A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน - ตอนที่ 2289 บึงเย็นเยียบ
- Home
- A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน
- ตอนที่ 2289 บึงเย็นเยียบ
“น่าเสียดายหุ่นเชิดที่พี่หานให้มีสองตัวที่พังไประหว่างล่อศัตรู ตาเฒ่าจะชดใช้ให้ภายหลัง” ม่อเจี่ยนหลีเอ่ยอย่างรู้สึกเสียใจ
“เดิมหุ่นเชิดเหล่านั้นก็มอบให้สหายไว้ใช้ ต่อให้พังทั้งหมดก็ไม่เป็นไร พี่ม่อไม่ต้องใส่ใจ” หานลี่หัวเราะแห้งๆ ท่าทีไม่สนใจ ม่อเจี่ยนหลีเห็นเช่นนั้นย่อมเอ่ยปากขอบคุณไม่หยุด
หลังจากผ่านไปชั่วครู่ท้องฟ้าก็มีเสียงอึกทึกดังขึ้น แมงมุมซิวหลัวโตเต็มวัยสี่ตัวขี่พายุประหลาดปรากฏตัวขึ้น
ทว่าสัตว์ประหลาดระดับผสานอินทรีย์ทั้งสี่ สองในสี่ตัวนั้นปรากฏตัวด้วยร่างแมงมุมยักษ์ ที่เหลืออีกสองตัวแม้ว่าจะรักษาร่างมนุษย์เอาไว้ แต่เสื้อผ้าบนร่างกลับมีท่าทีจนตรอก
เห็นได้ชัดว่าแมงมุมซิวหลัวสี่ตัวนั้นแม้ว่าจะออกมาจากเขตอาคมที่ม่อเจี่ยนหลีวางไว้ได้ แต่ก็เจ็บปวดเป็นอย่างมาก
แต่เมื่อพวกเขาร่อนลงไปในเมืองศิลา หานลี่ก็เอ่ยปากอย่างราบเรียบ
“สหายอิง ยามนี้คนก็มากันครบแล้ว ไปงมสมบัติชิ้นนั้นได้แล้ว แกนผลึกของพวกเจ้าล่ะ?”
“สหายหานวางใจ แกนผลึกเหล่านั้นอยู่ที่น้องหญิง ที่นี่มีหกเม็ด รับไว้เถิด” หญิงสาวสวมกระโปรงสีโลหิตหยุดนิ่งอยู่กลางอากาศ เมื่อได้ยินก็ฉีกยิ้มน้อยๆ ทันใดนั้นก็พลิกฝ่ามือ กล่องหยกสีขาวกล่องหนึ่งบินออกมา
เมื่อเห็นสิ่งนี้เซี่ยหราน ม่อเจี่ยนหลีและพวกก็หน้าเปลี่ยนสี แต่ก็ไม่มีผู้ใดยื่นมือออกมาคว้าไว้
มีเพียงหานลี่ที่สะบัดแขนเสื้อด้วยสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ตะปบกล่องหยกเข้ามาอยู่ในมือ
เปิดฝากล่องออก ในเวลาเดียวกันหลังจากที่กวาดจิตสัมผัสเข้าไปในนั้น ใบหน้าของทุกคนก็มีสีหน้ายินดี
กล่องหยกมีแกนผลึกแวววาวดุจหิมะอยู่หกเม็ด ทว่ามีขนาดเท่าหัวแม่มือ แต่กลับแผ่กลิ่นอายลึกลับแปลกประหลาดออกมา
หานลี่แค่ครุ่นคิดเล็กน้อย มือที่รองถาดหยกสะบัดออกไป
ชั่วขณะนั้นลำแสงสีขาวสามดวงก็บินออกมา พุ่งไปทางพี่เซี่ยหรานและพวกสองคน อีกสองเม็ดหมุนวนรอบหนึ่งแล้วร่อนลงไปหาม่อเจี่ยนหลี
ลำแสงเปล่งแสงสว่างวาบ
ในกล่องหยกเหลือเพียงแกนผลึกเม็ดเดียว ถูกหานลี่เก็บเข้าไปในกำไลเก็บของ
“ขอบพระคุณสหายหาน!” เซี่ยหรานและเฮยหลินเห็นเช่นนี้ ใบหน้ายินดีจนไม่อาจปกปิดได้อีก
เซี่ยหรานใช้มือหนึ่งตะปบไปกลางอากาศ แกนผลึกสองเม็ดที่บินมาขยับแแล้วร่อนลงในมือ
เฮยหลินเห็นเช่นนี้พลันลังเลเล็กน้อย ไม่ได้เอ่ยอันใดอีก และยกมือขึ้นดูดแกนผลึกสามเม็ดเข้ามาในแขนเสื้อ
“สหายหาน เจ้าเอาไปแค่เม็ดเดียวคงไม่เหมาะกระมัง” ม่อเจี่ยนหลีตะปบไปที่แกนผลึกสองเม็ดที่ร่อนลงมา กลับอดที่จะลังเลไม่ได้
“พี่ม่อวางใจ แกนผลึกที่เหลือเดี๋ยวก็ได้มาแล้ว ไม่แตกต่างกัน” หานลี่เอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ
“ในเมื่อสหายหานกล่าวเช่นนี้ ตาเฒ่าก็ขอรับไว้ก่อนก็แล้วกัน” ม่อเจี่ยนหลีหน้าเปลี่ยนสีไปสองสามครั้ง หลังจากกัดฟัน ก็เก็บผลึกสองเม็ดเข้าไปอย่างระมัดระวังโดยไม่ปฏิเสธ
“น้องหญิงจ่ายค่าตอบแทนแล้ว จากนี้ก็ควรลงมือได้แล้วสินะ” หญิงสาวถึงได้เอ่ยอย่างไม่รีบร้อน
“ไม่มีปัญหา เชิญเผ่าของเจ้านำทางเถิด” หานลี่ย่อมไม่มีเหตุผลที่จะไม่เห็นด้วย จึงตอบไปทันที
หญิงสาวตอบรับพร้อมกับหัวเราะน้อยๆ แล้วร่อนลงไปในเมืองศิลาทันที
เผ่าปีศาจระดับผสานอินทรีย์คนหนึ่งในเผ่าแมงมุมซิวหลัวถูกหญิงสาวออกคำสั่ง ก็หมุนตัวกลายเป็นพายุหมุน แล้วกลายเป็นอินทรีย์ยักษ์สีดำความยาวสิบจั้งเศษตัวหนึ่ง
หญิงสาวและพวกของมารดาเผ่าแมงมุมซิวหลัวพลันเคลื่อนไหวพร้อมกัน ทยอยกันเปล่งแสงสว่างวาบบนตัวของอินทรีย์
หลังจากเสียงกรีดร้องยาวๆ ดังขึ้น อินทรีย์ยักษ์ก็สยายปีกแล้วบินไปที่ขอบฟ้าทันที
“พวกเราก็ตามไปเถิด หวังว่าจะได้ผลึกศิลาหลังจากนี้อย่างราบรื่น”
หานลี่เอ่ยอย่างราบเรียบ ยกมือข้างหนึ่งขึ้น ลำแสงสีเขียวพุ่งออกมา หลังจากเปล่งแสงสว่างวาบ ก็กลายเป็นรถยักษ์สีเขียวรูปทรงสามเหลี่ยม และลอยขึ้นไปอย่างแผ่วเบา
ม่อเจี่ยนหลี เซี่ยหรานและพวกก็ไม่กล้าดูแคลนทยอยกันหมุนตัวบินขึ้นไปบนรถ
หานลี่ใช้มือหนึ่งร่ายอาคม รถยักษ์สั่นเทา แล้วกลายเป็นลำแสงสีเขียวดวงหนึ่งพุ่งไป ไล่ตามอินทรีย์สีดำยักษ์ตรงหน้าไปติดๆ
ทั้งสองอยู่ที่ขอบฟ้าตามลำดับสุดท้ายก็เปล่งแสงสว่างวาบแล้วหายวับไปอย่างไร้ร่องรอย
…
ครึ่งวันต่อมาบนน่านน้ำที่กว้างไกลจนสุดลูกหูลูกตา พายุสีดำและลำแสงสีเขียวดวงหนึ่งก็ม้วนวนมา
อสูรประหลาดที่แข็งแกร่งในน่านน้ำแถวนี้สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายลางๆ ที่แผ่ออกมาจากทั้งสอง ก็ทยอยกันหนีไปด้วยความตกตะลึง เพราะกลัวว่าจะไปล่วงเกินสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวด้านใน
ฉับพลันนั้นพายุสีดำด้านหน้าก็หยุดชะงัก ความเร็วลดลงเป็นอย่างมาก จากนั้นพายุหมุนก็สลายออกจากรอบด้าน เผยอินทรีย์ยักษ์ขนราวกับเหล็กกล้าออกมา
“อันใด ถึงที่นั่นแล้วหรือ” ลำแสงสีเขียวด้านหลังหม่นแสงลงเช่นกัน รถยักษ์คันหนึ่งปรากฏขึ้นพร้อมกับเสียงดังอึกทึก และมีเสียงบุรุษอันราบเรียบดังมา
“พี่หาน ไม่ต้องรีบร้อน บึงนั้นอยู่บนเกาะที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ถึงยามนั้นก็จะให้ทุกท่านออกแรงเอง” เสียงของหญิงสาวสวมชุดกระโปรงสีโลหิตอันไพเราะดังมาจากอินทรีย์ยักษ์ด้านหน้า
“มาถึงแล้วก็ดี หากนานกว่านี้ล่ะก็ เกรงว่าพวกเราจะเริ่มมีความคิดที่ไม่ดีแล้ว” หานลี่ยืนอยู่ตรงหัวรถ แล้วตอบกลับอย่างราบเรียบเป็นอย่างยิ่ง
“อันใด จนถึงยามนี้สหายก็ยังไม่เชื่อน้องหญิงหรือ?” หญิงสาวสวมกระโปรงสีโลหิตหัวเราะคิกคักขณะตอบ
“หึๆ เรื่องนี้พูดยาก หากยังไม่ได้ผลึกที่เหลือ ผู้แซ่หานย่อมไม่ค่อยวางใจ” หานลี่หาววอด แล้วเอ่ยอย่างไม่คิดเช่นนั้น
หญิงสาวหัวเราะน้อยๆ ออกมา แต่กลับไม่ได้เอ่ยอันใดต่อ
ยามนี้บนผิวน้ำด้านหน้าพลันมีเงาสีดำจำนวนมากปรากฏขึ้น เมื่อเข้าใกล้ก็พบว่าเป็นหมู่เกาะแห่งหนึ่ง
หมู่เกาะแห่งนี้มีทั้งขนาดเล็กและใหญ่ ด้านบนบ้างก็มีพุ่มไม้หนาแน่น บ้างก็รกร้าง คาดไม่ถึงว่าทัศนียภาพจะไม่เหมือนกัน
“น่าสนใจ คาดไม่ถึงว่าพลังปราณฟ้าดินที่อยู่ที่นี่แต่ละที่จะไม่เหมือนกัน” หลังจากเข้าใกล้เกาะเหล่านั้น ม่อเจี่ยนหลีก็แววตาเปล่งประกาย เอ่ยอย่างชื่นชมออกมา
“มีระลอกคลื่นเขตอาคม ดูเหมือนจะวางเขตอาคมต้องห้ามไว้จำนวนมาก ดังนั้นไอวิญญาณถึงได้แปลกประหลาดเช่นนี้ สหายอิงที่นี่คือที่ใดกันแน่” เซี่ยหรานกวาดจิตสัมผัสไปยังหมู่เกาะตรงหน้า ใจหายวาบพลางเอ่ยถาม
หานลี่ขมวดคิ้ว กวาดสายตาไปที่เผ่าแมงมุมซิวหลัวบนนกอินทรีย์ยักษ์ตรงหน้า ไม่ได้ซักถามอันใดในทันที
“ทุกท่านคิดมากไปแล้ว ที่นี่เป็นแค่สนามรบในอดีตกาลที่หลงเหลืออยู่เท่านั้น ดังนั้นแม้ว่าที่นี่จะมีเขตอาคมมากมาย แต่ล้วนไม่สมบูรณ์ ไม่มีสิ่งใดทำอันตรายพวกเราได้ หากทุกท่านยังไม่เชื่อตรวจสอบดูก็รู้แล้ว” มารดาเผ่าแมงมุมซิวหลัวตอบกลับด้วยเสียงหัวเราะเย็นชา
“เป็นแค่เขตอาคมชำรุดดังคาด ประสิทธิภาพมีแค่หนึ่งในสองส่วนเท่านั้น” ม่อเจี่ยนหลีรีบใช้จิตสัมผัสตรวจสอบถึงได้เอ่ยขึ้นอย่างวางใจ
“หึๆ เป็นพวกเราที่คิดมากไป” เซี่ยหรานกวาดจิตสัมผัสไปเช่นกัน แล้วมีสีหน้าผ่อนคลายลง
เช่นนี้อินทรีย์ยักษ์และรถสงครามจึงไม่ได้รั้งรออยู่กลางอากาศ พลางหายเข้าไปในน่านน้ำของหมู่เกาะตามลำดับ
เห็นได้ชัดว่าเผ่าแมงมุมซิวหลัวคุ้นเคยกับน่านน้ำแห่งนี้เป็นอย่างดี
อินทรีย์ยักษ์บินอยู่ด้านหน้า หักเลี้ยวไปทางทิศตะวันออกกลางอากาศ แล้วอ้อมไปทางทิศตะวันตก หลบหลีกเขตอาคมชำรุดที่ขวางทางอยู่ไปอย่างง่ายดาย เข้าไปในส่วนลึกของหมู่เกาะอย่างแทบจะไม่มีอันใดขัดขวาง
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วยาม เมื่อกลางอากาศมีเพลิงเย็นเยียบก่อตัวขึ้น เกาะยักษ์ที่มีน้ำแข็งปกคลุมอยู่ก็ปรากฏสู่สายตา
มองจากไกลๆ เกาะแห่งนี้มีขนาดหมื่นลี้ และยิ่งไปกว่านั้นทุกแห่งล้วนมีหิมะปกคลุมอยู่ มองดูแล้วเลือนราง มียอดเขาสูงตระหง่านตั้งอยู่สองสามแห่งลางๆ
“ที่นี่แหล่ะ บึงเย็นเยียบอยู่ในหุบเขาแห่งนี้ สหายทุกท่านลงไปพร้อมกันเถิด” หญิงสาวสวมกระโปรงสีโลหิตเห็นเกาะแห่งนี้ทันใดนั้นก็เผยแววตาร้อนแรงออกมา หลังจากร้องเรียนหานลี่และพวกที่อยู่ด้านล่าง ก็กระตุ้นอินทรีย์ยักษ์ร่อนลงไปบนเกาะ
หานลี่และพวกมองสบตากันแวบหนึ่ง ย่อมตามไปติดๆ
…
หลังจากผ่านไปเป็นเวลาหนึ่งกาน้ำชา กลุ่มคนก็มาปรากฏตัวในหุบเขาที่มีหิมะปกคลุมเป็นชั้นๆ หนาๆ ห่างจากพื้นดินไปสิบจั้งเศษ
อินทรีย์ยักษ์และรถเหาะหายไปอย่างไร้ร่องรอย
“ที่นี่แหล่ะ บึงเย็นเยียบอยู่ที่ใด?” เฮยหลินกวาดจิตสัมผัสไปรอบด้าน เผยสีหน้าแปลกประหลาดใจขณะเอ่ยถาม
“สหายเฮยหลิน แม้ว่าสมบัติในบึงเย็นเยียบจะไม่อาจถูกคนนอกเอาไปได้ แต่ที่นี่รกร้างเพียงนี้ เผ่าของเราย่อมไม่อาจเปิดเผยต่อภายนอกได้ จึงใช้เขตอาคมปกปิดเอาไว้ ทหารถอนเขตอาคมลวงตาออก” มารดาเผ่าแมงมุมซิวหลัวอธิบายด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกแล้วออกคำสั่ง
แมงมุมซิวหลัวโตเต็มวัยสองในสี่คนยืนขึ้นทันที และลอยไปที่มุมหนึ่งของหุบเขา
คนหนึ่งพลิกฝ่ามือข้างหนึ่ง จานอาคมอันวิจิตรงดงามสี่เหลี่ยมปรากฏขึ้นที่ใจกลางฝ่ามือ
อ้าปากออกพ่นธงสีขาวโพลนออกมา
ทั้งสองพลันบริกรรมคาถา ในเวลาเดียวก็โยนสมบัติในมือออกไปและใช้นิ้วชี้ไปอย่างต่อเนื่อง
หลังจากเสียง “พรึ่บๆ” ดังขึ้น จานอาคมสี่เหลี่ยมก็หมุนคว้าง อักขระยันต์ห้าสีบินออกมาจำนวนนับไม่ถ้วนและลอยไปด้านหน้า
รัศมีลำแสงสีขาวเปล่งแสงสว่างวาบแล้วร้องคำรามทันใด เงาลวงตาพยัคฆ์ขาวยักษ์ปรากฏขึ้น
เสียงอึกทึกดังขึ้น พยัคฆ์ขาวอ้าปากออก ทันใดนั้นก็พ่นเสาลำแสงโปร่งใสออกมา เปล่งแสงสว่างวาบแล้วจมหายเข้าไปในมุมของหุบเขา
ส่วนอักขระยันต์ห้าสีเหล่านั้นก็ปะปนอยู่ในพายุหิมะ แล้วม้วนวนไปยังที่เดียวกัน
ครู่ต่อมามุมของหุบเขาพลันมีแสงสว่างวาบแล้วเลือนราง ชั่วขณะนั้นเขตอาคมขนาดใหญ่พลันปรากฏขึ้น
เขตอาคมนี้ดูลึกลับ และยิ่งไปกว่านั้นตรงขอบยังมีผลึกศิลาขนาดเท่ากำปั้นห้าหกสีฝังอยู่เต็มไปหมด ดูสะดุดตายิ่งนัก
ใจกลางของเขตอาคมมีน้ำแข็งทมิฬราวกับผลึกวารีอยู่เป็นชั้นๆ มีแท่นสูงทรงกลมลางๆ มีลำแสงสีขาวปรากฏขึ้นลางๆ
“นี่คือบึงเย็นเยียบที่พวกเจ้าพูดถึง ดูแล้วก็ไม่มีอันใดมิใช่หรือ?” เซี่ยหรานกวาดตามองแท่นสูงทรงกลม แล้วขมวดคิ้วขณะเอ่ย
“หึ หากเป็นเช่นนั้นก็ดี หากไม่ใช่เพราะข้าใช้เขตอาคมและสมบัติหยางบริสุทธิ์สองสามชิ้นกดไอเย็นเยียบในบึงไว้ เกรงว่าคงเปิดผนึกได้แค่พริบตา น่านน้ำในละแวกนั้นล้วนถูกแช่แข็งเป็นน้ำแข็ง” มารดาเผ่าแมงมุมซิวหลัวแค่นเสียงหึ แล้วเหลือบมองเซี่ยหรานแวบหนึ่งขณะเอ่ย
“น่านน้ำทั้งผืนถูกแช่แข็ง น่ากลัวจริงๆ” ม่อเจี่ยนหลีได้ยินก็หน้าเปลี่ยนสี
“ตกลงเป็นอย่างไรกันแน่ อีกเดี๋ยวก็รู้แล้ว สหายหลัว พวกเจ้าเปิดบึงเย็นเยียบเถิด พวกเราดูก่อนแล้วค่อยว่ากันเถิด” หานลี่กลับเอ่ยด้วยสีหน้าราบเรียบ…