A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน - ตอนที่ 2187 ฝานพ่าวจื่อและงานชุมนุมผลเต๋า
- Home
- A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน
- ตอนที่ 2187 ฝานพ่าวจื่อและงานชุมนุมผลเต๋า
ทารกวิญญาณของหานลี่ที่กลายเป็นคนตัวเล็กสีเขียวแค่รู้สึกตกใจ ชั่วขณะนั้นไอเย็นเยียบก็ทะลักออกมาจากแผ่นหลัง คาดไม่ถึงว่าจะมีความรู้สึกหวาดกลัวราวกับมนุษย์ถูกสัตว์ร้ายจ้องเขม็งอยู่
คนตัวเล็กใช้มือหนึ่งร่ายอาคมโดยไม่ต้องขบคิด ในเวลาเดียวกันปากก็ร้องตะโกนเสียงต่ำๆ ออกมา
เสียงตะโกนดูเหมือนจะไม่ดังนัก แต่เมื่อตะโกนออกมา อากาศในรัศมีสองสามลี้พลันสั่นสะเทือน คาดไม่ถึงว่าจะเปลี่ยนเป็นเชื่องช้าราวกับทุกอย่างแข็งค้างอย่างไรอย่างนั้น
คนตัวเล็กสีเขียวจึงถือโอกาสนี้พลิ้วกาย กลายเป็นเงาลวงตาสายหนึ่งสลายหายไป
ครู่ต่อมาระลอกคลื่นพลันก่อตัวขึ้นกลางพายุวัชระ ทารกวิญญาณของหานลี่ที่กลายเป็นคนตัวเล็กเปล่งแสงสว่างวาบปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง และจ้องเขม็งไปที่สิ่งมหึมาที่อยู่ไกลออกไปด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ยามนี้อยู่ห่างกันขนาดนี้ ในที่สุดก็มองเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเจ้าสิ่งนี้ได้อย่างชัดเจน คาดไม่ถึงว่าจะเป็นหัวยักษ์หน้าตาโหดเหี้ยมราวกับภูเขาขนาดย่อม!
ดวงตาสีม่วงสองข้าง เขายักษ์สีทอง เกล็ดสีเงินอ่อน หนวดยาวสี่เส้น เป็นหัวมังกรยักษ์หัวหนึ่ง
“มังกรเที่ยงแท้”
หานลี่เห็นหัวนั้น ก็แทบจะร้องอุทานออกมาด้วยเสียงแหบแห้ง
ครู่ต่อมาหัวยักษ์พลันพลิ้วไหว ชั่วขณะนั้นกลางอากาศพลันมีระลอกคลื่นปรากฏขึ้น ทุกอย่างที่แข็งข้างพลันฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติ
แต่หัวมังกรยังคงจ้องเขม็งไปยังหานลี่ที่อยู่ไกลออกไป และขยับปาก ส่งเสียงพูดอู้อี้ของมนุษย์ออกมา
“ที่แท้ก็เป็นสหายที่เพิ่งพัฒนาระดับมหายานคนหนึ่ง ดูจากท่าทางของสหาย น่าจะถอดจิตออกมาผจญภัยหมื่นลี้ครั้งแรกสินะ”
“นายท่านดูออก ข้าน้อยถอดจิตออกมาผจญภัยในพายุวัชระครั้งแรกจริงๆ! สหายคือหนึ่งในมังกรเที่ยงแท้ในตำนาน เหตุใดถึงมาปรากฏตัวที่นี่” หานลี่กลายเป็นคนตัวเล็กแล้วกลับมาเยือกเย็นอย่างรวดเร็ว แต่ก็เอ่ยถามอย่างระมัดระวัง
“หึๆ แม้ว่าทารกวิญญาณของสหายจะแข็งแกร่งกว่าสิ่งมีชีวิตระดับมหายานทั่วไปมาก แต่ก็ยังคงมีกลิ่นไอวิญญาณแผ่ออกมา เป็นสัญญาณของร่างทารกวิญญาณที่เพิ่งบรรลุได้ไม่นานชัดๆ จุดนี้ย่อมไม่อาจปิดบังข้าที่อยู่ในระดับเดียวกันได้ ส่วนร่างของข้าน้อยก็คือมังกรเนตรม่วงหนึ่งในมังกรเที่ยงแท้! ทว่าสองสามวันก่อนดันพบกับศัตรูที่ร้ายกาจคนหนึ่ง ถึงได้ต้องหลบซ่อนตัวอยู่ที่นี่!” หัวมังกรยักษ์กลับหัวเราะหึๆ ออกมา ตอบกลับอย่างไม่ปิดบังเลยสักนิด
จากนั้นเห็นหัวมังกรยักษ์สะบัดศีรษะอีกครั้ง ร่างกายอันใหญ่โตราวกับภูเขาก็สลัดหลุดจากความว่างเปล่า
เป็นมังกรยักษ์เกล็ดสีเงินดังคาด ทว่าทั่วเรือนกายกลับเต็มไปด้วยบาดแผล เกล็ดจำนวนไม่น้อยร่วงหายไป คาดไม่ถึงว่าจะได้รับบาดเจ็บไม่น้อย
นี่จึงทำให้หานลี่เห็นแล้วพลันรู้สึกตกตะลึง
ส่วนมังกรสีเงินที่เมื่อจะเผยเรือนร่างออกมา เกล็ดบนผิวพลันเปล่งแสงสว่างวาบ ชั่วขณะนั้นพลันมีลำแสงสีเงินเจิดจ้าจนแสบตา
แม้ว่าหานลี่เองก็หลับตาลงตามจิตสำนึก และยามที่ลืมตาขึ้นอีกครั้ง สิ่งมหึมาตรงหน้าก็หายวับไปอย่างเงียบเชียบ
สิ่งที่มาแทนก็คือชายหนุ่มชุดสีเงินท่าทางอายุแค่สิบหกสิบหกปี หน้าซีดขาว และมองมาทางหานลี่ด้วยรอยยิ้ม
“ข้าน้อยฝานพ่าวจื่อ คารวะสหาย! ไม่ทราบว่าสหายมีชื่อแซ่อันใด สหายม่อของเผ่าเจ้า เคยมีวาสนาได้พบกับข้า”
“ที่แท้สหายฝานพ่าวจื่อก็เป็นสหายเก่ากับพี่ม่อ ข้าน้อยหานลี่ ชื่อเสียงของมังกรเที่ยงแท้เนตรม่วง ข้าได้ยินมาเนิ่นนานแล้ว ทว่าจากอิทธิฤทธิ์มังกรเที่ยงแท้ของสหายเหตุใดถึงได้รับบาดเจ็บ ดูแล้วศัตรูของสหายคงไม่ใช่สิ่งมีชีวิตธรรมดาๆ” หานลี่พลันประหลาดใจเล็กน้อย แต่ร่างที่กลายเป็นคนตัวเล็กกลับเอ่ยถามด้วยสีหน้าราบเรียบ
“อ่าย ผู้ใดพบกับสัตว์ประหลาดอย่างนกฮูกเจ็ดหัว เกรงว่าก็คงต้องถอยไปสามฉื่อ แต่ครั้งนี้เป็นเพราะสิ่งสำคัญมาก ข้าจึงไม่อาจถอยให้ได้ จึงทำได้เพียงทำใจดีสู้เสือลงมือต่อสู้กับมัน ผลคือข้าได้รับบาดเจ็บไม่น้อย สูญเสียเกล็ดเที่ยงแท้ที่ฝึกฝนมาหลายปีไป แต่หัวทั้งเจ็ดของมัน กลับถูกข้าระเบิดไปสองหัว” ชายหนุ่มชุดสีเงินถอนหายใจออกมา ถึงได้ตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“เป็นนกฮูกเจ็ดหัว มิน่าล่ะ วิหคตัวนี้เป็นจิตวิญญาณเที่ยงแท้ที่มีชื่อเสียงด้านการสังหารเพียงไม่มากในจิตวิญญาณเที่ยงแท้ประเภทวิหค พี่ฝานโจมตีวิหคตัวนี้จนพ่ายแพ้ได้ นับว่ามีอิทธิฤทธิ์เกรียงไกรนัก” หานลี่ได้ยินคำว่า ‘นกฮูกเจ็ดหัว’ ก็อดที่จะตกตะลึงไม่ได้
“ไม่นับว่าโจมตีจนพ่ายแพ้อันใด มากสุดก็แค่ทำให้บาดเจ็บทั้งสองฝ่ายเท่านั้น แม้ว่านกฮูกเจ็ดหัวจะร้ายกาจ แต่สติปัญญากลับไม่สูงนัก แค่สำแดงลูกไม้เล็กๆ ข้าก็ได้ของสิ่งนั้นมาอยู่ในมือแล้ว หากไม่จำเป็น ผู้ใดจะสู้กับเจ้านั้นเปล่าๆ ปกติแล้วแค่เห็นก็ต้องหลบหลีกไปให้ไกลแล้ว” ชายหนุ่มชุดสีเงินพลันเอ่ยขึ้นด้วยความพึงพอใจ
“เช่นนั้นผู้แซ่หานต้องแสดงความยินดีกับสหายก่อนที่ได้สมบัติชิ้นใหม่มา” คนตัวเล็กสีเขียวมีใบหน้าแปลกประหลาดฉายแวบผ่าน สองมือกลับประสานกันขณะเอ่ย
“ขอบคุณพี่หาน! ทว่าในชีวิตของฝานพ่าวจื่อกลับได้รับบาดเจ็บหนักเช่นนี้น้อยครั้งนัก หลังจากที่นกฮูกเจ็ดหัวได้รับบาดเจ็บ คาดไม่ถึงว่าจะยังวนเวียนอยู่แถวๆ นี้ มิสู้สหายและข้าร่วมมือกันสังหารมันเป็นอย่างไร ข้าว่าร่างทารกของสหายนั้นไม่ธรรมดา คิดดูแล้วกลับร่างแล้วอิทธิฤทธิ์คงไม่ใช่สิ่งที่สิ่งมีชีวิตระดับมหายานทั่วไปจะเทียบเทียมได้ หากเจ้ากับข้าร่วมมือกัน ก็มีความหวังไม่น้อย หากสำเร็จจริงๆ แก่นดวงจิตของมันย่อมมอบให้เจ้า กายเนื้อให้ข้ากลืนกินใช้ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บเป็นอย่างไร?” ฝานพ่าวจื่อกลอกตาไปมาสองสามครั้ง กลับเอ่ยข้อเสนอที่ทำให้หานลี่หน้าเปลี่ยนสีออกมา
“พี่ฝานล้อเล่นแล้ว ข้าน้อยเป็นแค่ชนรุ่นหลังที่เพิ่งพัฒนาระดับขั้น ไหนเลยจะมีคุณสมบัติไปต่อกรกับจิตวิญญาณเที่ยงแท้ที่แข็งแกร่ง” คนตัวเล็กสีเขียวสั่นหัวราวกับรัวกลอง ปฏิเสธอย่างไม่ต้องขบคิด
“คิดไม่ถึงว่าสหายหานจะไม่สนใจ น่าเสียดายจริงๆ! นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยาก แก่นดวงจิตของนกฮูกเจ็ดหัวเป็นของที่ดุร้ายอันดับหนึ่งในโลก ไม่ว่าผู้ใดดูดซับไอทมิฬไปฝึกฝน หรือเอามันไปหลอมสมบัติอาคมล้วนมีประโยชน์ไม่จำกัด สหายหานไม่ขบคิดหน่อยหรือ? แม้ว่าสหายจะใช้แก่นดวงจิตนั้นไม่ได้ แต่หากเอาไปแลกเปลี่ยนก็ต้องมีผู้ยิ่งใหญ่เอาสิ่งอื่นมาขอแลกเปลี่ยนกับท่านถึงหน้าประตูแน่ ครั้งหน้าหากพบกับสัตว์ร้ายที่ได้รับบาดเจ็บหนัก ก็ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นอีกกี่ปีแล้ว” ชายหนุ่มชุดสีเงินได้ยิน ก็ไม่ได้เผยสีหน้าไม่พอใจออกมา แค่ใบหน้าเต็มไปด้วยสีหน้าเสียดายเท่านั้น
“ข้าน้อยเป็นแค่ผู้บำเพ็ญเพียรตัวเล็กๆ ที่เพิ่งพัฒนาระดับขั้นเท่านั้น ไหนเลยจะกล้าร่วงเกินสิ่งที่โหดร้ายจนทำลายแค้วนได้ เรื่องนี้สหายฝานไม่ต้องเอ่ยแล้ว ข้าน้อยไม่มีทางไม่รู้ตัวเองแน่ หากสหายอยากล้างแค้นจริงๆ ล่ะก็ ไปหาสหายคนอื่นเถิด!” หานลี่ย่อมไม่เปลี่ยนใจ พลางปฏิเสธอย่างนุ่มนวล
“ในเมื่อสหายหานไม่ยอม ก็ช่างเถิด แม้ว่าสหายที่ข้ารู้จักพละกำลังจะแข็งแกร่งไม่ด้อยไปกว่าข้า แต่พวกเขาไม่ได้อยู่ละแวกนี้ จึงไปหาไม่ได้ ส่วนสิ่งมีชีวิตระดับมหายานคนอื่นๆ ปะทะกับวิหคตัวนี้ก็คงโชคร้ายมากกว่าโชคดี ช่างเถิด ข้าคนเดียวก็ไม่มีทางปะทะกับมัน เปลี่ยนที่รักษาอาการบาดเจ็บก่อน แล้วกลับไปยังแดนของตัวเองเงียบๆ ดีกว่า” ชายหนุ่มชุดสีเงินถอนหายใจออกมา น้ำเสียงดูเหมือนจะดูพละกำลังที่แท้จริงของหานลี่ออก จึงมองเขาและสิ่งมีชีวิตระดับมหายานทั่วๆ ไปแตกต่างกัน
ต้องเข้าใจว่าแม้ว่าจิตวิญญาณเที่ยงแท้และสิ่งมีชีวิตระดับมหายานจะเป็นสิ่งที่อยู่ในระดับเดียวกัน แต่ปกติแล้วแม้ว่าจิตวิญญาณเที่ยงแท้ธรรมดาๆ ที่สุดปะทะกับสิ่งมีชีวิตระดับบมหายานสองสามคนก็ยังไม่ตกเป็นรองเลยสักนิด
และจิตวิญญาณเที่ยงแท้ที่แข็งแกร่งเหล่านี้อิทธิฤทธิ์ก็เทียบได้กับเซียนเที่ยงแท้ แม้กระทั่งเหนือกว่า
“อันใด สหายฝานจะไปจากที่นี่หรือ?” ถึงยามนี้หานลี่กลับไม่ยึดมั่นในความคิดของตนเองอีก แค่หน้าเปลี่ยนสีพลางย้อนถามกลับ
“หึๆ ก่อนหน้านี้ข้าได้รับบาดเจ็บในห้วงมิติเวลาละแวกนี้ แต่ยามนี้ในเมื่อเจ้ารู้ว่าข้าอยู่ที่นี่ ยังกล้าวางใจให้ข้าอยู่ในแดนของเจ้าต่อหรือ? ไม่กลัวว่านกฮูกเจ็ดหัวจะบังเอิญหาเจอ แล้วสร้างปัญหาให้เผ่าของเจ้าหรือ” ฝานพ่าวจื่อได้ยิน กลับหัวเราะร่าออกมา
“หากวิหคเหี้ยมหาพบจริง แค่เผ่ามนุษย์ของพวกเราคงไม่อาจต่อกรได้ ในเมื่อเป็นเช่นนั้นผู้แซ่หานก็จะไม่รั้งไว้อีก” หานลี่มีสีหน้าขัดเขิน แต่ทันใดนั้นก็ฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติ และคารวะพลางเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา
“ข้าและสหายหานพบกันครั้งแรก แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดกลับรู้สึกทึ่งมาก เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ข้ามีของสิ่งหนึ่งจะมอบให้สหาย นับว่าเป็นความหวังดีก็แล้วกัน” ชายหนุ่มชุดสีเงินครุ่นคิด แล้วพลันเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มบางๆ
จากนั้นเขาพลันอ้าปากออกพ่นลำแสงสีเงินออกมา พลางพุ่งตรงไปยังหานลี่
หานลี่ที่กลายเป็นคนตัวเล็กตกตะลึงไปเล็กน้อย ปากก็เอ่ยขอบคุณ มือหนึ่งตะปบออกไป ชั่วขณะนั้นในมือพลันมีแผ่นบางๆ ปรากฏขึ้น
เมื่อก้มหน้าลงพิจารณาอย่างละเอียด!
คาดไม่ถึงว่าจะเป็นเกล็ดสีเงินระยิบระยับ!
“สหายฝาน นี่คือ…” หานลี่พลันใจเต้น ปากก็เอ่ยถามตามจิตสำนึก
“สองสามร้อยปีจากนี้อาวุโสมังกรทองเผ่ามังกรเที่ยงแท้ของพวกเราจะจัด ‘งานชุมนุมผลเต๋า’ ขึ้นที่เกาะมังกรเที่ยงแท้ ถึงยามนั้นจิตวิญญาณเที่ยงแท้ของแดนต่างๆ และสิ่งมีชีวิตระดับมหายานล้วนมีคุณสมบัติให้เข้าร่วม หนึ่งในนั้นนอกจากสิ่งมีชีวิตระดับมหายานที่ได้รับเชิญจากเกาะมังกรของพวกเราแล้ว สิ่งมีชีวิตอย่างมังกรเที่ยงแท้อย่างพวกเราก็มีคุณสมบัติเชิญคนให้เข้าร่วมได้สองสามคน เกล็ดของข้าคือแผ่นป้ายเชิญเข้าเกาะ! หากถึงวันที่งานชุมนุมจัดขึ้น ย่อมจะสำแดงตำแหน่งและห้วงเวลาบอกไว้ ถึงยามนั้นหากสหายมีเวลา ก็มาเข้าร่วมเถิด” ฝานพ่าวจื่ออธิบายด้วยรอยยิ้มบางๆ
“งานชุมนุมผลเต๋า…เช่นนั้นข้าน้อยก็ขอน้อมรับ ขอบพระคุณความปรารถนาดีของพี่ฝาน!” ทารกวิญญาณที่กลายเป็นคนตัวเล็กของหานลี่พิจารณาเกล็ดสีเงินในมือสองสามแวบ หลังจากกวาดจิตสัมผัสไปแล้วไม่พบปัญหาอันใด หว่างคิ้วก็มีความประหลาดใจฉายแวบผ่าน แต่ทันใดนั้นก็เอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
จากนั้นเกล็ดสีเงินพลันเปล่งแสงสว่างวาบ กลายเป็นลำแสงสีเงินหายวับไปจากมือของหานลี่
ฝานพ่าวจื่อเห็นหานลี่ปฏิบัติกับเกล็ดของตนด้วยความระมัดระวัง ใบหน้าก็อดที่จะเผยรอยยิ้มออกมาไม่ได้ พลางพยักหน้าแล้วเอ่ยขึ้น
หวังถึงยามนั้นจะได้พบกับสหายที่เกราะมังกรเที่ยงแท้ ใช่แล้ว ก่อนไปข้าน้อยจะแนะนำสหายหานสักหน่อย แม้ว่าจะเป็นสิ่งมีชิตระดับมหายานอย่างเจ้า ทารกวิญญาณก็สามารถออกจากร่างมาเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ แต่ทางที่ดีอย่าปรากฏตัวต่อหน้าสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งง่ายๆ จากที่ข้ารู้มามีจิตวิญญาณเที่ยงแท้จำนวนไม่น้อยที่ชอบกินทารกวิญญาณที่ถอดร่างออกมาจากผู้บำเพ็ญเพียรระดับมหายาน และยิ่งไปกว่านั้นสำหรับพวกมันแล้วร่างทารกวิญญาณยิ่งแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ รสชาติก็ยิ่งหอมหวานยากจะลืมเลือนมากขึ้นเท่านั้น ฮ่าๆ…”
ฝานพ่าวจื่อเอ่ยจบก็หัวเราะร่า สะบัดแขนเสื้อ ชั่วขณะนั้นลำแสงสีเงินพลันเปล่งแสงสว่างวาบ ชั่วขณะนั้นพลันปรากฏร่างมังกรเที่ยงแท้ขนาดยักษ์ออกมา
เสียงฟ้าผ่าดังขึ้น มังกรสีเงินกลายเป็นลำแสงสีเงินสายหนึ่งหายวับไปอย่างไร้ร่องรอย