A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน - ตอนที่ 2037 อานุภาพแห่งการกลืนกิน
- Home
- A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน
- ตอนที่ 2037 อานุภาพแห่งการกลืนกิน
ภายในชั่วพริบตา เมืองเซวี่ยยาก็ว่างเปล่าลงไปเกือบครึ่ง
“ดี หากมีเผ่ามารเหล่านี้กำบัง อันตรายของพวกเราจะลดลงอย่างมาก ทว่าค่อนข้างแปลก! เกิดเรื่องใหญ่ถึงเพียงนี้ เหตุใดเจ้าเมืองเซวี่ยยาถึงยังไม่ปรากฏตัว มิเช่นนั้นหากเขาเป็นผู้นำวางกำลังพลขัดขวาง เผ่ามารเหล่านี้คงไม่โกลาหลเช่นนี้” ชายผมยาวขมวดคิ้ว พลางบ่นพึมพำ
ดวงตาของบรรพชนตระกูลหล่งฉายแววครุ่นคิดเมื่อได้ยิน
ส่วนหานลี่มีท่าทางสุขุมเช่นดังเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงสีหน้าแต่อย่างใด
ด้านล่าง กลุ่มคนไม่รอใช้อีกต่อไป เผ่ามารนับหมื่นตนแอบหลบหนีออกจากเมืองเซวี่ยยาอย่าเงียบๆ
ทันทีที่เผ่ามารเหล่านี้ออกจากเมือง พวกเขาจึงแบ่งเป็นกลุ่มย่อยนับสิบกลุ่ม กลายร่างเป็นขบวนยาวดุจมังกรดำพุ่งออกไปในทิศทางเดียวกัน
เห็นได้ชัดว่าเผ่ามารเหล่านี้มองออกว่ายังพอมีข้อบกพร่องในการโอบล้อมของทะเลมดมาร และใช้ช่องว่างนี้ในการหลบหนี
เผ่ามารเหล่านี้มีพลังยุทธ์ทั้งระดับสูงและระดับต่ำ ความเร็วในการหลบหนีจึงมีทั้งช้าและเร็ว เมื่อไม่มีผู้สั่งการ หลังจากนั้นไม่นานกลุ่มมารเหล้านั้นจึงกระจัดกระจายยุ่งเหยิง
ลำแสงหลีกหนีแต่ละสายของเหล่าเผ่ามาร ทอดยาวออกไปหลายร้อยลี้
เผ่ามารที่พลังยุทธ์ระดับสูงซึ่งอยู่เบื้องหน้า กลับไม่มีการลดความเร็วแต่อย่างใด ในทางกลับกันพวกมันกลับสร้างกลุ่มของตัวเอง และมุ่งตรงไปข้างหน้า
ส่วนเผ่ามารที่พลังยุทธ์ระดับกลางและระดับต่ำ ทำได้เพียงแค่เดินตามหลังอยู่ไกลๆ อย่างสิ้นหวัง และเฝ้าดูมารระดับสูงเหล่านั้นค่อยๆ ห่างออกไปเรื่อยๆ จนลับตา
หานลี่และคนอื่นๆ ไม่ได้ติดตามอสูรระดับสูงอย่างใกล้ชิด แต่ค่อยๆ ปะปนกับกลุ่มที่สอง ที่เดินไปข้างหน้าอย่างไม่เร่งรีบ
เวลาผ่านไปหนึ่งกาน้ำชา ทันใดนั้นกลับมีเสียงคำรามดังกึกก้องไปทั่วท้องฟ้าเบื้องหน้า และมีก้อนเมฆสีดำขนาดใหญ่อยู่สุดปลายฟ้า นั่นคือมดมารกลุ่มใหญ่
กลุ่มเมฆมดสีม่วงยังคงส่งเสียงคำรามอย่างต่อเนื่องไม่หยุด เผ่ามารระดับสูงกลุ่มนั้นกลับมาถึงก่อน
เมื่อเข้าไปใกล้ๆ ก็เห็นทะเลมดที่มีขนาดใหญ่กว่าหนึ่งร้อยหมู่อย่างชัดเจน แต่ภายใต้การต่อสู้อย่างสุดชีวิตด้วยเคล็ดวิชามารของมารระดับสูงนับร้อยตน มดมารพลันกลายเป็นเถ้าถ่านและตกลงมาจากท้องฟ้า จำนวนมดมารหายไปไม่น้อยกว่าครึ่งภายในพริบตา
เมื่อเผ่ามารที่อยู่ด้านหลังเห็นเช่นนั้น พลันส่งเสียงคำรามอย่างมีความสุขในทันที และใช้อาวุธอาคมเข้าร่วมการโจมตี
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มดมารระลอกนี้ถูกเหล่าเผ่ามารกวาดล้างจนหมดไปภายในไม่กี่อึดใจ
เผ่ามารไม่น้อยที่เห็นเหตุการณ์นี้ และอดไม่ได้ที่จะรู้สึกฮึกเหิม พวกเขารู้สึกว่าชื่อเสียงของมดมารไม่ใช่เรื่องจริง มันไม่ได้น่ากลัวเหมือนดั่งข่าวลือ
ทว่าในนั้นมีมารอาวุโสไม่น้อยที่ยังคงมีสีหน้าไม่พอใจ หลังจากที่พวกเขาปรึกษากันก็รีบเดินทางไปข้างหน้าต่อทันที
ในขณะนั้นเอง ท้องฟ้าที่เดิมทีไร้เมฆพลันมืดมิดลงทันใด ทันใดนั้นชั้นสีม่วงชั้นหนึ่งก็ปรากฏขึ้นอย่างไร้วี่แวว จากนั้นมุ่งเข้ามาอย่างช้าๆ
ชั้นสีม่วงนี้กลายเป็นทะเลมดยักษ์ซึ่งมีมดมารนับสิบล้านตัว ปกคลุมเกือบทั่วท้องฟ้า ย้อมสีพื้นที่ว่างด้านล่างให้กลายเป็นสีม่วง
มดมารเหล่านี้ซ่อนตัวอยู่บนที่สูง หลังจากที่ใช้มดมารเพียงเล็กน้อยเพื่อล้อมพวกเขา ทันใดนั้นพวกมันก็เสร็จสิ้นภารกิจการล้อมบนที่สูง และเริ่มเปิดเผยความโหดเหี้ยม…
“แย่แล้ว พวกเราถูกซุ่มโจมตี”
“เร็วเข้า มีเพียงการหนีออกไปเท่านั้นจึงจะรอดชีวิต!”
ชั่วขณะหนึ่ง เหล่ามารที่อยู่เบื้องล่างเกิดความโกลาหล เกิดเสียงกรีดร้องด้วยความโกรธและความตื่นตระหนก ลำแสงหลีกหนีได้กระจัดกระจายไปทั่วทุกทิศทาง
แต่จะมีกี่คนที่สามารถหนีรอดได้จริงๆ มีเพียงสวรรค์เท่านั้นที่รู้
“สหายหาน ท่านเซียนเยี่ย! ไม่ต้องปิดบังพลังแล้ว มาฝ่าวงล้อมกันเถอะ” บรรพชนตระกูลหล่งพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เขายกมือขึ้น เงาเลือนรางสายหนึ่งพุ่งออกมา เมื่อกระแสลมพัดผ่าน กลายเป็นเรือบินสีขาวราวกับหิมะหนึ่งลำ แหวกอากาศบินขึ้นไปข้างบน
หลังจากผู้อาวุโสฮุยและชายตระกูลหลินมองหน้ากัน จากนั้นกลายเป็นลำแสงสีทองและสีดำพุ่งทะยานไปอีกด้านหนึ่ง
“สหายหาน ข้าล่วงหน้าไปก่อนก้าวหนึ่ง” สาวน้อยในชุดขนนกยิ้มให้หานลี่ ก่อนที่ลำแสงห้าสีจะสาดส่อง จากนั้นก็กลายเป็นหงส์ห้าสีขนาดกว่าสิบจั้ง โอบร่างหญิงสาวให้สว่างไสวในอากาศและหายวับไป
ต่อมา เกิดลำแสงสว่างวาบในอากาศที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยจั้ง เงาลวงตาของหงส์สีสดปรากฏขึ้นอย่างเงียบๆ เมื่อเกิดแสงสว่างวาบอีกครั้ง ร่างนั้นก็หายไปอย่างน่าประหลาด
หานลี่มองดูพลางถอนหายใจเบาๆ เขาร่ายอาคมด้วยมือข้างหนึ่ง เกิดเสียงฟ้าร้องกระหึ่มอยู่ด้านหลัง ทันใดนั้นปีกผลึกใสแวววับก็ปรากฏขึ้น
เพียงแค่กระพือปีก เขาก็กลายร่างเป็นลำแสงสีขาวพุ่งทะยานไปข้างหน้า ภายในชั่วพริบตา เขาจึงปรากฏตัวอย่างน่าประหลาดที่ปลายฟ้า เมื่อเกิดแสงสว่างวาบอีกครั้ง เขาก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
และด้วยเหตุนี้ ภายในชั่วพริบตาเผ่ามนุษย์จึงสามารถบุกทะลวงและจากไปด้วยการเดินทางเพียงลำพัง โดยไม่สนใจเผ่ามารอีกเลย
ด้วยความแข็งแกร่งระดับจอมมารของพวกเขา ความเร็วในการหลบหนีจึงรวดเร็วกว่าเผ่ามารระดับสูง
หานลี่และคนอื่นๆ หนีออกมาด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ ก่อนที่ทะเลมดจะตกลงมาเสียอีก ทั้งยังพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
ส่วนเหล่ามารด้านหลังก็จมลงไปท่ามกลางเมฆสีม่วงตายในทันที เกิดเสียงคำรามดังโหยหวนไปชั่วขณะหนึ่ง…
หานลี่กลายเป็นลำแสงสีขาวอมเขียว พุ่งออกไปยังสถานที่ที่อยู่ห่างไกลออกไปสามสี่หมื่นลี้ ทันใดนั้นลำแสงหลีกหนีของเขาก็หยุดลงด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป เมื่อมองไปข้างหน้าสองสามครั้งรอยยิ้มเจื่อนๆ ของเขาจึงปรากฏขึ้น
บนท้องฟ้าที่อยู่ห่างออกไปหลายสิบลี้ มีกลุ่มเมฆสีม่วงกลุ่มหนึ่ง และดูเหมือนว่ามันกำลังมุ่งมาทางเขาอย่างรวดเร็ว
“คิดไม่ถึงว่าจะเริ่มบุกรุกเข้ามาแล้ว หวังว่านี่จะไม่เป็นการดึงดูดความสนใจของราชินีมดเข้า”
หานลี่บ่นพึมพำ และใช้มือข้างหนึ่งร่ายอาคม ปีกด้านหลังของเขาค่อยๆ สั่นไหว ทันใดนั้นลูกสายฟ้าสีครามขนาดเท่ากำมือก็พุ่งออกมา จากนั้นค่อยๆ ระเบิดออก และรวมตัวกันกลายเป็นเขตอาคมสายฟ้าสีเงินขนาดราวๆ หนึ่งจั้ง
ฟ้าร้องดังสนั่น!
สายฟ้านับไม่ถ้วนพุ่งออกจากเขตอาคมสายฟ้า และสายฟ้าสีเงินก็สว่างวูบวาบอย่างต่อเนื่อง
เคล็ดวิชาของหานลี่เปลี่ยนไป เขาพูดพึมพำอยู่ในปาก หลังจากเสียงฟ้าร้องดังสนั่น ทันใดนั้นเขาก็หายวับไปอย่างไร้ร่องรอยในเขตอาคม
จู่ๆ ก็เกิดพายุฟ้าคะนองขึ้นในทะเลมดที่อยู่ห่างออกไปหลายพันลี้
สายฟ้าสีเงินวูบวาบดุจอสรพิษอย่างดุเดือด จากนั้นก็ทำลายมดสูบมารวงกว้างให้กลายเป็นเถ้าถ่านในทันที
ทว่ามดมารกลับหลั่งไหลเข้ามาราวกับคลื่นยักษ์ ทันใดนั้นเขตอาคมสายฟ้าก็ถูกกลืนกิน
เพียงไม่กี่อึดใจ เขตอาคมสายฟ้าหดตัวลงเหลือเพียงครึ่งหนึ่ง และในไม่ช้ามันก็พังทลายและสลายไป
ในขณะเดียวกันนั้น ลำแสงสีขาวอมเขียวก็วาบประกายขึ้นที่ศูนย์กลาง ร่างของหานลี่ปรากฏขึ้นพร้อมกับเสียงคำรามดังกึกก้อง
ทันทีที่เขาปรากฏตัว เขากวาดสายตามองไปรอบๆ อย่างเยือกเย็น และในขณะเดียวกันนั้นแขนเสื้อของเขาก็สั่นไหวอย่างรวดเร็ว
กระบี่เล่มเล็กสีครามเจ็ดสิบสองเล่มพุ่งออกมาพร้อมกัน และภายใต้การกระตุ้นพลันกลายเป็นม่านกระบี่ปกป้องร่างกายทั้งหมด
ในที่สุดเขตอาคมสายฟ้าก็แตกกระจายพร้อมกับเสียงคำราม มดมารนับไม่ถ้วนพุ่งตรงมาที่หานลี่ในทันที
ใบหน้าของหานลี่ไร้ซึ่งอารมณ์ ทว่าม่านกระบี่บนผิวกายของเขากระเพื่อมและแผ่ออก กลายเป็นดอกบัวบานสีคราม
ไม่ว่าลำแสงสีครามจะผ่านไปที่ใด ฝูงมดมารที่เข้ามาก่อกวนเขาจะถูกบดอย่างละเอียดในทันที และไม่มีทางที่จะเข้าใกล้หานลี่ได้อีก
ทว่าในตอนนี้หานลี่กลับมีสีหน้าที่ไม่พอใจ
ในขณะนี้เขารู้สึกได้อย่างชัดเจน ส่วนหนึ่งของพลังวิญญาณในกระบี่กำลังจะหายไป เห็นได้ชัดว่ามดมารเหล่านั้นดูดกลืนพลังวิญญาณของมันก่อนที่จะถูกสังหาร
แม้ว่าพลังวิญญาณเหล่านี้จะเป็นเพียงเศษเสี้ยวของพลังวิญญาณทั้งหมด ทว่าหากเวลาล่วงเลยไป ความสูญเสียคงไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย
หานลี่เลิกคิ้ว พร้อมทั้งอ้าปากโดยที่ไม่พูดอะไร ทันใดนั้นเปลวไฟสีเงินก็พุ่งออกจากปากของเขา และกลายเป็นวิหคเพลิงสีเงินขนาดราวหนึ่งจั้ง บินวนรอบๆ ตัวเขา
มันคือเพลิงกลืนวิญญาณสวรรค์ที่เขาหล่อเลี้ยงในร่างกายมาหลายปี
วิหคเพลิงที่แปรสภาพมาจากไฟมีคุณสมบัติวิญญาณอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องใช้แรงกระตุ้นจากหานลี่ ทันใดนั้นขนของมันสั่นไหว แสงสีเงินนับไม่ถ้วนพุ่งออกไปทุกทิศทาง จากนั้นจึงหายวับเข้าไปในทะเลมด
เสียงระเบิดดังสนั่น!
กลุ่มแสงสีเงินในทะเลมดระเบิดในทันที พลันกลายเป็นเพลิงสีเงินในทันใด
อากาศที่อยู่ใกล้เคียงถูกโอบล้อมด้วยไอร้อน เมื่อมดมารถูกเปลวเพลิงสีเงินแผดเผา ทันใดนั้นพวกมันก็หายวับไปอย่างไร้ร่องรอย
ทะเลมดสีม่วงที่เดิมทีแผ่กระจายไปเกือบทั่วท้องฟ้า บัดนี้ได้กลายเป็นอากาศธาตุที่ว่างเปล่า
ภายใต้การชี้นำด้วยฝ่ามือเดียวของหานลี่ เปลวไฟสีเงินนับไม่ถ้วนก็พุ่งกลับมาที่ร่างของวิหคเพลิง ทว่าสีหน้าของเขากลับเปลี่ยนไปอีกครั้ง
เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าพลังวิญญาณของเพลิงกลืนวิญญาณสวรรค์ส่วนหนึ่งได้หายไป
แม้ว่าเปลวเพลิงในท้องฟ้าจะสามารถสังหารเหล่ามดมารได้อย่างง่ายดาย แต่ก็เป็นไปไม่ได้เช่นกันที่จะหลีกเลี่ยงการถูกมดมารกลืนกิน
ด้วยอานุภาพของเพลิงกลืนวิญญาณสวรรค์ หานลี่ไม่เต็มใจที่จะปล่อยให้เปลวเพลิงนี้ถูกเผาผลาญอย่างไร้เหตุผล
เขามีสีหน้าไม่พึงพอใจนัก พลันสะบัดแขนเสื้อไปทางวิหคเพลิงสีเงิน ทันใดนั้นเมฆสีครามก็ม้วนวนออกมา
เมื่อวิหคเพลิงส่งเสียงคำราม มันก็หายไปในอากาศภายในพริบตา
และช่วงเวลาแห่งความล่าช้า พื้นที่ใกล้เคียงซึ่งเดิมทีว่างเปล่า กลับเต็มไปด้วยมดมาร พวกมันพุ่งเข้าหาหานลี่อย่างดุเดือด
และครั้งนี้ หานลี่ไม่ปริปากพูดสิ่งใด เขาคว้าอากาศด้วยมือเดียว
ทันใดนั้นแสงขมุกขมัวสีเทาและเปลวเหมันต์ห้าสีก็พุ่งออกมาจากร่างเขา มันวาบประกายระริกระรี้ แล้วจึงเปลี่ยนเป็นคลื่นลูกใหญ่หมุนวนไปรอบๆ
หลังจากที่แสงสีเทาสว่างวาบ มดมารสั่นสะเทือนและกลายเป็นผุยผง และหลังจากที่เปลวเหมันต์ห้าสีสว่างวาบ มดมารหลายพันตัวกลายเป็นผลึกน้ำแข็งในทันทีด้วยพลังเย็นเยียบหลากสี จากนั้นก็ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า
แต่เมื่อหานลี่รวบรวมพลังปราณทั้งสอง เขากลับส่ายหน้าและถอนหายใจอีกครั้ง
จากนั้นเขาจึงไม่ทดสอบสิ่งใดอีกต่อไป ทว่าเขากลับกระตุ้นกระบี่ไผ่เขียวตัวต่อเมฆาทั้งเจ็ดสิบสองเล่ม จากนั้นจึงกลายเป็นลำแสงสีเขียวเปล่งประกายลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า หลังจากที่หมุนวนเล็กน้อยลำแสงนั้นก็พุ่งไปยังอีกทิศทางหนึ่ง
ไม่ว่าแสงกระบี่สีเขียวจะผ่านไปที่ใด มดมารนับไม่ถ้วนจะล้มตาย และพวกมันไม่สามารถขวางกั้นเส้นทางของหานลี่ได้เลยแม้แต่น้อย
ความเร็วในการหลีกหนีของหานลี่ ไม่ได้ช้าลงจากเมื่อก่อนแต่อย่างใด!