ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด - ตอนที่ 304
ความสัมพันธ์แม่ลูกยิ่งเหินห่าง
“ฝ่าบาท หุบปาก”
มู่หรงกวานเย่ว์ขึ้นเสียงดุเฉินมั่วฉือ หากพูดต่อไป ไม่รู้ว่าเฉินมั่วฉือจะพ่นอะไรไม่น่าฟังออกมาอีก
“เรื่องนี้ลูกจะทำเป็นปิดตาข้างเดียวก็ได้ แต่เสด็จแม่ต้องรับปากลูก ต่อไปจะไม่แตะต้องหลิงอวี้จื้ออีก มิเช่นนั้นลูกจะไม่มีทางให้อภัยเสด็จแม่ เสด็จแม่รีบพักผ่อนเถิด ลูกทูลลา”
พูดจบเฉินมั่วฉือก็ออกไปจากตำหนักใหญ่ มู่หรงกวานเย่ว์ได้แต่รู้สึกปวดหัวอย่างรุนแรง ปวดขมับตุบๆ แทบจะยืนไม่อยู่ จื่ออีรีบเข้าไปประคองมู่หรงกวานเย่ว์
“ไทเฮาอย่ากริ้วเลยเพคะ พระวรกายสำคัญกว่า”
“ตลอดชีวิตเราทำเพื่อลูกชายคนนี้ ตอนนี้เขาโตแล้วแต่กลับไม่เชื่อฟังเราเช่นนี้ เพียงเพื่อผู้หญิงคนเดียว กระทั่งความสัมพันธ์แม่ลูกก็ไม่แยแสแล้ว
เราคิดไปเองว่าตนเป็นฝ่ายชนะ ตอนนี้กลับถูกเด็กสาวคนหนึ่งปลุกปั่นจนอยู่ไม่สุข จื่ออี เจ้าว่าคนรอบกายเราโดนของหรือไม่ แต่ละคนต่างก็เอนเอียงไปทางแม่เด็กสาวนั่น ขนาดมู่หรงนี่อวิ๋นยังช่วยนางพูด”
มู่หรงกวานเย่ว์รู้สึกเหมือนหน้าอกถูกบีบอัดเป็นก้อน จะหายใจก็หายใจไม่ออก รู้สึกเจ็บเป็นระลอก
สิบกว่าปีมานี้ นางทุ่มเทแรงกายแรงใจฟูมฟักเลี้ยงดูลูกชาย ในที่สุดก็ส่งเขาขึ้นไปถึงบัลลังก์จักรพรรดิ นึกไม่ถึงว่าจะมีผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งลูกชายโตขึ้น ความรู้สึกระหว่างแม่ลูกก็กลับยิ่งเหินห่างไปทุกที นางถึงขนาดไม่รู้ว่าเฉินมั่วฉือกำลังคิดอะไร
“ไทเฮาเพคะ ทรงอย่าเอาคำพูดของฝ่าบาทมาเก็บไปคิดเลย ฝ่าบาทเพิ่งจะพระชนมายุสิบสี่พรรษา เป็นช่วงวัยรุ่นที่มีอารมณ์พลุ่งพล่าน จึงได้พูดจาเลอะเทอะเช่นนี้เพคะ
ต่อไปรอฝ่าบาทพระชนมายุมากขึ้นหน่อย ก็จะเข้าใจความทุกข์ยากของไทเฮาเองเพคะ กับฝ่าบาท ตอนนี้ไทเฮาต้องใช้น้ำเย็นเข้าลูบ มิเช่นนั้นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์แม่ลูกเพคะ”
มู่หรงกวานเย่ว์ไม่พูดอะไร ค่อยๆ สงบสติอารมณ์ลง
“คราวที่แล้วไปซูโจว เซียวเหยี่ยนก็พาหลิงอวี้จื้อไปด้วย ตอนนี้ในใจเขาคงกลัวสารพัด จึงไม่กล้าพาหลิงอวี้จื้อไปด้วย
เขาคงจะค้นพบแล้วว่ายาถอนพิษที่เราให้ไปก่อนหน้านี้มีปัญหา จึงออกไปหายาถอนพิษ
อีกสองสามวัน เจ้าให้คนไปปล่อยข่าวสักหน่อย ขอเพียงนางยังเป็นห่วงเซียวเหยี่ยน ก็จะต้องไปแน่นอน คราวนี้พอนางไปแล้วก็อย่าให้นางได้กลับมาอีก เราไม่สามารถปล่อยให้นางมามีอิทธิพลต่อมั่วฉืออีก เจ้าลูกมั่วฉือคนนี้ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แน่”
เห็นเฉินมั่วฉือชอบหลิงอวี้จื้อขนาดนี้ มู่หรงกวานเย่ว์ก็คิดจะฆ่าหลิงอวี้จื้อ อย่างไรเสียไปตายข้างนอกก็คงไม่เกี่ยวข้องกับนางสักเท่าไหร่ คราวนี้ นางคงใช้โชคดีของตนเองไปหมดแล้ว
“แล้วทางท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการพระองค์ละเพคะ”
“เราเองก็ไม่มียาถอนพิษ แต่พิษนี้ไม่ถึงแก่ชีวิตของเขา จะถอนหรือไม่ถอนก็ไม่เป็นอะไร อย่างไรเสียเขาก็คงไม่คิดทำอะไรเรา
หากเขาเจอเรื่องยุ่งยากขณะตามหายาถอนพิษ ก็ให้พวกเขาแอบช่วยเซียวเหยี่ยนอยู่ห่างๆ
ตอนนี้ไม่ต้องทำอะไรเซียวเหยี่ยน หากไม่มีเซียวเหยี่ยน เฉินจิ่งเฟิงกับเฉินเซี่ยวหรูคงไม่อยู่เฉย เฉินมั่วฉือไม่มีความสามารถเช่นนี้ ตอนนี้ยังต้องพึ่งเซียวเหยี่ยนคอยกำราบสองคนนี้”
จื่ออีรับคำเงียบๆ นางรู้ว่าถึงแม้มู่หรงกวานเย่ว์จะพูดจาโหดเ**้ยม แต่ก็ทำใจฆ่าเซียวเหยี่ยนไม่ได้ ได้แต่เตือนตนให้เก็บเซียวเหยี่ยนไว้ แล้วหาเหตุผลมาพูดปลอบใจตนเอง
หลิงอวี้จื้อคุกเข่าตรงธรณีประตูวังฉางเล่อ มู่หรงนี่อวิ๋นยืนอยู่ข้างเธอ ถามเสียงเบา
“เจ้าไม่รู้ตัวตนของมั่วชิงจริงหรือ”
“เจ้าว่าอย่างไรล่ะ”
“เห็นเจ้าตกใจขนาดนั้น คงจะไม่รู้เรื่องจริงๆ”
“นี่อวิ๋น ขาเจ้าวิ่งไม่คล่องหรือว่าเป็นอะไรไป นึกไม่ถึงว่าจะมาช้าขนาดนี้”
นางแจ้งข่าวมู่หรงนี่อวิ๋นไปตั้งนานแล้วแท้ๆ ปรากฏว่ารออยู่ตั้งนานเขาถึงจะเข้าวังมา หากมู่หรงนี่อวิ๋นเข้าวังเร็วกว่านี้หน่อย เรื่องก็คงจะไม่บานปลายไปถึงไหน แน่นอน เธอไม่ได้โทษมู่หรงนี่อวิ๋น แค่นี้เขาก็เป็นเพื่อนที่ใช้ได้มากแล้ว