A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน - ตอนที่ 2123 เหมืองแร่ส่วนตัว
- Home
- A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน
- ตอนที่ 2123 เหมืองแร่ส่วนตัว
ดังนั้นท่ามกลางสายตาตกตะลึงของผู้พิทักษ์เผ่ามารสองสามคน หานลี่จึงตามวิญญาณม่วงขึ้นมาบนรถอสูรคันเดียวกัน
“กลับเมือง”
รถอสูรปิดม่านทั้งสองข้างลง ด้านในมีเสียงออกคำสั่งอันสดใสดังออกมา
พลขับตอบรับทันทีแล้วกระตุ้นอสูรมารสีดำที่ดูคล้ายโคแต่ก็ไม่ใช่โคสองสามตัว ทำให้รถอสูรและผู้พิทักษ์ต่างๆ เดินทางไปราวกับเหาะเหิน
ยามนี้บนรถมีหมอกลำแสงสีแดงเปล่งแสงสว่างวาบ แล้วกระตุ้นเขตอาคมลึกลับ
แทบจะในเวลาเดียวกันในรถอสูร หานลี่กลับเอ่ยกับวิญญาณม่วงด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“วิญญาณม่วงบางเรื่องข้าก็ไม่สะดวกจะซักถามหลันอิ่ง แต่ข้ารู้ว่าเจ้าเองก็มีอำนาจในทะเลสาบน้ำตกสีคราม ยามนี้ต้องให้เจ้าช่วยข้าหาความจริงของเผ่ามารที่มีนามว่า ‘อู๋โยว’ ยิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี คนผู้นี้อาจจะเป็น…
วิญญาณม่วงฟังคำพูดของหานลี่อยู่ในรถไปพลาง เผยสีหน้าตกตะลึงไปพลาง!
……
สองสามชั่วยามต่อมาหานลี่ก็มาปรากฏตัวหน้าโรงเตี๊ยมเพียงลำพัง และเดินเข้ามาด้วยท่าทีทระนงองอาจ
แม้ว่าการที่เขากว้านซื้อทองคำมารจำนวนมากจะเป็นการดึงความสนใจ แต่ทั้งๆ ที่รู้ว่าเขาเป็นสิ่งมีชีวิตระดับหลอมสุญตาขั้นปลาย แต่กลับไม่มีขุมอำนาจใดที่กล้าส่งคนไปสะกดรอยตามหรือจับตาดูอย่างลับๆ
ถึงอย่างไรเสียเขาที่มีพลังยุทธ์มาถึงขั้นนี้ หากอยากจับตาดูหรือสะกดรอย คนที่ส่งมาย่อมต้องมีพลังยุทธ์ไม่ต่ำต้อยเท่าใดนัก
แต่เผ่ามารระดับหลอมสุญตา จะยอมทำเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร
ผลคือหานลี่กลับมายังโรงเตี๊ยมในครั้งนี้ ก็ปิดประตูไม่ออกมาทันใด รอให้ถึงวันที่สอง ถึงได้ออกมาอย่างสดชื่นอีกครั้ง
ครั้งนี้เขาย่อมมาเพราะนัดที่นัดไว้กับอู๋โยว
เดิมเขาให้ความสำคัญกับไข่มุกผลึกในทองคำมารมาก ยามนี้ยิ่งเกี่ยวข้องกับลำแสงหยินหยางเบญจธาตุเที่ยงแท้ ย่อมต้องเอามาให้ได้
แม้ว่าจะเป็นทองคำมารที่อู๋โยวจัดหามาก็ไม่แน่ว่าจะพบไข่มุกผลึกนั้นจริงๆ
แต่จำนวนมากขนาดนี้ ก็ทำให้หานลี่รู้สึกเฝ้ารอ
มาถึงหน้าห้องโถงหน้าลาที่พบกันเมื่อวาน บุรุษและสตรีเผ่ามารที่หน้าตาคุ้นเคยสองคนกำลังรักษาการณ์อยู่ที่ประตู เมื่อเห็นหานลี่มาตามนัดย่อมเข้ามาต้อนรับอย่างยินดี
“ท่านอาวุโสหาน เชิญเข้ามาขอรับ พี่อู๋โยวกำลังรอท่านมาเยือนอยู่!”
“อืม ข้าเข้าใจแล้ว” หานลี่พยักหน้าอย่างราบเรียบ ร่างกายพลิ้วไหวเข้าไปในประตูห้องรับแขก
บุรุษและสตรีเผ่ามารสองคนที่อยู่นอกประตูจึงรีบปิดประตูลง จากนั้นก็รักษาการณ์อยู่ที่ประตูต่อ ท่าทางระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง
ในห้องโถงหานลี่เห็นอู๋โยวและบุรุษสตรีเผ่ามารคนอื่นๆ
“พี่หาน ในที่สุดก็มาแล้ว ข้าน้อยรอมานานแล้ว” อู๋โยวบุรุษเผ่ามารผู้นี้เห็นหานลี่ ก็มีสีหน้าดีใจอย่างปิดไม่มิด โบกมือเชิญให้หานลี่นั่ง
“ผู้แซ่หานไม่ได้มาสาย แต่สหายอู๋โยวนั้นมาเร็วไปหน่อย เอาล่ะ อย่าเสียเวลาเลย! พวกเราไม่ต้องพูดพล่ามให้เสียเวลา เริ่มแลกเปลี่ยนกันเถิด หวังว่าของของเจ้า จะทำให้ข้าพอใจได้” หานลี่ไม่มีเจตนาจะทักทาย หลังจากนั่งลงก็เอ่ยอย่างตรงไปตรงมาทันที
หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นได้ยินคำนี้สีหน้าย่อมไม่ค่อยดีนัก
“พี่หานเปิดเผยดีจริงๆ เอาล่ะ เริ่มแลกเปลี่ยนเถิด!”
อู๋โยวที่อยู่ตรงข้ามหานลี่ได้ยินกลับตรงใจของเขาพอดี ทันใดนั้นก็สะบัดแขนเสื้ออย่างไม่ต้องขบคิด แผ่นป้ายสองสามแผ่นเปล่งแสงสว่างวาบแล้วหายวับไปจากรอบด้าน ชั่วขณะนั้นม่านลำแสงต้องห้ามพลันคลี่ออกมาห่อหุ้มทั้งสองเอาไว้ข้างใน
จากนั้นบุรุษเผ่ามารก็พลิกฝ่ามือข้างหนึ่ง กำไลเก็บของสีฟ้าอ่อนปรากฏขึ้นในมือ แล้วเอ่ยด้วยใบหน้าที่ประดับไปด้วยรอยยิ้ม
“ทองคำมารที่สหายต้องการอยู่ในนี้ เชิญพี่หานตรวจสอบจำนวนและคุณภาพว่าพอใจหรือไม่?”
สิ้นเสียงอู๋โยวก็โยนกำไลเก็บของมา คาดไม่ถึงว่าจะไม่มีท่าทีลังเลเลยสักนิด
หานลี่เห็นเช่นนั้นย่อมประหลาดใจเล็กน้อย แต่เมื่อคิดอีกทีกลับอดที่จะนับถือท่าทางของคนผู้นี้ไม่ได้
ทว่ามารตนนี้ก็เตรียมการสำรองเอาไว้แล้ว จึงไม่กลัวว่าเขาจะไม่จ่ายศิลามารจริงๆ
“เช่นนั้นข้าน้อยขอนับก่อนแล้วค่อยว่ากัน” หานลี่ตอบกลับด้วยสีหน้าราบเรียบ ยกมือขึ้นคว้ากำไลเก็บของสีฟ้าเอาไว้ และแตะที่หน้าผากเบาๆ ชั่วพริบตาจิตสัมผัสก็กลายเป็นเส้นไหมจำนวนนับไม่ถ้วนแทรกเข้าไปด้านใน
อู๋โยวไม่ได้เคลื่อนไหว แค่จับจ้องหานลี่ไม่ปริปาก ท่าทางรอคอยผล
ผ่านไปเป็นเวลาหนึ่งกาน้ำชา หานลี่ขยับเปลือกตาเล็กน้อย ในที่สุดก็ลืมตาขึ้น แต่ใบหน้ากลับไร้ความรู้สึก ดูไม่ออกว่าดีใจหรือว่าโกรธเกรี้ยว
อู๋โยวเห็นเช่นนั้นร่างกายก็แข็งทื่อไปเล็กน้อย แต่โชคดีที่ประโยคต่อมาของหานลี่ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายลง
“ไม่เลว เหมือนกับที่เจ้าพูดเอาไว้ ล้วนเป็นทองคำมารระดับสุดยอด ในเมื่อเป็นเช่นนั้นข้าน้อยก็จะจ่ายตามราคาที่ตกลงกันไว้” หานลี่เอ่ยไปพลาง ควานหากำไลเก็บของสีดำสนิทออกมาจากแขนเสื้อ สะบัดข้อมือแล้วโยนออกไปไปพลาง
อู๋โยวพลันรู้สึกดีใจคว้าของตรงหน้ามาทันที แล้วแผ่จิตสัมผัสเข้าไปด้านในเช่นกัน
ไม่เหมือนกับหานลี่ ทว่าเพียงชั่วครู่บุรุษเผ่ามารก็ชักจิตสัมผัสกลับมาอย่างพึงพอใจ หลังจากเก็บกำไลเก็บของไปแล้วก็ประสานกำปั้นคารวะพลางเอ่ยด้วยหานลี่ด้วยใบหน้าที่ประดับไปด้วยรอยยิ้ม
“สหายหานเป็นคนรักษาคำพูดดังคาด จำนวนศิลามารไม่เลวยามนี้ข้าและสหายนับว่าชัดเจนต่อกันแล้ว”
“ในเมื่อการแลกเปลี่ยนไม่มีปัญหา ข้าน้อยก็จะไม่รั้งอยู่ที่นี่นานอีก ขอตัวลา” หานลี่ยืนขึ้นด้วยสีหน้าสงบนิ่ง แล้วเอ่ยอย่างราบเรียบ
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้วข้าน้อยก็จะถอนอาคมทันที” อู๋โยวไม่มีเจตนาจะรั้งรอเช่นกัน จึงตกลงแล้วยืนขึ้น
เห็นเพียงเขาใช้มือหนึ่งร่ายอาคม ชั่วขณะนั้นรอบด้านพลันมีเสียงอึกทึกดังขึ้น ม่านลำแสงแหวกออก
หานลี่พลิ้วกายสาวเท้าเดินออกไป
แต่เมื่อเขามาถึงประตู ก็หยุดชะงักฝีเท้า ฉับพลันนั้นก็หันหน้ามาเอ่ยถาม
“สหายอู๋โยวบอกที่มาของทองคำมารที่เป็นรูปธรรมกับข้าน้อยได้หรือไม่ ขอแค่สหายยอมพูด ข้าก็ยอมจ่ายศิลามารให้อีกหนึ่งในสามส่วนจากเมื่อครู่ ถือเป็นค่าตอบแทน”
อู๋โยวได้ยินหานลี่กล่าวเช่นนี้ก็ใจสั่น หน้าเปลี่ยนสีไปสองสามคราไม่ได้ตอบอันใดทันที
บุรุษและสตรีเผ่ามารคนอื่นๆ พลันเกิดความวุ่นวายขึ้นใบหน้าล้วนเผยสีหน้าละโมบออกมา
“แม้ว่าสหายจะลงมืออย่างใจกว้าง แต่น่าเสียดายเรื่องนี้ข้าน้อยไม่สะดวกจริงๆ ทำได้เพียงขอบคุณเจตนาดีของพี่หานแล้ว” อู๋โยวขบคิดอย่างรวดเร็ว หลังจากระงับความตื่นเต้นจนเกือบจะหลุดปากตกลงไปแล้ว ก็สั่นศีรษะอย่างยากลำบาก
“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ข้าน้อยก็จะไม่บังคับ” หานลี่มองลึกเข้าไปในแววตาของบุรุษแวบหนึ่ง เดินออกจากห้องโถงใหญ่อย่างไม่ลังเลอีก
อู๋โยวยืนอยู่ที่เดิม มองไปยังประตูศาลา สีหน้าบัดเดี๋ยวเคร่งขรึมบัดเดี๋ยวสดใส
แม้ว่าเมื่อครู่หานลี่จะไม่ได้เอ่ยอันใดมากนัก แต่แววตาแปลกประหลาดยามสุดท้ายก็ยังทำให้เขารู้สึกขนลุกซู่ และรู้สึกลางไม่ดี
“พี่ใหญ่ ในเมื่ออีกฝ่ายอยากถามหาที่มาของทองคำมารเหล่านี้ บอกตำแหน่งเหมืองแร่ส่วนตัวกับเขาไปก็ได้แล้ว ถึงอย่างไรเสียพวกเราก็จะไปแล้ว ต่อให้เขาคิดจะสืบหาอันใด ก็ไม่ทันแล้ว ศิลามารจำนวนมากขนาดนั้นไม่เอาก็เปล่าประโยชน์!”สตรีเผ่ามารทนไม่ไหวพลางเอ่ยขึ้น
“หึ มันง่ายดายเช่นนั้นที่ไหนกัน พวกเราไม่รู้ที่มาของคนผู้นั้น แม้ว่าเขาจะเป็นคนนอก แต่บอกเหมืองแร่ส่วนตัวกับคนอื่นซี้ซั้ว ล้วนอาจจะเปิดโปงพวกเราได้ พวกเจ้าอย่าดูถูกขุมอำนาจต่างๆ ที่อยู่ในเมือง เอาล่ะ ยามนี้ได้ศิลามารมาแล้ว พวกเราก็เริ่มออกจากเมืองน้ำตกสีครามในทันทีเถิด พอออกจากประตูเมืองทุกคนก็ทำตามแผนที่วางไว้คือรีบไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด รอให้ทุกอย่างปลอดภัย พวกเราค่อยมารวมตัวกันอีกครั้งที่เมืองผาสิงโต” อู๋โยวแค่นเสียงอย่างเย็นชา ตำหนิสองประโยค แล้วออกคำสั่งอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด
บุรุษและสตรีเผ่ามารคนอื่นๆ ย่อมไม่กล้าขัดขืนอันใด จึงตอบรับทันที
และในยามนี้หานลี่ก็นั่งอยู่บนรถอสูรคันหนึ่งที่กำลังแล่นไปบนถนน
เขาที่นั่งอยู่ตรงมุมรถอสูรคาดไม่ถึงว่าจะนำทองคำมารสีดำขาวมาควงเล่นด้วยสีหน้าตื่นเต้นดีใจ และยิ่งไปกว่านั้นปากก็ใช้น้ำเสียงที่แผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยินเอ่ยพึมพำว่า
“ในที่สุดก็หาพบแล้ว ของอยู่ในมือของคนกลุ่มนั้นจริงๆ ด้วย”
ในกำไลเก็บของที่พวกได้มาใหม่ และทองคำมารที่อยู่ในมือของเขามีกลิ่นอายพิเศษเช่นเดียวกัน และมีมากถึงยี่สิบกว่าก้อน
นี่จึงทำให้หานลี่ไม่สงสัยอีก ในมือของอู๋โยวจะต้องมีของที่เขาตามหาอีก
และหากไม่ใช่ว่าสถานที่แลกเปลี่ยนคือย่านคึกคักในเมืองน้ำตกสีคราม เขาคงสำแดงอิทธิฤทธิ์จับเป็นคนพวกนั้น จากนั้นก็ใช้เคล็ดวิชากระชากวิญญาณเอาข่าวที่ตนอยากรู้มาแล้ว
ทว่ายามนี้เขาก็ไม่ได้กังวลใจอันใดมากนัก
ในเมื่อรู้ว่าพวกของอู๋โยวเป็นเป้าหมายที่ตนตามหา เขาย่อมผนึกจิตสัมผัสไว้ในร่างของคนผู้นี้ระหว่างที่ทำการแลกเปลี่ยนโดยที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้
รอให้พวกเขาออกจากเมืองน้ำตกสีคราม ก็จะตามไปอย่างเงียบๆ แล้วจับเป็นพวกเขาให้หมด
หานลี่ขบคิดในใจ ในมือเปล่งแสงสว่างวาบ ทองคำมารสลายหายไป ส่วนตนก็ระงับความตื่นเต้นในใจเอาไว้ เริ่มหลับตานั่งสมาธิอยู่ภายในรถอสูร
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว สองสามชั่วยามต่อมารถอสูรก็มาปรากฏด้านหน้าประตูของโรงเตี๊ยมอีกครั้ง
แต่รอให้เขาลงจากรถกลับมองเห็นเผ่ามารเกราะสีดำหน้าตาค่อนข้างคุ้นเคยคนหนึ่งที่ข้างประตู หลังจากหน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย ก็เปล่งแสงสว่างวาบผ่านข้างกายเผ่ามารผู้นั้นแล้วเข้าไปในโรงเตี๊ยม
ส่วนเผ่ามารผู้นั้นเห็นหานลี่ใบหน้ากลับอดที่จะเผยสีหน้ายินดีออกมาไม่ได้ หลังจากเข้ามาในประตู ก็ตามติดมาด้วยท่าทีนอบน้อมทันที
หลังจากผ่านไปชั่วครู่ในห้องลับของหานลี่ เผ่ามารชุดเกราะสีดำผู้นั้นก็ส่งแผ่นศิลาสีเขียวให้หานลี่ด้วยมือทั้งสองข้างอย่างนอบน้อม
หานลี่รับแผ่นศิลามาแปะตรงหน้าผากแล้วตรวจสอบอย่างละเอียด เวลาผ่านไปดวงตาทั้งสองข้างค่อยๆ หรี่ลง
“เอาล่ะ ข้าดูแล้ว เจ้ากลับไปรายงานเจ้านายของเจ้า ข้าพอใจมาก” ในที่สุดหานลี่ก็หยกแผ่นหินออกจากหน้าผาก และถูมือกลายเป็นผุยผง แล้วถึงได้ออกคำสั่งกับเผ่ามารชุดเกราะสีดำตรงหน้าด้วยสีหน้าราบเรียบ
“ขอรับ ใต้เท้า! ข้าน้อยขอตัวลาก่อนขอรับ” เผ่ามารชุดเกราะสีดำค้อมตัวลงตอบรับแล้วถอยออกไปจากห้อง
“หึๆ คาดไม่ถึงว่าจะแอบสร้างเหมืองส่วนตัว! เช่นนั้นทุกอย่างก็กระจ่างแล้ว” หานลี่เงยหน้าขึ้นมองเพดาน เอ่ยพึมพำ ใบหน้าเผยสีหน้าโหดเหี้ยมออกมา