อรุณสวัสดิ์ ท่านประธานาธิบดีที่รัก! - ตอนที่ 814 ท้อง(3)
ด้านหลังมีช่างซ่อมกล้องวงจรปิดตามเข้ามา
เดิมทีไป๋ซู่เย่ยังแกล้งหลับ พอได้ยินว่าจะติดตั้งกล้องใหม่รีบกระเด้งตัวจากโซฟาทันที
“เย่เซียว ไม่ต้องมีกล้องวจรปิดหรอก ฉันสัญญาว่าต่อจากนี้จะทำตามกฎ ได้มั้ย?”
“คิดว่าผมควรเชื่อคนท้องที่เพิ่งปีนบันไดบอกผมว่าจะทำตามกฎ?” แค่เย่เซียวนึกถึงเธอเพิ่งปีนบันไดมาเมื่อครู่ก็แทบระงับไฟโทสะไม่อยู่
ไป๋ซู่เย่นึกน้อยใจ ได้ยินเขาว่าเช่นนี้ก็ยิ่งอัดอั้น “ต้องใช้วิธีนี้มาควบคุมฉันให้ได้เลยเหรอ?”
“คุณคิดว่านี่คือการ ‘คุม’เหรอ?”
“ถ้าคุณคิดว่านี่คือความห่วงใย โอเค ฉันยอมรับว่าใช่ แต่อย่างน้อยคุณน่าจะคิดบ้างว่าฉันต้องการความห่วงใยนี้มั้ย จะแบกรับความห่วงใยนี้ไหวหรือเปล่า”
“คุณไม่ได้รู้ตั้งแต่วันแรกแล้วหรือว่าผมเย่เซียวเป็นคนยังไง วิธีที่ผมแสดงความเป็นห่วง คุณไม่ได้เพิ่งได้รับเป็นครั้งแรก เมื่อก่อนได้ ทำไมตอนนี้จู่ๆ ถึงไม่ได้ล่ะ?”
“…เย่เซียว ตอนนี้คุณกำลังงี่เง่ากับฉันนะ”
“ผมงี่เง่า หรือคุณงี่เง่ากันแน่?”
ทุกคนที่อยู่ข้างๆ คอยมองพวกเขาตอบโต้กันไปมาต่างตกใจกันถ้วนหน้า นายท่านกับคุณนายอยู่ด้วยกันแต่งงานกันใกล้ครบปีไม่เคยทะเลาะเบาะแว้งกันมาก่อน ปกติพวกเขาให้อภัยกันและกัน ไม่แม้แต่จะถกเถียงด้วยซ้ำ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะทะเลาะกันอย่างวันนี้เลย
แม้แต่คำว่างี่เง่ายังพูดออกมาได้
ทุกคนยืนคอยอยู่ข้างๆ ไม่กล้าหายใจเสียงดัง
เย่เซียวระงับไฟที่สุมในใจ เบี่ยงหน้าหันหนีพบว่าช่างยังไม่ขยับเลยตวาดไปทีด้วยใบหน้าเย็นชา “มัวยืนนิ่งเฉยทำไม?”
อีกฝ่ายรีบวางบันไดปีนขึ้นไปไม่กล้าชักช้าสักวินาทีเดียว
ไป๋ซู่เย่เห็นเขาคิดจะติดตั้งกล้องวงจรปิดจริงๆ เลยไม่คุยกับเขาอีก หมุนตัวเดินขึ้นไปชั้นบนไม่สนใจเขาแล้ว
。
ความจริงใช่ว่าเธอจะโกรธเรื่องที่เขาจับตามองตัวเองผ่านกล้องวงจรปิด และรู้ว่าเขาเป็นห่วงเธอ แต่แอบนึกโกรธกับท่าทีของเขาเมื่อครู่อยู่ไม่มากก็น้อย
อีกอย่าง…
แต่งงานกันมานานขนาดนี้ เป็นครั้งแรกที่ทะเลาะกับเย่เซียว เป็นครั้งแรกของทั้งคู่จริงๆ ที่ปั้นหน้าตึงคุยกัน
รู้สึกแย่มาก
ไม่ว่าผิดที่ใครก่อน แค่ทะเลาะก็รู้สึกแย่แล้ว
————
คืนนั้นเย่เซียวไม่กลับมาทานข้าวที่บ้าน
ขณะที่เขาโทรบอกเธอว่าจะกลับค่ำเล็กน้อย น้ำเสียงตอนพูดไม่ถือว่าดีมากออกจะแข็งทื่ออยู่บ้าง ไป๋ซู่เย่เลยตอบกลับแค่ ‘อืม’ แล้ววางสายไป
สุดท้ายทั้งคู่เริ่มต้นสู่สงครามเย็นอย่างน่าแปลก
ทั้งที่เป็นแค่เรื่องเล็กเรื่องเดียวในทีแรก พริบตาเดียวกลับกลายเป็นยิ่งอยู่ยิ่งแย่
ไป๋ซู่เย่อารมณ์ไม่ดีมีเรื่องให้คิดมาก ดีที่ตอนนี้ท้องอยู่เลยขี้เซา ฉะนั้นถึงได้ผล็อยหลับไปบนเตียงแต่หัวค่ำ
สุดท้าย…
วันรุ่งขึ้นตื่นมาอีกทีบนเตียงกลับไม่มีคน เธอไม่อยากจะเชื่อเลยลุกขึ้นมอง ตำแหน่งข้างกายเรียบเห็นได้ชัดว่าไม่มีคนมานอนเลยทั้งคืน
หรือว่าเมื่อคืนเย่เซียวไม่กลับบ้าน?
หากกลางคืนไม่กลับมาเพราะทะเลาะกับเธอไม่กี่ประโยค ถ้าอย่างนั้นเธอคงต้องโกรธแล้วจริงๆ
ไป๋ซู่เย่สวมเสื้ออยู่บ้านลวกๆ เดินออกจากห้องถามคนรับใช้ “เมื่อคืนนายท่านกลับมามั้ย?”
“กลับสิคะคุณนาย”
“กลับเหรอ?”
“ค่ะ เมื่อกี้ฉันเข้าไปทำความสะอาดห้องหนังสือ นายท่านอยู่ห้องหนังสือพอดีค่ะ กำลังฟุบหลับอยู่บนโต๊ะ”
เขาฟุบหลับอยู่บนโต๊ะ?
ไป๋ซู่เย่แค่ได้ยินก็รู้สึกปวดใจแล้ว มีเตียงดีๆ ไม่นอนกลับยอมไปฟุบหลับที่โต๊ะ เห็นทีคงโกรธเธอมากจริงๆ สินะ?
หรืออาจจะคิดว่าเธอไม่ต้องการความห่วงใยจากเขา!
ไป๋ซู่เย่ยืนสำนึกอยู่เพียงครู่ เงียบไปอึดใจก่อนผลักประตูเข้าห้องหนังสือ
ตามที่คาด…
เย่เซียวฟุบอยู่บนโต๊ะหนังสือ แสงจากข้างนอกลอดเข้ามาปกคลุมตัวเขา
ไป๋ซู่เย่ค่อยๆ เดินเข้าไปตบไหล่เขาเบาๆ“เย่เซียว…ตื่นสิ เย่เซียว…”
เย่เซียวตื่นแล้ว
เห็นเธอเขาจึงยื่นแขนยาวโอบเธอไว้ ซุกหน้าตรงอกเขาทั้งที่ยังหลับตาอยู่
ไป๋ซู่เย่ใจสั่นเล็กน้อย ต่อให้เมื่อวานขณะทั้งคู่ทะเลาะกันจะอารมณ์รุนแรงขนาดไหน น้อยใจขนาดไหน วินาทีนี้ถูกเขากอดอยู่เธอคิดว่าไม่มีความรู้สึกเหล่านั้นหลงเหลืออีกต่อไป เหลือเพียงความอ่อนโยนอยู่เต็มอก
“ทำไมนอนห้องหนังสือล่ะ? วันนี้ไปบริษัทสายหน่อย กลับไปนอนที่ห้องเถอะ”
“อืม” เย่เซียวตอบรับทีจู่ๆ ก็ช้อนตัวเธอขึ้น ไป๋ซู่เย่สะดุ้งเฮือกจากนั้นรีบโอบลำคอเขา ปล่อยให้เขาเดินอุ้มกลับห้อง
ข้างนอกคนรับใช้เห็นฉากนี้ต่างก็พรูลมหายใจโล่งอก
เห็นทีนายท่านกับคุณนายยังรักกันดี!แม้เมื่อวานจะทำพวกเขาตกใจแต่วันนี้คืนดีกันอย่างชัดเจนแล้ว!
เย่เซียวเปลี่ยนเป็นชุดนอนกลับมาบนเตียง รั้งเธอมากอดไว้ถึงรู้สึกอุ่นใจ
“ฉันคิดว่าคุณไม่กลับมาทั้งคืนซะอีก ถ้าคุณกล้าไม่กลับมาจริงๆ คืนนี้จะล็อกประตูให้คุณอยู่นอกบ้าน”
เย่เซียวกระชับวงแขนให้เธอมาแนบอก กล่าวขึ้นกะทันหัน “ผมให้คนถอดกล้องวงจรปิดไปหมดแล้ว”
ไป๋ซู่เย่คาดไม่ถึง
เงยหน้ามองเขา “ไหนคุณ…”
“คุณไม่ชอบไม่ใช่เหรอ?” เขาพูดขัดเธอ “ในเมื่อไม่ชอบก็ถอด”
ชัดเจนว่าเย่เซียวกำลังขอคืนดีก่อน
ไป๋ซู่เย่เท้าแขนไว้บนอกเขาปล่อยให้ผมยาวดำขลับสยายลงมาปรกหน้าอกเขา เธอก้มมองเขา “เย่เซียว ฉันงี่เง่าจริงๆ ใช่มั้ย? คุณจะรู้สึกเกลียดหรือเปล่า?”
เย่เซียวถอนหายใจ
เกลียดเธอ? เกลียดได้หรือ?
เขาสอดนิ้วยาวเข้ากลุ่มผมเธอ “ผมกังวลว่าคุณจะเกลียดผมมากกว่า”
เธอหัวเราะที อารมณ์ขุ่นมัวเมื่อคืน ตอนนี้ได้มลายหายไปหมดแล้ว
“งั้น…จากนี้ฉันจะเชื่อฟังคุณ ไม่ดื่มน้ำเย็น ไม่ทานอาหารรสจัด ทานผลไม้เยอะๆ ไม่ทำสิ่งที่อันตราย แบบนี้โอเคมั้ย?” เธอพยายามให้คำสัญญา
“โดยเฉพาะ ห้ามปีนบันได!” เย่เซียวยังคงติดใจกับเรื่องนี้เหมือนเดิม พูดสั่งอีกครั้งด้วยใบหน้าบึ้งตึง
เธอกอดคอเขา ซบอกเขา“เมื่อวานคุณบอกว่าฉันงี่เง่า”
เย่เซียวถอนหายอย่างระอา ลูบผมเธอ“ผมขอโทษ”
ต่อให้…
เป็นเธอที่กล่าวหาเขาก่อน
ไป๋ซู่เย่อารมณ์ดีขึ้นกว่าเดิม “งั้นก็นอนพักอีกสักหน่อย คราวหลังต่อให้โกรธฉันก็อย่านอนห้องหนังสือ”
“อืม” เย่เซียวหลับตา จูบหน้าผากเธอพลางพูดเสียงสะลึมสะลือ “เมื่อคืนกลับมาคุณบอกว่าผมน่ารำคาญ ให้ผมไป…”
“…” ไป๋ซู่เย่ลืมเรื่องนี้ไปหมดสิ้น
เธอคิด ตัวเองน่าจะกึ่งหลับกึ่งตื่นและยังโกรธเขาอยู่กระมัง!
——
เมื่อคืนฟุบหลับในห้องหนังสือมาทั้งคืนมันปวดเมื่อยมากจริงๆ ตอนนี้ร่างกายได้สัมผัสเตียงนุ่มบวกกับมีเธอในอ้อมกอด เย่เซียวถึงหลับได้อย่างสบายใจ ไม่นานก็เข้าสู่ห้วงนิทราโดยกอดเธอไปด้วย
ข้างหูเสียงหายใจเป็นจังหวะของเขาแว่วมา ไป๋ซู่เย่รู้สึกเพียงความง่วงเริ่มจู่โจมก่อนจะหลับตามๆ กันไป
ทั้งคู่ตระกองกอดอีกฝ่ายแน่นเหมือนไม่เคยทะเลาะกันมาก่อน
ในชีวิตคู่ คงหนีไม่พ้นที่จะมีการทะเลาะบ้างเล็กๆ น้อยๆ เพียงแต่สิ่งที่สำคัญกว่าการทะเลาะคือพวกเขาต่างปกปักษ์รักษากันและกัน
…………………………