A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน - ตอนที่ 1383
แม้ว่าจะตาข่ายเส้นไหมสีขาวจะไม่ธรรมดา แต่ภายใต้การถูกกระบี่ลำแสงสับลงมาจำนวนมาก ก็สั่นเทาอย่างหนักภายในอึดใจ ลำแสงเปล่งแสงสว่างวาบแล้วพังทลายลงในทันที
เปลวเพลิงสีดำรอบๆ และเปลวเพลิงห้าสีที่อยู่รอบๆ ต้านทานได้เพียงชั่วครู่ก็หม่นแสงลงท่ามกลางเปลวเพลิงลำแสงที่หมุนวน ทันใดนั้นก็ถูกกลืนกินไปจนหมด
เปลวเพลิงลำแสงห้าสีม้วนไปทางสตรีผู้นั้นอีกครั้ง
ส่วนลำแสงสีดำจากกระจกโบราณที่อยู่เบื้องหน้าสตรีผู้นั้น เมื่อสัมผัสกับลำแสงสีเทาก็ระเบิดออกอย่างต่อเนื่องแล้วแตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ ทันที
ลำแสงสีเทากวาดออกไป กระจกที่ถูกกวาดเข้าไปหมุนติ้วๆ อับแสงลงท่ามกลางลำแสงสีเทาราวกับว่าสูญเสียจิตวิญญาณไป
ลำแสงเทวะดูดปราณพลันพ่นลงมาโดยไม่มีอะไรมาขวางกั้นเช่นกัน
สตรีผู้นั้นพลันรู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก!
ถึงแม้ว่านางจะรู้ว่าหานลี่มีความสามารถไม่ธรรมดา แต่ก็คิดไม่ถึงว่าจะรับมือได้ยากถึงขั้นนี้ แค่ประมือนางก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาแล้ว
กัดฟันกรอด สตรีผู้นั้นพุ่งลงไปที่พื้นอย่างไม่ลังเลอีก ลำแสงวิญญาณเปล่งประกาย เปลวเพลิงสีดำสูงสิบจั้งเศษพวยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า
หงส์สีดำขนาดสองสามจั้งที่สง่างามปรากฏกายขึ้นท่ามกลางเปลวเพลิง เปล่งเสียงร้องแหลมสูงออกมา สยายปีกทั้งสองข้างออก เบื้องหน้าเผยรอยแยกลำแสงสีขาวสายหนึ่งออกมา
ร่างของวิหคตัวนี้เปล่งแสงสว่างวาบ ชั่วครู่ก็จมหายวับไป
เช่นนั้นไม่ว่ากระบี่ลำแสงที่เพิ่งจะฟันตาข่ายเส้นไหมจนแหลกละเอียดหรือว่าเปลวหรือว่าเพลิงลำแสงห้าสีที่อยู่รอบๆ และม่านลำแสงสีเทาที่อยู่สูงขึ้นไปต่างก็หายวับไปทั้งหมด
“ความสามารถห้วงเวลา!” หานลี่กลับแค่นเสียงด้วยความเย็นชา หว่างคิ้วมีลำแสงสีดำเปล่งประกายสว่างวาบ เนตรปีศาจดวงที่สามปรากฏขึ้น
ดวงตาดวงนี้เคลื่อนไหว เส้นไหมสีดำบางๆ สายหนึ่งพุ่งออกมา เปล่งแสงสว่างวาบแล้วหายวับไปจากกลางอากาศ
ปีกที่อยู่บนแผ่นหลังของหานลี่พลันกระพือ หายวับไปท่ามกลางเสียงฟ้าคำราม แต่ทันใดนั้นห่างออกไปสามสิบจั้งลำแสงสีเขียวขาวพลันเปล่งแสงสว่างจ้า ร่างของหานลี่ปรากฏขึ้น
แทบจะในเวลาเดียวกันด้านล่างต่ำลงไปจากหานลี่สองสามจั้ง มีเสียงโครมครามดังขึ้น ทันใดนั้นพลันมีระลอกคลื่นปรากฏขึ้น หงส์สีดำตัวนั้นเซถลาพร้อมปรากฏตัวขึ้น ดวงตาของหงส์ตัวนั้นเต็มไปด้วยสีหน้าตะลึงพรึงเพริด
“เนตรทำลายล้าง!” หงส์ตัวนี้เปล่งคำพูดที่ยากจะเหลือเชื่อออกมาจากปาก
แต่ไม่รอให้หงส์ทมิฬได้ตั้งตัวอีกครั้ง เสียงแค่นเสียงด้วยความเย็นชาจนเสียดแทงกระดูกพลันดังขึ้นจากเหนือศีรษะ
หงส์สีดำได้ยินเสียงนี้ร่างกายพลันสั่นสะท้าน จนเกือบจะร่วงลงไปสู่ธรณี
แทบจะในเวลาเดียวกัน หานลี่พลันอ้าปากออกพ่นหม้อใบเล็กสีเขียวออกมา
หลังจากที่หม้อใบนั้นเปล่งเสียงร้องออกมา ฝาหม้อพลันลอยขึ้น เส้นไหมสีเขียวจำนวนนับไม่ถ้วนถูกพ่นออกมาจากในหม้อกลายเป็นลำแสงสีเขียวห่อหุ้มลงมา
หงส์ทมิฬรู้ทั้งรู้ว่าสถานการณ์ไม่ดีแล้ว แต่ปีกทั้งสองกลับไม่อาจขยับได้ราวกับหนักเป็นหมื่นชั่ง ท่ามกลางสีหน้าหวาดผวาก็ถูกเส้นไหมสีเขียวรัดเอาไว้อย่างแน่นหนา
ร่างกายของหานลี่พลิ้วไหวมาปรากฏตัวด้านข้างหงส์ทมิฬอยู่แค่คืบ สะบัดแขนเสื้อ มือยักษ์สีดำสนิทราวกับน้ำหมึกยื่นออกมาด้วยความเร็วดุจสายฟ้า นิ้วทั้งห้ากางออก ตะปบคอหอยของหงส์ทมิฬอย่างรุนแรง
ครานี้ในที่สุดหงส์ทมิฬก็ได้สติฟื้นคืนมาจากภวังค์ตกใจจากการโจมตีของหานลี่ เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้พลันระเบิดโทสะ ไม่เพียงร่างกายที่อยู่ในเส้นไหมสีเขียวจะพยายามดิ้นรนอย่างสุดชีวิต บนผิวพลันมีลำแสงสีดำปรากฏขึ้นชั้นหนึ่ง กำลังลุกโชน
เส้นไหมสีเขียวเหล่านี้เริ่มละลายท่ามกลางเปลวเพลิงสีดำทันที
หานลี่เห็นเช่นนั้นแววตาพลันเปล่งแสงสีฟ้าสว่างวาบ ฉับพลันนั้นมือที่ตะปบคอของหงส์ทมิฬและแก้มพลันมีเกล็ดสีทองชั้นหนึ่งปรากฏขึ้นพร้อมกัน นิ้วทั้งห้าออกแรงบีบเคล้น พลังมหาศาลกลุ่มหนึ่งส่งไปที่คอของหงส์ทมิฬ
ชั่วขณะนั้นหงส์ทมิฬที่กำลังดิ้นรนพลันรู้สึกว่าสองตามืดมัวจนเกือบจะหมดสติไป
จากนั้นหานลี่พลันตะโกนออกมาสั่นสะเทือนบรรยากาศบริเวณรอบ ทันใดนั้นปีกที่แผ่นหลังพลันสยายออก มือหนึ่งตะปบหงส์ทมิฬเอาไว้แล้วกลายเป็นดาวตกดวงหนึ่งพุ่งลงไปด้านล่าง
หงส์ทมิฬที่ถูกหานลี่ใช้พลังมหาศาลบีบเอาไว้กำลังตกอยู่ในอันตราย ครานั้นจึงไม่มีเรี่ยวแรงที่จะต้านทานได้อีก
หลังจากผ่านไปชั่วครู่ เสียงสะเทือนเลื่อนลั่นพลันดังขึ้น ดาวตกกระแทกลงไปบนพื้นอย่างรุนแรง หลุมยักษ์ขนาดสิบจั้งเศษพลันปรากฏขึ้น
ลำแสงสีเขียวเปล่งแสงสว่างวาบ ร่างของหานลี่ปรากฏขึ้นเหนือหลุมยักษ์ ตรงใจกลางของหลุมหงส์ทมิฬนอนอ่อนแรงอยู่ที่ก้นหลุมไม่ขยับเขยื้อน
ถึงแม้ว่าปีศาจสตรีผู้นี้จะมีร่างเป็นวิหคปีศาจ แต่หลังจากประสบกับการโจมตีที่หนักหน่วงเช่นนี้ก็ยังสูญเสียสติสัมปชัญญะไป
หานลี่มองไปยังหงส์สีดำด้านล่างด้วยความเย็นชาสองสามแวบ หลังจากแววตาเปล่งประกายสว่างวาบคาดไม่ถึงว่าจะไม่ได้ปล่อยกระบี่ลำแสงออกมาจบชีวิตของสตรีผู้นี้ในทันที แค่ใช้มือหนึ่งตะปบออกไปกลางอากาศ
ร่างของหงส์ทมิฬเปล่งลำแสงสีขาวสว่างวาบ กำไลเก็บของวงหนึ่งบินออกมาจากตัว ถูกหานลี่ดูดเข้ามาในมือ
นิ้วทั้งห้าอีกมือหนึ่งพลันร่ายอาคม ยันต์สองสามแผ่นพุ่งออกไป เปล่งแสงสว่างวาบและจมหายเข้าไปในร่างของหงส์ทมิฬ พลิกฝ่ามือกดไปกลางอากาศระลอกคลื่นปรากฏขึ้น ภูเขาขนาดย่อมสีดำปรากฏขึ้นเหนือหลุมยักษ์ ลำแสงสีเทาสว่างวาบมันขยายใหญ่ขึ้นยี่สิบจั้งแล้วกดลงมาอย่างเนิบๆ
เสียงอึกทึกดังขึ้น ยอดเขาสีดำกดลงมาที่หงส์ทมิฬจนมิด
จากความหนักของภูเขาเทวะดูดปราณประกอบกับความอัศจรรย์ของลำแสงเทวะดูดปราณ หลังจากถูกภูเขาลูกนี้ทับเอาไว้ ต่อให้หงส์ทมิฬมีความสามารถมากขนาดไหนก็ไม่อาจดิ้นให้หลุดพ้นจากภูเขาลูกนี้ได้
นับว่าถูกหานลี่กักเอาไว้เป็นๆ
ตั้งแต่ที่หานลี่ลงมือไปจนถึงการสยบปีศาจสตรีเผ่าหงส์ทมิฬที่มีพลังยุทธ์เหนือกว่าเขาขั้นหนึ่งเกิดขึ้นแค่เพียงชั่วอึดใจ
ส่วนที่หานลี่ไม่ได้ลงมือสังหารนั้นไม่ใช่ว่าหานลี่เสียดายความงามของนาง แต่เป็นเพราะมีคนอื่นอยู่ด้วยจึงไม่อยากสร้างความแค้นที่ลบล้างไม่ได้กับเจ็ดเผ่าปีศาจที่มีอำนาจยิ่งใหญ่
เขาไม่ใช่ตระกูลเยี่ยและตระกูลหล่งที่มีพลังอำนาจอย่างตระกูลจิตวิญญาณเที่ยงแท้ กักสตรีผู้นี้ไว้ชั่วครู่ก็เพียงพอแล้ว
ความจริงแล้วเสี่ยวหงมีฐานะเป็นปีศาจผู้บำเพ็ญเพียรสายตรงของเผ่าหงส์ทมิฬ สมบัติในตัวและความสามารถจึงไม่ได้มีแค่เมื่อครู่ แต่หานลี่ลงมือไวเกินไป ความสามารถรับมือได้ยาก ภายใต้การคาดคิดไม่ถึงมันถึงได้ถูกสยบได้อย่างง่ายดายเช่นนี้
มิเช่นนั้นหากเผชิญหน้ากันจริงๆ หานลี่ไม่ใช้เครื่องมือสังหารสองสามชนิด ถึงแม้ว่าจะชนะได้แต่ก็ต้องเสียเวลาหลายขั้นตอน
เสียงร้องด้วยความตกตะลึงว่า “เอ๋” ดังขึ้นมาจากการต่อสู้ที่อยู่อีกด้าน
หานลี่เงยหน้าขึ้น ชั่วขณะนั้นพลันประสานสายตากับสายตาที่ตกตะลึงพรึงเพริดคู่หนึ่ง
นั่นคือผู้บำเพ็ญเพียรวัยกลางคนของตระกูลหล่งที่กระตุ้นม้วนภาพสีดำ เขากำลังมองมาทางนี้ด้วยความประหลาดใจ เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์ที่หานลี่ซึ่งมีพลังยุทธ์ระดับเทพแปลงขั้นกลางต่อกรกับระดับขั้นปลายคนหนึ่งไม่กี่กระบวนท่าก็ได้รับชัยชนะ ถูกคนผู้นี้สังเกตเห็นเข้าให้แล้ว
ได้ยินเสียงอุทานด้วยความประหลาดใจของสหายร่วมวิถี ผู้บำเพ็ญเพียรตระกูลหล่งอีกคนก็กวาดสายตามาจากไอสีม่วงเช่นกัน
เห็นหานลี่ลอยอยู่กลางอากาศต่ำๆ อย่างสงบนิ่ง บนพื้นมียอดเขายักษ์สีดำปรากฏอยู่ เสี่ยวหงนอนหายใจรวยรินอยู่ใต้ยอดเขาสีดำท่าทีอ่อนแรง แววตาของคนผู้นี้ก็ฉายแววประหลาดใจ แต่ทันใดนั้นพลันแค่นเสียงด้วยความเย็นชา ทันใดนั้นมือหนึ่งพลันตบไปที่ถุงสีแดงเลือดข้างเอว ชั่วขณะนั้นพลันมีเสียงร้องดังออกมาจากถุงหนัง ลำแสงโลหิตกลุ่มหนึ่งพลันพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า พลางพุ่งเข้าไปหาหานลี่
การเคลื่อนไหวของตระกูลหล่งและพวกทำให้เยี่ยฉู่มองเห็นสถานการณ์ของหานลี่เช่นกัน ภายใต้การดีใจนางอ้าปากออกลำแสงสีเขียวสายหนึ่งปรากฏขึ้นโจมตีไล่หลังไปยังลำแสงโลหิต ทำให้ร่างของนางสั่นเทาฉับพลันนั้นกลายเป็นหัวกะโหลกยักษ์พลิกตัวกระโจนไปหาสตรีผู้นั้นด้วยความโหดเ**้ยม คาดไม่ถึงว่าจะลืมเป้าหมายเดิมไป
หานลี่เห็นเช่นนั้นแน่นอนว่าไม่มีทางเสียโอกาสงามๆ ไป แผ่นหลังมีเสียงฟ้าฟาดดังขึ้น ร่างกายกลายเป็นประจุไฟฟ้าสีเขียวสายหนึ่งพุ่งออกมา
หลังจากกะพริบวาบอย่างต่อเนื่องสองสามครั้ง มันก็กะพริบแสงเรืองๆ อยู่ใกล้กลับกระบี่โลหิตยักษ์กลางอากาศ
ครานี้กระบี่ผลึกโลหิตมหาภารตะเล่มนั้นยังคงเปล่งเสียงหึ่งๆ พลางลอยอยู่กลางอากาศ เปล่งลำแสงโลหิตระยิบระยับ ถูกม่านลำแสงสีขาวชั้นหนึ่งห่อหุ้มเอาไว้อย่างแน่นหนา
ผู้บำเพ็ญเพียรตระกูลหล่งอีกคนหนึ่งขมวดคิ้ว มือหนึ่งปรบไปทางหานลี่ดูเหมือนแผ่วเบาแต่ท่ามกลางเสียงครืน มือลำแสงสีขาวนวลเปล่งประกายระยิบระยับพลันปรากฏขึ้นเหนือหานลี่ ขนาดสองสามจั้งตะปบลงมาด้วยความเร็วดุจสายฟ้า
มือยักษ์นี้ยังไม่ทันลดระดับลงมาจริงๆ วายุยักษ์ลูกหนึ่งพลันเปล่งเสียงร้องออกมาแล้วพัดเข้ามาอย่างรุนแรงจนทำให้ผู้คนรู้สึกหยุดหายใจ
หางตาของหานลี่กระตุกไม่รู้ว่าเขาปล่อยสมบัติอะไรออกมา แค่ร่างกายเปล่งแสงสีทองสองมือกำหมัดโจมตีไปกลางอากาศอย่างรุนแรง
ชั่วพริบตาที่กำปั้นทั้งสองโจมตีออกไปก็กลายเป็นลำแสงวิญญาณสีดำขาวสองสีเปล่งแสงเจิดจ้า
คาดไม่ถึงว่าเขาจะอาศัยกายเนื้อหมายจะโจมตีมือยักษ์ที่ผู้บำเพ็ญเพียรระดับหลอมสุญตาผนึกขึ้นด้วยเคล็ดวิชาลับ
ผู้บำเพ็ญเพียรตระกูลหล่งที่อยู่ไกลออกไปเห็นเช่นนั้นพลันรู้สึกดีใจ ทันใดนั้นจึงร่ายคาถาในใจมือยักษ์มีลำแสงวิญญาณไหลเวียนโคจรไปมาทันที ชั่วครู่ก็ขยายใหญ่ขึ้นสามส่วน
หลังจากเสียงปะทะกันราวกับเสียงระฆังดัง “แหง่งหง่าง” ดังขึ้น มือลำแสงสีขาวนวลที่มีพลังดุจภูเขาไท่ซานก็หยุดลง ทันใดนั้นก็มีเสียงราวกับยุทธภัณฑ์ปริแตกดังขึ้น มือลำแสงแตกออกเป็นเสี่ยงๆ สุดท้ายก็กลายเป็นสะเก็ดลำแสงหายวับไป
หานลี่ชูกำปั้นทั้งสองขึ้น ลำแสงสีทองเปล่งประกายบนร่างระยิบระยับ แต่ท่าทางไม่ได้รับบาดเจ็บเลยสักนิด
ผู้บำเพ็ญเพียรตระกูลหล่งที่แต่เดิมยังคงยิ้มเยาะผู้นั้นเห็นเช่นนี้ ชั่วขณะนั้นพลันหน้าเปลี่ยนสี
ส่วนหานลี่เองก็ไม่ได้นิ่งงันด้วยเหตุนี้ สะบัดแขนเสื้อ ชั่วขณะนั้นไข่มุกสีเงินสองเม็ดพลันพุ่งออกมาจากแขนเสื้อ เปล่งแสงสว่างวาบและมีขนาดเท่าปากชาม หมุนคว้าง ไปทางม่านลำแสงสีขาว
มองเห็นไข่มุกอัสนีปะทะกับม่านลำแสงสีขาวแล้วเปล่งแสงสว่างวาบ ม่านลำแสงเบื้องหน้าพลันหายวับไป
ฉับพลันนั้นผิวน้ำพลันเกิดระลอกคลื่น แขนปีศาจสีดำสนิทยื่นออกมา
ชั่วขณะนั้นลำแสงสีเงินพลันโจมตีเข้าไปแล้วระเบิดออก
เสียงตูมตามดังขึ้นสองครั้ง ประจุไฟฟ้าสีเงินจำนวนนับไม่ถ้วนสลับพัวพันกัน ชั่วพริบตาก็ปกคลุมเป็นอาณาบริเวณยี่สิบจั้งเศษ ถึงแม้ว่าม่านลำแสงสีขาวจะถูกไข่มุกอัสนีโจมตี แต่ก็สั่นคลอนอย่างหนักท่ามกลางพลานุภาพที่น่าตกตะลึง ราวกับจะพังทลายได้ตลอดเวลา
ประจุไฟฟ้าครึ่งหนึ่งของไข่มุกอัสนีสองเม็ดแหกเอาไว้ด้านบน
หานลี่หรี่ตาทั้งสองข้างลงไม่รอให้พลังอัสนีที่อยู่ไกลสลายหายไป นิ้วทั้งสิบพลันร่ายอาคมไปทางนั้นไม่หยุด
ชั่วขณะนั้นเสียงแหวกอากาศพลันดังขึ้น ไอกระบี่สีทองเป็นสายๆ พลันดีดออกมาอย่างแน่นหนา สับลงมาที่ม่านลำแสงสีขาวอย่างแรง
จากสถานการณ์ของม่านลำแสงไอกระบี่ที่แหลมคมเหล่านี้ล้วนโจมตีไปที่ด้านหลังของเขา ทลายม่านลำแสงออกตรงๆ
เสียงคำรามดังขึ้นจากในลำแสงอัสนี ทันใดนั้นเงาสีดำสิบกว่าสายพลันเปล่งแสงสว่างวาบแล้วพุ่งออกมาจากในนั้น ล้วนโจมตีไปยังไอกระบี่อย่างแม่นยำโดยไม่ผิดพลาด
ชั่วขณะนั้นลำแสงกระบี่ทั้งหมดพลันอ่อนแสงลง ทยอยกันสั่นเทาและสลายหายไปจากกลางอากาศ