อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก! - ตอนที่ 790 รักที่มาจากความจริงใจ (3)
“ไม่ต้องเลือก!ไม่ให้คุณเลือกอยู่แล้ว!” เย่เซียวคำรามอย่างเจ็บปวด นัยน์ตารื้นด้วยน้ำใสบางๆ
เขาได้ให้ถังเจวี๋ยคิดค้นอาวุธใหม่เพื่อดึงดูดความสนใจของอีกฝ่ายไปแล้ว ดังนั้นสัญญาทางนี้ได้ถูกสองประเทศคู่กรณีเลื่อนแล้วเลื่อนอีก หลังจากนี้จะเจรจาสำเร็จหรือไม่นั้นยังมีโอกาสพิจารณาใหม่
เขาไม่อยากให้เธอลำบากใจถึงได้ให้ถังเจวี๋ยออกหน้า ต่อให้เสียหายมหาศาลแต่เขากลับไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเธอจะตัดสินใจเช่นนี้
——————
ข้างๆ หยูอันคอยมองทั้งคู่ในกองเลือดแล้วหัวใจก็สั่นไหวด้วยความสงสารจับใจ
สองคนนี้ต่างรักอีกฝ่ายจนยอมสละชีวิตตัวเอง ต่างส่งมอบชีวิตตัวเองไว้กับอีกฝ่ายได้ทั้งนั้น ยอมอยู่ยอมตาย รักจนต่างเสียสละเพื่ออีกคนด้วยวิธีที่ให้ตัวเองอยู่เงียบๆ เพื่อให้อีกคนได้สมดั่งใจปรารถนา
แต่ดัน…
พวกเขาดันคลาดกันไม่หยุดหย่อน…
ความเจ็บปวดรวมถึงรอยแตกร้าวในอดีตทำให้พวกเขาไม่กล้าเดินขนาบคู่กันเรื่อยมา บัดนี้ในสงครามรักที่ต้องสูญเสียฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไปนั้นความเกลียดชังเคียดแค้นในวันวาน ความตะขิดตะขวงใจทั้งหมดได้หมดความสำคัญลงชั่วพริบตา เพียงแต่…พวกเขาที่เพิ่งรู้ใจตัวเอง จะยังมีอนาคตไหม?
——————
“เย่เซียว…ฉันหนาว…หนาวจัง…”
ไป๋ซู่เย่ซุกตัวในอ้อมกอดเย่เซียว เย่เซียวรีบถอดเสื้อนอกของตัวเองลงอย่างรวดเร็วก่อนจะคลุมตัวเธอไว้ หันไปตะคอกถามเสียงขาดห้วง“รถพยาบาล!รถพยาบาลล่ะ!”
“อยู่ในระหว่างทางมา เดี๋ยวก็ถึงแล้วครับ!”
หยูอันรีบตอบกลับหลังได้สติกลับมา เมื่อครู่หลี่สือได้โทรเรียกรถพยาบาลเป็นอันดับแรกแล้ว
เย่เซียวช้อนตัวไป๋ซู่เย่จากพื้น เลือดสีสดหยดลงบนพรมทีละเม็ดๆ ทำให้ภาพดูน่าสะพรึงยิ่งนัก และย้อมดวงตาเขาให้แดงก่ำเช่นเดียวกัน แพร่ซึมไปทั้งหัวใจเขา
ไป๋ซู่เย่ใช้สองมือโอบลำคอเขา แนบใบหน้าติดซอกคอเขา
“เย่เซียว…”
“ผมอยู่นี่ ผมอยู่…” เสียงเย่เซียวสั่นเครืออย่างรุนแรง
ใบหน้าเธอเริ่มซีดเซียวลงทุกเมื่อ“คุณ…จะคิดถึงฉันมั้ย?”
เสียงเขาแหบแห้ง “ผมเริ่มคิดถึงแล้ว…ตอนนี้เริ่มคิดถึงแล้ว…”
เธอยิ้ม ปากแนบติดลำคอเขา เขารู้สึกได้ว่าริมฝีปากของเธอไม่มีอุณหภูมิใดๆ หลงเหลืออีกต่อไป เสียงอ่อนแอของเธอดังข้างหูเขา“ฉันก็เริ่มคิดถึงคุณแล้ว…”
ทำอย่างไรดี?
ความจริง…
ไม่อยากจากไปเลย…
ไม่อยากไปจากเขาทั้งอย่างนี้…
พวกเขายังมีอีกหลายสิ่งที่ยังไม่ได้ทำร่วมกัน…
“สิบปีก่อน…ฉันไม่รู้…ว่าคนของเราจะฆ่าพวกเขา…” ไป๋ซู่เย่ยังพูดไม่หยุด แต่แรงเหลือน้อยลงทุกที “ฉันไม่อยากให้พวกเขาตาย…แต่ฉันกลับช่วยพวกเขาไม่ได้…”
“ซู่ซู่ ไม่ต้องพูดแล้ว…เด็กดี เก็บแรงไว้ เก็บแรงให้ทนนานกว่านี้หน่อย!” เย่เซียวอุ้มเธอเดินออกไปข้างนอกก้าวใหญ่
ทุกคนแยกออกจากกันเปิดทางให้อัตโนมัติ กลุ่มคนของหยูอันเดินตามหลังคอยมองแผ่นหลังแสนเศร้านั่น ไม่ว่าใครก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก และไม่อยากพูดอะไรมาก
“ขอโทษ…เย่เซียว…” ไป๋ซู่เย่พึมพำเสียงแผ่ว
“ผมไม่ต้องการคำขอโทษของคุณ!” เย่เซียวกอดเธอแน่น แน่นเสียจนคล้ายจะหลอมรวมเป็นร่างเดียวกัน “ผมแค่ต้องการให้คุณมีชีวิตต่อ!อยู่ต่อเป็นเพื่อนผม!คุณเคยบอกว่าคุณจะไม่มีวันไปจากผม!ผมไม่อนุญาตให้คุณไปจากผม!คุณฟังเข้าใจมั้ย?”
ไป๋ซู่เย่รู้สึกเพียงเปลือกตาที่หนักอึ้งขึ้นเรื่อยๆ หนักขึ้นเรื่อยๆ…
หนักเสียจนไม่นาน…ก็ปิดสนิท…
หนักเสียจนภาพตรงหน้าทุกอย่างพร่ามัว มองอะไรไม่เห็นสักอย่าง…
เย่เซียว…
เย่เซียว…
เธอเรียกชื่อที่สลักในส่วนก้นบึ้งของหัวใจเธอไม่ขาดสาย แต่…ไม่มีใครได้ยินเสียงนั้นอีก…
“ซู่ซู่!” เสียงร้องดังก้องอย่างพังทลาย โศกเศร้าและสิ้นหวัง
เย่เซียวที่เข้มแข็ง ห้าวหาญเสมือนไม่มีวันล้มคนนั้นทนไม่ไหวอีกต่อไป น้ำตาหนึ่งหยดร่วงเผาะ ตกกระทบลงบนผิวกายเย็นเฉียบของเธอ
เย่เซียว อย่าร้องไห้…
เธออยากจะยกมือเช็ดน้ำตาให้เขาเหลือเกิน…แต่…ไม่มีแรง…ไม่มีแรงอีกแล้ว…
ใบหน้าเธอเรียบสงบ หางตากลับมีน้ำตาไหลออกมาทีละเม็ดๆ ไม่หยุด
ในหัวเต็มไปด้วยภาพเมื่อสิบปีก่อน วาบขึ้นมาเหมือนภาพยนตร์และเปล่งประกายอย่างต่อเนื่อง…
–เย่เซียว ข้างนอกฝนตกอีกแล้ว ฟ้าผ่าด้วย น่ากลัวจังเลย
ข้างหูเธอเหมือนได้ยินเสียงของตัวเองเมื่อสิบปีที่แล้ว เสียงใสและซุกซน
–แล้วยังไงล่ะ?
สิบปีก่อนเขาเหมือนตอนนี้ไม่มีผิด เย็นชาเสมอต้นเสมอปลาย
–ขอนอนเตียงคุณสักคืน ได้มั้ย?
เธอจำได้ว่าตัวเองในตอนนั้นจะอุ้มหมอนมาอ้อนเขา
–ไม่ได้
–ขี้เหนียว งั้นฉันกลับไปนอนก็ได้ เด็กกำพร้าตัวคนเดียวอย่างฉันนี่น่าสงสารจังเลยนะ กลางคืนก็ฝันร้ายให้ตกใจตายไปเลย!
–รอเดี๋ยว คุณกลับมาก่อน!
พอเขาหลุดปาก เธอก็อมยิ้มตาหยีไปนอนบนเตียงเขาดีๆ เย่เซียวในขณะนั้นจนปัญญาที่จะต่อกรกับเธอเสมอ
……
–เย่เซียว คุณอย่าขยับสิ
เธอในเวลานั้นยังชอบวาดรูปอย่างมาก ยิ่งชอบวาดเขา เธอลากเขาไปนั่งตรงหน้ากระดานวาด เขาพลิกเอกสารข้อมูลไปพลางๆ พอนั่งปุ๊บก็นั่งไปทั้งบ่าย
–นี่มันกี่ชั่วโมงแล้ว? ไม่ให้วาดแล้ว เก็บของเลย
เขายังคงเอาแต่ใจเช่นเคย อีกทั้งไร้ซึ่งความอดทนมากๆ
–ไม่ได้ อีกนิดเดียวเอง อีกนิดเดียว คุณนั่งอีกแป๊บเดียว ได้มั้ย?
–ไม่ได้
–ฉัน…งั้นฉันจุ๊บคุณหนึ่งที ให้ฉันวาดรูปนี้ให้จบ ได้มั้ย?
เธออ้อนวอนอย่างไม่ยอมแพ้ เธอในขณะนั้นยังไม่มีความหนักแน่นและเป็นผู้ใหญ่ ยังเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง
–อืม ขอคิดดูก่อนได้
เธอหน้าแดงเริ่มมีท่าทีลำบากใจ แต่ก็จุ๊บแก้มเขาไปทีหนึ่ง
สุดท้ายขณะที่อยากจะหันหลังกลับไปวาดรูปดังเดิมกลับถูกเขาช้อนตัวขึ้นทันที
–ไม่อนุญาตให้วาดแล้ว!
แย่งดินสอในมือเธอไปทีเดียว
–เย่เซียว คุณผิดคำพูด!หลอกเอาจูบฉันไป!
เธออารมณ์เสียอย่างไม่พอใจ
–ผมแค่บอกว่าขอคิดดูก่อน ตอนนี้คิดเสร็จแล้ว ก็ยังไม่อนุญาตให้วาดอยู่ดี
–เชอะ!ไม่วาดคุณก็ได้ คุณปล่อยฉันลง ฉันจะให้หยูอันเป็นนายแบบ
–ไม่อนุญาต คุณนั่งไปกี่ชั่วโมงแล้ว? ออกไปเดินเล่นก่อนค่อยกลับมา
เขาไม่ได้ไม่มีความอดทนแต่กลัวเธอนั่งนานเกินไป ใช้สายตามากเกินไปจะเป็นผลเสียต่อสุขภาพ
……
–เย่เซียว อนาคตคุณจะแต่งงานกับฉันมั้ย?
–นี่คุณกำลังขอผมแต่งงานเหรอ?
–ฝันไปเถอะ!
–แล้ว…อนาคตคุณจะแต่งงานกับผมมั้ย?
–นี่คุณกำลังขอฉันแต่งงานเหรอ?
–นับว่านะ
–ไม่แต่ง!มีอย่างคุณที่ไหนขอแต่งงานไม่จริงใจเลย
–ไม่แต่งก็ต้องแต่ง!ไม่จริงใจขนาดไหนก็ต้องแต่ง!
–เย่เซียว คุณมันเอาแต่ใจ
พูดกล่าวโทษเขาแต่เธอกลับหัวเราะ
ในที่สุดภาพเมื่อสิบปีก่อนที่อยู่ในหัวก็เริ่มพร่ามัวขึ้นมาติดๆ…
ไป๋ซู่เย่หลับตา น้ำตายิ่งไหลมากขึ้น…มากขึ้น…
ท้ายที่สุดก็ไม่มีโอกาสได้แต่งงานกับเขาแล้ว…
เย่เซียว
ถ้าอย่างนั้นไว้ชาติหน้าแล้วกัน!
สัญญากับฉันนะว่าชาติหน้า…ไม่ทุลักทุเลลำบากลำเค็ญขนาดนี้ ไม่ยิ่งใหญ่อลังการแบบนี้อีกแล้ว…
เธอขอแค่เรียบง่ายสักนิด ยิ่งเรียบง่ายเท่าไรก็ยิ่งดี…
จับมือเคียงคู่กันจนแก่เฒ่า เช่นนี้ก็พอ
————
…………………………….