A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน - ตอนที่ 1892 เขตอาคมมาร
- Home
- A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน
- ตอนที่ 1892 เขตอาคมมาร
ท่านหลันผู้นั้นกำลังถูกหานลี่ใช้ภูเขาสองลูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง จนทำให้เหงื่อแตกพลั่ก ร่างกายสั่นเทาไม่หยุด ทั้งรับทั้งถอยไปเรื่อยๆ ยามนี้ได้ยินคำพูดของท่านมารหัวโล้นก็มีชีวิตชีวาขึ้น ตอบรับอย่างไม่ต้องขบคิด จากนั้นก็กลอกตาไปมา หมายจะหาวิธีหนีออกจากศัตรู
หานลี่ที่กลายเป็นวานรยักษ์ฝั่งตรงข้ามรูม่านตาเปล่งแสงสีฟ้าสว่างวาบ มองเห็นสีหน้าแปลกประหลาดบนใบหน้ามารอย่างชัดเจน ทันใดนั้นพลันแค่นเสียงอย่างเย็นชา ฉับพลันนั้นยอดเขาสองลูกในมือก็ส่งเสียง คาดไม่ถึงว่าจะออกแรงขว้างออกไป
ยอดเขาสองลูกเปล่งแสงสีเขียวและดำสว่างวาบ หลังจากออกจากมือก็ขยายใหญ่ขึ้นสองสามเท่า จนเป็นยอดเขาสูงร้อยจั้งเศษ ทุบไปทางมารลายสีฟ้าด้วยความเร็วที่ยากจะเหลือเชื่อ
ยังไม่ทันได้ทุบลงมาจริงๆ พายุหมุนสองลูกก็ส่งเสียงร้อง ออกมา บรรยากาศรอบด้านบิดเบี้ยว เสียงระเบิดดังขึ้น
ท่านหลันเห็นสถานการณ์นี้ก็หน้าเปลี่ยนสี แต่จากนั้นแววตาพลันฉายแววโหดเหี้ยมกัดฟันใช้มือชี้ไปที่สมบัติอาคมสองชิ้นที่หมุนโคจรที่อยู่ตรงหน้าอย่างต่อเนื่อง จากนั้นร่างกายก็พลิ้วไหวพาสมบัติที่เหลือพุ่งออกไป
สมบัติสองชิ้นที่ถูกชี้กลับไม่ถอยแต่พุ่งเข้าไปหายอดเขาสองลูก พริบตาที่สัมผัสกันก็ระเบิดเสียงร้องอึกทึกออกมา
หลังจากที่สองเสียงดังสนั่นขึ้นรัศมีลำแสงยักษ์สองกลุ่มก็ปรากฏขึ้นด้านล่างยอดเขาสองลูกเปลวเพลิงลำแสงหมุนวนต้านทานยอดเขาสองลูกเอาไว้อย่างไม่ตกเป็นรองทำให้ทั้งสองหยุดชะงัก
ทว่าครู่ต่อมายอดเขาสองลูกที่เปล่งแสงเจิดจ้าพลันหม่นลง ทุบรัศมีลำแสงทั้งสองจนแหลกสลาย
จากนั้นลำแสงสีทองพลันสว่างวาบ หานลี่ที่กลายเป็นวานรยักษ์ปรากฏขึ้นใต้ยอดเขาอย่างแปลกประหลาด ฝ่ามือใหญ่ยักษ์สองข้างชูขึ้นรับยอดเขาสองลูกเอาไว้อย่างสบายๆ
ดวงตาของวานรยักษ์ฉายแววเย็นชาจ้องเขม็งไปที่กลางอากาศซึ่งห่างออกไปสองสามร้อยจั้ง
ตรงนั้นเผ่ามารลายสีฟ้าที่ถือโอกาสระเบิดสมบัติอาคมเมื่อครู่หนีออกจากการโจมตีอย่างต่อเนื่องของหานลี่ไป และยิ่งไปกว่านั้นก็กระโจนไปที่ด้านล่างภูเขาอีกครั้ง
แทบจะในเวลาเดียวกันมารแม่ลูกเที่ยงแท้สิบสามตนที่ถูกแมลงเกราะลายสีม่วงสิบกว่าตัวไล่ตามพลันมีเปลวเพลิงมารขยายออกมาหลายเท่ากลายเป็นดวงแสงสีดำสิบสามลูกพุ่งหนีไปในทิศทางเดียวกัน
แมลงเกราะลายสีม่วงสิบกว่าตัวนั้นส่งเสียงหึ่งๆ ออกมากลายเป็นลำแสงสีม่วงไล่ตามไปอย่างรวดเร็ว
ส่วนอสรพิษบินสีฟ้าเหล่านั้นภายใต้เส้นไหมกระบี่ที่ตัดสลับกันไปมาก็เหลืออยู่แค่ไม่กี่ตัวอย่างรวดเร็ว
น่าเสียดายแม้ว่าอสรพิษบินเหล่านั้นจะเป็นอสูรที่หายากในแดนมารแต่เมื่อเผชิญหน้ากับสิ่งที่แหลมคมเหล่านี้และสามารถหลอมตัวกระบี่ไผ่เขียวตัวต่อเมฆาได้อย่างง่ายดายแต่กลับถูกสับออกเป็นเจ็ดแปดชิ้น
เดิมอสรพิษบินประสานการร่วมมือกับเคล็ดวิชาของท่านหลันแน่นอนว่าย่อมไม่อาจมีพลังแค่นี้ได้ แต่เมื่อเผ่ามารลายสีฟ้าถูกหานลี่พัวพันอย่างคาดไม่ถึงกลับแทบจะสำแดงอานุภาพออกมาได้แค่ไม่กี่ส่วน
แม้ว่าเผ่ามารลายสีฟ้านั้นจะเจ็บปวดใจแต่เพื่อล่อหานลี่ก็มีเพียงต้องพุ่งไปหาภูเขาขนาดย่อมด้านล่างอย่างไม่แม้แต่จะหันหัวกลับมา
หานลี่ที่กลายเป็นวานรยักษ์ขนสีทองเห็นฉากนี้ก็ชูคอร้องคำรามสาวเท้ายาวๆ ออกไปแค่กะพริบวาบคาดไม่ถึงว่าจะอยู่ห่างออกไปสองสามร้อยจั้ง
สองมือพลิกขึ้นยอดเขาสองลูกทุ่มลงไปอีกครั้ง ร่างวานรยักษ์ก็กำมือสองข้างกลายเป็นพายุหมุนกดลงมา
มองเห็นการโจมตีที่น่าตกตะลึงเช่นนี้มาอยู่เหนือศีรษะใบหน้าของท่านหลันที่อยู่ด้านล่างก็ไม่ได้เผยสีหน้ากระวนกระวายออกมา กลับฉายแววยินดี ฉับพลันนั้นพลันสะบัดแขนเสื้อจานอาคมสีดำสนิทบินออกมาเปล่งแสงสว่างวาบกลายเป็นเมฆสีดำกลุ่มหนึ่งบดบังร่างกายของเขาเอาไว้
เสียง “พรึ่บๆ” ดังขึ้น ยอดเขาสองลูกร่วงลงมาเมฆสีดำกลายเป็นลำแสงวิญญาณสลายหายไปแต่ท่านหลันที่อยู่ด้านล่างกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ไม่ใช่แค่นี้ ยอดเขาอื่นๆ ที่มีภูเขาขนาดย่อมนี้เป็นศูนย์กลางก็ส่งเสียงอึกทึกขึ้น ฉับพลันนั้นก็พ่นเสาลำแสงสีดำออกมาเปล่งแสงสว่างวาบกลายเป็นธงอาคมยักษ์ขนาดเท่าถังน้ำ
ธงทุกด้านมีขนาดเท่าถังน้ำเป็นสีดำสนิทพุ่งสูงเสียดฟ้าราวกับเสาค้ำฟ้าอย่างไรอย่างนั้น
จากตาอาคมของยอดเขาสองสามลูก เขตอาคมมารรัศมีสองสามลี้ปรากฏขึ้นจากใต้ดิน
ท้องฟ้าเปลี่ยนสี บรรยากาศสั่นเทา ไอมารสีดำม้วนวนออกมาจากตาอาคมต่างๆ
หานลี่ที่กลายเป็นวานรยักษ์รู้สึกเพียงว่ารอบด้านมีอักขระยันต์สีดำปรากฏขึ้น อากาศตึงแน่นร่างกายชะงักอยู่กลางอากาศไม่อาจขยับตัวได้
จากนั้นอักขระยันต์สีดำก็หมุนวนส่งเสียง “ปังๆ” ออกมาอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นเส้นไหมลำแสงสีดำ
เส้นไหมลำแสงเหล่านี้เปล่งแสงสว่างวาบแล้วรวมตัวกันกลายเป็นโซ่สีดำสนิทพลันรัดเข้าด้วยกันชั่วพริบตาก็มัดวานรยักษ์เอาไว้แน่น
แทบจะในเวลาเดียวกันไอมารสีดำที่อยู่ด้านล่างก็หมุนวนกลายเป็นโซ่ยักษ์ม้วนวนร่างของวานรยักษ์เอาไว้
แววตาของวานรยักษ์มีลำแสงสีฟ้าไหลวนโคจรไปมาคาดไม่ถึงว่าจะไม่เผยความหวาดกลัวออกมาแค่คำรามด้วยเสียงทุ้มต่ำ ขนที่ปกคลุมร่างตั้งตรงในเวลาเดียวกันร่างกายก็ขยายใหญ่ขึ้น
โซ่สีดำสั่นเทาไม่หยุดมันรัดแน่นและส่งเสียงหึ่งๆ ออกมา
เสียง “เคร้ง” ดังขึ้น โซ่แตกออกเป็นเสี่ยงๆ
ใบหน้าของวานรยักษ์เผยสีหน้าเหี้ยมเกรียม สองแขนม้วนวนสองสามรอบและชูขึ้นขนบนเรือนร่างกลายเป็นลำแสงสีทองจำนวนนับไม่ถ้วนแล้วระเบิดออก
เสียง ‘พรึ่บๆ’ ดังขึ้นลำแสงสีทองเปล่งแสงสว่างวาบระลอกคลื่นแผ่ออกมาจากกลางอากาศเขตอาคมไร้รูปร่างปริแตกออก
จากนั้นมือหนึ่งพลันตะปบออกไปกลางอากาศ ไม้บรรทัดยักษ์สีเงินปรากฏขึ้นในมือ
หลังจากกวาดไปรอบด้านอย่างไม่เกรงใจ
เสาลำแสงสีเงินสายหนึ่งก็คำรามออกมาราวกับมังกรสวรรค์สีเงินทุกแห่งที่กวาดผ่านไปไอมารเหล่านั้นที่กลายเป็นหนวดพลันทยอยกันถูกสับออกเป็นสองส่วนแล้วร่วงลงมา
ยามนี้เงาร่างคนพลันปรากฏขึ้นเหนือยอดเขาอีกลูกหนึ่ง เผ่ามารลายสีฟ้าคู่นั้นปรากฏขึ้นอย่างเงียบเชียบวานรยักษ์เห็นฉากนี้ก็ไม่ได้มีสีหน้าเคร่งขรึมแต่แค่นเสียงหึด้วยความเย็นชา ฉับพลันนั้นพลันสะบัดแขนเสื้อน้ำเต้าสีดำมันวาวบินออกมา เทลงปากน้ำเต้าเปิดออกลำแสงสีเขียวสองสามสายพุ่งออกมาจมหายไปในไอมารในบริเวณรอบอย่างไร้ร่องรอย
มารตนนี้พลิกฝ่ามืออีกข้างหนึ่ง จานอาคมสีดำปรากฏขึ้นอ้าปากออกพ่นโลหิตบริสุทธิ์ออกมากลายเป็นหมอกโลหิตจมหายไปข้างใน
ครู่ต่อมาหนวดยักษ์ที่แต่เดิมถูกตัดพลันสั่นเทาอย่างรุนแรงแล้วทยอยกันเชื่อมต่อกันและม้วนวนมาอย่างรวดเร็ว
แต่ครั้งนี้หนวดยังไม่ทันมาอยู่ตรงหน้าวานรยักษ์ เสียงกรีดร้องก็ดังขึ้น สามง่ามกระดูกสองสามชิ้นพุ่งออกมา
สามง่ามกระดูกเหล่านี้มีความยาวสองสามฉื่อแต่ปลายแหลมกลับเป็นสีเขียวมันวาว กลิ่นอายคละคลุ้งเผยให้เห็นว่ามีพิษร้ายแรง
วานรยักษ์เห็นสถานการณ์นี้ก็พ่นลมหายใจ กำปั้นทั้งสองทุบทรวงอกของตนเอง
เสียงฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ ดังขึ้น!
เส้นไหมสีทองพุ่งออกมาจากร่างเปล่งแสงสว่างวาบกลายเป็นประจุไฟฟ้าสีทองตัดสลับกันเป็นตาข่ายห่อหุ้มร่างของวานรยักษ์เอาไว้
เสียงฟ้าผ่าดังขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่หยุด
สามง่ามกระดูกเปล่งแสงวาวโจมตีไปที่ประจุไฟฟ้าสีทองอันหนึ่งสั่นเทาแล้วอดที่จะหยุดชะงักไม่ได้
วานรยักษ์ถือโอกาสนี้ชูคอขึ้นส่งเสียงร้องคำรามที่น่าใจหายออกมา!
เสียงสะเทือนเลื่อนลั่นดังขึ้น ประจุไฟฟ้าสีทองเปล่งแสงสว่างวาบกลายเป็นลำแสงหนาเท่าปากชามกวาดออกไปรอบด้าน
สามง่ามเหล่านั้นแทบจะถูกประจุไฟฟ้าหนาๆ สิบกว่าสายโจมตีแม้ว่าสิ่งนี้จะผ่านการหลอมด้วยเคล็ดวิชาลับของเผ่ามารมาแต่จะไปรับการโจมตีของอัสนีเทวะหลีกหนีจำนวนมากได้อย่างไรจึงกลายเป็นควันสีเขียวแล้วสลายหายไป
ส่วนหนวดยักษ์เหล่านั้นพริบตาที่สัมผัสกับประจุไฟฟ้าสีทองหนาเท่าปากชามก็กลายเป็นหมอกถูกกวาดไปจนเกลี้ยง
เผ่ามารลายสีฟ้าที่อยู่ไกลออกไปเห็นฉากนี้พลันตะลึงงันแต่ทันใดนั้นก็ร้องอุทานออกมาด้วยเสียงแหบแห้ง
“นี่คืออัสนีเทวะหลีกหนีค าดไม่ถึงว่าเจ้าจะมีอัสนีนี้!”
ท่านหลันผู้นี้ทั้งตกตะลึงและโกรธเกรี้ยว น้ำเสียงแฝงไปด้วยความเสียสติ
สามง่ามเหล่านั้นดูเหมือนไม่สะดุดตา ความจริงแล้วแม้แต่อาวุธธรรมดาของท่านจอมมารก็ยังต้องหวาดกลัวในโลกนี้มีสิ่งที่ควบคุมมันได้อยู่ไม่มาก หนึ่งในนั้นก็คืออัสนีเทวะหลีกหนี
จะไม่ทำให้มารตนนี้ตกตะลึงระคนโกรธเกรี้ยวได้อย่างไร!
หานลี่ที่กลายเป็นวานรยักษ์กลับหัวเราะร่า ถูมือทั้งสองข้างไปมาโจมตีกำปั้นไปที่ภูเขาขนาดย่อมที่มารตนนี้อยู่
ระลอกคลื่นปรากฏขึ้น กำปั้นสีทองขนาดสองสามหมู่เปล่งแสงสว่างวาบปรากฏขึ้นเหนือภูเขาขนาดย่อมและโจมตีอย่างแรง
ท่านหลันหน้าเปลี่ยนสี มือหนึ่งตบไปที่จานอาคมที่อยู่อีกมือโดยไม่พูดจา
เสียงปังดังขึ้น ไอมารทะลักออกมาจากจุดที่เขายืนอยู่ แล้วจมหายเข้าไปในร่างของเขา
เสียงอึกทึกดังสะเทือนเลื่อนลั่นดังขึ้น!
กำปั้นสีทองยักษ์ทุบลงมาที่จุดที่เผ่ามารลายสีฟ้ายืนอยู่อย่างไม่เกรงใจเลยสักนิด ทำให้ภูเขาขนาดย่อมสั่นคลอนอย่างรุนแรง หลังจากเสียงระเบิดดังขึ้นก็กลายเป็นก้อนศิลาจำนวนนับไม่ถ้วนถล่มลงมา
ยอดเขาอีกลูกมีไอมารทะลักออกมาเผ่ามารลายสีฟ้าปรากฏขึ้น
เขาหันกลับมามองภูเขาที่ถล่มลงมาอย่างรวดเร็ว สีหน้าดูไม่ได้ยิ่งกว่าเดิม
และในยามนี้วานรยักษ์ขนสีทองกลับไม่หยุดพักสองมือตะปบออกไป ยอดเขาสีเขียวและดำสองลูกปรากฏขึ้นในมือโยนไปทางยอดเขาอีกสองลูกอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด
เสียงอึกทึกดังขึ้นยอดเขาขนาดย่อมสองลูกพังทลายหายวับไปเช่นกัน
ยามนี้ไอมารที่หมุนวนอยู่ด้านล่างเขตอาคมมารพลันเบาบางลง คาดไม่ถึงว่าจะบางตาไป
“เจ้าอยากทลายเขตอาคม ฝันไปเถอะ ข้าไม่มีทางปล่อยให้เจ้าออกไป” ท่านหลันเห็นสถานการณ์เช่นนี้รูม่านตาก็หดเล็กลง ใบหน้าเผยสีหน้าเหี้ยมเกรียมขณะเอ่ย
สิ้นเสียงเขาพลันกัดฟันมือหนึ่งร่ายอาคมมือหนึ่งสะบัดแขนเสื้อยาลูกกลอนสีแดงโลหิตสิบกว่าเม็ดบินออกมา
ไอสีดำรอบด้านหมุนวนโครงกระดูกสิบสามตัวปรากฏขึ้นอ้าปากออกกลืนยาลูกกลอนสีโลหิตเข้าไป คาดไม่ถึงว่าจะเริงระบำอยู่รอบๆ ท่านหลันด้วยดวงตาที่เปล่งประกายสีดำ
ส่วนตัวของมารลายสีฟ้าก็ตบไปที่หน้าผากของตัวเอง ร่างเปล่งแสงสีโลหิตสว่างวาบคาดไม่ถึงว่าชิ้นเนื้อบนร่างจะตกลงมาเป็นชิ้นๆ
ครู่ต่อมาโครงกระดูกสีขาวที่น่ากลัวเช่นกันก็ปรากฏขึ้นท่ามกลางโครงกระดูกสิบสามตัว