A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน - ตอนที่ 2094 แก่นอัสนีเสียงสวรรค์
- Home
- A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน
- ตอนที่ 2094 แก่นอัสนีเสียงสวรรค์
“นี่นับเป็นเหตุผลอะไรได้ แต่ช่างเถอะ เอาเป็นว่าต่อให้สมุนไพรวิญญาณที่ผู้อาวุโสอยากได้อยู่ที่ข้า เช่นนั้นก็ต้องพูดถึงสรรพคุณหลักกับการใช้งานคร่าวๆ สักหน่อยนะ มิฉะนั้น สมุนไพรวิญญาณที่ผู้น้อยมีอยู่ก็ไม่น้อย จะรู้ได้อย่างไรว่าท่านหมายถึงต้นไหน”
หานลี่หรี่ตาทั้งสองข้างลง พลางถามกลับเสียงขรึม
“พวกการใช้งานกับสรรพคุณ ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่สิ่งที่แน่นอนคือ สมุนไพรวิญญาณชนิดนี้เจ้าได้มาก่อนเข้าสู่แดนศักดิ์สิทธิ์ และเป็นของหายากในโลกใบนี้ ซึ่งอาจไม่ใช่ของที่แดนวิญญาณควรมีอยู่แต่เดิม”
ครั้งนี้เป่าฮวามิได้ทำให้เข้าใจยาก แต่ขบคิดสักพัก ค่อยพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“ไม่ใช่ของที่แดนวิญญาณควรมี?”
พอหานลี่ได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนเล็กน้อย พลันนึกถึงสมุนไพรวิญญาณที่ได้มาจากแดนกว้างเย็นเหล่านั้น
ท่าทางเช่นนี้ของหานลี่ ย่อมไม่หลุดรอดไปจากสายตาของเป่าฮวา รอยยิ้มบนใบหน้านางลึกลงไปสามส่วนก่อนตบมือและหัวเราะเบาๆ อย่างอดไม่ได้
“เห็นทีข้ามิได้เดาผิด สหายหานลี่มีสมุนไพรวิญญาณหายากในโลกติดตัวอยู่บ้างจริงๆ ขอเพียงยอมมอบมันใด้ข้าด้วยสองมือ ข้าจะเป็นคนตัดสินใจปล่อยเจ้าออกไปจากที่นี่อย่างปลอดภัยเอง แถมยังรับประกันว่า สหายหยวนเหยี่ยนที่อยู่ข้างๆ จะไม่ตอแยเจ้าอีก นอกเหนือจากนี้ ข้ายังมอบคนคนหนึ่งเพิ่มให้เจ้าด้วย จระเข้ดำ พายัยหนูนั่นออกมาที”
“ขอรับ ใต้เท้า!”
ชายร่างใหญ่เกราะดำรีบโค้งตัวขานรับ แล้วใช้มือข้างหนึ่งตบกระเป๋าหนังสีเหลืองอ่อนใบหนึ่งที่เอว
ปากกระเป๋าคลายตัว แสงสีดำขุมหนึ่งม้วนออก พอวาบ สาวน้อยหน้าตาสะสวย อายุราวสิบกว่าปีคนหนึ่ง ก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศในสภาพสลบไสล
พอหานลี่เห็นใบหน้าของสาวน้อยผู้นี้ ม่านตาก็หดลงเล็กน้อย
เป็นจูกั่วเอ๋อร์!
“ยัยหนูผู้นี้นับว่ามีความสัมพันธ์กับเจ้าอยู่บ้าง คิดว่าเจ้าไม่น่าจะไม่สนใจไยดีนาง ตอนนี้ขอเพียงมอบสมุนไพรวิญญาณที่ข้าต้องการออกมา ข้าก็จะส่งมอบนางให้กับเจ้า” สตรีชุดขาวพูดเรียบๆ
“นางกับข้ามีที่มาที่ไปอยู่บ้างจริงๆ แต่ในเมื่อนางตกอยู่ในมือท่าน คิดว่าสหายหลินที่อยู่กับนาง คงเสียชีวิตแล้ว” หานลี่ถอนหายใจออกมาคำหนึ่งก่อนถาม
“ผู้บำเพ็ญเพียรระดับผสานอินทรีย์ที่อยู่กับนางคนนั้น แม้ในร่างมีสายเลือดวิญญาณแท้อยู่บ้าง แต่ไม่มีประโยชน์กับข้า ข้าย่อมไม่คงไว้” เป่าฮวาพูดอย่างเยือกเย็น
“เฮอะ ถ้าข้าสู้ตายจริงๆ ขึ้นมาสักตั้งล่ะก็ ท่านทั้งสองก็ไม่น่าจะมีสภาพที่ดีไปกว่าข้าเท่าไหร่หรอก แต่ข้าก็ไม่อยากเสี่ยงอันตรายขนาดนี้ เพื่อสมุนไพรวิญญาณกระจ้อยร่อยต้นหนึ่ง ข้าจะนำสมุนไพรวิญญาณสองสามชนิดออกมาให้ท่านดู เผื่อมีของที่ท่านอยากได้อยู่ในนั้นก็แล้วกัน”
หานลี่แค่นเสียงเย็นชาออกมาคำหนึ่ง หลังจากพูดอย่างเย็นชาไม่กี่ประโยค ก็ตอบรับในที่สุด
“สหายหานทำเช่นนี้ ค่อยเป็นการกระทำที่เฉียบแหลมยิ่ง! จระเข้ดำ มอบยัยหนูนี่ให้เขาก่อน ข้าเชื่อว่า พี่หานต้องไม่ทำอะไรที่ไม่เฉียบแหลมแน่” เป่าฮวาหัวเราะเบาๆ แล้วจึงหันไปสั่งชายร่างใหญ่อีกครั้ง
พอจระเข้ดำได้ยิน มือข้างหนึ่งก็รีบจับแล้วโยน จูกั่วเอ๋อร์พลันพุ่งตรงไปที่หานลี่
สีหน้าหานลี่ขรึมลงเล็กน้อย แขนเสื้อข้างหนึ่งม้วนออก แสงสีเขียวผืนหนึ่งกะพริบ จูกั่วเอ๋อร์ถูกรับมาอยู่ข้างหน้าอย่างไร้สุ้มเสียง
เขาใช้พลังจิตกวาดตามองร่างของสาวน้อย หลังจากพบว่าเพียงถูกอาคมต้องห้ามง่ายๆ กักขังไว้ มิได้ถูกลอบกระทำการอื่นใด จึงพยักหน้า แล้วสะบัดแขนเสื้ออีกครั้ง
แสงสีเขียวพลันวาบ สาวน้อยถูกเขาเก็บเข้าไปในสมบัติวิเศษเฉพาะชิ้นหนึ่ง
จากนั้น เขาก็เริ่มตรึกตรองว่าจะนำสมุนไพรวิญญาณชนิดไหนออกมาให้เป่าฮวาเลือก
ตั้งแต่ได้สมุนไพรวิญญาณมาจากแดนกว้างเย็น เขาก็พยายามหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด อยากทำความเข้าใจภูมิหลังกับการใช้งาน
แต่แล้วนอกจากส่วนน้อยที่เข้าใจ สมุนไพรวิญญาณส่วนใหญ่เล่นเอาสมองมึนงงไปหมด ไม่รู้วิธีการใช้ที่แท้จริง จึงได้แต่เก็บไว้ในสร้อยข้อมือเก็บของ รอคอยวาสนาในภายหลัง
สมุนไพรแดนเซียนเหล่านี้ล้ำค่าเพียงใดไม่ต้องพูดถึง แต่ถ้าสามารถอาศัยสมุนไพรวิญญาณต้นหนึ่งที่เขาไม่ได้ใช้ประโยชน์ ขจัดศัตรูตัวฉกาจที่อยู่ตรงหน้าออกไปได้จริงๆ เขาย่อมรู้สึกปีติยินดี
แต่คาดว่าหญ้าวิญญาณธรรมดาในพื้นที่ลี้ลับของแดนกว้างเย็นเหล่านั้น ไม่อยู่ในสายตาของฝั่งตรงข้ามที่เป็นถึงบรรพชนผู้บุกเบิกหรอก ส่วนใหญ่ต้องเป็นสมุนไพรวิญญาณไม่กี่ต้นที่เพาะปลูกเฉพาะในแดนเซียน ถึงจะเข้าตา แต่ก่อนจะถึงขั้นนี้ ถ้าสามารถใช้สมุนไพรวิญญาณอื่นๆ หลอกถูไถไป ย่อมเป็นเรื่องที่ดียิ่ง
หานลี่คิดเช่นนี้ในใจ พลางทำท่าร่ายอาคมมือเดียว กระบี่สีเขียวคล้ำเล่มเล็กบนแขนก็วาบ สลายหายไปในอากาศ จากนั้นค่อยพลิกนิ้วทั้งห้าขึ้น แสงสีขาวในมือวาบ กล่องหยกสีขาวกล่องหนึ่งปรากฏออก บนกล่องมียันต์ต้องห้ามหลากสีไม่กี่แผ่นแปะไว้ เขาโยนไปยังฝั่งตรงข้าม
ตาสวยของสตรีชุดขาวทอประกาย นิ้วหยกเรียวยาวคว้าจับ กล่องหยกส่งเสียง ‘ซู่’ ถูกเก็บจากกลางอากาศ
นิ้วหยกที่นุ่มนิ่มสะอาดสะอ้านนิ้วหนึ่งเคาะลงบนฝากล่อง ยันต์ไม่กี่แผ่นพลันหลุดร่วงลงอย่างไร้สุ้มเสียง ฝากล่องเปิดออกเองทันที
ในกล่องวางหญ้าวิญญาณสีเขียวมรกตตลอดทั้งต้นไว้ต้นหนึ่ง โชยกลิ่นหอมสดชื่นจางๆ ออกมา และกะพริบแสงสีขาวนวล
พอบรรพชนศักดิ์สิทธิ์เป่าฮวาเห็นสมุนไพรวิญญาณชนิดนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนเล็กน้อย แต่หลังจากขบคิด
ชั่วขณะ ก็ส่ายหน้าอย่างไร้ความรู้สึก แสงสีชมพูวาบ ฝากล่องปิดกลับเอง ยันต์ต้องห้ามเหล่านั้นปรากฏอยู่ด้านบนอีกครั้ง ราวกับไม่เคยหลุดร่วงมาก่อน
หลังจากตัวกล่องหยกสั่น ก็พุ่งกลับไปหาหานลี่
หานลี่ก็ไม่รู้สึกแปลกใจ ขณะม้วนแขนเสื้อ เก็บกล่องหยกคืนกลับ ในมืออีกข้างก็มีขวดหยกสีเงินอ่อนขวดหนึ่งปรากฏ พอดีดนิ้ว ก็พุ่งไปยังสตรีชุดขาว
เป่าฮวาจับขวดหยกไว้ในมือ พอฝาขวดเปิดออก ก็ใช้พลังจิตกวาดดูด้านใน จากนั้นจึงส่ายหน้าพลางขมวดคิ้ววาด โยนกลับไปเช่นเคย
ขณะนั้น บรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนเหยี่ยนที่อยู่ด้านข้าง แม้ไม่รู้เนื้อหาที่หานลี่กับเป่าฮวาสนทนากัน แต่พอเห็นฉากนี้ ในใจก็ตระหนักทันที จึงเบ้ปาก และไม่มีพฤติกรรมอื่นใดอีก
ในใจเขาย่อมไม่คิดว่า ผู้บำเพ็ญเพียรระดับผสานอินทรีย์ผู้นี้จะนำสมุนไพรวิญญาณอะไรที่โดนใจบรรพชนศักดิ์สิทธิ์อย่างพวกเขาออกมาได้
ซึ่งก็เป็นไปตามนั้น หานลี่นำสมุนไพรวิญญาณออกมาเจ็ดแปดต้นติดต่อกัน ล้วนไม่มีที่เข้าตาเป่าฮวาเลย
ใบหน้าสตรีชุดขาวคลับคล้ายเคร่งขรึมลง โยนสมุนไพรวิญญาณคืนหานลี่อีกครั้ง ค่อยเอ่ยปากอย่างเย็นชา
“สมุนไพรวิญญาณที่เอาออกมาเมื่อครู่เหล่านั้น แม้พูดไม่ได้ว่า ไม่ถูกใจเลย แต่ของระดับนี้ จะมีประโยชน์กับข้าได้อย่างไรกัน ถ้าของชิ้นต่อไปยังคงเป็นของระดับนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องเอาออกมาแล้ว”
พอหานลี่ได้ยิน ก็อดไม่ได้ที่จะเผยสีหน้าลังเลใจขึ้นวาบ แต่ก็รีบถอนหายใจเบาๆ ออกมาคำหนึ่ง แล้วจึงพลิกฝ่ามือ ในมือปรากฏกล่องหยกสีขาวขุ่นกล่องหนึ่งขึ้นมาอีก
กล่องหยกใบนี้แตกต่างจากกล่องไม่กี่ใบก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด วัสดุไม่เพียงเหนือชั้นกว่าระดับหนึ่ง ด้านบนยังคลับคล้ายปล่อยไอเย็นเป็นสายๆ ออกมา เสียงดัง ‘ปุๆ’
ครั้งนี้หานลี่มิได้โยนกล่องหยกออกไปตรงๆ ใช้นิ้วลูบให้ยันต์บนฝากล่องปลิวออก แล้วเปิดฝากล่องออกด้วยตัวเอง
เป่าฮวาเห็นดังนี้ ไม่เพียงไม่โกรธ ริมฝีปากกลับเผยอขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นรอยยิ้มนิดหน่อย
ตอนนี้ หานลี่กำลังพยุงกล่องหยกไว้ในมือข้างหนึ่ง ข้อมือสั่นน้อยๆ
ไอเย็นพลันแผ่ออก!
ก้อนน้ำแข็งห้าสีใสกระจ่างก้อนหนึ่ง ลอยช้าๆ ออกจากกล่อง คลับคล้ายเห็นกิ่งวิญญาณสีแดงชาดกิ่งหนึ่งอยู่ในนั้น ปุ่มบนกิ่งมีผลไม้วิญญาณขนาดนิ้วหัวแม่มือสีทองหนึ่งลูก สีเงินหนึ่งลูก รูปร่างเป็นเอกลักษณ์ ดูดีแบบมันฮ่อ
“แก่นอัสนีเสียงสวรรค์”
พอเป่าฮวาเห็นของที่อยู่ในก้อนน้ำแข็งชัดเจน ก็เก็บรอยยิ้มบนใบหน้าขึ้น แสดงอาการตกใจออกมาเป็นครั้งแรก ส่วนบรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนเหยี่ยนที่เดิมทียิ้มเย็นชาอยู่ด้านข้าง สีหน้าก็เปลี่ยนไปมากเช่นเดียวกัน
“แก่นอัสนีเสียงสวรรค์? เจ้าดูไม่ผิดแน่นะ ของชิ้นนี้เป็นของที่มีอยู่แต่ในดินแดนเบื้องบนมิใช่หรือ มนุษย์
บำเพ็ญเพียรกระจ้อยร่อยคนหนึ่งอย่างเขา มีของวิญญาณระดับนี้ได้อย่างไรกัน! เจ้าเอาของมานี่หน่อย ข้าขอดูให้ถ้วนถี่ด้วย!”
“ขออภัยที่ต้องขัดคำสั่งผู้อาวุโสหยวนเหยี่ยนแล้ว ผู้อาวุโสเป่าฮวา ของชิ้นนี้ใช่สมุนไพรวิญญาณที่ท่านต้องการหรือไม่”
หานลี่ตอบปฏิเสธเด็กหนุ่มชุดดำโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า แล้วจึงหันไปถามบรรพชนศักดิ์สิทธิ์เป่าฮวาอย่างจริงจัง
ชื่อชั้นของแก่นอัสนีเสียงสวรรค์ เขาคลับคล้ายเคยได้ยินจากหนังสือเล่มหนึ่ง แต่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่ากลับเป็นสมุนไพรวิญญาณที่อยู่ในมือต้นนี้ ในใจพลันตื่นเต้นอยู่บ้าง
เห็นทีต้องนำสมุนไพรในแดนเซียนที่ไม่รู้จักเหล่านี้ออกมาให้บรรพชนผู้บุกเบิกแดนมารทั้งสองท่านแยกแยะ ซึ่งอาจไม่ใช่เรื่องที่รับไม่ได้เสียทีเดียว
ขอเพียงเขารู้ความเป็นมาเป็นไปของสมุนไพรวิญญาณเหล่านี้ ต่อไปย่อมมีประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง
พอเด็กหนุ่มชุดดำได้ยินคำพูดของหานลี่ ไอดำบนใบหน้าก็วาบ นึกโกรธขึ้นมา แต่ก็เปลี่ยนความคิดทันที พยายามข่มความโกรธลง ไม่รู้ว่านึกอะไรอยู่
ทว่าเขาในตอนนี้ มิได้มีท่าทีไม่ใส่ใจของที่หานลี่นำออกมาเช่นเดียวกับก่อนหน้านี้อีก แต่กำลังจ้องมองของชิ้นนี้คล้ายคิดอะไรบางอย่างอยู่ แต่ไม่รู้ว่าคิดอะไร
“ของชิ้นนี้แม้ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน แต่รูปลักษณ์พิเศษแบบนี้ แปดถึงเก้าในสิบส่วนคือแก่นอัสนีเสียงสวรรค์ไม่ผิดแล้ว สำหรับผู้ที่ฝึกวิชาเฉพาะทาง คุณค่าของมันมิได้ด้อยไปกว่าสมุนไพรวิญญาณที่ข้าอยากได้ แต่เสียดาย กลับไม่ใช่ของที่ข้าอยากได้”
บรรพชนศักดิ์สิทธิ์เป่าฮวาจ้องมองสมุนไพรวิญญาณในก้อนน้ำแข็ง สีหน้าพลางเปลี่ยนไปมาครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายยังคงส่ายศีรษะช้าๆ
“ไม่ใช่!” หานลี่ตรึกตรองสักพัก ค่อยสะบัดแขนเสื้อ สมุนไพรวิญญาณตรงหน้าตกลงสู่กล่องหยกอีกครั้ง และพอวาบ ก็หายไปในอากาศ
ถัดมา กล่องหยกสีเขียวอ่อนอีกใบก็ปรากฏขึ้นแทนที่ หลังจากถูกอาคมแบบเดียวกันเปิดออก สิ่งที่ลอยออกมาจากด้านในก็คือก้อนน้ำแข็งห้าสีเย็นจัดก้อนหนึ่ง
แต่ครั้งนี้ ในก้อนน้ำแข็งกลับผนึกดอกไม้ประหลาดสีขาวบริสุทธิ์ดุจหยกดอกหนึ่งไว้ ขนาดเท่าปากชามข้าว!
สตรีชุดขาวมองดอกไม้สีขาวในก้อนน้ำแข็งจากระยะไกล คิ้ววาดพลันขมวดโดยไม่รู้ตัว
จากประสบการณ์ของนาง กลับไม่สามารถแยกแยะความเป็นมาเป็นไปของดอกไม้สีขาว จึงได้แต่มีท่าทีคลับคล้ายรู้สึกเหมือนไม่ควรประเมินต่ำจนเกินไป
ส่วนบรรพชนศักดิ์สิทธิ์หยวนเหยี่ยนที่อยู่อีกด้าน สีหน้าก็เกิดความสงสัยวาบผ่านขณะจ้องมองดอกไม้สีขาว คลับคล้ายรู้สึกเหมือนเคยได้ยินเรื่องของดอกไม้วิญญาณทำนองนี้จากที่ไหนมาก่อน แต่กลับนึกไม่ออกชั่วขณะ จึงครุ่นคิดไปโดยปริยาย
เมื่อหานลี่เห็นท่าทีเช่นนี้ของเป่าฮวา จึงโบกแขนเสื้อโดยไม่พูดไม่จา เก็บของชิ้นนี้กลับทันที แล้วนำกล่องหยกอีกกล่องออกมา…
เหมือนเดิม เขานำสมุนไพรวิญญาณอื่นๆ อีกห้าหกอย่างออกมาในอึดใจเดียว แต่นอกจากแก่นอัสนีเสียงสวรรค์ชิ้นแรกแล้ว สมุนไพรวิญญาณอื่นๆ กระทั่งเป่าฮวากับหยวนเหยี่ยนก็ล้วนสมองมึนงง ระบุความเป็นมาเป็นไปไม่ได้!
แม้จิตใจของหานลี่ผ่อนคลายลงเล็กน้อยก็จริง แต่ก็แอบผิดหวังอยู่บ้าง
ทว่าพอเขานำก้อนน้ำแข็งห้าสีก้อนหนึ่ง ซึ่งผนึกหญ้าวิญญาณสีเงินอ่อนตลอดทั้งต้นไว้ภายในออกมา เป่าฮวากับหยวนเหยี่ยน สองท่านกลับตื่นตระหนก ร้องเสียงหลงออกมาเหมือนกัน!