A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน - ตอนที่ 2158 มหาสงครามแดนพฤกษา (5)
- Home
- A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน
- ตอนที่ 2158 มหาสงครามแดนพฤกษา (5)
แม้ว่าชาวแดนพฤกษาจะไม่ได้มีวิชาที่พิเศษอะไร แต่พวกเขาก็เคยผสานพลังต่อสู้มาหลายครั้ง ดังนั้นการโจมตีของพวกเขาจะจู่โจมรอบทิศ ไม่เว้นจังหวะให้ศัตรูพักหายใจเลย
มารทั้งสี่โดนโจมตีอยู่ตรงกลาง พวกเขาหันหลังชนกัน จากนั้นก็ส่งพลังฝ่ามือออกไปทั่วทุกทิศ
มือทั้งสี่ประสานกันเบาๆ แต่สักพักก็เกิดลมกรรโชกแรงขึ้น และกลิ่นคาวเลือดลอยโฉยออกมา
ในระลอกคลื่นสีเลือดนั้น ดวงตาของเขาเห็นอักษรรูนสีดำลอยออกมาจางๆ พร้อมกลิ่นคาวเลือดเสียดจมูก
บรรยากาศชวนน่าขนลุกก็เกิดขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นแสงสีเขียวหรือจิตวิญญาณงูสีเขียวก็มีกลิ่นคาวเลือดโฉยออกมาทั้งนั้น จากนั้นก็เห็นว่าความเร็วมันค่อยๆ ลดลงไปและระเหยไปในที่สุด
สีหน้าของผู้คุ้มกันเผ่าพฤกษาเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง พวกเขายกแขนขึ้นของวิเศษต่างๆ ก็ลอยขึ้นฟ้าในเวลาไล่เลี่ยกัน จากนั้นพวกมันแตกละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยจำนวนนับไม่ถ้วน
ปีศาจทั้งสี่ก็ตบมืออีกข้างขึ้น สายฟ้าก็ปรากฏออกมา
ขณะเดียวกันคลื่นพลังสีเลือดก็ระเบิดออก กลิ่นคาวเลือดมากขึ้นกว่าเดิม และในนั้นก็มีอักษรรูนสีดำขนาดใหญ่มากมาย
“ตู้มๆ” เสียงระเบิดดังต่อเนื่อง
ของวิเศษทั้งหมดเลอะกลิ่นคาวเลือด
มารทั้งสี่หัวเราะเสียงเย็น ชั่วขณะนั้นคลื่นอากาศสีเลือดก็ปะทุออกมาอย่างรุนแรง ด้านในมีอักษรรูนสีดำวนไปวนมา จากนั้นก็หมุนวนจนกลายเป็นกระแสน้ำวนขนาดต่างๆ มีแสงสว่างวูบวาบไปมา ดูเหมือนว่าพวกมันจะตั้งใจฆ่าผู้คุ้มกันเผ่าพฤกษาที่อยู่โดยรอบ
“หนีเร็ว” เฟยเสี่ยวซีที่ยืนมองสถานการณ์อยู่บนท้องฟ้า ก็ตะโดนขึ้นมาเสียงดัง สีหน้าของนางเปลี่ยนไปทันที นางแบมือท่ามกลางความว่างเปล่า จากนั้นมีดสั้นสีใสแวววาวราวกับคริสตัลก็ปรากฏออกมา
“ฟิ้ว” ปราณกระบี่สีขาวก็ปรากฏออกมาจากมีดสั้นเล่มนั้น จากนั้นก็ฟันลงที่คลื่นอากาศสีเลือด
แม้ว่านางจะไม่ได้เป็นคนเผ่าพฤกษา แต่หากทุกคนตายหมดละก็ นางคงจะรับมือลำบาก
ในเวลานั้น คนเผ่าพฤกษาก็ได้ยินคำเตือนของเฟยเสี่ยวซี พวกเขาจึงตกใจและค่อยทยอยถอยทัพออกมา แต่มีสองคนที่ไหวตัวไม่ทัน หลังจากที่โดนคลื่นอากาศสีเลือดนั้นเข้าไปศาสตราคมปกป้องตัวเองและลำแสงวิญญาณก็ถูกทำลายทันที สองเสียงกรีดร้องอย่างโหยหวน และร่างกายก็โดนระเบิดไป แก่นปราณสองเส้นโดนคลื่นอากาศสีเลือดดูดเข้าไปจนหมด
เมื่อคนเผ่าพฤกษาได้เห็นดังนั้นแล้ว ใบหน้าก็ซีดขาวขึ้นมา
ยังดีที่มีปราณดาบสีขาวขนาดใหญ่โผล่ออกมาช่วย
คลื่นอากาศสีเลือดถูกผ่ากลางการโจมตีครึ่งแรกยังมีเสียงดัง “ตู้ม” แต่ครั้งต่อๆ ไปกลับไร้เสียง
แม้ว่าคลื่นอากาศสีเลือดนี้จะลึกลับอย่างมาก แต่มันก็ไม่สามารถทนการโจมตีของเฟยเสี่ยวซีได้
เผ่าพฤกษาคนอื่นๆ ที่รอดมาได้ ก็รีบไปหลบใกล้รัศมีลำแสงห้าสี แต่สีหน้าของพวกเขายังดูตกตะลึงอยู่ มารทั้งสี่ได้แสดงความยอดเยี่ยมของวิชามารโลหิตอนันต์ ก็ถือว่าห่างไกลจากที่พวกเขาจินตนาการไว้มาก
“เหมือนว่าเจ้าตั้งใจจะออกโรงเองแล้วสินะ น่าจะทำเช่นนี้ตั้งนานแล้ว แต่มันก็เปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ไม่ได้หรอก สุดท้ายแล้วเจ้าก็จะเหมือนพวกเขา โดนข้าดูดแก่นปราณไปจนหมดอย่างไรเล่า คชสี่ประสาน”
มารทั้งสี่ร่ายคาถาพร้อมกัน เดิมทีพวกเขามีแสงสีเลือดส่องประกายออกมาจากด้านหลัง
เมื่อเฟยเสี่ยวซีเดินดังนั้นโดยไม่คิด พร้อมกับสะบัดแขนเสื้อทั้งสองหลังจากมีเสียงดังเกิดขึ้น ลูกบอลแสงสีเลือดสองก้อนก็โจมตีออกมา
คริสตัลส่องแสงแปร๊บๆ จากนั้นลมพายุลูกใหญ่กันเกิดขึ้น ประจุสายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนก็ปล่อยลงมา จากนั้นมันก็กลายเป็นดาบใหญ่สีขาวหยกยาวมากกว่าสิบจั้ง พุ่งเข้าโจมตีลูกบอลสีเลือดอย่างรุนแรง
ก่อนที่มีดจะตกลงไปจริงๆ มีดวายุและประจุสายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนก็ส่งเสียงดังก้อง หลังจากแสงสีเลือดกำลังเลือนราง แต่กลับมีปราณสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนรวมตัวกลายร่างเป็นสัตว์ประหลาดหัววานรตัวหมาป่า
ปีกค้างคาวสีเขียวมรกต กายสีแดงสด ปากมีเขี้ยวคล้ายงูงอกออกมา ดวงตาแดงก่ำแววตาเต็มไปด้วยความดุร้าย แค่มองก็รู้ว่ามันระดับวิญญาณสูงมาก
สัตว์ประหลาดสองตัวนี้มีกงเล็บห้าเล็บ ตัวละสองมือ จากนั้นพวกมันก็ส่งเสียง “ซี่ๆ” ดังออกมา สองปีกก็กระพือขึ้นเล็กน้อย จากนั้นมันก็คำรามเสียงต่ำแล้วกระโดดลงไป
“ตู้ม!”
หมัดที่เต็มไปด้วยขนปุกปุยสีดำก็โจมตีมีที่รัศมีแสงด้านล่าง พอดีที่มีดใหญ่โจมตีเข้าพอดี มันไหวตัวทัน ร่างกายจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ ตรงพื้นที่ว่างเปล่ามีเสียงดังคล้ายฟ้าร้อง คลื่นเสียงค่ายกลสีเลือดก็ระเบิดออกมา สัตว์ประหลาดหัววานรตัวหมาป่าสองตัวนั้นโดนคลื่นเสียงโจมตีสองปีกแข็งค้าง และค่อยๆ ตกลงพื้น ในขณะเดียวกันเสียงระเบิดก็ดังขึ้นจากความว่างเปล่า ระลอกคลื่นก็ปรากฏขึ้นหมัดยักษ์สีเลือดก็ค่อยปรากฏขึ้นอย่างเลือนราง และโจมตีดั่งสายฟ้า สัตว์ประหลาดหัววานรตัวหมาป่าทั้งสองตัวบินชนกันเอง บินไปบินมาก็บินออกไปไกลนับสิบจั้ง
ภายใต้การระเบิดครั้งนี้ ตัวมันหายไปมากกว่าครึ่งตัว
หลังจากหมัดสว่างวาบอีกครั้ง มันก็หายไปอย่างประหลาด เหมือนกับมันไม่เคยปรากฏตัวขึ้นมาก่อน
เฟยเสี่ยวซีที่เห็นเหตุการณ์ดังนั้นก็สูดลมหายใจเข้าด้วยความตกตะลึง แต่ก็รีบยกมือข้างนึงมาร่ายคาถา มีดขนาดใหญ่กลับคืนร่างเดิม กลายเป็นมีดสั้นเล่มเล็ก ลอยมาที่มือข้างนั้น ส่วนมืออีกข้างรีบร่ายอาคมทำลายสัตว์ประหลาดสองตัวนั้น
ทันใดนั้นเองสัตว์ประหลาดทั้งสองตัวก็ลุกขึ้นอย่างโงนเงนเดิมทีกายเนื้อของมันเลือนรางเต็มที มันก็ฟื้นพลังเท่ากับตอนแรก และส่งเสียงคำรามต่ำๆ อย่างชั่วร้าย แต่กลับไม่กล้าบินเข้ามาตรงๆ แล้ว
มันเปราะบางเหมือนเครื่องลายครามที่แตกง่าย หลังจากละอองแสงทั้งหมดมารวมตัวกันแล้ว ก็มียักษ์ขนสีเลือดเต็มทั้งตัวปรากฏขึ้นในตัวเดิม
ขนของมันเป็นสีเลือด ดวงตาสีเขียวมรกต ใบหน้ามีแต่ขนยาวรุงรัง หลังจากที่กำมือสองข้างเบาๆ ภายในร่างกายก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น ในเวลานั้นเองนางก็รู้สึกได้ถึงปราณที่น่ากลัวของระดับผสานอินทรีย์ขั้นปลายพวยพุ่งออกมา กลายเป็นเส้นสีแดงเลือดวิ่งล้อมรอบตัวของมันไม่หยุด
เป็นพลังที่น่าตกใจอย่างมาก
บรรยากาศแปลกๆ ราวกับว่า พวกเราไม่สามารถเข้าใกล้ยักษ์ขนแดงตัวนี้ได้เลย
สีหน้าของเฟยเสี่ยวซีที่ลอยตัวบนท้องฟ้าก็มืดครึ้ม นางรู้ว่าตอนนี้นางได้เจอกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งมากจริงๆ ในตอนนั้นนางก็ได้สั่งการให้เผ่าพฤกษาจู่โจม นางพลิกฝ่ามือขึ้นมาข้างหนึ่ง ธงสีเขียวมรกตก็ปรากฏขึ้น และพุ่งเข้าโจมตีสัตว์ประกลาดตัวนั้น บริเวณโดยรอบก็เกิดรัศมีลำแสงห้าสีขึ้น มันถูกควบคุมด้วยอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็น คนเผ่าพฤกษาเหล่านั้นรู้สึกเพียงแค่พวกเขาเหมือนกำลังตกลงไป ราวกับว่ามือใครกำลังดึงพวกเขา
แต่คนเผ่าพฤกษาเหล่านั้นกลับไม่ตกใจ ปากกลับท่องอาคมอยู่ตลอด หลังจากที่ร่างกายส่องแสงสีเขียว พวกเขาก็กลับมาอยู่สภาพปกติ แต่ชายผมแดงเลือด ก็แค่เกิดอาการสั่นเล็กน้อย และไม่มีอะไรผิดปกติอีก
แต่การเคลื่อนไหวของหญิงเผ่าเยี่ยชากลับทำให้สี่มารโกรธ หลังจากที่มันคำรามด้วยความโกรธออกมา หมัดข้างหนึ่งของมันก็ต่อยขึ้นฟ้าอย่างรุนแรง
ตอนนั้นเองก็เกิดระลอกคลื่นสีเลือดที่จำนวนมากกว่าครั้งก่อนหลายเท่าพุ่งออกมาจากแขนข้างนั้นอย่างบ้าคลั่ง กลายเป็นมังกรแดง พุ่งเข้าโจมตีเฟยเสี่ยวซี
ขณะเดียวกันเส้นสีแดงที่วิ่งวนรอบตัวชายขนแดงก็กรีดร้องเสียงแหลม ก้อนเมฆสีเลือดลอยออกมาจากพวกมัน ใบหน้าของเฟยเสี่ยวซีเย็นชาขึ้นอีก ปีกด้านหลังสยายขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด ทหารเผ่าพฤกษาก็กลิ้งหนีออกมาด้านข้าง ในตอนนั้นอักษรรูนสีทองจำนวนนับไม่ถ้วนก็ปรากฏขึ้นตรงหน้านาง จากนั้นมันก็รวมตัวกันกลายเป็นกระบี่สีทองสิ้นเสียงตะโกนดังลั่นนางก็พุ่งเข้าจู่โจมทันที
เมื่อนางอ้าปากแสงสีขาวก็พุ่งออกมาจากปากของนาง ด้านในมีหอเล็กๆ อยู่ มีลมพัดอีกที หอนั้นก็กลายเป็นหอที่มีความสูงกว่าสิบจั้ง
หลังจากที่สัตว์ประหลาดหัววานรตัวหมาป่ากรีดร้องเสียงยาวเสร็จ ในขณะเดียวกันผู้คุ้มกันเผ่าพฤกษาที่อยู่โดยรอบก็ทยอยถอยเข้ามาอยู่ในรัศมีลำแสงห้าสี เพื่อใช้พลังป้องกันคลื่นอากาศสีเลือด และยังใช้โอกาสค้นหาอาวุธวิเศษที่จะเอามาโจมตียักษ์ขนแดงนี่ด้วย ร่างของหานลี่ปรากฏตัวขึ้นในรัศมีลำแสงห้าสี จากนั้นร่างกายของเขาก็เลือนหาย และไม่เห็นอีกแล้ว
วินาทีต่อมา ในห้วงมิติเวลาสีเทา นักพรตเซี่ยยืนเอามือไพล่หลังอยู่ตรงนั้น บริเวณไม่ใกล้ไม่ไกลกลับมีศพสองศพสีดำไหม้เกรียมลอยอยู่กลางอากาศ ในมิตินั้นยังมองเห็นพื้นดิน มันเต็มไปด้วยหลุมบ่อขนาดไม่เท่ากัน ราวกับว่าที่แห่งนี้เพิ่งเกิดสงครามครั้งใหญ่มา
“พี่เซี่ย ท่านนี่มีฝีมือจริงๆ ครู่เดียวท่านก็สามารถจัดการจอมมารได้สองตน ข้าน้อยแซ่หานนับถือท่านจริงๆ” หานลี่หัวเราะเบาๆ ปากก็กล่าวชมยกใหญ่
“ไม่เท่าไร จอมมารสองตนนี้มาแสดงอิทธิฤทธิ์สายฟ้าต่อหน้าข้า ก็เลยตายเร็วเท่านั้น” นักพรตเซี่ยตอบกลับอย่างไร้อารมณ์
“มิว่าอย่างไร ตอนนี้จอมมารทั้งสามตนก็จัดการเรียบร้อยแล้ว พวกเราไปช่วยสหายเฟยดีกว่า มารระดับหลอมสูญสี่ตนนั้นไม่ใช่ธรรมดา รีบไปจัดการจะได้สบายใจ”
หานลี่หัวเราะและพูดอย่างไม่ใส่ใจ