ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด - ตอนที่ 502 เตรียมตัวอยู่คนเดียวจนแก่ให้ดี / ตอนที่ 503 อวี้จื้อผู้ผิดหวัง
- Home
- ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด
- ตอนที่ 502 เตรียมตัวอยู่คนเดียวจนแก่ให้ดี / ตอนที่ 503 อวี้จื้อผู้ผิดหวัง
ตอนที่ 502 เตรียมตัวอยู่คนเดียวจนแก่ให้ดี
สีหน้าเฉินปี้เริ่มดูไม่ได้ นางเป็นกุลสตรี กับเรื่องที่ตนเองทำ นางยังรู้สึกละอายใจ
เพียงแต่นางไม่อยากยอมแพ้เรื่องเซียวเหยี่ยน เพื่อจะได้อยู่กับเซียวเหยี่ยน นางทำได้เพียงทิ้งหน้าตาไปก่อน ตอนนี้นางไม่สามารถแต่งงานเข้าจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ได้อีกแล้ว ได้แต่ยุแหย่ให้หลิงอวี้จื้อกับเซียวเหยี่ยนแตกความสัมพันธ์กันเป็นครั้งสุดท้าย ถือว่าเป็นการชดใช้ที่เซียวเหยี่ยนทำให้นางขายหน้า
“ไม่ว่าเจ้าจะพูดอย่างไร ตอนนี้คนที่ท่านอ๋องมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดทางกายก็คือข้า เพียงได้ทำก่อนเจ้าข้าก็พอใจแล้ว ไม่แน่ข้าอาจจะท้องลูกก็คราวนี้
หากเป็นเช่นนั้น ข้าก็จะได้ให้กำเนิดลูกคนโตแก่ท่านอ๋อง เช่นนี้ข้าก็ไม่เกรงใจแล้วนะ
คุณหนูหลิง ท่านอ๋องชอบเจ้าจริง แต่ผู้ชายก็คือผู้ชาย แม้ว่าเขากับข้าจะมีความสัมพันธ์เช่นนี้แล้ว ข้าก็ไม่ว่าอะไร หากข้าสามารถให้กำเนิดลูกคนโตแก่เขาได้ นี่ก็เป็นเรื่องน่ายินดี
เจ้าต้องเปิดตาดูสักหน่อย อย่าคิดว่าตนเองสำคัญเกินไป เกรงว่าจะใช้ชีวิตอย่างไม่มีความสุข ในเมื่อต่อไปพวกเราจะต้องเจอกันเช้าเย็น มิใช่หรือ”
เฉินปี้พูดพลางก็ทนไม่ไหว หัวเราะออกมา มองหลิงอวี้จื้ออย่างยั่วยุ หากทำให้เธอทุกข์ใจมากพอ เช่นนั้นนางก็ไม่เสียแรงพูดเปล่า
“เช่นนั้นข้าจะรอดู ดูซิว่าเจ้าจะเกิดอะไรออกมา เรื่องของข้ากับท่านอ๋องเจ้าไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เจ้าทำหน้าที่เมียน้อยตามปกติของเจ้าก็พอ เตรียมตัวอยู่คนเดียวจนแก่ให้ดีๆ ไปด้วยเลยแล้วกัน”
หลิงอวี้จื้อพูดจบก็คร้านจะมองเฉินปี้ต่อไป หากพูดต่อไป อารมณ์ของเธอก็ไม่ดีขึ้น
ตบหน้าไปสองทีถึงแม้จะระบายอารมณ์ได้บ้าง แต่พอนึกถึงเรื่องที่เซียวเหยี่ยนทำกับนางแล้ว ก็ยังโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ ในเรื่องความรัก ปกติเธอเป็นคนที่ไม่ยอมเอาหูไปนาเอาตาไปไร่อยู่แล้ว เมื่อเห็นฉากนั้นกับตาตัวเอง ถึงแม้เซียวเหยี่ยนจะถูกวางยา เธอก็พูดไม่ได้ว่าตัวเองไม่สนใจ
“มั่วชิง พวกเราไปเถิด!”
หลิงอวี้จื้อเรียก แล้วเดินอาดๆ จากไป
เฉินปี้รู้ว่าหลิงอวี้จื้อมีสาวใช้ที่เป็นวิทยายุทธ์ ด้วยเหตุนี้จึงไม่กล้าก่อเรื่อง ได้แต่มองหลิงอวี้จื้อจากไปต่อหน้าต่อตา พูดเช่นนั้นออกไปแล้ว นางไม่เชื่อว่าหลิงอวี้จื้อจะทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“คุณหนู คุณหนูหลิงคนนี้จองหองจริงๆ นึกไม่ถึงว่าจะกล้าตีคุณหนูต่อหน้าคนอื่น”
เมื่อหลิงอวี้จื้อไปแล้ว ซูฮว่าก็พูดด้วยความโมโห
“นางโกรธขึ้นสมองเช่นนี้ ข้างกายก็มีสาวใช้ที่เป็นวิทยายุทธ์ หากหาเรื่องหลิงอวี้จื้อตอนนี้ ก็ไม่เป็นประโยชน์กับพวกเรา
หลิงอวี้จื้อมิใช่ผู้หญิงใจกว้าง เห็นได้ชัดว่าเป็นผู้หญิงขี้หึง ไม่ยอมเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ สิ่งที่ข้าเพิ่งพูดไป จะต้องทำให้นางเก็บไปคิดแน่นอน ข้าทุกข์ร้อนเช่นนี้ นางมีสิทธิ์อะไรจะแต่งงานกับท่านอ๋องอย่างมีความสุข”
ซูฮว่าประคองเฉินปี้ขึ้นรถม้า แล้วจึงพูดว่า
“หากมีพระราชเสาวนีย์แต่งงานออกมาในวันพรุ่งนี้ คุณหนูหลิงก็จะรู้เรื่องทั้งหมด ถึงเวลานั้นนางกับท่านอ๋องก็จะกลับมาคืนดีกัน”
เฉินปี้พิงรถม้า นางรู้ว่าซูฮว่าพูดมีเหตุผลมาก พรุ่งนี้พวกเขาก็สามารถแก้ไขข้อเข้าใจผิดได้
นางได้เป็นพระชายาอู๋อ๋อง หลิงอวี้จื้อได้เป็นพระชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตลอดชีวิตนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับเซียวเหยี่ยนอีก
คิดถึงเรื่องเหล่านี้ นางก็รู้สึกไม่ยินดีอย่างยิ่ง ทุ่มเทไปตั้งมากมาย สุดท้ายไม่เพียงแต่เสียความบริสุทธิ์ แต่ไม่ได้อะไรกลับมาสักอย่าง ซ้ำยังทำให้เซียวเหยี่ยนเริ่มเกลียดนางอีกด้วย
ไม่ได้ นางไม่สามารถปล่อยให้หลิงอวี้จื้อมีชีวิตอยู่ถึงวันพรุ่งนี้ ในเมื่อเดินมาถึงขั้นนี้แล้ว นางจะต้องยอมเสี่ยงอีกครั้ง
“ไม่ต้องกลับจวนแล้ว ไปจวนท่านเว่ยอ๋องเถิด!”
เฉินปี้สั่งการ
คนบังคับรถม้าเลี้ยวหัวกลับทันที มุ่งหน้าไปทางจวนเว่ยอ๋อง
ตอนที่ 503 อวี้จื้อผู้ผิดหวัง
เฉินปี้ไปแล้ว มั่วชิงก็เห็นว่าสีหน้าของหลิงอวี้จื้อยังดูไม่ดี ถามว่า
“คุณหนู พวกเรากลับจวนหรือไม่เจ้าคะ”
“ไม่กลับแล้ว ข้างหน้ามิใช่มีโรงเตี๊ยมหรอกหรือ คืนนี้พวกเราพักแรมที่โรงเตี๊ยมสักคืน มั่วชิง ข้าอยากอยู่เงียบๆ เจ้าไม่ต้องบอกเบาะแสของข้าให้ท่านอ๋องทราบ”
หลิงอวี้จื้อรู้ว่าเซียวเหยี่ยนจะต้องมาหาเธอแน่นอน หากกลับจวนไปก็จะเจอเซียวเหยี่ยน ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าจะพบหน้าเซียวเหยี่ยนอย่างไร หลบหน้าไปเลยแล้วกัน อยากให้ตัวเองสงบสติอารมณ์สักหน่อย
มั่วชิงเข้าใจความหมายของหลิงอวี้จื้อ พยักหน้า
“ข้าน้อยรับทราบ”
“เช่นนั้นไปเถิด! ใช่แล้ว เจ้าไปจวนมู่หรงหน่อย ข้าอยากเจอนี่อวิ๋น”
มั่วชิงรู้ว่าหลิงอวี้จื้อกับมู่หรงนี่อวิ๋นมีความสัมพันธ์ดีต่อกันมาก เวลานี้ให้มู่หรงนี่อวิ๋นช่วยเธอคลายเศร้าก็ดี จึงพยักหน้า
สองคนไปโรงเตี๊ยมต้องการห้องห้องเดียว หลิงอวี้จื้อกลับห้องแล้ว มั่วชิงก็ไปจวนมู่หรง จากนั้นนางยังต้องไปจวนมหาเสนาบดี เพื่อไม่ให้หรูเยียนเป็นห่วง
หลิงอวี้จื้อล้างหน้า ล้างแป้งบนใบหน้าออกไปหมด ดีที่เครื่องสำอางสมัยโบราณล้างออกง่าย ไม่ต้องใช้น้ำยาล้างเครื่องสำอางก็สามารถล้างออกไปได้อย่างสบายๆ มิเช่นนั้นตอนนี้เธอคงกลายเป็นหมีแพนด้าไปแล้ว
ทำเสร็จเรียบร้อย เธอก็ไปนอนเหยียดบนเตียง มองตรงดิ่งไปบนเพดาน หวนกลับไปคิดถึงสิ่งที่เผชิญมาทั้งหมด เธอเพียงแต่รู้สึกว่าเหมือนฝันไป มิหนำซ้ำยังเป็นฝันที่น่ากลัว
ผู้ชายที่เธอรักที่สุดเกลือกกลิ้งบนเตียงกับคนอื่น ซ้ำยังเจอเข้ากับตัวเองอย่างจัง ฝ่ามือยังคงเจ็บเนืองๆ ถึงแม้จะตบเฉินปี้ไปแล้วสองฉาด ใจเธอก็ยังคงไม่เป็นสุข
ดังนั้นปัญหาต่อไปที่เธอต้องเจอคือ ยังต้องการแต่งงานกับเซียวเหยี่ยนอีกหรือไม่
ถึงแม้เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของเซียวเหยี่ยน เป็นเฉินปี้เองที่ฉวยโอกาสในช่วงที่อ่อนแอ ต่อไปเฉินปี้อยู่ต่อหน้าเซียวเหยี่ยนก็พูดอะไรไม่ได้อีก
แต่เธอไม่สามารถมั่นใจได้ว่าตัวเองจะรู้สึกโล่งใจกับเรื่องนี้หรือไม่ หากเฉินปี้ดันโชคดีท้องขึ้นมา ตัวเองจะเผชิญกับเด็กคนนั้นอย่างไร นั่นจะเป็นหนามยอกอกที่ถอนไม่ออกไปตลอดชีวิต
สุดท้ายก็เลื่อนกำหนดแต่งงานก็ไปแล้วกัน ตอนนี้เธอไม่มีทางทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วแต่งงานกับเซียวเหยี่ยนได้ แต่งงานตรงตามเวลาแล้ว ใจเธอก็ไม่สามารถมีความสุข ถึงขนาดไม่สามารถร่วมหอกับเขาได้ คราใดที่เป็นเช่นนี้ ก็จะนึกถึงฉากที่เพิ่งเห็นเมื่อครู่
ขณะที่คิดเพ้อไปต่างๆ นานา เสียงเคาะประตูจากข้างนอกก็ดังขึ้น หลิงอวี้จื้อรู้ว่ามู่หรงนี่อวิ๋นมาแล้ว เธอนอนบนเตียงอย่างไร้เรี่ยวแรง ตอบรับไปหนึ่งประโยค
“ประตูมิได้ลงกลอน เข้ามาเองได้”
มู่หรงนี่อวิ๋นผลักประตูเข้ามา เห็นหลิงอวี้จื้อนอนอยู่บนเตียง ก็หยอกล้อว่า
“นี่หมายความว่าอย่างไร นอนบนเตียงแล้วเรียกข้ามาโรงเตี๊ยม อวี้จื้อ เจ้าคงไม่ได้คิดจะให้ท่าคุณชายท่านนี้หรอกกระมัง! คุณชายท่านนี้มิได้มีสนใจหรอกนะ”
“สมภารยังไม่กินไก่วัดเลย ข้าจะลงมือกับเพื่อนรักได้อย่างไร”
หลิงอวี้จื้อคิดๆ ดูว่านี่เป็นสมัยโบราณ แม้ตนเองกับมู่หรงนี่อวิ๋นจะเป็นเพื่อนรักกัน แต่ชายหญิงแตกต่าง ตัวเองก็ต้องระวังหน่อย ด้วยเหตุนี้จึงลุกขึ้นมา นั่งตัวตรง
“เจ้าช่างรวดเร็วเสียจริง กำลังภายในขายอดเยี่ยม”
“ข้าเห็นมั่วชิงสีหน้าไม่ค่อยดี ถามนางก็ไม่บอก เกรงว่าเจ้าจะเกิดเรื่อง จึงขี่ม้ามา”
มู่หรงนี่อวิ๋นนึกถึงสีหน้าตึงเครียดของมั่วชิง ตอนนั้นจึงรู้สึกว่าเกิดเรื่องแล้ว ทำอย่างไรมั่วชิงก็ไม่ยอมพูด เขาก็ทำได้เพียงตามมาให้เร็วที่สุด
พอมาถึงก็รู้สึกได้ว่าหลิงอวี้จื้อผิดปกติ ปกติหลิงอวี้จื้อจะยิ้มอยู่เสมอ มีชีวิตชีวามาก ไร้เรี่ยวแรงเช่นนี้เสียที่ไหน ตอนนี้ขาดก็แค่ไม่ได้เขียนอักษรว่า ‘อารมณ์ไม่ดี’ บนหน้าเท่านั้น
“พี่สาวอารมณ์ไม่ดี เหม่ออยู่คนเดียวเกรงว่าจะคิดไม่ได้ ดังนั้นจึงเรียกเจ้ามา สุราก็ไม่ดื่มแล้ว คราวที่แล้วดื่มเมาแล้ว เราดื่มชากันสักหน่อยเถิด”