A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน - ตอนที่ 2174 พลานุภาพของเคราะห์สวรรค์
- Home
- A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน
- ตอนที่ 2174 พลานุภาพของเคราะห์สวรรค์
ต่อมาลำแสงสีเขียวพลันส่งเสียงอึกทึกดังขึ้น ไอสีเขียวแยกออกมาจากดวงลำแสง และเปล่งแสงสว่างวาบกลายเป็นต้นไม้ยักษ์
ต้นไม้ยักษ์เหล่านั้นสูงประมาณห้าหกจั้ง ผิวเปล่งแสงสีเขียวอ่อนๆ ออกมา หนักอึ้งอย่างหาที่เปรียบ แข็งแกร่งราวกับเหล็กกล้า เมื่อปรากฏขึ้นกลางอากาศก็ส่งเสียงกรีดร้อง อันน่าตกตะลึงแล้วร่อนลงมาจากกลางอากาศ
หานลี่ที่อยู่ด้านล่างเห็นสถานการณ์นี้ก็มีสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง แต่มือหนึ่งพลันร่ายอาคมกระตุ้น กลางอากาศมีเสียงเพรียกแหลมๆ ดังขึ้น กระบี่ลำแสงสีเขียวจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏออกมา หลังจากสั่นเทาเล็กน้อย ก็ส่งเสียงฟู่ๆ แหวกอากาศดังมา!
กระบี่ลำแสงทั้งหมดกลายเป็นกระบี่เส้นไหม ตัดสลับกันไปมาแล้วกลายเป็นตาข่ายยักษ์
เห็นเพียงเส้นไหมสีเขียวแวววาวเปล่งแสงสว่างวาบ ไม้ยักษ์ทยอยกันถูกทุบตีจนแตกราวกับเศษกระดาษ
ไม่ว่าไม้ยักษ์จะมาอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย แต่ตาข่ายกระบี่สีเขียวที่สับลงมาก็ไม่อาจก้าวข้ามไปอีกขั้นได้
จากนั้นเวลาก็ไหลผ่านไป ตาข่ายกระบี่ที่ปะทะกับไม้ยักษ์ที่ร่อนลงมาพลันม้วนวนไปทีละก้าวๆ
แต่เมฆสีเขียวกลางอากาศยิ่งบวมพองใหญ่ขึ้น ในเวลาเดียวกันไม้ยักษ์ที่ร่อนลงมาก็ยิ่งใหญ่ขึ้น ประตูยักษ์ความยาวสิบจั้งเศษกลายเป็นเงาสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนทุบลงมา
แต่ตาข่ายกระบี่คือสิ่งที่หานลี่ใช้กระบี่ไผ่เขียวตัวต่อเมฆาเจ็ดสิบสองเล่มสร้างขึ้น!
เขาที่มีพลังยุทธ์ขนาดนี้ กระบี่บินแทบจะทุกเล่มล้วนอยู่ในระดับเทียบเท่ากับสมบัติวิญญาณ เรียกได้ว่าแหลมคมไม่เป็นสอง แม้ว่าไม้ยักษ์เหล่านั้นจะร่อนลงมาดุดันมากกว่าเดิม แต่ก็ยังคงไม่อาจรับพลังของกระบี่เส้นไหมได้
หลังจากเสียงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตาข่ายกระบี่ก็จมหายไปจากท้องฟ้า รวมตัวกันแล้วแยกออกอีกครั้ง กลายเป็นสายรุ้งสีเขียวเจ็ดสิบสองสายเปล่งแสงสว่างวาบทยอยกันทะลวงผ่านลำแสงสีเขียวใกล้ๆ กัน กลายเป็นม่านกระบี่
ชั่วขณะนั้นเมฆทั้งหมดก็ระเบิดเสียงเพรียกออกมาแล้วสลายออก หลังจากหมุนวนรอบหนึ่งก็พุ่งกลับไปด้านล่าง และทยอยกันเปล่งแสงสว่างวาบจมหายไปกลางอากาศอย่างไร้ร่องรอยอีกครั้ง
หานลี่ลอยอยู่กลางรัศมีลำแสงสีม่วงทอง เพ่งมองทุกอย่างด้วยตาที่ไม่กะพริบ
หลังจากมองอยู่ชั่วครู่ด้านล่างเมฆสีดำ ก็มีดวงลำแสงแผ่ออกมาแล้วหมุนติ้วๆ กลายเป็นสีฟ้าคราม เปล่งแสงสว่างวาบแล้วกลายเป็นดวงลำแสงสีฟ้าอีกครั้ง
ลำแสงในยามนี้ขนาดใหญ่กว่าเดิมหลายเท่า และยิ่งไปกว่านั้นยังมีเสียงน้ำไหลอันไพเราะเสนาะหูดังแว่วมา กระแสน้ำทะลักออกมาราวกับน้ำตก ราวกับมังกรสีขาวนับร้อยนับพันตัวกระโจนลงมา ดูเหมือนทางช้างเผือกเก้าสวรรค์โปรยปรายลงมา
หานลี่หน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย ร่ายอาคมโดยไม่พูดจา
ชั่วขณะนั้นเทวรูปพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์สามเศียรหกกรพลันอ้าปากทั้งสามออก พ่นไปบนท้องฟ้า
พ่นเปลวเพลิงสีเงินออกมา เปล่งแสงสว่างวาบ กลายเป็นทะเลเพลิงม้วนวนไปกลางอากาศ
วารีและเพลิงตัดสลับกันไปมา ไอสีขาวคลี่ตัวออกมา และกลายเป็นทะเลหมอกทั่วท้องฟ้า
เห็นเพียงม่านหมอก ท่ามกลางทะเลหมอก ยื่นมือออกไปไม่เห็นนิ้วทั้งห้า มองอันใดไม่เห็น ได้ยินเพียงเสียงครืดๆ ดังมาไม่หยุด ม่านหมอกแผ่ไปทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้าน
หานลี่เห็นเช่นนั้นแววตาพลันเปล่งประกาย กระตุ้นอาคม เปลวเพลิงสีเงินที่เทวรูปพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์พ่นออกมาเพิ่มขึ้นสองสามเท่า
เปลวเพลิงสีเงินผนึกรวมตัวกัน กลายเป็นมังกรวารีเพลิงสองสามตัว แยกเขี้ยวตะปบเล็บ ทยอยกันกระโจนเข้าไปในทะเลหมอก
ต่อมาเสียงฟ้าผ่าก็ดังสนั่นขึ้น!
ดอกไม้สีเงินขนาดเท่าศาลาปรากฏออกมาจากทะเลหมอกอย่างต่อเนื่อง เปล่งแสงสว่างวาบแล้วระเบิดออกอย่างต่อเนื่อง เปลวเพลิงสีเงินขยายใหญ่ขึ้น คาดไม่ถึงว่าจะฉีกทะเลหมอกออก
ทว่าหลังจากผ่านไปสองสามชั่วลมหายใจ ม่านหมอกกว่าครึ่งก็สลายหายไปท่ามกลางเปลวเพลิงสีเงิน ในที่สุดก็เผยปรากฏการณ์ฉากกำบังเดิมออกมา
เมื่อมังกรวารีเพลิงสองสามตัวทำลายล้างตามอำเภอใจท่ามกลางเปลวเพลิงสีเงิน ไม่เพียงจะต้านทานกระแสน้ำบนท้องฟ้าเอาไว้ พลันหมุนวนเปล่งแสงสว่างวาบแล้วพุ่งม้วนไปยังต้นกำเนิดของลำแสงสีฟ้า
จากอานุภาพที่น่ากลัวของเปลวเพลิงสีเงิน เมื่อสัมผัสกับลำแสงสีฟ้า เกรงว่าคงสลายหายไปทันที
แต่ในยามนั้นลำแสงกลางอากาศพลันมีประจุไฟฟ้าสีเงินจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏออกมา แล้วหมุนวนอีกครั้ง คาดไม่ถึงว่าขยายใหญ่ขึ้น
เสียงฟ้าผ่าดังสนั่นขึ้น!
ลำแสงสีฟ้าทุกดวงที่หดเล็กลงพลันพ่นลูกบอลวารีขนาดเท่าศีรษะออกมา
ลูกบอลวารีเหล่านี้ดูใสสะอาด แต่ก็เหนียวข้นเป็นอย่างมาก ผิวมีระลอกคลื่นกระเพื่อมไปมา คาดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นลวดลายวิญญาณสีฟ้า และแผ่ลำแสงสีฟ้าสดใสที่อบอุ่นออกมา
ลูกบอลวารีเหล่านี้ร่อนลงมา ระเบิดเสียงดังอึกทึกออกมา ตัวลำแสงสีฟ้ากลับทยอยระเบิดออกหายไป
หานลี่ที่อยู่ด้านล่างมองเห็นทุกอย่างพลันหน้าเปลี่ยนสี
ต่อมาเปลวเพลิงสีเงินที่หมุนวนและมังกรวารีเพลิงสองสามตัวพลันม้วนวนกลืนลูกบอลลำแสงสีฟ้าเข้าไปข้างในทะเลเพลิง
เสียงพรึ่บๆ ดังออกมา!
ลำแสงสีฟ้าสว่างวาบขึ้นท่ามกลางทะเลเพลิง คาดไม่ถึงว่าลูกบอลนี้จะทะลวงผ่านราวกับมองไม่เห็น ไม่ถูกเปลวเพลิงสีเงินทำร้ายเลยสักนิด
“วารีพันแม่น้ำ!”
แววตาหานลี่ฉายแววเย็นเยียบ ปากก็ร้องตะโกนต่ำๆ ออกมา ในใจพลันกระตุ้นเทวรูปพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์อย่างไม่สงสัยใดๆ อีก
เทวรูปสามเศียรหกกรหยุดพ่นเปลวเพลิงสีเงิน กรทั้งหกกำหมัดโบกไปมาพร้อมกัน เสียงเพรียกดังขึ้น!
เงากำปั้นจำนวนมากปรากฏขึ้นอีกครั้ง แล้วพุ่งไปกลางอากาศ
“ปังๆ” ดังสนั่นขึ้น!
ผิวของลูกบอลวารีสีฟ้ามีแสงสีทองเจิดจ้า ทุกลูกแทบจะรับการโจมตีของเงากำปั้นยี่สิบสามสิบสายอย่างต่อเนื่อง
แต่หลังจากที่ลำแสงสีทองเปล่งแสงสว่างวาบ ลูกบอลวารีเหล่านี้ก็รับไว้ได้อย่างปลอดภัย แล้วยังร่อนลงมาต่อราวกับไม่มีอันใดเกิดขึ้น
หานลี่พลันตกตะลึง!
เทวรูปพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์กลับขยับกรทั้งหก กำปั้นทั้งหกเปล่งแสงสีทองออกมา ชั่วพริบตาก็ดูเหมือนกับของจริง โจมตีไปยังลูกบอลวารีที่กำลังร่อนลงมา
เสียงสะเทือนเลื่อนลั่นดังขึ้น ชั่วครู่อากาศก็สั่นสะเทือน!
ดวงอาทิตย์สีทองจำนวนนับไม่ถ้วน เปล่งแสงสว่างวาบปรากฏขึ้นกลางอากาศ ระลอกคลื่นที่ปริแตกปรากฏขึ้นท่ามกลางเสียงเพรียก และกลายเป็นพายุหมุนแผ่ออกมา
หลังจากที่พายุหมุนสลายตัวออกไปหายไปจนหมด ลูกบอลวารีก็หายวับไปอย่างไร้ร่องรอย!
และร่างทองพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม แต่สองเท้ากลับจมลึกเข้าไปในผิวดินสิบจั้งเศษ กรทั้งหกหายไปกว่าครึ่ง คาดไม่ถึงว่าจะสลายหายไปพร้อมกับลูกบอลวารีเหล่านั้น
หานลี่เห็นเช่นนั้นพลันใจหายวาบ!
จากอานุภาพของเทวรูปมารพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์ คาดไม่ถึงว่าจะจนตรอกเช่นนี้ เห็นได้ชัดถึงความน่ากลัวของวารีพันแม่น้ำ
ต่อมาหานลี่ก็ใช้มือหนึ่งร่ายอาคม ร่างขอเทวรูปพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์มีลำแสงสีทองหมุนวนโคจร กรทั้งหกฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติ
แต่ในยามนี้กลางอากาศ พลันมีลูกบอลลำแสงยักษ์ราวกับดวงอาทิตย์สีแดงสดดวงหนึ่ง ก่อตัวขึ้นอีกครั้ง!
แม้ว่าลำแสงนี้จะแค่ดวงเดียว แต่ขนาดของมันแทบจะปกคลุมทั้งบ่อเอาไว้
หลังจากเสียงเอะอะโวยวาย “กาๆ” ดังขึ้น อีกาเพลิงที่พ่นเปลวเพลิงจำนวนนับไม่ถ้วนออกมาก็ทะลักออกมาจากลำแสงยักษ์ หลังจากสยายปีกทั้งสองข้างก็กลายเป็นลูกบอลเพลิงพุ่งลงไปด้านล่าง
ลูกบอลเพลิงเหล่านี้ยังไม่ทันได้ร่อนลงมาจริงๆ อุณหภูมิสูงลิ่วราวกับจะทำให้เดือดได้พลางย่างกรายมาถึงท้องฟ้าเหนือบ่อ
หานลี่หรี่ตาทั้งสองข้างลง ร่างกายไม่ขยับเขยื้อน แต่เทวรูปพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์ก็อ้าปากพ่นอีกครั้ง คาดไม่ถึงว่าจะพ่นทะเลเพลิงสีเงินออกมา
ทว่าครั้งนี้เมื่อเปลวเพลิงสีเงินออกจากปากเทวรูป ผลึกลำแสงที่หมุนวนโคจรก็เปลี่ยนเป็นเย็นเยียบอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ คาดไม่ถึงว่าเทวรูปพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์ จะมีอานุภาพเปลี่ยนเปลวเพลิงวิญญาณ กลายเป็นเปลวเพลิงเย็นเยียบ
ต่อมาเปลวเพลิงร้อนแรงสีขาว และเงินสองกลุ่มก็ปะทะเข้าด้วยกัน พลังตรงกันข้ามสองธาตุ ชั่วขณะนั้นพลันระเบิดออกระหว่างทั้งสอง
หลังจากที่ท้องฟ้าเปล่งแสงสว่างวาบ มีเส้นเป็นใจกลาง ชั่วขณะนั้นพลันกลายเป็นน้ำแข็งเพลิงสองชั้น และยืนกรานอย่างไม่ยอมอ่อนข้อให้กันอยู่กลางอากาศ
หานลี่พลันผิวปากยาวๆ นิ้วชี้ไปกลางอากาศ กระบี่ลำแสงจำนวนมากปรากฏขึ้นอีกครั้ง และเปล่งแสงสว่างวาบ รวมตัวกัน กลายเป็นกระบี่ยักษ์สีเขียวความยาวสิบจั้งเศษ
จากนั้นเขาพลันบริกรรมคาถา อาคมในมือเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
ใบมีดยักษ์สีเขียวมีผลึกลำแสงไหลวนโคจรไปมา ขยายใหญ่ขึ้น ยามนั้นพลันขยายใหญ่ขึ้นมากกว่าสิบเท่า คาดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นใบมีดยักษ์สูงค้ำฟ้าความยาวเกือบพันจั้ง
ใบหน้าของเทวรูปพรามหณ์ศักดิ์สิทธิ์ฉายแววโหดเหี้ยมพร้อมกัน สองมือตะปบออกไป คว้าใบมีดยักษ์เอาไว้ สะบัดไปกลางอากาศ สับลงมาอย่างแรง
เห็นเพียงกลางอากาศมีสายลากยาว ลำแสงสีเขียวเปล่งแสงสว่างวาบ ใบมีดยักษ์ค้ำฟ้าพลิ้วไหวจากเปลวเพลิงเย็นเยียบและทะเลเพลิง สับลงมาที่ลูกบอลลำแสงยักษ์
ลูกบอลลำแสงสีแดงสดเปล่งแสงสว่างวาบ แบ่งออกเป็นสองส่วนอย่างเงียบเชียบ พ่นเปลวเพลิงสีแดงราวกับลาวาออกมา และกลายเป็นเปลวเพลิงร้อนแรงพลางระเบิดออก
หลังจากที่ทะเลเพลิงด้านล่างส่งเสียงเพรียกออกมา ชั่วครู่ก็สลายหายไปจากกลางอากาศ
ทว่ารอให้เทวรูปพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์เก็บใบมีดยักษ์ค้ำฟ้าอีกครั้ง ยังไม่ทันได้เคลื่อนไหวใดๆ เปลวเพลิงร้อนแรงที่อยู่กลางอากาศแค่หมุนวน ก็กลายเป็นธุลีหมอกสีเหลือง และแผ่ออกไปทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้าน
ยามนั้นทั้งท้องฟ้าพลันเปลี่ยนเป็นสีขมุกขมัว และยิ่งไปกว่านั้นกลางหมอกธุลีพลันมีเสียงเคร๊งดังขึ้น คาดไม่ถึงว่าจะมีเสียงอาวุธที่ทำให้ผู้คนขนลุกซู่ดังออกมา
หานลี่ที่อยู่ด้านล่างพลันขมวดคิ้ว!
เทวรูปพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์กลับโบกใบมีดยักษ์ในมืออีกครั้งโดยไม่พูดจา แล้วสับลงไปที่ทะเลหมอกสีเหลือง ลำแสงสีเขียวเจิดจ้าจนแสบตา พุ่งแหวกอากาศออกมาอีกครั้ง ฉีกทะเลหมอกออกจากตรงกลาง แต่ต่อมาหมอกธุลีหนาๆ สองฝั่งก็หมุนวนไปที่ตรงกลาง แล้วผสานกันดังเดิมราวกับไม่มีอันใดเกิดขึ้น
กระบี่ไผ่เขียวตัวต่อเมฆาเจ็ดสิบสองเล่มที่กลายเป็นใบมีดยักษ์พันจั้งเศษและพลังเทวะที่น่ากลัวเป็นอย่างยิ่งของร่างทองพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์ คาดไม่ถึงว่าจะไม่มีผลกับมันเลยสักนิด!
และยิ่งไปกว่านั้นหลังจากที่ทะเลหมอกรับการโจมตีนี้ ด้านในพลันมีเสียงกลองทองดังขึ้น
จากนั้นทะเลหมอกสีเหลืองพลันหมุนวน ด้านในมีทหารองครักษ์คล้ายดินเหนียวสีเทาปรากฏขึ้น บ้างก็ขี่อยู่บนวิหคบิน บ้างก็ขี่อยู่บนหลังอสูร บ้างก็ถือใบมีดแหลมคม มีอยู่เต็มไปหมดเมื่อทอดสายตาไป ราวกับว่ามีทหารนับล้านนายซ่อนอยู่ก็ไม่ปาน
หานลี่อดที่จะสูดลมหายใจเข้าด้วยความเย็นเยียบไม่ได้ หัวขบคิดอย่างรวดเร็ว ยังไม่รอให้คิดแผนใดออก ทะเลหมอกกลางอากาศพลันม้วนวน ทหารองครักษ์จำนวนนับไม่ถ้วนพลันกระโจนออกมาอย่างดุดัน
หานลี่พลันมีสีหน้าเคร่งขรึม!
ชั่วขณะนั้นใบมีดยักษ์ในมือของเทวรูปพราหมณ์ศักดิ์สิทธิ์พลันกวาดออกไปกลางอากาศอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง
ผลคือทุกแห่งที่ใบมีดสีเขียวกวาดผ่านไป ทหารองครักษ์ทั้งหมดพลันสั่นเทาแล้วแหลกกลายเป็นผุยผง แต่รอจนลำแสงสีเขียวสลายหายไป หมอกธุลีก็หมุนวนรวมตัวกัน ทหารสองสามตนปรากฏขึ้นอีกครั้งท่ามกลางทะเลหมอกอย่างเงียบเชียบ ยังคงโบกอาวุธในมือพุ่งลงมา
หานลี่เห็นเช่นนั้นรูม่านตาอดที่จะหดเล็กลงไม่ได้!