว่านายจะไม่ทำร้ายเขาแล้ว รวมถึงคนของกระทรวงความมั่นคงที่ตามมาทั้งหมดด้วย ห้ามใครทำร้ายเขาแม้แต่คนเดียว—ถ้าเกิดว่าสัญญาถูกยกเลิกอย่างราบรื่นล่ะก็!”
สายตาของเธอแน่วแน่ ถ้อยคำไม่อนุญาตให้ขืนคำสั่ง
ไป๋หลางอยากถามบางอย่างแต่ขยับปากไปมาก็ไม่ได้กล่าวอะไรแม้แต่คำเดียว สุดท้ายแค่พยักหน้า “ได้ ถ้าสัญญาถูกยกเลิกอย่างราบรื่น ผมสัญญา คนของเย่เซียวเองก็อยู่ ผมเชื่อว่าขอแค่สัญญาถูกยกเลิก คนของกระทรวงความมั่นคงจะไม่ทำอะไรแน่นอน”
ได้ยินคำสัญญาของเขาแล้วเธอพยักหน้ารับ เห็นได้ชัดว่าผ่อนคลายลงมาก
เธอเปิดดูบัตรเชิญในมือ “นายหาสักห้องเข้าพักเถอะ”
“ผมอยู่ห้องข้างๆ คุณนี่เอง มีเรื่องอะไรก็เรียกผมได้เสมอ”
“อืม งั้นนายไปพักผ่อนซะ เพิ่งลงจากเครื่องเหนื่อยแย่ มื้อเย็นฉันจะช่วยเรียกไปที่ห้องนายให้”
ไป๋หลางพยักหน้า เตรียมหมุนตัวเดินกลับห้องตัวเองด้วยใจที่ยังไม่สงบดีนัก
เดินถึงหน้าประตูก็หันกลับมามองเธออีกที เธอกำลังก้มหน้าอ่านบัตรเชิญปล่อยผมยาวปรกลงมาปิดใบหน้าไปกว่าครึ่ง แต่พอจะเห็นความเหนื่อยอ่อนบนใบหน้าเธอได้ลางๆ
“รัฐมนตรี”
“หืม?” เธอเงยหน้าขึ้น อมยิ้มจางๆ อย่างเคย
ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองหรือไม่ ไป๋หลางรู้สึกได้ถึงความเศร้าหมองแสนหนักหน่วงที่เธอไม่อยากให้ใครเห็นถูกปิดซ่อนไว้เบื้องหลังรอยยิ้มนั่น
“ในเมื่อคุณรักเย่เซียวขนาดนี้ ทำไมไม่หนีไปกับเขาล่ะครับ ไม่กลับกระทรวงความมั่นคงไปตลอดชีวิต?”
ประโยคคำถามของเขาเรียกให้หัวใจไป๋ซู่เย่สั่นไหวอย่างรุนแรง
หนี
ใช่ว่าเธอจะไม่เคยคิดจะลอง?
ความเห็นแก่ตัวเล็กน้อยนี้เคยผุดขึ้นมาในหัวเธอจริงๆ
แต่ว่า…
“ถ้าฉันไป สงครามระหว่างประเทศจะทำให้ฉันกลายเป็นนักโทษในประวัติศาสตร์ เป็นทหารหนีตัวตายในสมรภูมิ เป็นคนทรยศประชาชน ต่อให้ฉันไม่คิดสนใจข้อกล่าวหาทั้งหมดนี้เลยก็ตาม…แต่แล้วเย่เซียวล่ะ?” เธอยิ้มขมขื่น ลำคอแห้งผาก “อยู่ด้วยกันกับฉัน…ผลที่จะเกิดขึ้นกับเขา มีแต่ความเลวร้ายเสมอไป…”
ประโยคสุดท้ายที่กล่าวมาราวกับได้ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดของเธอ
ไป๋หลางไม่อาจถามต่อได้อีก
หากเธอหนีไปพร้อมกับเย่เซียวจริงๆ ทอดทิ้งทุกคนอยู่เบื้องหลัง คงไม่ใช่ไป๋ซู่เย่แล้วล่ะ
……………………
กลางคืน พลุดอกไม้ไฟสว่างไสวอยู่เหนือผืนทะเล
ส่องประกายท้องนภากว้างใหญ่ใจกลางเมืองหรูอย่างเมืองเยียว
ไป๋ซู่เย่เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางทีละชิ้นๆ
รูปของเย่เซียวในโทรศัพท์ก็ทำให้เธอตาแดงก่ำจนได้
รูปนั้นเป็นรูปที่เธอแอบถ่ายตอนเขาหลับ เย่เซียวในเวลานั้นนอนอยู่บนเตียงขาวสะอาด หลับสนิทตลอดคืน แค่ได้มองอย่างนั้นก็รู้สึกทุกอย่างดีไปหมด
เธออมยิ้ม ยิ้มจนตาเริ่มพร่ามัว ก้มหน้าประทับปากจูบหน้าจอแนบแน่น
จูบด้วยความจริงใจ
คล้ายเป็นการบอกลา…
หลังจากนี้…ไม่มีโอกาสอีกแล้ว…
ไม่มีโอกาสได้มองภาพยามหลับใหลของเขาอีก ไม่มีโอกาสได้จูบเขาอีก…
————
อีกฟากหนึ่ง บนตึกบริษัทยักษ์ใหญ่ชั้นบนสุด เย่เซียวกำลังเหม่อมองพลุดอกไม้ไฟที่แตกกระจายกลางอากาศ
ตำแหน่งนี้แย่กว่าตำแหน่งของโรงแรมมากนัก ฉะนั้นแม้แต่พลุดอกไม้ไฟเหล่านี้ยังดูสีจืดจาง หมดซึ่งความอลังการอย่างที่เคยเป็น
“นายท่าน”
ประตูห้องทำงานถูกผลักออก
หยูอันที่อยู่ตรงประตูชะงักไปชั่ววูบ ข้างในดำสนิทเพราะไม่เปิดไฟ หากไม่ใช่เพราะมีแสงจากพลุข้างนอกส่องเข้ามาบ้างคงไม่เห็นเงาคนที่ยืนอยู่ริมหน้าต่าง
เย่เซียวไม่ได้หันหลังกลับมา ยังทอดสายตาไปนอกหน้าต่าง “มีอะไร?”
“เมื่อกี้เช็คไฟล์ทบินแล้ว…” หยูอันพูดเสียงนิ่ง “ไป๋ซู่เย่ไม่ได้กลับประเทศตามคำสั่งของท่าน”
เย่เซียวหายใจหนักอึ้งเผลอกำมือแน่นโดยไม่รู้ตัว แก้วไวน์แตกสลายในฝ่ามือเขา เศษแก้วบาดไปตามนิ้ว เลือดไหลตามทาง หยดลงบนพื้นพรมเป็นดวง
“นอกจากเธอจะไม่ไปยังพาคนของกระทรวงความมั่นคงมากลุ่มหนึ่ง” หยูอันกัดฟันกรอด “คิดว่าถ้าเธอห้ามการเซ็นสัญญาไม่สำเร็จก็จะเอาคุณถึงตาย”
เธอมีทางเลือก
หากเธอถอนตัวไปหลังได้ตั๋วเครื่องบิน ต่อให้ส่งคนกลุ่มอื่นมาฆ่าเขาเขาก็ยอมรับมัน ไม่ถึงกับต้องไล่ต้อนกันและกันให้ถึงทางตัน อย่างน้อยพอจะวาดจุดจบที่สวยงามให้กับความรักจอมปลอมทว่าสมบูรณ์และเศร้าโศกนี้ของพวกเขา
แต่ดัน…
ก้าวสุดท้ายนี้เธอยังไม่ยอมไป
สุดท้ายก็ต้องการปลูกฝังความเกลียดชังให้หยั่งลึกในหัวใจของกันและกัน
ช่างเป็นผู้หญิงที่ใจเหี้ยมเสียจริง!
“ฉันเองก็อยากดูว่าพรุ่งนี้เธอจะฆ่าฉันได้จริงหรือเปล่า…” เย่เซียวแค่นหัวเราะ พูดสั่งเสียงเรียบ “พรุ่งนี้ ให้ทุกคนในงานลดความระมัดระวังลง ปล่อยเธอเข้ามา ส่วนคนอื่นๆ ของกระทรวงความมั่นคง ขวางไว้ข้างนอก ห้ามเข้าใกล้แม้แต่ก้าวเดียว”
หยูอันย่นคิ้ว “ท่านทำแบบนี้อันตรายมากนะครับ!ถ้าเธอคิดจะ…”
“ฉันรู้อยู่แก่ใจดี!” เย่เซียวตวาดขัดหยูอัน “นายออกไปเถอะ!”
หยูอันอยากพูดอะไรแต่ก็ไม่ได้พูดมันออกมา ได้แต่ปิดประตูอย่างหงุดหงิด ต่อยหมัดใส่กำแพง
เย่เซียวทำแบบนี้ เพราะอยากตายด้วยน้ำมือของไป๋ซู่เย่?!
แต่หากเธอกล้าทำจริงๆ—กล้าทำแบบนั้นจริงๆ เธอจะไม่มีชีวิตรอดออกไปจากงานแน่นอน!สิบปีก่อนเป็นความผิดพลาดของพวกเขา สิบปีหลัง ไม่อนุญาตให้ประวัติซ้ำรอยเด็ดขาด!
ประตูถูกปิดตัวลง ห้องทำงานกลับสู่ความสงบและความมืดก่อนหน้า ขณะนี้แม้แต่พลุดอกไม้ไฟข้างนอกก็ดับไปแล้ว…
โลกทั้งใบ ดำดิ่งสู่ความมืดมิดที่ไร้ขอบเขต…
นี่ คือโลกของเขา…
………………………