A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน - ตอนที่ 2106 สู้กลับ
เกิดเกลียวคลื่นอยู่ในอากาศธาตุ!
เสียงกระแอมเผ่าเบาดังออกมา แสงสีทองเปล่งประกาย ทันใดนั้นมีร่างหนึ่งโซเซออกมาจากระยะไกล
หานลี่ได้รับร่างนิพพานศักดิ์สิทธิ์ และกลับมาเป็นร่างเดิม
ทว่าในตอนนี้ ใบหน้าของเขาซีดเผือดไร้เลือดฝาด สีคลุมสีครามของเขาขาดรุ่งริ่ง ครึ่งร่างของเขาเป็นสีดำ และมีกลิ่นไหม้จางๆ
แขนที่ประทับดาบสวรรค์ทมิฬและอักขระอาคมสีเขียวเข้มได้จางหายไปอย่างสะอาดหมดจด เผยให้เห็นผิวที่ขาวกระจ่างใส ทว่ารอยดาบสีเขียวอ่อนยังคงมองเห็น และมองเห็นได้ชัดกว่าเมื่อก่อนมาก
แต่ในตอนนี้พลังของหานลี่ลดลงไปเกือบครึ่งหนึ่ง แม้ว่าจะได้รับการป้องกันชีวิตจากการโจมตีของปูยักษ์สีทอง แต่ปราณแท้กลับได้รับความเสียหายอย่างมาก
ครั้นเมื่อชายวัยกลางคนสวมชุดคลุมสีทองเห็นเช่นนั้น สีหน้าดุร้ายบนใบหน้าของเขาจึงหายไปในพริบตา หลังจากกำหมัดทั้งสองข้าง เขาก็หายตัวไปในทันที
หลังจากโจมตีครั้งที่สอง ปูยักษ์สีทองไม่ได้หลับใหลไปในทันที เพียงแต่ไม่เคลื่อนไหวในอากาศสักพัก และไม่มีท่าทีที่จะโจมตีอีก
หานลี่ยืนนิ่งอยู่ไกลๆ การกระทำของชายชุดคลุมสีทองยังคงอยู่ในสายตาของเขา สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป จากนั้นร่างกายกลิ้งไปกับพื้นและกลายเป็นหงส์ห้าสี
ปีกของหงส์ห้าสีกระพือ เมื่อแสงห้าสีบนร่างกายเปล่งประกาย ทันใดนั้นก็หายไปในอากาศธาตุ
ต่อมา เมื่อหงส์ห้าสีหายไป ฝ่ามือปีศาจสีดำสนิทขนาดเท่ากับห้องทั้งสองข้างพุ่งออกไปในอากาศ ภายใต้การตบเพียงครั้งเดียว ทันใดนั้นจึงเกิดเสียงคำรามในอากาศธาตุรัศมีหลายมู่ จากนั้นจึงสั่นสะเทือนราวกับจะพังทลายลงมา
อากาศสีดำหมุนวนไปมา จากนั้นจึงมีร่างปีศาจสูงกว่าสามสิบจั้งปรากฏขึ้น
ใบหน้าปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีดำ และนั่นคือชายชุดคลุมสีทอง
แต่ในเวลานี้ ไม่เพียงแต่ร่างกายของเขาจะขยายใหญ่ขึ้นหลายสิบเท่า แต่ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยเกล็ดสีดำ และมีเขาสีครามหนึ่งอันบนหัวของเขา อีกทั้งยังมีสายฟ้าสีม่วงส่องประกายอย่างต่อเนื่อง รูปร่างหน้าตาของเขาคล้ายกับการเปลี่ยนแปลงครั้งก่อนของหานลี่มาก เหมือนแม้กระทั่งลมปราณ
หานลี่ไม่สามารถทิ้งปราณแท้ที่เสียหายในการโจมตีของชายชุดคลุมสีทอง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิด หลังจากส่งเสียงหึเย็นยะเยือกออกมา ทันใดนั้นศีรษะใหญ่ๆ จึงหันกลับมาพลางพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “คิดไม่ว่าสถานการณ์เช่นนี้ เจ้ายังสามารถทะลุทะลวงความว่างเปล่านี้ไปได้ แม้จะอาศัยร่างกายของหงส์ห้าสีเป็นตัวช่วย แต่ข้าก็ต้องบอกว่า ‘ไม่เลว’”
ทิศทางที่เขามองไปคือที่ของปูยักษ์สีทอง
ครั้นเมื่อสิ้นเสียง แสงห้าสีส่องประกายอยู่เหนือปูยักษ์ ร่างของหงส์ที่หานลี่แปลงกายจึงปรากฏขึ้น เมื่อเกิดแสงส่องประกายเขาจึงกลายร่างกลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง
ทว่าการแปลงกายในครั้งนี้ทำให้ลมปราณของเขาอ่อนแอลง แต่หลังจากฟังคำพูดของปีศาจชุดคลุมสีทอง สีหน้าของเขาจึงกลับมาปกติ เพียงแค่มองเพียงสีที่เปลี่ยนไปของอีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจ แล้วจึงพูดช้าๆ “ลมปราณของท่านช่างแข็งแกร่ง น่าจะเป็นสิ่งที่ทรงพลังที่สุดในโลกปีศาจ ในบรรดาบรรพบุรุษของโลกปีศาจ ข้าไม่เคยเห็นระดับหกและนิพพานมาก่อน ข้าได้ยินมาว่าระดับหกคือสตรีนางหนึ่ง ส่วนนิพพานเป็นหนึ่งเดียวในบรรดาบรรพบุรุษกลุ่มแรกระดับมหายานที่ฝึกฝนกายนิพพานศักดิ์สิทธิ์ และด้วยเหตุนี้ แม้ไม่พูดถึงตัวตนของท่านก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ทว่าการฝึกฝนของท่านแข็งแกร่งกว่าผู้บำเพ็ญเพียรระดับผสานอินทรีย์ขั้นสุดท้ายเพียงเล็กน้อย อีกทั้งยังไม่ได้เข้าสู่ระดับมหายาน ดูเหมือนว่าจะเป็นเพียงการแปลงกายเท่านั้น”
“หึ ข้าก็คิดไม่ถึงว่านอกจากข้าแล้ว ยังมีคนที่สามารถฝึกฝนกายนิพพานศักดิ์สิทธิ์ได้จนถึงขั้นสองนิพพาน และยังเป็นเพียงผู้บำเพ็ญเพียรระดับผสานอินทรีย์เท่านั้น แต่ถึงอย่างไรเจ้าก็ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของปูยักษ์ทั้งสองครั้ง คงเป็นเรื่องเพ้อฝันหากเจ้าคิดจะหนีเอาชีวิตรอดจากเงื้อมมือของข้า ถ้าเช่นนั้นจงมอบชีวิตของเจ้าให้ข้าเสียตอนนี้เลยดีกว่า” ชายชุดคลุมสีทองพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา พร้อมทั้งพูดโดยปราศจากความรู้สึกใดๆ
เมื่อสิ้นเสียง ทันใดนั้นพื้นผิวของร่างกายก็มืดลง และร่างกายกลับใหญ่โตอีกครั้งด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ ทันใดนั้นเขาก็กลายร่างเป็นสัตว์ใหญ่มหึมาสูงกว่าหนึ่งร้อยจั้ง
สีหน้าของหานลี่เปลี่ยนไป พร้อมทั้งงอนิ้วทั้งห้าที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อ
ทันใดนั้นจึงเกิดแสงเปล่งประกายที่ฝ่ามือ และวงแหวนสีดำจึงปรากฏขึ้น พร้อมทั้งถูกคว้าไว้อย่างแน่นหนา
มันคือวงแหวนวิญญาณอสูรที่เต็มไปด้วยแมลงสีทอง!
ในตอนนี้จิตวิญญาณของหานลี่ยังคงแข็งแกร่ง และยังคงสามารถระดมฝูงแมลงสีทองและแมลงอื่นๆ อีกนับสิบตัว
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังมีร่างกายสีทองและร่างกายฝ่ายวิญญาณที่เขายังไม่ได้แสดงออกมา รวมทั้งอสูรกิเลนเสือดาว พร้อมทั้งประเมินตัวเองว่าปูยักษ์สีทองจะไม่ลงมือ แม้ว่าจะแปลงกายนิพพานศักดิ์สิทธิ์ ก็ยังคงมีพลังที่จะต่อสู้
ในขณะนี้ หานลี่ยังคงสงบนิ่ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเหลือบมองไปที่ยักษ์สีทองด้านล่าง ความคิดของเขาก็เปลี่ยนไป การปล่อยวงแหวนจึงหยุดนิ่ง ทันใดนั้นเขาจึงเอ่ยปากถามปูยักษ์ “บรรพบุรุษนิพพานสังเวยหยดน้ำความโชคดีให้กับเจ้า ทำให้เจ้าลงมือได้ถึงสองครั้ง แต่ไม่รู้ว่าหากข้าสามารถนำสิ่งนั้นออกมาได้ จะสามารถทำให้เจ้าลงมืออีกครั้งเพื่อข้าได้หรือไม่”
“ได้แน่นอน! ไม่ว่าเซียนหรืออสูร ตราบใดที่สามารถหาเครื่องสังเวยได้ ข้าสามารถช่วยได้ทั้งนั้น” ปูยักษ์สีทองไม่ตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย พร้อมทั้งตอบกลับมาในทันที
หานลี่รู้สึกดีใจมากเมื่อได้ยินเช่นนั้น
แม้ว่าเขาจะยังสงสัยว่าของเหลวสีเขียวในขวดลึกลับคือน้ำค้างโชคดีที่สูงระฟ้าหรือไม่ และยังมีความสงสัยอีกมาก ทว่าในสถานการณ์เช่นนี้ เป็นธรรมดาที่จะต้องรักษาม้าตายประหนึ่งม้าเป็น
ในขณะที่เขายังไม่ทันได้ลงมือ กลับได้ยินเสียงหัวเราะเย้ยหยันจากชายชุดคลุมสีทอง “ฮ่าฮ่า เจ้าหนู อย่าเพ้อเจ้อ ปูศักดิ์สิทธิ์ต้องการอะไร เจ้าจะไปหาจากที่ไหน ข้าจะเอาชีวิตของเจ้าเป็นอันดับแรก เจ้าจะได้ไม่ต้องเสียเวลา”
จากนั้นแขนเสื้อยักษ์ของชายชุดคลุมสีทองพุ่งตรงไปหาหานลี่ในทันที
พร้อมกับเสียงระเบิดในอากาศ และแสงสีดำส่องประกายในแขนเสื้อ!
วินาทีต่อมา เกิดเกลียวคลื่นในอากาศธาตุด้านหน้าของหานลี่ที่อยู่ห่างออกไปกว่าสิบจั้ง จากนั้นแสงสีดำหนาทึบและเหล็กแหลมคมจึงส่องประกายออกมาโดยไม่มีสัญญาณใดๆ เมื่อเกิดแสงส่องประกาย สิ่งนั้นเข้าใกล้หานลี่อย่างน่าประหลาด
หานลี่หรี่ตา ทว่าไม่ได้หลบแต่อย่างใด และมีแสงสีทองสว่างส่องประกายอยู่ด้านหน้าเขา ร่างสีทองสามเศียรหกกรยืนขวางอยู่ด้านหน้าเขาอย่างเงียบๆ ครั้นเมื่อหกแขนโบกสะบัด เหล็กแหลมก็พุ่งออกไปอย่างบ้าคลั่ง
เมื่อเกิดเสียงดังกึกก้อง แสงสีทองพร่างพราวสว่างวาบด้านหน้าของร่างสีทอง จากนั้นจึงเกิดคลื่นลมรอบทิศทาง
ภายใต้การสั่นไหวของแขนทั้งหกของร่างสีทอง จากนั้นจึงค่อยๆ แตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ
ทว่าหลังจากถูกขัดขวาง แสงสีดำจึงหยุดไปชั่วขณะ แล้วม้วนกลับไปในทันที
ในขณะนี้ ม่านตาของหานลี่มีแสงสีฟ้าเปล่งประกาย ในที่สุดเขาก็เห็นใบหน้าที่แท้จริงของสิ่งที่พุ่งเข้ามา อันที่จริงคือกรงเล็บสีดำสนิทยาวราวๆ หนึ่งฉื่อ และนี้เป็นเพียงแค่ส่วนเล็กๆ เท่านั้น
ครึ่งหนึ่งของกรงเล็บ กระแทกเข้าหาหานลี่ในทันใด
ร่างสีทองที่อยู่ด้านหน้าของหานลี่มีแสงสีทองเปล่งประกายออกมาจากผิวกาย แขนทั้งหกปรากฏขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ค่อยๆ เลือนราง เงาหมัดสีทองจึงค่อยๆ ปรากฏขึ้น
ภายใต้เสียงคำรามดังกึกก้องอย่างต่อเนื่อง เงาหมัดสีทองกลายเป็นม่านสีทอง ผลักกรงเล็บสีดำสนิทออกไป ทำให้ไม่สามารถเข้าใกล้หานลี่ได้เลย
เมื่อชายชุดคลุมสีทองเห็นเช่นนั้น เขามีท่าทีแปลกใจเล็กน้อย ทว่าใบหน้าของเขากลับทรุดลงในทันที นิ้วในแขนเสื้อของเขาค่อยๆ ขยับ และกรงเล็บที่เหลือจึงปรากฏออกมา
ทว่าหานลี่กลับใช้โอกาสนี้ขยับแขนข้างหนึ่ง พร้อมทั้งส่งเสียงคำรามไปทางปูยักษ์สีทอง
“เครื่องสังเวยพร้อมแล้ว!”
นิ้วหนึ่งจมลงในหน้าอกของตน และเกิดแสงประกายราวกับสายฟ้าเมื่อดึงนิ้วกลับมา
ที่ปลายนิ้วมีหยดน้ำสีเขียวมรกต เพียงแค่สะบัดก็กลายเป็นลูกไฟสีเขียวพุ่งออกมา
ดวงตาขนาดใหญ่ของปูยักษ์สีทองหรี่ลง พร้อมทั้งพ่นลำแสงสีทองออกมาโดยไม่ลังเล จากนั้นแสงสีเขียวจึงกลิ้งลงมาและกลืนเข้าไปในท้อง
ทว่าทันทีที่ปูยักษ์ได้ลิ้มรสสิ่งที่อยู่ในท้อง ดวงตาที่หรี่ลงของมันกลับกลมโตขึ้นในทันใด
ในขณะนี้ กรงเล็บสีดำที่เหลือส่งเสียงหวีดร้องอยู่ด้านหน้าหานลี่ จากนั้นกลายเป็นดาบสีดำล้อมรอบหานลี่และทิ่มแทงอย่างดุเดือด
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่หานลี่ปล่อยของเหลวสีเขียวออกมา เขาจึงปล่อยร่างวิญญาณสีเขียวซีดของเขาโดยไม่ลังเล
มือทั้งสองของร่างกายฝ่ายวิญญาณเปลี่ยนเป็นเงากรงเล็บสีเขียวและร่วมมือกับแสงสีทองเพื่อต่อต้านแสงสีดำ แต่เห็นได้ชัดว่าในตอนนี้ทั้งกำลังเสียเปรียบ
ชายชุดคลุมสีทองที่อยู่ไกลออกไปพลิกฝ่ามือกลับในทันที ในมือของเขามีธงกระดูกขาวขนาดใหญ่และมีหัวกะโหลกนับไม่ถ้วนฝังอยู่ อีกทั้งดูเหมือนว่ามันกำลังสั่นไหว
“ลงมือเดี๋ยวนี้ ช่วยข้าสังหารร่างบรรพบุรุษนิพพาน!” แม้ว่าหานลี่จะไม่รู้ว่าธงกระดูกขาวนี้คืออาวุธลึกลับชนิดใด แต่แน่นอนว่าเขาไม่อยากลิ้มลอง ดังนั้นไม่ว่าของเหลวสีเขียวลึกลับจะตรงตามข้อกำหนดจริงๆ หรือไม่ เขาก็รีบตะโกนใส่ปูสีทอง
ทันใดนั้น เสียงพึมพำที่ทำให้หัวใจของหานลี่ผ่อนคลายก็ดังเข้าในหูของเขา “การสังเวยเป็นไปตามข้อกำหนด ข้าสามารถลงมือได้สามครั้ง โจมตีครั้งที่หนึ่ง!” ปูยักษ์สีทองตอบอย่างใจเย็น ก้ามปูยักษ์ทั้งสองพุ่งไปยังชายชุดคลุมสีทองทันที
“ไม่!”
เดิมทีชายชุดคลุมสีทองที่มีใบหน้าเคร่งขรึมกลับตื่นตระหนกเมื่อได้ยินและเห็นการกระทำของปูยักษ์สีทอง
ในฐานะที่เขาเป็นหนึ่งในบรรพบุรุษของเผ่าอสูรเพียงไม่กี่คนที่ได้เห็นพลังของปูสีทอง เขารู้ดีถึงความน่าสะพรึงกลัวของมัน และไม่สามารถต้านทานได้โดยใช้เพียงร่างอวตารของเขา
ดังนั้น หลังจากที่ได้เห็นการกระทำของปูยักษ์อีกครั้ง ทันใดนั้นเขาจึงโยนธงยักษ์ในมือไปข้างหน้าด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป หลังจากที่เขากระทืบเท้า และเกิดเสียงคำรามดังกึกก้อง เมื่อมีแสงเปล่งประกาย จึงเกิดลมสีดำพัดออกไปไกลหลายร้อยจั้ง
ทันทีที่ชายชุดคลุมสีทองหายไป แสงสีทองขนาดใหญ่สี่ดวงราวกับใบมีดยักษ์ปรากฏขึ้นที่ทั้งสองด้านของธงกระดูก หลังจาก จึงเกิดเสียงดังแควก
เมื่อแสงสีทองเปล่งประกาย ธงกระดูกขนาดใหญ่จึงถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ ทันที
“โจมตีครั้งที่สอง!” เมื่อปูสีทองเห็นเช่นนั้น เสียงของมันยังคงไม่รีบร้อน แต่ทันทีที่อ้าปาก ลำแสงสีทองก็พ่นออกมาในทันใด
ลำแสงเต็มไปด้วยแสงสีทอง หนาแน่นราวกับไหเก็บน้ำ แต่ความเร็วนั้นเร็วมากจนหานลี่แทบจะอธิบายไม่ได้ เพียงแค่มันอ้าปาก ส่วนอีกด้านหนึ่งแสงสีทองส่องประกายไปยังด้านหลังของชายชุดคลุมสีทองและทะลุผ่านไป