ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด - ตอนที่ 312-313
ตอนที่ 312 เหมือนเมืองผีสิง
เร่งเดินทางติดต่อกันหลายวัน หลิงอวี้จื้อก็เหนื่อยล้าอย่างยิ่ง คืนนี้พวกเขาตัดสินใจพักผ่อนสักคืนที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งในอำเภอฉางหนิง พรุ่งนี้ค่อยไปสืบถามข่าวคราว
อำเภอฉางหนิงยามย่ำค่ำเงียบสงบ ประกอบกับข้างนอกอากาศหนาว บนถนนใหญ่ไม่มีคนสักคน ลมหนาวพัดหวีดหวิว ข้างนอกให้ความรู้สึกน่ากลัว
หลิงอวี้จื้อแง้มม่าน มองไปข้างนอก
“อำเภอฉางหนิงนี้ทำไมถึงเหมือนเมืองผีสิงเช่นนี้ ฟ้าเพิ่งจะมืดก็มองไม่เห็นคนแม้แต่คนเดียวแล้ว แต่ละบ้านปิดประตูกันหมด เข้ามาถึงก็รู้สึกไม่ค่อยดี”
“เจ้ากลัวผีหรือ”
มู่หรงนี่อวิ๋นหัวเราะลั่นพลางถาม
“ถ้าหากมีผี ข้าก็กลัวจริงๆ หากเจ้าไม่กลัว เจ้าต้องเป็นคนเดินนำหน้านะ”
“ขี้ขลาดจริง โลกนี้มีผีที่ไหนกัน”
มู่หรงนี่อวิ๋นหัวเราะเยาะหลิงอวี้จื้อ เพิ่งจะสิ้นเสียงพูดของเขา ก็มีเสียงคล้ายเสียงร้องของผู้หญิงดังแว่วมาจากที่ไกลๆ เสียงร้องหดหู่อ้างว้างมาก ได้ยินเสียงร้องเช่นนี้บนถนนอันว่างเปล่าก็ยิ่งรู้สึกหลอน
หลิงอวี้จื้อขนลุกซู่ไปทั้งตัว แม่เจ้า อำเภอเล็กๆ แห่งนี้คงไม่มีผีจริงๆ หรอกนะ!
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้นับถือเทพเจ้า แต่การที่อยู่ๆ เธอก็ข้ามภพมานี่ก็อัศจรรย์พันลึกพอแล้ว ด้วยเหตุนี้ เธอจึงจับทางไม่ได้ว่าในช่วงเวลายุคนี้จะมีของจำพวกผีสางอะไรหรือไม่
เสียงร้องไห้นี้ พวกเขาต่างได้ยินกันหมด
มั่วชิงมองออกไปข้างนอกอย่างระวังตัว หลิงอวี้จื้อฝืนตัวเองให้อยู่ในอาการสงบ มู่หรงนี่อวิ๋นพูดปลอบอย่างไม่ค่อยสนใจว่า
“ค่ำๆ เช่นนี้อาจจะมีผู้หญิงที่ถูกสามีทิ้งกำลังร้องไห้ก็ได้ อวี้จื้อ เจ้าไม่ต้องกลัว หากมีผีจริง ข้าจะยืนข้างหน้าเอง”
รถม้าเดินหน้าต่อไป หลิงอวี้จื้อได้ยินเสียงร้องที่ไม่เหมือนกันดังขาดๆ หายๆ โดยพื้นฐานต่างก็เป็นเสียงร้องไห้ของผู้หญิง
ได้ยินเสียงร้องไห้ครั้งแรกก็ค่อนข้างตกใจจริงๆ ตอนนี้ไม่รู้สึกอะไรแล้ว
เงี่ยหูฟังอย่างละเอียด จากเสียงร้องไห้สามารถวิเคราะห์ได้ว่า โดยพื้นฐานแล้วต่างก็เป็นหญิงสาวแรกรุ่น อำเภอเล็กๆ แห่งนี้พอตกค่ำแล้วเหตุใดถึงมีเสียงผู้หญิงมากมายขนาดนี้กำลังร้องไห้ ประหลาดจริงๆ
“คุณหนูเจ้าคะ ข้างหน้ามีโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง พวกเราจะไปพักหรือไม่เจ้าคะ”
หลิงอวี้จื้อพยักหน้า
“พักแน่นอน”
หลิงอวี้จื้อแง้มม่านกระโดดลงจากรถม้า โรงเตี๊ยมไม่ใหญ่ ข้างหน้าประตูแขวนโคมไฟสองอัน เห็นเด่นชัดมากในตอนกลางคืน พวกเขาเดินเข้าไปในโรงเตี๊ยม ผู้ดูแลโรงเตี๊ยมเตรียมจะปิดประตู เห็นว่าตอนนี้ยังมีแขกมาพัก ก็ตกใจเป็นอย่างมาก
หลิงอวี้จื้อยิ้มตาหยีถาม
“ผู้ดูแล ยังมีห้องว่างหรือไม่”
ผู้ดูแลจึงได้สติกลับมา
“มีแน่นอนขอรับ”
“ผู้ดูแล พวกเจ้าทำกิจการโรงเตี๊ยม ปิดประตูเร็วขนาดนี้เชียวหรือ”
มู่หรงนี่อวิ๋นถามอย่างใคร่รู้
ผู้ดูแลเดินไปหลังโต๊ะต้อนรับ หยิบพู่กันที่อยู่บนโต๊ะต้อนรับ เตรียมให้พวกเขาลงทะเบียน ถอนหายใจแรงหนึ่งครั้ง
“พอย่ำค่ำก็ไม่มีคน ปิดประตูเร็วหน่อยดีกว่าขอรับ”
“เมื่อครู่ข้ามาจากถนนใหญ่ ได้ยินเสียงร้องไห้ไม่น้อย ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นหรือ”
ผู้ดูแลเงยหน้า แล้วส่ายหน้าพูดว่า
“พวกท่านคงมาจากต่างถิ่นกระมัง! พวกท่านต้องระวัง โดยเฉพาะคุณชายท่านนี้ กลางคืนห้ามออกไปไหนเด็ดขาด
ไม่นานมานี้ ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นในอำเภอ มีผู้ชายหายตัวไปสิบกว่าคนติดต่อกันแล้ว ล้วนแต่เป็นชายหนุ่มวัยยี่สิบสามสิบปี ไม่กี่วันมานี้ศพที่พบติดๆ กัน ไม่รู้ว่าถูกสัตว์ร้ายอะไรกัดเข้า เละเทะผิดรูปผิดร่างไปหมด
ตอนนี้คนในอำเภอต่างก็ตื่นตระหนก พอฟ้ามืดก็ไม่มีใครกล้าออกมาแล้ว เสียงร้องไห้ที่ท่านได้ยินต่างก็เป็นเสียงภรรยาของชายที่ตายไปแล้วกำลังร้องไห้ ช่างน่าเวทนาเสียจริง”
หลิงอวี้จื้อใจหายวาบ หรือว่าที่เซียวเหยี่ยนหายตัวไปก็เพราะตกอยู่ในมือของคนพวกนี้เช่นกัน ดูจากฝีมือวิทยายุทธ์ของเซียวเหยี่ยนแล้วไม่น่าจะเป็นไปได้ เกิดอะไรขึ้นกันแน่
ตอนที่ 313 อยากแต่งเป็นผู้หญิงหรือไม่
“ทางการสืบสวนอะไรได้บ้างหรือไม่”
หลิงอวี้จื้อถามต่อ
“อย่าพูดถึงทางการเลยขอรับ ตอนนี้แม้แต่พวกข้าราชการก็ไม่กล้าออกมาตอนกลางคืน ท่านแขกผู้มาพัก พวกท่านรีบพักผ่อนเถิด ข้าจะปิดประตูแล้ว”
ผู้ดูแลพูดจบแล้วก็ให้เสี่ยวเอ้อร์นำพวกเขาขึ้นไป แล้วไปลงกลอนประตูใหญ่
หลิงอวี้จื้อกับมู่หรงนี่อวิ๋นเดินไปทางข้างหน้าพร้อมกัน หลิงอวี้จื้อหันข้างมามองๆ มู่หรงนี่อวิ๋น
“หรือไม่เจ้าก็แต่งตัวเป็นผู้หญิงเถิด! เช่นนี้ค่อยปลอดภัยขึ้นสักหน่อย”
“ข้าไม่ได้กลัวเท่าเจ้าสักหน่อย อวี้จื้อ เรื่องนี้แปลกๆ เกรงว่าจะเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของท่านอ๋อง อำเภอฉางหนิงแห่งนี้เต็มไปด้วยเรื่องแปลกประหลาด”
“ข้าก็รู้สึกเช่นกัน หากอาเหยี่ยนตกอยู่ในมือของคนพวกนี้ได้ เช่นนั้นคนพวกนี้ก็ไม่ใช่คนธรรมดาแน่ อาเหยี่ยนไม่เหมือนชาวบ้านทั่วไป ฝีมือวิทยายุทธ์ของเขาก็สูงขนาดนั้น ข้าคิดอะไรออกแล้ว ที่นี่มีพวกองค์กรลัทธิมารอะไรหรือไม่”
หลิงอวี้จื้อจำได้ว่าจูจิ่นพูดถึงเฟิงอิ๋น ในเมื่อเฟิงอิ๋นเก่งกาจขนาดนี้ เป็นไปได้ว่าอาจมีองค์กรหนุนหลัง เรื่องเหล่านี้ ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐาน ได้เพียงแค่สันนิษฐานไว้เช่นนี้ก่อนเท่านั้น
“พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน คืนนี้เจ้าพักผ่อนเร็วหน่อย”
หลิงอวี้จื้อพยักหน้า เร่งเดินทางมาหลายวัน เธอเหนื่อยแล้วจริงๆ จำเป็นต้องพักผ่อนให้ดีๆ สักคืนถึงจะมีแรงเผชิญหน้ากับเรื่องที่กำลังจะมา เรื่องอื่นนั้นเธอไม่มีทางมั่นใจได้ มีเพียงเรื่องเดียวที่พอจะมั่นใจได้นั่นก็คือ การหายตัวไปของเซียวเหยี่ยนกับผู้หญิงที่ชื่อเฟิงอิ๋นต้องมีความเกี่ยวข้องกันอย่างยิ่ง
เธอกับมั่วชิงพักห้องเดียวกัน อาจเป็นเพราะเหนื่อยแล้ว นอนลงไม่ถึงห้านาที เธอก็หลับไป
มั่วชิงนอนเตียงเดียวกับหลิงอวี้จื้อ พลิกตัวไปมาไม่หยุด ลืมตาโพลงตลอด มาถึงที่นี่แล้ว เรื่องพวกนี้จะบอกหลิงอวี้จื้อดีหรือไม่ หากไปสืบสาวราวเรื่องกับเธอต่อไป พวกเขาจะต้องค้นพบนางแน่นอน
ณ พระตำหนักเว่ยอ๋อง
เฉินจิ่งเฟิงกับลู่ซูหว่านอยู่ในห้อง มองดูจดหมายที่ส่งต่อมาจากข้างนอก
เห็นเนื้อหาข้างในจดหมาย เฉินจิ่งเฟิงก็หัวเราะลั่นอย่างเบิกบานใจ
“สะใจจริงๆ ซูหว่าน เซียวเหยี่ยนหายตัวไปที่อำเภอฉางหนิงแล้ว เดิมทีข้ายังคิดจะฉวยโอกาสลงมือตอนที่เขาออกไปคราวนี้ ดูท่าแล้วเรื่องนี้พวกเราไม่จำเป็นต้องลงมืออีกแล้ว ท่านเทวดาเก็บเขาแทนพวกเราแล้ว”
“ใครกันที่เก่งกาจเพียงนี้ ถึงขนาดลักพาตัวท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ไปได้”
“จะเป็นใครก็ช่าง ขอเพียงเซียวเหยี่ยนกลับมาไม่ได้อีกก็ดีแล้ว เซียวเหยี่ยนตายไป ฮ่องเต้น้อยก็ไม่มีคนคอยคุ้มกัน ถึงตอนนั้นบังลังก์ฮ่องเต้ก็ตกเป็นของข้าไปโดยปริยาย”
เฉินจิ่งเฟิงดีใจสุดขีด สำหรับเขาแล้ว เซียวเหยี่ยนเป็นอุปสรรคชิ้นใหญ่ที่สุด อำนาจในมือเขาใหญ่กว่า เขาทำอะไรเซียวเหยี่ยนไม่ได้ จึงได้แต่ก้มหัว
“ท่านอ๋อง ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์คงไม่ถูกคนจับไปง่ายๆ หรอกเพคะ เกรงว่าจะมีอะไรไม่ชอบมาพากล ท่านอ๋องเองก็ต้องระวัง นอกจากท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แล้ว อุปสรรคก้อนใหญ่ที่สุดของท่านอ๋องก็คือท่านอู๋อ๋องนะเพคะ ก่อนหน้านี้ท่านอู๋อ๋องไม่แสดงตัวใดๆ แต่กลับส่งไป๋อู่มาอยู่ข้างกายท่านอ๋อง ท่านอ๋องก็ต้องระวังท่านอู๋อ๋องไว้ด้วยนะเพคะ”
เฉินจิ่งเฟิงทำเสียงหึอย่างเย็นชา เห็นได้ชัดว่าไม่ได้เห็นเฉินเซี่ยวหรูอยู่ในสายตา
“เฉินเซี่ยวหรูชาติกำเนิดต่ำต้อย ไม่มีทั้งอำนาจทางทหารและบารมี เขาจะเอาอะไรมาสู้กับข้า ขอเพียงเซียวเหยี่ยนตาย ใต้หล้านี้ก็ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งข้าได้ คราวนี้เป็นโอกาสที่หายากยิ่งนัก ข้าจะพลาดโอกาสนี้ไม่ได้แน่นอน”
เห็นเฉินจิ่งเฟิงดูถูกศัตรู ลู่ซูหว่านก็พูดเตือน
“ท่านอ๋อง บางครั้งคนที่ยิ่งถูกมองข้ามก็ยิ่งอันตรายนะเพคะ ท่านอู๋อ๋องนับอยู่ในประเภทนี้ จากที่ข้าดู ท่านอู๋อ๋องไม่ได้รับมือง่ายไปกว่าท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เลยเพคะ”
เมื่อเห็นลู่ซูหว่านพูดถึงเฉินเซี่ยวหรูอีกครั้ง เฉินจิ่งเฟิงก็เริ่มใส่ใจคำพูดของนาง ถามว่า
“ซูหว่าน เจ้ามีแผนอะไรดีๆ หรือ”