เล่ห์ร้ายโฉมสะคราญ - ตอนที่ 749 โผตัวมาด้านหน้า / ตอนที่ 750 กล้าตรวจร่างกายหรือไม่ล่ะ!
- Home
- เล่ห์ร้ายโฉมสะคราญ
- ตอนที่ 749 โผตัวมาด้านหน้า / ตอนที่ 750 กล้าตรวจร่างกายหรือไม่ล่ะ!
ตอนที่ 749 โผตัวมาด้านหน้า
ทันทีที่เอ่ยเช่นนี้ออกมา เสียงดังจอแจก็ดังขึ้น
ทุกคนในที่นั้นต่างมองซูหลีด้วยแววตาเหลือเชื่อ
บรรยากาศแข็งทื่อไป
ซูหลีนิ่งชะงักงัน จากนั้นใบหน้าก็เปลี่ยนสีไปน้อยๆ หัวเราะเยาะเสียงเย็น “ข้าเคารพท่านเพราะท่านเป็นฮูหยินที่บิดาข้าตบแต่งท่านเข้ามาอย่างออกหน้าออกตา ดังนั้นข้าถึงยอมอ่อนข้อให้ท่านอยู่เสมอ ก่อนนี้ท่านก็เคยใช้วิธีเช่นนี้ใส่ร้ายข้ามาก่อน ทำไมตอนนี้อยากจะใช้มุกเดิมอีกเช่นนั้นหรือ”
นางนิ่งเฉยไม่หวั่นไหว อีกทั้งท่าทางของนางนั้นทำให้คนเชื่อถือขึ้นมาก
คนแถวนั้นเองก็ได้สติกลับมา และเริ่มวิจารณ์กันทันที
“นั่นสิ เป็นบ้าอะไรขึ้นมา ผู้หญิงจะเข้าร่วมสอบเคอจวี่ได้อย่างไร แถมยังได้ตำแหน่งถ้านฮวาเชียวนา!”
“จริงไหมล่ะ อีกอย่างความสามารถระดับใต้เท้าซู บุรุษทั่วไปยังยาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้หญิงเลย !”
“นี่พูดจาเหลวไหลกระมัง?”
ดูจากท่าทีของคนพวกนี้แล้ว พวกเขาล้วนแต่เข้าข้างซูหลี
โดยเฉพาะในตอนนี้ชื่อเสียงซูหลีโด่งดัง ทุกคนย่อมยินยอมจะเชื่อฟังซูหลี
หลี่ซื่อคุกเข่าลงบนพื้น เห็นเช่นนั้นก็กัดฟันกรอดๆ เพียรพยายามควบคุมอารมณ์ตนเอง ซูหลีอยากจะแก้ตัวก็แก้ตัวไป เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวนางจะร้องไห้ให้ดู
“คราวก่อนเจ้าใช้ลูกไม้เอาตัวรอด เจ้าคิดว่าจะไม่มีใครล่วงรู้ความจริงของเรื่องนี้เลยหรือ? ซูหลี นี่มันโทษหลอกลวงเบื้องสูงนะ!” ในน้ำเสียงของหลี่ซื่อดูหวาดกลัวอย่างบอกไม่ถูก
“นั่นสิ ท่านพี่หลี. พี่หญิง ท่านจะเหนื่อยเช่นนี้ไปไย ถึงท่านจะปลอมตัวเป็นชาย แต่อดีตฮูหยินก็ทำไปเพื่อรักษาตำแหน่งฮูหยินของนางเท่านั้น แต่ท่านอย่าลืมนะเจ้าคะว่าตัวท่านเองเป็นอิสตรี จะเข้ารับราชการเป็นขุนนางได้อย่างไร! ท่านทำเช่นนี้ไม่เท่ากับว่าทำให้ท่านพ่อโดนดูหมิ่นหรอกหรือ?”
ซูเนี่ยนเอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้างก็รีบเสริมคำพูดของมารดาตนเอง พูดไปพลางใช้แววตาไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งมองซูหลี เหมือนอีกฝ่ายไปทำความผิดใหญ่โตอะไรอย่างนั้น
คำว่า ‘พี่หญิง’ ของนางนี้ทำให้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ตื่นตะลึง
มารดาเสียสติไปก็พอเข้าใจ แต่ทำไปคุณหนูที่ดูฉลาดหลักแหลมก็ยังเสียสติตามมารดาตนเองไปด้วย?
“เหอะ!” ซูหลีหัวเราะเสียงเย็น ก้มศีรษะลงมองหลี่ซื่อที่ยอมปล่อยมือออกจากขานางแต่ยังคงคุกเข่าอยู่และเอ่ย
“คราวก่อนคนทั้งสำนักหมอหลวงก็มาตรวจชีพจรข้า และต่างยืนยันว่าข้าเป็นบุรุษ ทำไมตอนนี้ข้าจึงกลายเป็นผู้หญิงอีกเพียงเพราะคำพูดประโยคสองประโยคของพวกเจ้าล่ะ? หรือจะบอกว่าคำพูดของเจ้านั้นน่าเชื่อถือกว่าคำพูดของหมอหลวงเช่นนั้นหรือ?”
ซูหลีรู้ดีว่าที่หลี่ซื่อกล้าทำเช่นนี้ ย่อมต้องมีคนชักใยอยู่เบื้องหลัง แต่ตอนนี้นางจะปลีกตัวไม่ได้ ตอนนั้นจำนวนมากก็จับจ้องอยู่ นางทำได้เพียงสะกดอารมณ์ตนเองให้เยือกเย็นเท่าที่จะทำได้
ถึงจะเป็นการตอบโต้หลี่ซื่อที่ดีที่สุด
หมอหลวงในพระราชวัง ฝีมือการแพทย์สูงส่ง ทันทีที่ซูหลีเอ่ยเช่นนี้ ทุกคนย่อมเข้าข้างนาง
คนที่ไม่เห็นด้วยกับหลี่ซื่อก็มากขึ้นเรื่อยๆ
ความเคียดแค้นพาดผ่านในดวงตาหลี่ซื่อ เป็นเหมือนที่คนเหล่านั้นเอ่ยเอาไว้ ซูหลีเป็นคนลื่นไหลกะล่อนอย่างยิ่ง ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา นางจำเป็นต้องเอาหลักฐานที่ชัดเจนมายืนยัน!
“ซูหลี! คนอื่นอาจไม่รู้ แต่เจ้าไม่รู้หรือว่าตัวเองเล่นลูกไม้อะไรกับร่างกายตนเองหรือ?” จู่ๆหลี่ซื่อก็แหงนหน้าขึ้นมา ประกายพาดผ่านในแววตานางขณะจ้องซูหลีไม่วางตา
เมื่อซูหลีโดนนางจ้องเช่นนี้ก็ขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้
“เล่นลูกไม้… เล่นลูกไม้อะไร!?” ซูหลีตอบโต้ ในตอนที่นางแหงนศีรษะชักเท้าถอยมาก้าวหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ระวังอะไร
ทันใดนั้นหลี่ซื่อก็ลุกขึ้นยืนและโผมาหานาง!
ตอนที่ 750 กล้าตรวจร่างกายหรือไม่ล่ะ!
ในตอนที่ทุกคนยังไม่ได้ตั้งตัวนั้นเอง นางก็ยื่นมือออกมา แย่งเอาของชิ้นหนึ่งจากในแขนเสื้อของซูหลี แล้วกำมือตนเองแน่น
ที่จริงแล้วก่อนหน้านี้หลี่ซื่อเองก็ไม่เคยคิดมาก่อน หากเจ้าเด็กเหลือขอซูหลีจะเป็นผู้หญิง เช่นนั้นนางพุ่งพรวดออกไป กระชากเสื้ออีกฝ่ายออกก็พอแล้ว
พอถึงเวลา ร่างกายของเจ้าเด็กเหลือขอนั่นปรากฏแก่สายตาคนอื่น ก็เท่ากับเป็นการบอกสภาพร่างกายของตนเองแล้ว
นี่สิถึงจะเป็นแผนการที่ดีที่สุด
แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถยืนยันความเป็นผู้หญิงของซูหลี หากว่านางผลีผลามโผเข้าไป นางคงสิ้นชื่อแน่
นางเป็นแม่เลี้ยง ส่วนซูหลีเป็นลูกเลี้ยงนาง หากเรื่องนี้แพร่ออกไป นางคงไม่อาจมีชีวิตอยู่ต่อได้
ดังนั้นนางทำได้เพียงใช้วิธีอื่น ใช้สิ่งที่ซูหลีคาดไม่ถึงที่สุดมาทำร้ายนาง!
“นี่คืออะไร!?” หลี่ซื่อยกของที่นางแย่งมาจากในแขนเสื้อซูหลีขึ้นสูงๆ และมองอีกฝ่ายอย่างคลางแคลงใจ
ตอนนี้นางไม่คุกเข่าอีกแล้ว ใบหน้าแดงก่ำเล็กน้อย ดูไปแล้วตื่นเต้นอย่างยิ่ง
หลี่ซื่อรอวันนี้มาเนิ่นนานดีดัก อีกทั้งตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมานางก็ทำการเตรียมตัวเป็นอย่างดี ก็เพื่อไม่ให้ซูหลีได้มีวิธีการป้องกันตัว และเพื่อจะได้แย่งสิ่งของมาให้ได้!
ซูหลีเห็นของชิ้นนั้นในมือนาง ใบหน้าก็เงียบขรึมลงไป
นั่นมัน…
ยาปลอมแปลงตัวของซูหลี
คิดไม่ถึงว่าหลี่ซื่อจะรู้เรื่องยาปลอมแปลงตัวด้วย อีกทั้งยังจงใจมาแย่งไปจากตัวนาง
ซึ่งซูหลีพกพาของชิ้นนี้ติดตัวเอาไว้ตลอดจริงๆ เพราะยานี้ออกฤทธิ์ในเวลาที่จำกัด หากยาหมดฤทธิ์แล้วละก็ นางจำเป็นต้องกินยาทันที
ดังนั้นคนที่สนิทกับซูหลีต่างก็จะรู้ว่า นางจะพกยาปลอมแปลงตัวไว้ติดตัวตลอดเวลา เพื่อจะได้กินยาได้ตลอดเวลา
แต่เรื่องนี้มีแค่คนสนิทกับซูหลีมากๆถึงจะรู้เรื่อง
แล้วหลี่ซื่อไปรู้มาจากไหน?
“ซูหลี เจ้าคิดว่าคนอื่นเป็นคนโง่งมหรือ หลังจากเจ้าใช้ยาประหลาดนี่แล้ว ชีพจรที่หมอหลวงจับเจอก็จะเป็นชีพจรของผู้ชาย คราวก่อน เจ้าใส่ยาลงในเค้กถึงได้หลอกลวงหมอหลวงได้!”
“นี่เจ้าไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ช่างไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเลย!” หลี่ซื่อเป็นแม่บ้าน ตอนนี้กลับพูดจาเป็นฉากๆ อีกทั้งหลังจากพูดจบ กลับมีคนหลายคนวิ่งมาจากด้านข้าง ซูหลีเหลือบตามองก็เห็นเหล่าคนคุ้นเคย ในนั้นยังมีแม่นมด้วย!
“ทุกท่าน นี่คือลูกไม้ที่ซูหลีใช้เพื่อหลอกลวงคนอื่น!” หลังจากหลี่ซื่อพูดเสียงสูงแล้ว ก็หมุนตัวแล้วส่งยาในมือนางให้คนข้างตัว
“ใต้เท้าผู้นี้ ยานี้อยู่ในครอบครองข้าไม่ปลอดภัย ซึ่งนี่ก็คือของที่ข้าค้นมาได้จากตัวซูหลี ท่านเก็บรักษาแทนข้าเถอะ และจะได้นำขึ้นทูลถวายฮ่องเต้เป็นหลักฐาน!” ทั้งคำพูดคำจา วิธีต่างๆ ของหลี่ซื่อล้วนเตรียมมาเป็นฉากๆ คิดไม่ถึงว่าจะส่งขวดยาที่ใส่ยาปลอมแปลงตัวของซูหลีให้แก่ขุนนางฝ่ายพิธีการที่ยืนอยู่ด้านข้างจี้เหิงหรานและต่อหน้าสาธารณชน
พิกลเหลือเกิน ที่ส่งให้คนผู้นั้น มิใช่จี้เหิงหราน
ซูหลียิ้มเย็น หลี่ซื่อผู้นี้ต้องได้รับคำชี้นำจากใครแน่ ดูเรื่องที่นางทำแต่ละเรื่อง ไหนเลยจะคล้ายกับเรื่องที่คนทั่วๆ ไปทำได้!
นี่จะต้องมีคนร่วมมือกับสองคนแม่ลูกด้วยหมายจะเอาชีวิตนาง
“อีกอย่าง ซูหลี ท่านผู้นี้คือแม่นมจางจากวังหลวง แม่นมผู้นี้ทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจร่างกายให้เหล่าคุณหนู ในเมื่อเจ้าบอกว่าเจ้าไม่ใช่ผู้หญิง เช่นนั้นก็ให้แม่นมได้ตรวจร่างกายเจ้าสิ!”
“พอทำเช่นนี้ ก็จะเท่ากับว่าได้ประกาศให้โลกรู้แล้ว!”
หลังจากขุนนางผู้นั้นรับขวดยามาแล้ว หลี่ซื่อก็รีบหันมาสร้างความเดือดร้อนให้ซูหลีทันที
ถูกต้อง คิดจะพิสูจน์ว่าซูหลีเป็นหญิงหรือชาย ไม่มีอะไรจะตรงไปตรงมาและชัดเจนไปกว่าการตรวจร่างกายอีกแล้ว!