ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด - ตอนที่ 614 หานางเอกคนใหม่เถอะ / ตอนที่ 615 กลับสู่ห้าปีหลัง
- Home
- ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด
- ตอนที่ 614 หานางเอกคนใหม่เถอะ / ตอนที่ 615 กลับสู่ห้าปีหลัง
ตอนที่ 614 หานางเอกคนใหม่เถอะ
หลิงอวี้จื้อยกมือขึ้นมาดูสร้อยข้อมือหินอาตมัน เธอเดินไปใต้แสงอาทิตย์ ให้แสงอาทิตย์ส่องสร้อยข้อมือหินอาตมัน ภายใต้แสงอาทิตย์ส่อง สร้อยข้อมือหินอาตมันเปล่งประกายระยิบระยับ
เห็นตรงนี้ หลิงอวี้จื้อก็แอบดีใจ เรืองแสงได้ ก็เแสดงว่าสร้อยข้อมือหินอาตมันยังใช้ได้ ยังดีที่สร้อยข้อมือหินอาตมันเส้นนี้อยู่ที่ข้อมือของเธอ มิฉะนั้นถึงแม้เธออยากจะกลับไปแคว้นเว่ยตะวันตกก็กลับไปไม่ได้
ตอนนี้สิ่งเดียวที่เธอกังลก็คือตัวเองตายแล้วไม่สามารถกลับไปแคว้นเว่ยตะวันตกได้ หากไปในมิติเวลาอื่นจะทำอย่างไร และหากเธอตายไปแล้ว ศพของเธอคงถูกฝังไปแล้ว กลับไปอีกก็คงไม่กลายเป็นหลิงอวี้จื้อคนก่อน
เธอกลัวว่าอาจจะข้ามภพไปเป็นผู้ชาย หรือคนแก่ สรุปคือไม่ใช่ผู้หญิงวัยรุ่น ความกังวลมากมายทำให้เธอครุ่นคิดกังวล
แบบนี้เหมือนการเดิมพันสักตั้งหนึ่ง ผลจะเป็นอย่างไรก็ดูเจตนาของสวรรค์แล้วกัน
เธอยังมีน้องชายหนึ่งคน พ่อแม่ของเธอกับน้องชายย้ายถิ่นฐานไปอยู่เมืองนอกนานแล้ว เธอตั้งใจไปเมืองนอกเมื่อพบพวกเขาครั้งหนึ่ง เอาทรัพย์สินทั้งหมดของตัวเองเก็บไว้กับพ่อแม่ จัดการเรื่องทั้งหมดแล้วถึงกลับประเทศ
รู้ว่าตัวเองทำผิดกับซ่งเฉิง ปฏิเสธไม่ได้ว่า ซ่งเฉิงดีกับเธอมาก แต่เธอไม่สามารถอยู่ต่อไปได้อีก เธอต้องกลับไปหาเซียวเหยี่ยน ในเมื่อเรื่องนี้มันบ้ามาก เธอเหมือนคนโรคจิตในสายตาคนนอก แต่เธอจำเป็นต้องทำแบบนี้ ตอนนี้เธอได้แต่ทำตามใจเรียกร้องต่อไปเท่านั้น
เธอทิ้งจดหมายให้ซ่งเฉิงหนึ่งฉบับ บ่ายวันหนึ่งที่แสงแดดจัดจ้า เธอขึ้นไปบนตึกสูงเพียงลำพัง
ยืนบนยอดตึก ในใจก็วิตกกังวลมาก เป็นการฆ่าตัวตาย เพื่อแน่ใจว่าตกลงมาตายแน่ ๆ เธอตั้งใจเลือกยอดตึกสูงสามสิบชั้น สูงขนาดนี้ เพียงพอสำหรับการจบชีวิต
หลิงอวี้จื้อไม่กล้ามองลงไปข้างล่าง จึงปิดตาซะ ปล่อยตัวกระโดดลงไป ร่างกายร่วงหล่นด้วยความเร็วสูง ข้างล่างมีกันสาด เธอกระแทกกันสาดนิดหน่อย สุดท้ายก็ร่วงลงพื้นอย่างแรง
เจ็บ เจ็บปวดรวดร้าวไปหมดทั้งร่าง ยังสามารถรู้สึกเจ็บได้ แสดงว่าเธอยังไม่ตาย
บ้าเอ๊ย หักหลังกันชัด ๆ ขนาดนี้แล้วยังไม่ตายอีก เทวดาช่างแกล้งเธอเสียจริง ๆ
ขณะที่สะลึมสะลือ เธอก็ได้ยินเสียงรถพยาบาลกับรถตำรวจ รู้ว่าตัวเองถูกหามขึ้นรถพยาบาล เธออยู่ในสภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่น แล้วก็สลบไปท่ามกลางเสียงคำรามของรถพยาบาล
ตอนที่ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ตัวเธอมีสายระโยงระยางเต็มไปหมด ขยับตัวไม่ได้เลย จากนั้นเธอก็เห็นซ่งเฉิงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เธอ
คราวหนี้หลิงอวี้จื้อตื่นเต็มตา ได้ยินเสียงหมอพูดกับซ่งเฉิงด้วยท่าทางเห็นใจว่า
“คุณซ่ง มีอะไรจะพูด ก็พูดไปเถอะ พวกเราพยายามสุดความสามารถแล้ว”
หลิงอวี้จื้อรู้ว่า คราวนี้เธอไม่ไหวแล้วจริง ๆ ทั้งโล่งอกทั้งหวาดกลัว และยังรู้สึกผิดด้วย
“อวี้จื้อ คุณฟื้นแล้ว”
ซ่งเฉินเสียงแหบพร่า เรียกหลิงอวี้จื้อเบา ๆ
“ซ่งเฉิง ขอโทษ ฉันจะไปแล้ว”
“ทำไมคุณถึงโง่อย่างนี้ นั่นเป็นจินตนาการของคุณทั้งนั้น อยู่กับผมไม่ดีเหรอ”
ซ่งเฉิงขอบตาแดง แม้แต่ในฝันก็ยังนึกไม่ถึงว่าหลิงอวี้จื้อจะกระโดดตึก ตอนแรกเห็นว่าช่วงนี้เธอปกติดีมาก เขายังหลงคิดว่าหลิงอวี้จื้อไม่เป็นอะไรแล้ว
“ซ่งเฉิง ฉันรู้ว่าคุณคงไม่เชื่อ แต่ฉันก็ยังจะบอกคุณว่า ทั้งหมดนี้ไม่ใช่จินตนาการ เป็นเรื่องจริง คุณเชื่อเรื่องการข้ามพบหรือเปล่า ฉันเพียงแค่ไปอีกมิติเวลาหนึ่งมา คนที่นั่นกำลังรอฉัน ฉันก็เขาสัญญาจะอยู่ด้วยกันจนแก่ ฉันไม่อยากผิดสัญญา”
“แล้วผมล่ะ”
ซ่งเฉิงจับมือหลิงอวี้จื้อแน่น
“เราตกลงกันแล้วว่าจะแสดงละครร่วมกันสักเรื่อง คุณเป็นนางเอก ผมเป็นพระเอก ละครเรื่องนี้ยังไม่ได้ถ่ายเลย คุณผิดสัญญาได้ยังไง”
“หานางเอกคนใหม่เถอะ!”
ตอนที่ 615 กลับสู่ห้าปีหลัง
“ฉันไม่มีอะไรจะพูดแล้ว พูดได้เพียงขอโทษ ซ่งเฉิง โปรดยกโทษให้ฉันด้วย ฉันต้องไปแล้ว”
“อวี้จื้อ อย่าไป ไม่ง่ายเลยกว่าคุณจะฟื้นขึ้นมา อย่าไป ได้ไหม”
“อาเหยี่ยนกำลังรอฉัน”
เสียงของหลิงอวี้จื้อต่ำลงเรื่อย ๆ
“ซ่งเฉิง คุณต้องมีชีวิตที่ดีนะ”
พูดประโยคนี้จบ หลิงอวี้จื้อก็ไม่มีเสียงอีกแล้ว หลับตาลงอย่างเงียบสงบ
ซ่งเฉิงจับมือหลิงอวี้จื้อแน่น ร้องไห้กระซิกเงียบ ๆ สุดท้ายก็ฟุบลงกับเตียง ไหล่สั่นสะท้านไม่หยุด ทำไปทำมาก็มีแต่ความว่างเปล่า อย่างไรเทวดาก็ยังพรากเธอไปในที่สุด
หลังจากหลิงอวี้จื้อลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ก็รีบมองไปรอบ ๆ นี่เป็นห้องยุคโบราณที่หรูหรามากห้องหนึ่ง การตกแต่งภายในหรูหราอย่างยิ่ง มองไปที่ไหนก็เห็นเครื่องกระเบื้องเคลือบฝีมือประณีต โต๊ะเก้าอี้และเตียงทั้งหมดเป็นไม้แดง เห็นว่าเป็นยุคโบราณ เธอก็ผ่อนคลายทันที
จากนั้นเธอก็ปีนลงมาจากเตียง เห็นกระจกทองแดงในห้อง ก็รีบวิ่งไปหน้ากระจก
จวบจนกระจกสะท้อนเงาใบหน้าเล็ก ๆ ผิวขาวผ่อง เธอถึงโล่งใจ ดีมากเลย เทวดาเป็นใจให้เธอไม่น้อย นึกไม่ถึงว่ายังได้เป็นหญิงสาวอายุราวสิบแปดสิบเก้าปี
คราวนี้ยังคงเป็นสาวน้อยหน้ากลมอยู่ เพียงแต่รูปร่างสูงเพรียวกว่าเมื่อก่อนมาก นอกจากนั้นหน้าตายังสะสวยกว่าเมื่อก่อน ใบหน้ากลม ๆ เต็มไปด้วยคอลลาเจน ดวงตาดำขลับมีไหวพริบ เครื่องหน้าสวยงาม แต่ให้ความรู้สึกขี้เล่นมาก นี่เป็นหญิงสาวที่มีไหวพริบมากคนหนึ่ง
มีราศีมาก เธอตบ ๆ หน้าตัวเอง ผิวพรรณนี้ไม่เลวทีเดียว
ตอนนี้เองประตูห้องถูกคนผลักเปิดดังเอี๊ยด มีคนเดินเข้ามา เห็นคนที่เดินเข้ามา หลิงอวี้จื้อก็ตกใจ นิ่งอึ้งไปหมด
ตายแล้ว เทวดาอย่าเล่นกับเธอแบบนี้ได้ไหม ทำไมถึงเป็นเจียงสือไปได้
ที่แท้ตัวเองข้ามพบมาที่สำนักอู๋จี๋ กลายเป็นคนสำนักอู๋จี๋ สำนักอู๋จี๋คือสถานที่อะไร สถานที่ ๆ น่ารังเกียจขนาดนี้ เธอเคราะห์ร้ายจริง ๆ
เห็นเจียงสือ รอยยิ้มของหลิงอวี้จื้อก็นิ่งแข็ง เธอยิ้มไม่ออกเลยจริง ๆ
ดูเหมือนเจียงสือจะแก่ลงกว่าเมื่อก่อนสักหน่อย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ชัดเจนมาก แต่ก็ยังพอจะมองเห็นริ้วรอยของอายุ ที่แท้เวลาไม่เหมือนกันหรือ
ในหัวของหลิงอวี้จื้อมีคำถามเป็นตั้ง ๆ และกลัวว่าเจียงสือจะเห็นอะไรผิดปกติ ไม่กล้าอ้าปากถามนางในทันที
เห็นหลิงอวี้จื้อตื่นขึ้นมาแล้ว เจียงสือก็ดีใจอย่างเห็นได้ชัด แววตาอ่อนโยนขึ้นมา ซึ่งหาดูได้ยาก
“อวี้เอ๋อร์ เจ้าฟื้นแล้ว”
เห็นเจียงสือเรียกตนอย่างสนิทสนม ก็นึกถึงรสนิยมความชอบพิเศษระหว่างชุนเหนียงกับเจียงสือ หลิงอวี้จื้อก็เกิดความรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว นี่คงไม่ใช่ชุนเหนียงคนที่สองหรอกนะ!
หากเป็นแบบนั้น ฆ่าเธอให้ตายเลยเสียดีกว่า
เห็นหลิงอวี้จื้อดูแปลก ๆ เจียงสือก็เข้าไปใกล้อีกก้าว หลิงอวี้จื้อตกใจถอยหลังทันที เพราะว่ารีบร้อนถอยหลังเกินไป เธอจึงล้มลงกับพื้น เจียงสือเดินมาตรงหน้าเธออีกครั้ง กำลังจะเอื้อมมือไปประคองเธอลุกขึ้น หลิงอวี้จื้อก็รีบถอยหลังไปอีกสองสามก้าว เอ่ยปากอย่างตะกุกตะกัก
“ข้าลุกเอง”
เจียงสือถามด้วยความสงสัย
“อวี้เอ๋อร์ เจ้าเป็นอะไรไป”
“ข้า…ข้าไม่เป็นอะไร”
“อวี้เอ๋อร์ ข้าผิดเอง ข้าเองไม่ได้ปกป้องเจ้าให้ดี ห้าปีก่อนกว่าจะทำให้เจ้าฟื้นคืนชีพมาได้ไม่ง่ายเลย ทำให้เจ้าโดนพิษอีกครั้ง ข้าไม่ดีเอง ยังดีที่เจ้าไม่เป็นอะไร”
ฟื้นคืนชีพห้าปีก่อน หลิงอวี้จื้อสมองไวจับจุดตรงนี้ได้ เธอจำได้ว่าเจียงสือมีน้องสาวที่สลบไป หรือว่านี่จะเป็นน้องสาวของเจียงสือ มิหนำซ้ำตอนนี้เป็นห้าปีให้หลัง
หากเป็นน้องสาวก็ยังดี เธอจำได้ว่าเจียงสือรักใคร่เอ็นดูน้องสาวของตนเองมาก อย่างไรขอเพียงไม่ใช่หญิงคนโปรดก็ดีแล้ว
หลิงอวี้จื้อจงใจกุมหัว ทำหน้าเจ็บปวดพูดว่า
“ข้าปวดหัว”
พูดจบก็แกล้งทำเป็นสลบไป