ยอดรักชายาอัปลักษณ์ - ตอนที่ 293 ยาขับเลือด / ตอนที่ 294 มู่หรงเหยียนเมามาย
ตอนที่ 293 ยาขับเลือด
บนแก้มยังคงปวดระบม หนิงอวี้ย่นคิ้ว ยื่นมือไปแตะเบาๆ ก็สัมผัสกับรอยบวมแดงทั้งแถบ ได้ยินว่าเมื่อวาน มู่หรงเหยียนบันดาลโทสะด้วยเรื่องของนาง ตะคอกตำหนิพระชายารองอย่างรุนแรง
ได้ยินว่าหญิงสาวผู้นั้นชื่อว่าฮ่วนปี้อวี้ เป็นลูกหลานตระกูลนักรบนายพลแห่งราชวงศ์เหนือ หนิงอวี้คิดพลางเอามือเท้าคาง สาวใช้ก็ยกข้าวต้มเข้ามาให้
หนิงอวี้รับถ้วยมาแล้วตักเข้าปากหนึ่งคำ รสขมฝาดอ่อนๆ แม้จะถูกกลบด้วยรสของเนื้อกุ้งและปลา แต่เมื่อกลืนลงคอแล้ว รสขมนิดๆ นั้นกลับคลุ้งไปทั้งปาก
หนิงอวี้ขมวดคิ้วแล้ววางช้อนลงในถ้วย หางตาเหลือบมองเห็นสาวใช้ถือถ้วยข้าวต้มมือสั่นเทิ้มไม่หยุด หนิงอวี้ยกถ้วยข้าวต้มนั้นขึ้นมาดมเบาๆ ก็ได้กลิ่นของยาจางๆ จนแทบไม่รู้สึก
นางวางถ้วยลงบนโต๊ะ เกิดเสียงดังขึ้น หญิงสาวรีบคุกเข่าลงกับพื้นโขกหัวไม่หยุด หนิงอวี้สีหน้านิ่งเฉย หันกายกลับไปยังเตียง มุดเข้ากลางผ้านวมเพื่อนอนหลับ
ผิดชอบชั่วดี เจ้ามากเล่ห์ข้ามากกล นางเบื่อที่จะคิดอีกแล้ว ใครวางยากันนั้น นางหน่ายที่จะเดา อาจเป็นฮ่องเต้ราชวงศ์เหนือ ได้ยินว่าเว่ยหยวนเอาชนะกองทัพราชวงศ์เหนือได้จึงทรงเสียพระทัย คงคิดกำจัดเด็กในท้องทิ้งแล้วส่งนางกลับไปเพื่อขอสงบศึก
หรืออาจเป็น ความหึงหวงของพระชายารองปี้อวี้ กลัวว่านางจะให้กำเนิดพระโอรสองค์โตของรัชทายาท หรืออีกคน มู่หรงเหยียนหรือ ไม่ใช่เขาหรอก หนิงอวี้ส่ายหน้า ช่างเถอะ นางไม่อยากเดา ไม่อยากสู้รบ ต้องการเพียงดูแลเด็กคนนี้ ให้ได้พบกับเว่ยหยวนอย่างปลอดภัย
แต่นางเป็นเนื้อในปากเสือเช่นนี้ จะทำอย่างไรได้หรือ หนิงอวี้เกิดอยากหัวเราะขึ้นมาทันใด หากเกิดเรื่องที่นี่ ผู้ที่จะปกป้องนางได้ ก็มีเพียงแค่มู่หรงเหยียนเท่านั้น
นางหลับยาวถึงเที่ยง หนิงอวี้ตื่นขึ้นมาสะลึมสะลือ ยื่นมือไปยังหมอน เมื่อคลำพบกระดาษหยาบๆ ใบหนึ่ง ก็ลุกขึ้นนั่งอย่างวางใจ
“แม่นาง ยาบำรุงครรภ์เจ้าค่ะ”
หนิงอวี้หาวนอน รับถ้วยยานั้นมาดื่มสองสามคำทั้งตาปรือ ทันใดนั้น เรื่องข้าวต้มเมื่อยามเช้าก็ผุดขึ้นกลางความคิด มือข้างที่ถือถ้วยนั้นเริ่มสั่นระริก
“ไปตามหมอมา”
นางพยายามสงบนิ่งแล้ววางถ้วยยาลงด้านข้าง นางลุกขึ้นดื่มน้ำแล้วอาเจียนออกมา ลำบากอยู่พักใหญ่ ยาก็ไม่ได้ถูกอาเจียนออกมา
ครู่หนึ่ง หมอก็รีบตามมา หนิงอวี้รู้สึกปวดท้องอย่างมาก
“ท่านหมอ แม่นางดื่มยานี้แล้วก็ปวดท้องไม่หยุดเลย ท่านรีบดูว่ายานี้มีปัญหาอะไรหรือไม่”
สาวใช้สีหน้าลนลาน เพราะนางเป็นผู้ยกน้ำยานี้เข้ามา หากมีปัญหาใด ยากที่จะหลุดพ้นเป็นคนแรก
หมอยกถ้วยยามาดมกลิ่นเบาๆ ครั้นแล้วก็จิ้มนิ้วลงไปหนึ่งทีแล้วชิมรส
“ในนี้ผสมยาสมุนไพรสำหรับขับเลือดอยู่เล็กน้อย”
หนิงอวี้ปวดจนขาทั้งสองดิ้นพล่าน ได้ยินคำพูดดังนั้นก็น้ำตาซึมออกหางตา นางฝืนลุกขึ้นนั่ง ยื่นมือไปดึงแขนเสื้อหมอ
“ช่วยลูกข้าด้วยเถิด”
เขายังไม่ได้เกิดมา ก็ต้องมาทนทรมานกับนางจนสิ้น ยามค่ำคืนเงียบสงัดไร้ผู้คน นางมักจะหลั่งน้ำตาอยู่เงียบๆ เมื่อยื่นมือลูบท้องน้อยแล้วจึงได้รู้สึกสบายใจขึ้นบ้าง
เขายังเล็กนัก ยังไม่ทันมายังโลกนี้ ก็จะต้องจากไปเชียวหรือ หนิงอวี้ขอร้องสีหน้าสัตย์ซื่อ ท่านหมอพยักหน้ารับไม่ขาด หยิบผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งขึ้นมาวางบนแขนนางแล้วตรวจวัดชีพจร
หนิงอวี้เอนกายกลับไปยังเตียง ตะแคงคอมองท่านหมอ น้ำตาไหลพรูไม่ขาด แต่ในใจหนิงอวี้นั้นกลับว่างเปล่า นางจะต้องเสียเขาไปหรือ เขาจะเป็นองค์ชายผู้ร่าเริงแจ่มใสไม่ก็องค์หญิงผู้สุขุมหลักแหลมกันนะ
เขาคือบุตรของนาง ผลึกแห่งรักระหว่างนางและเว่ยหยวน หนิงอวี้ยกมือขึ้นปิดตาทั้งคู่ น้ำตาไหลพรั่งพรูออกมาไม่ขาด
“อ๊ะ! เลือดไหลแล้ว!”
หนิงอวี้ดึงมือกลับ ก็เห็นสาวใช้สีหน้าตกตะลึง เลือดออกหรือ หนิงอวี้ประหลาดใจอย่างมาก นางยกศีรษะขึ้นเล็กน้อยก็เห็นชายกระโปรงด้านล่างถูกไหลย้อมด้วยเลือด
“ใครก็ได้ ยกน้ำมาที เอากระดาษกับพู่กันมา ข้าจะเขียนใบสั่งยา…”
หนิงอวี้พยายามรวบรวมอารมณ์ครั้งสุดท้าย ยื่นมือไปดึงแขนเสื้อท่านหมอไว้
“ขอร้องท่านล่ะ ช่วยลูก…”
ตอนที่ 294 มู่หรงเหยียนเมามาย
“นายหญิงเพคะ ที่ตำหนักซีย่วนตอนนี้ผู้คนพลุกพล่าน ครึกครื้นยิ่งนักแลเพคะ”
ซวงหวาหัวเราะเบาๆ พระชายารองได้ยินก็เลิกคิ้ว ยกมือหยิบปิ่นปักผมด้ามหนึ่งขึ้นปักลงกลางผม แล้วหันไปมองอย่างยังคันฉ่อง
“จัดการเรียบร้อยแล้วหรือยัง”
“เพคะ บ่าวฆ่าคนที่รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว ขอนายหญิงโปรดวางใจ”
หนิงลู่คุกเข่ากับพื้น สีหน้าสงบนิ่ง
ซวงหวาเห็นนางเช่นนั้น ก็อดอิจฉามิได้ นางยิ้มพริ้มพรายพลางพูดขึ้น “พี่หนิงลู่คิดการรอบคอบ กลัวว่านางจะถูกพบกลางครัน จึงใส่ใจเพิ่มความระวังปริมาณยาเป็นพิเศษเลยเพคะ”
พระชายารองพยักหน้า แม้จะรู้ว่านี่เป็นการทำดีต่อนาง แต่ก็ยากที่จะไม่เกิดความระแวงสงสัยในตัวหนิงลู่ได้ วิธีการโหดเ**้ยมเช่นนี้ หากวันหนึ่งนางคิดแปรพักตร์ล่ะก็…
พระชายารองย่นคิ้ว วินาทีถัดมาก็คลายสีหน้า ยื่นมือไปหยิบปิ่นดอกไม้ไหวลายผีเสื้อเลี่ยมทองอันหนึ่งขึ้นมา แล้วโยนไปยังหนิงลู่
“ให้รางวัลเจ้า เรื่องนี้จัดการได้ดีมาก”
ระวังตัวหน่อยก็พอ ในเมื่อนางเป็นสาวใช้ติดตามมาตั้งแต่ครั้งออกเรือน คงไม่คิดทรยศกันง่ายๆ โหดเ**้ยมก็ดี จะได้ใช้มากำจัดศัตรูเสี้ยนหนาม พระชายารองเลื่อนสายตาขึ้นเห็นสาวงามสะคราญอ่อนหวานกลางคันฉ่อง จึงยิ้มขึ้นมาอย่างภาคภูมิ
——
“องค์รัชทายาท เสด็จเข้าไปไม่ได้เพคะ!”
มู่หรงเหยียนขมวดคิ้ว ดูเหล่าสาวใช้เดินเข้าเดินออกไปมา พวกนางยกอ่างใส่น้ำเข้าไปด้านในใบหนึ่ง ไม่นานก็มีคนยกน้ำเลือดออกมา
มู่หรงเหยียนพยายามสะกดความกังวลในใจ แล้วถามด้วยเสียงอันทุ้มว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่”
หัวหน้าสาวใช้คุกเข่าลงกับพื้น แล้วพูดตอบ “ได้ยินว่าหลังจากแม่นางดื่มยาบำรุงครรภ์เข้าไปหนึ่งถ้วยแล้ว ก็ปวดท้องไม่หยุด เลือดไหลราวกับเทน้ำเลยเพคะ”
“ตอนนี้นางเป็นเช่นไรบ้าง”
“เอ่อ…บ่าวหารู้ไม่เพคะ”
มู่หรงเหยียนสูดหายใจเข้าลึกหนึ่งครั้งแล้วหันกายเดินจากไป ไม่ต้องพูดอะไรให้มากความ เขาก็รู้ได้อย่างชัดเจนว่านี่ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นผู้อื่นที่ลอบทำร้าย จะเป็นเสด็จพ่อหรือปี้อวี้? มู่หรงเหยียนขบฟันแน่น รู้สึกเดือดดาลขึ้นมาอย่างรุนแรง
เดินดุ่มๆ มาตลอดทาง มู่หรงเหยียนไม่ได้ใส่ใจกิริยาท่าทาง ยกเท้าขึ้นถีบประตูเปิดออก องครักษ์ลับในห้องรีบคุกเข่าลงโดยพลัน มู่หรงเหยียนเม้มปาก แล้วพูดขึ้นเสียงทุ้ม “ไปสืบให้ถึงที่สุด แล้วรีบมารายงาน”
คืนนั้นที่เขาตัดสินใจส่งอวี้เอ๋อร์ไปจากที่นี่ แต่เมื่อใคร่ครวญตลอดทั้งคืน ท้ายที่สุดก็ตัดใจไม่ได้อยู่ดี ในขณะที่คิดจะผิดคำสัญญาทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาก็ถูกความจริงตบเข้ากลางหน้าอย่างจัง
เดิมทีเขาคิดไปว่า ตนสามารถปกป้องนางให้ดีได้ แต่ความจริงแล้ว เขากลับถูกเลือดที่ไหลเจิ่งนองกระชากตื่นจากความฝัน
“ไปเอาสุรามา!”
มู่หรงเหยียนตะโกนขึ้นดังหนึ่งที เพียงชั่วครู่ สาวใช้ก็ยกสุรามา มู่หรงเหยียนไม่สนใจจอกเหล้าใบเล็ก เขายกเหยือกสุราขึ้นมาดื่มเสียจนสาแก่ใจ
จนกระทั้งขวดสุราใบที่เก้าล้มกลิ้ง ไปกระทบกับขวดสุราอื่นที่เหลือจนดังขึ้นกังวาน องครักษ์ลับก็ผลักประตูเดินเข้ามาคุกเข่ากับพื้น
มู่หรงเหยียนใบหน้าแดงก่ำ แต่สีหน้ากลับยังคงบึ้งตึงเคร่งขรึม
องครักษ์ลับคุกเข่าลงกับพื้น แล้วพูดขึ้นเสียงทุ้ม “ทูลองค์ชาย ข้าน้อยสืบไม่ได้ผลอันใดเลยพ่ะย่ะค่ะ”
“สาวใช้ที่ยกถ้วยยานั้นบอกเพียงว่าทำเช่นปกติ นางไม่ได้ลงมือทำอันใด ข้าน้อยลงทัณฑ์นางอย่างหนัก แต่ยังคงไม่เปลี่ยนคำพูดที่ว่าไว้ในตอนแรก”
“สาวใช้ที่ต้มยานั้นตายอยู่กลางสระ ว่ากันว่านางกลัวความผิดจึงปลิดชีพตน ส่วนแพทย์หลวงที่สั่งยาก็ไม่รู้สิ่งใดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพียงแต่บอกว่าตนบริสุทธิ์ ข้าน้อยอาศัยการยืนยันจากคนรอบข้าง ว่าที่เขากล่าวนั้นคือความจริงพ่ะค่ะ”
“แล้วยามาได้อย่างไรกัน”
มู่หรงเหยียนมือข้างหนึ่งเท้าคาง พลางมองไปยังองครักษ์ลับที่คุกเข่าอยู่กับพื้นสีหน้าเรียบ องครักษ์ลับก้มหน้า ตอบกลับไปว่า “ไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ ทั้งตำหนักไม่มีผู้ใดเอายาเหล่านี้มา ที่ทางเข้าประตูตำหนักมีผู้คนมากมายเข้าออก จำเป็นต้องใช้เวลาสักหน่อยในการค้นหาพ่ะย่ะค่ะ”
“อวี้หนูอยู่ที่ใด”
“ตำหนักกลางเขาพ่ะย่ะค่ะ”
มู่หรงเหยียนเหยียดตัวนั่งอย่างคลอนแคลน ยกมือขึ้นรินสุราให้ตนเองจนเต็มจอก
“ตามนางมาปกป้องคุ้มครองแม่นาง”
คงได้แต่ปล่อยนางไปเท่านั้นหรือ ความจริงก็ไม่ควรให้นางเข้ามาเกี่ยวพันด้วยตั้งแต่แรกแล้ว มู่หรงเหยียนยิ้มเศร้า นางเกลียดการชิงดีชิงเด่นมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว