เล่ห์ร้ายโฉมสะคราญ - ตอนที่ 1073 ไม่มีทางที่จะใส่ร้ายผู้อื่น / ตอนที่ 1074 กลอุบายที่คร่ำครึ!
- Home
- เล่ห์ร้ายโฉมสะคราญ
- ตอนที่ 1073 ไม่มีทางที่จะใส่ร้ายผู้อื่น / ตอนที่ 1074 กลอุบายที่คร่ำครึ!
ตอนที่ 1073 ไม่มีทางที่จะใส่ร้ายผู้อื่น
แม้เซียวเก๋อเหล่ายังไม่พูดอะไรเพราะว่า ทว่าสายตาที่สื่อออกมานั้น เหมือนกำลังบอกทุกคนว่า เรื่องเหล่านี้เป็นฝีมือของซูหลี
ในเวลานี้ทั้งตำหนักตกอยู่ในความเงียบงัน ซูหลีถูกเซียวเก๋อเหล่าใช้สายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นจ้องเขม็งอยู่นานมาก
นางพลันยกมุมปากขึ้น แค่นยิ้มเย็นออกมาครู่หนึ่ง
“คำพูดของใต้เท้าเซียวข้ายังไม่เข้าใจ” ซูหลีเป็นคนที่ไม่กลัวว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น อีกทั้งเซียวเก๋อเหล่าเริ่มยืนขึ้นเมื่อครู่ นางก็พอจะคาดการณ์ได้ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้สำหรับจัดการนางอย่างแน่นอน
ดังนั้นเวลานี้ครั้นเห็นเซียวเก๋อเหล่าที่กำลังใส่ร้ายป้ายสีตน ซูหลีจึงไม่ได้รู้สึกร้อนรนแต่อย่างใด กลับสาวเท้าย่างกรายอย่างไม่รีบร้อนยืนและเดินออกมา
“อิงจากที่ใต้เท้าเซียวกล่าวมา ยาพิษนี้คงจะเป็นข้าที่วางยาซูเฟยเหนียงเหนียงกระนั้นหรือ” ซูหลีเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ถือโอกาสพูดออกมาเสียเลย
นางลุกขึ้นยืนอย่างไม่อ้อมค้อม กลับทำให้เซียวเก๋อเหล่าคาดไม่ถึงอยู่บ้าง ทว่าแม้จะเหนือความคาดหมายอย่างไร เขาก็ไม่หวั่นเกรงซูหลี
“ใต้เท้าซูมีฝีมือมากที่ใช้อุบายเช่นนี้ สามารถวางยาคนคนหนึ่งได้อย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร!” เซียวเก๋อเหล่าแสยะยิ้มไม่ได้โต้แย้งอะไรกับซูหลี และคาดโทษให้ซูหลีโดยปริยาย
รอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้าของซูหลียิ่งเยียบเย็นไปหลายส่วน นางพลันเหลือบตาตวัดมองเซียวเก๋อเหล่าปราดหนึ่ง แล้วเอ่ยขึ้น “กราบทูลฝ่าบาท นี่เป็นเรื่องที่กระหม่อมไม่เข้าใจพ่ะย่ะค่ะ!”
“เรื่องซูเฟยเหนียงเหนียงที่ตกเลือดก่อนหน้านี้ สกุลเซียวก็มิได้ถามไถ่เหตุผลนำเรื่องนี้โยนว่าเป็นความผิดของกระหม่อมโดยตรง หลังจากที่กระหม่อมออกจากเรือนจำก็ถูกซูเฟยเหนียงเหนียงเรียกไปพบอีกครา แต่ละคำพูดล้วนกล่าวหาว่ากระหม่อมเป็นคนทำร้ายเด็กในพระครรภ์ของซูเฟยเหนียงเหนียง”
“สกุลเซียวกับสกุลซูไม่มีเกี่ยวข้องกันเลยแม้แต่น้อย หลังจากเกิดเรื่องขึ้นก็สามารถคาดโทษลงบนหัวของสกุลซู กราบทูลฝ่าบาท กระหม่อมมิเข้าใจจริงๆ ว่า กระหม่อมได้ล่วงเกินเซียวเก๋อเหล่าที่ใด”
“เพียงแค่ล่วงเกินซูเฟยเหนียงเหนียง ถึงต้องประสบวิกฤตเช่นนี้กระนั้นหรือ”
“เรื่องเช่นนี้มิใช่เกิดขึ้นเพียงคราสองครา ทุกครากระหม่อมล้วนเป็นผู้ทำร้ายสกุลเซียว ‘อยู่หลังม่าน’ มิรู้ว่านี่เป็นความบังเอิญ หรือมีคนเจตนากระทำเช่นนี้ต่อกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ!?”
ขณะที่ซูหลีพูดกลับไม่เหลือช่องว่าง และไม่ปล่อยให้คนของสกุลเซียวอย่างเซียวเก๋อเหล่าและคนอื่นๆ พูดโต้แย้งเลยแม้แต่น้อย
นางพูดประโยคต่อประโยค เหลือเพียงไม่พูดออกมาตามตรงว่า สกุลเซียวมองนางแล้วรู้สึกขัดตา กระโถนอาจมอะไรก็โยนมาบนหัวนางก็เท่านั้น!
สีหน้าของเซียวเก๋อเหล่าที่คุกเข่าอยู่ด้านข้างพลันเปลี่ยนไปทันใด เขาเงยหน้าขึ้นมองไปทางซูหลีปราดหนึ่ง ในดวงตาฉายแววความโกรธแค้น
“ครานี้หากใต้เท้าเซียวมิอาจหาหลักฐานอะไรออกมาได้ หากยังพูดจาส่งเดชเช่นนี้อีก กราบทูลฝ่าบาท กระหม่อมทนไม่ไหวแล้วเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ หากอาศัยความเป็นอาวุโสมาเที่ยวใส่ร้ายผู้อื่นเช่นนี้ เช่นนั้นมิใช่วิธีจัดการเรื่องกระมัง!”
“ซูหลี เจ้า…” ประโยคที่ซูหลีกล่าวว่าอาศัยความเป็นอาวุโสมาเที่ยวใส่ร้ายผู้อื่น ทิ่มแทงจนเซียวเก๋อเหล่ารู้สึกเจ็บแสบไปชั่วขณะ หากไม่ใช่เพราะเขากำลังหมอบลงบนพื้น อายุมากแล้วจึงไม่สามารถลุกขึ้นยืนจากพื้นได้อย่างง่ายดาย
เกรงว่าเขาคงถูกซูหลีกระโดดขึ้นอย่างโมโหทันทีทันใด!
“ทำไมเล่า ใต้เท้าเซียวรู้สึกว่าข้าน้อยพูดมิถูกหรือ” ซูหลีไม่กะจะไว้หน้าเขาสักนิด แต่ละระลอกที่ถาโถมเข้ามานี้ แสดงให้เห็นว่าสกุลเซียวคงไม่คิดจะปล่อยนางไปเช่นกัน
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ นางยังจะไว้หน้าสกุลเซียวเพื่ออะไร
“ผู้เฒ่าเซียวมีหลักฐานหรือไม่” ในขณะที่ซูหลีกับคุมเชิงเซียวเก๋อเหล่า ฉินเย่หานที่อยู่บนบัลลังก์พลันเอ่ยปากพูดขึ้น
เมื่อเขาเปิดปากพูด ดวงตาของซูหลีสั่นไหวเล็กน้อย ละสายตาของตนเองมิได้จ้องไปที่เซียวเก๋อเหล่าผู้นั้น
“กราบทูลฝ่าบาท กระหม่อมมิใช่คนที่พูดไปเรื่อย วันนี้พูดในท้องพระโรงขนาดนี้ แน่นอนว่าต้องมีหลักฐาน กระหม่อมไม่มีทางที่จะเข้าใจใครผิดพ่ะย่ะค่ะ!”
ตอนที่ 1074 กลอุบายที่คร่ำครึ!
เมื่อเซียวเก๋อเหล่าเปิดปากพูด ดูเหมือนจะแสดงจิตใจที่แท้จริงของตนออกมา ใบหน้าทั้งหน้าแดงก่ำ เขาโต้แย้งอย่างสุดความสามารถ
“จริงรึ” ซูหลีที่อยู่ด้านข้างแค่นยิ้มเย็นออกมาแล้วเอ่ย “หลักฐานอะไรกัน ใต้เท้าเซียวสู้เอาออกมาสำแดงเลยดีกว่า หรือไม่ก็เป็นไปเรียกบ่าวข้างกายของซูเฟยเหนียงเหนียงมาใส่ร้ายกระหม่อมกระมัง”
คำพูดนี้ของซูหลีไม่น่าฟังเป็นอย่าง หน้าผากของเซียวเก๋อเหล่ากระตุกอย่างรุนแรง เงยหน้าขึ้นมองนางอย่างรวดเร็ว สีหน้าเต็มไปด้วยความเคียดแค้น เขากล่าวยังเสียงดังว่า
“ใต้เท้า หลักฐานยังไม่ได้สำแดงออกมา เจ้าก็ยกตนข่มท่านที่นี่เสียแล้ว คงจะใจฝ่อแล้วกระมัง ถึงได้เจตนาแสดงอาการเช่นนี้ออกมา”
ใบหน้าของซูหลีเย็นยะเยียบไปครู่หนึ่ง มองไปทางเขาปราดหนึ่งแล้วเอ่ยด้วยเสียงร้องต่ำ “ใต้เท้าเซียว นี่ข้าน้อยมิได้ใจฝ่อ แต่เป็นเพราะถูกคนใส่ร้ายป้ายสีจนกลายเป็นความเคยชินไปแล้ว จิตใจสำนักตอบสนองออกมาก็เท่านั้น!”
คำพูดของซูหลีนั้นล้วนนำคำพูดที่พวกเขาจัดการกับนางมาพูด เซียวเก๋อเหล่าอดกลั้นความโกรธจนหน้าแดงก่ำ อีกทั้งเซียวเสวียนที่อยู่ด้านมีสติขึ้นมา จากนั้นส่งเสียงอย่างเร็วไว
“ใต้เท้าซูไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ก็ได้ ในเมื่อใต้เท้าซูยืนยันว่าตนเองเป็นผู้บริสุทธิ์ เช่นนั้นก็สู้รอหลักฐานสำแดงออกมาเสียก่อนค่อยพูดออกมา! หากใต้เท้าซูเป็นอย่างที่ตนเอ่ยออกมาจริงๆ เช่นนั้นขุนนางทั้งราชสำนัก รวมถึงฝ่าบาทก็คงไม่ใส่ร้ายป้ายสีใต้เท้าซูหรอก!”
เซียวเสวียนพูดจบก็เอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา “ท่านพ่อ นำหลักฐานออกมาเถิด”
ซูหลีมองสองพ่อลูกด้วยสายตาเยียบเย็น สีหน้าเต็มไปด้วยความถากถาง
หลักฐานหรือ หลักฐานอะไรกัน
เรื่องเช่นนี้ซูหลีมิเคยกระทำมาก่อน พวกเขากลับพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าตนเองมีหลักฐาน หากเป็นเช่นนั้นหลักฐานนี้ไปเอามาจากไหนกัน เพียงสามารถแค่ปลอมแปลงหลักฐานขึ้นมาก็เท่านั้น!
บัดนี้ยังต้องการทำหลักฐานเท็จมาจัดการกับนาง ช่างน่าขันโดยแท้!
เซียวเก๋อเหล่าที่คุกเข่าอยู่ที่พื้นครั้นได้ยินเช่นนี้ เวลานี้จึงค่อยๆ ลุกขึ้นจากพื้น เขายื่นมือคลำเข้าไปในแขนเสื้อของตนพักใหญ่ จากนั้นควานหาขวดกระเบื้องเล็กสีขาวออกมาใบหนึ่ง
ซูหลีที่ยืนอยู่ด้านข้างของเขา เมื่อเห็นของที่เขาควานหาออกมา สีหน้าของนางพลันเปลี่ยนไป
ไม่มีสาเหตุอื่นเพียงเพราะขวดกระเบื้องเล็กสีขาวนี้ เหมือนกับขวดยาช่วยชีวิตของนางทุกส่วน!
ไยถึงบังเอิญขนาดนี้!?
“กราบทูลฝ่าบาท นี่เป็นสิ่งที่ใต้เท้าซูให้ลอบทำร้ายซูเฟยเหนียงเหนียงพ่ะย่ะค่ะ ขวดใบนี้มียาพิษนั่นบรรจุไว้อยู่ หลังจากที่ใต้เท้าซูให้สิ่งนี้กับซูเฟยเหนียงเหนียง พระวรกายของเหนียงเหนียงก็เริ่มปรากฏความไม่สบายออกมาพ่ะย่ะค่ะ!”
เซียวเก๋อเหล่านำขวดใบหน้านี้ยกขึ้นเหนือศีรษะของตน จากนั้นเอ่ยด้วยเสียงเบา
ประโยคนี้ในเวลานี้ราวกับโยนหินก้อนใหญ่ลงมา มีเสียงดังเกรียวกราวทั่วทั้งตำหนัก
“ของสิ่งนี้ ใต้เท้าจางผู้เป็นหมอหลวงได้ตรวจสอบแล้ว ยืนยันว่าเป็นยาพิษมิผิดแน่! ที่พระวรกายของเหนียงเหนียงทรงประชวรล้วนเป็นเพราะสิ่งที่อยู่ภายในขวดใบเล็กนี้!”
ซูหลีที่ดูอย่างด้านข้าง หลังจากได้ยินประโยคนี้ก็อดที่จะแค่นยิ้มเย็นออกมาครู่หนึ่งมิได้
สกุลเซียวต้องการจัดการกับนาง จนดูเหมือนจะคิดจนเสียสติไปแล้ว!
ถึงแม้ว่านางมีความคิดที่จะจัดการกับเซียวซูเฟยจริงๆ อีกทั้งปรุงยานี้และมอบให้กับเซียวซูเฟย แล้วเซียวซูเฟยจะใช้ของของนางหรือ
บัดนี้ความสัมพันธ์ระหว่างสกุลเซียวกับนางจะไม่ถูกกันเสมือนน้ำกับไฟ มีแค่คนเขลาเท่านั้นถึงจะเชื่อเรื่องพิลึกนี่
แม้จะเป็นกลอุบายที่แปลกประหลาดพิลึกพิลั่น สกุลเซียวก็ล้วนหยิบมาใช้หมดแล้ว!
นี่ก็สามารถยืนยันได้ว่า ความอาฆาตแค้นที่สกุลเซียวมีต่อนางนั้นอยู่ในจุดที่เหนือจินตนาการเป็นอย่างมาก แม้แต่วิธีที่คร่ำครึเช่นนี้ก็ยังนำมาใช้
เห็นได้ชัดว่า พวกเขาอยากจัดการกับนางมากถึงเพียงใด!
“ใต้เท้าเซียว ขวดกระเบื้องที่ท่านหยิบออกมาใบนี้ จะยืนยันได้อย่างไรว่าของสิ่งนี้เป็นของที่ใต้เท้าซูมอบให้ซูเฟยเหนียงเหนียง”