เล่ห์ร้ายโฉมสะคราญ - ตอนที่ 819 เรื่องในอดีต / ตอนที่ 820 อดีตเจ้านายของป๋ายไต้ซือ
ตอนที่ 819 เรื่องในอดีต
“กล่าวตามความจริง คุณชายลู่ ข้ากับหลี่จื่อจินเป็นเพื่อนร่วมเป็นร่วมตายกัน ตระกูลของนางประสบกับภัยพิบัติเช่นนี้ ทั้งตัวนางเองก็ตายไปอย่างน่าประหลาด สิ่งเหล่านี้ทำให้ข้ามิอาจไม่คิดมากได้ หากแต่เมื่อก่อนนี้ไม่ได้มีความสามารถเช่นนี้ก็จงใจลืมมันไป แต่ตอนนี้ข้าอยู่บนราชสำนักแห่งนี้แล้ว”
“ข้าไม่อยากให้นางต้องตายไปโดยเปล่าประโยชน์เช่นนี้!” ช่วงเวลาพริบตาเดียวซูหลีจับจ้องมองเข้าไปในดวงตาของลู่อวี้เหิงพลางพ่นคำพูดเหล่านี้ออกมา
ตอนที่นางพูดบนใบหน้าไม่ได้แสดงออกถึงความรู้สึกใดๆ ไม่มีท่าทีไม่เอาจริงเอาจังอย่างปกติอยู่โดยสิ้นเชิง
ตลอดทั้งกระบวนการ ดวงตานางแทบจะไม่กะพริบเลย ลู่อวี่เหิงพอจะเชื่อได้แล้วว่าสิ่งที่นางพูดไม่ใช่เรื่องโกหก
แต่ความจริงแล้วซูหลียังคงปกปิดบางสิ่งบางอย่างเอาไว้อยู่ นางรู้ว่าหากต้องอธิบายเรื่องนี้ขึ้นมาจริงๆ มันช่างเป็นเรื่องราวที่ดูเหลวไหลเกินไป ดังนั้นนางจึงไม่ได้บอกเรื่องที่ตนได้เกิดใหม่นี้ออกมา
ทั้งยังไม่ได้บอกว่าที่นางก้าวเดินมาถึงวันนี้ได้ทีละขั้นๆ เช่นนี้ต่างก็เพื่อสกุลหลี่ทั้งสิ้น เพื่อหาคำอธิบายให้แก่ตนเองในอดีต
สิ่งเหล่านี้มันซับซ้อนเกินกว่าจะอธิบายได้ สิ่งที่สำคัญมากที่สุดในตอนนี้คือเรื่องราวในอดีตของสกุลหลี่
“ใต้เท้าซู ข้าเชื่อว่าเจ้ากับคุณหนูสกุลหลี่เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันจริงๆ แต่เรื่องนี้เจ้าอย่าได้เข้ามายุ่งให้มากเกินไปจะดีกว่า หากเข้าไปพัวพันกับเรื่องนี้มันจะทำให้เสียไปซึ่งตำแหน่งขุนนางที่ใต้เท้าซูวางแผนคิดวิธีการได้มาอย่างยากลำบากไปโดยง่าย หนักกว่านั้นเกรงว่าแม้กระทั่งชีวิตก็อาจจะสูญหายไปด้วย!”
ลู่อวี้เหิงหยุดนิ่งไปชั่วขณะหนึ่ง ก่อนจะพ่นประโยคเหล่านี้ออกมาด้วยดวงตาลึกซึ้ง
“ในอดีตเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่” เมื่อซูหลีได้ฟังความรู้สึกที่แสดงออกบนใบหน้าก็ไม่อาจเก็บต่อไปได้อีกแล้ว
แม้กระทั่งเขายังพูดเช่นนี้เลย สกุลหลี่ไปก่ออาชญากรรมร้ายแรงถึงเพียงใดกัน
“…ใต้เท้าซูอาจยังไม่รู้ ในครานั้นที่สกุลหลี่ได้รับคำสั่งลงโทษจากองค์รัชทายาทองค์ก่อนว่าให้ตัดหัวทั้งโคตรตระกูลนั้น โทษฐานคือ…ลักลอบคบพรรคสร้างพวก เจตนาก่อการกบฏ!” เมื่อลู่อวี้เหิงนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตขึ้นมาทั่วทั้งตัวของเขาสั่นเทา เขากำหมัดของตัวเองเอาไว้แน่น
บนใบหน้าเกร็งไปหมด
คบพรรคสร้างพวก!
เจตนาก่อการกบฏ!
มิแปลกใจเลยที่จะตัดสินโทษให้แก่สกุลหลี่ในทันทีเช่นนี้!
ซูหลีตกใจอย่างมาก นางไม่รู้จริงๆ ว่าความผิดที่ทำให้สกุลหลี่ต้องโทษกลับกลายเป็นเช่นนี้!
“ทว่าเท่าที่ข้ารู้ หลี่เก๋อเหล่าไม่ใช่ผู้ที่โลภในลาภยศชื่อเสียงเช่นนั้น ทั้งยังเป็นขุนนางผู้ซื่อสัตย์ เขาจงรักภักดีต่อองค์ฮ่องเต้มาโดยตลอด แล้วจะทำเรื่องเช่นนี้ออกมาได้อย่างไร”
ซูหลีตกใจมาก นิสัยของหลี่รุ่ยอิงนางรู้จักเป็นอย่างดีที่สุด ไม่มีทางที่เขาจะทำเรื่องเช่นนี้ออกมาได้อย่างแน่นอน แต่เมื่อลองคิดอย่างละเอียดดูแล้ว นอกจากโทษฐานหนักเช่นนี้แล้วยังจะมีอะไรที่สามารถทำให้รัชทายาทองค์ก่อนใช้เป็นข้ออ้างในการสังหารสกุลหลี่ทั้งตระกูลในคราวเดียวได้?
เมื่อลู่อวี่เหิงได้ยินเช่นนี้ก็อดที่จะมองซูหลีให้มากขึ้นสองสามคราไม่ได้ นางรู้จักสกุลหลี่แล้วยังรู้จักหลี่รุ่ยอิงเป็นอย่างดีเลยทีเดียว
แต่ทว่าหลังจากเขาคิดอย่างละเอียดแล้วก็พลอยปล่อยวางโล่งใจไป เพราะถ้าหากซูหลีรู้จักและคบหาสมาคมกับหลี่จื่อจินมายาวนานจริง เช่นนั้นความเป็นไปได้ที่นางจะรู้จักหลี่รุ่ยอิงก็ย่อมมีสูงมากเช่นกัน
แต่เขาไม่เหมือนกัน ส่วนใหญ่เขามักจะอยู่ที่ชายแดน น้อยนักที่จะได้กลับมาเมืองหลวง หากจะรู้เรื่องเกี่ยวกับเมืองหลวงน้อยนิดย่อมเป็นเรื่องธรรมดา
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ลู่อวี้เหิงหยุดนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะพูดว่า “เรื่องนี้ข้าเองก็รู้สึกแปลกประหลาดมาก หลี่เก๋อเหล่าไม่ใช่คนที่จะทำเรื่องทรยศก่อการกบฏเช่นนี้ได้แน่ ภายหลังข้าจึงให้คนไปตรวจสอบ…”
“แล้วก็ตรวจพบบางสิ่ง!” เมื่อพูดถึงจุดนี้ใบหน้าของลู่อวี้เหิงเปลี่ยนกลายเป็นนิ่งไป ทั่วทั้งตัวกลายเป็นเยือกเย็นเคร่งเครียดขึ้นมา
“เรื่องอะไรหรือ” ซูหลีรีบเร่งไล่ถาม
“ใต้เท้าซูน่าจะรู้ว่าเพราะสาเหตุใดที่ทำให้รัชทายาทองค์ก่อนสูญเสียตำแหน่งรัชทายาทไป แม้กระทั่งชีวิตก็ต้องชดใช้ให้ด้วย!?”
ตอนที่ 820 อดีตเจ้านายของป๋ายไต้ซือ
เมื่อซูหลีได้ยินเช่นนั้นใบหน้าก็ตกตะลึงทันที พลางเอ่ยตอบว่า: “…วางแผนกบฏ?”
ทันใดนั้นนางคิดอะไรบางอย่างขึ้นในใจ บนใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ
“มิผิด! ในช่วงเวลาที่สกุลหลี่ต้องโทษตัดหัวทั้งตระกูลนั้นมันเป็นช่วงเวลาที่ยุ่งเหยิงวุ่นวายที่สุดอย่างพอดิบพอดี องค์ฮ่องเต้ล้มป่วย องค์ชายใหญ่ที่องค์ฮ่องเต้ทรงโปรดปรานมากที่สุดก็สิ้นพระชนม์อย่างกะทันหัน ข้าได้ยินมาว่ามันเป็นฝีมือขององค์รัชทายาทองค์ก่อน ไม่เพียงเท่านั้น แม้แต่เรื่องที่องค์ฮ่องเต้ล้มป่วยอย่างกะทันหันก็เกี่ยวกับเขาด้วยเช่นกัน…”
เรื่องนี้ซูหลีเคยได้ยินมาบ้างเช่นกันว่าเพราะองค์รัชทายาทองค์ก่อนนั้นใจร้อนเกินไป อีกทั้งยังเพราะองค์ฮ่องเต้ทรงโปรดปรานชื่นชอบองค์ชายใหญ่มากจึงรู้สึกว่าบัลลังก์ของตนเองไม่ปลอดภัย เช่นนั้นจึงลงมือกับองค์ชายใหญ่อย่างสุนัขจนตรอกไร้ซึ่งหนทางก็มิปาน
แต่ทว่าเรื่องที่ลงมือกับองค์ฮ่องเต้นั้นซูหลีไม่แน่ใจนัก รู้เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น
มองจากตอนนี้บางทีอาจเป็นเพราะเขาลงมือกับองค์ฮ่องเต้ เช่นนั้นหลังจากสุขภาพของฮ่องเต้องค์ก่อนดีขึ้นสิ่งแรกที่ทำคือสั่งกำจัดองค์รัชทายาท แล้วให้สุราอาบยาพิษแก้วหนึ่งจบชีวิตองค์รัชทายาทองค์ก่อนไป
แต่เนื่องจากองค์ชายใหญ่ถูกสังหารสิ้นพระชนม์ไปก่อนแล้ว ส่วนองค์ชายสาม ฉินเฮ่าก็ขาพิการทั้งสองข้าง เช่นนั้นจึงเหลือเพียงพระองค์เล็กสองพระองค์ คนหนึ่งคือฉินเย่หาน อีกคนคือฉินม่อโจว
ในช่วงเวลานั้นฉินเย่หานประสบความสำเร็จอย่างน่าอัศจรรย์ ท้ายที่สุดในช่วงก่อนที่ฮ่องเต้องค์ก่อนจะสิ้นพระชนม์ถึงได้มีการประกาศว่าให้ฉินเย่หานเป็นผู้สืบทอดบัลลังก์ต่อไป
“องค์รัชทายาทองค์ก่อนผู้นั้นของพวกเราเป็นบุคคลผู้แสนน่าทึ่งผู้หนึ่ง เพื่อชิงบัลลังก์แล้ว แม้กระทั่งชีวิตของพี่ชายตนเองยังไม่เสียดายแล้วนับประสาอะไรกับคนอื่น ข้าอยู่ที่เมืองหลวงมานานถึงได้สืบพบออกมาว่าที่แท้ในช่วงเวลาก่อนที่ฮ่องเต้องค์ก่อนจะล้มป่วยนั้น หลี่เก๋อเหล่าดูเหมือนจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง…”
เมื่อซูหลีได้ยินเช่นนี้ก็ต้องหลับตาลงอย่างอดไม่ได้
ถ้าหากหลี่รุ่ยอิงรู้เรื่องที่องค์รัชทายาทองค์ก่อนทำเหล่านั้นทั้งหมดล่ะก็ ว่าตามนิสัยของหลี่รุ่ยอิงแล้วคงไม่มีทางที่จะสามารถทนได้ และเป็นไปได้ที่อาจจะสามารถเปิดโปงองค์รัชทายาทองค์ก่อนต่อหน้าเหล่าขุนนางพลเรือนทั้งราชสำนัก!
“ก่อนเกิดเรื่องกับสกุลหลี่ หลี่เก๋อเหล่าเคยไปพบองค์รัชทายาทองค์ก่อนที่จวนองค์รัชทายาทเดิม หลังจากกลับมาเพียงไม่กี่วัน ตระกูลหลี่ก็เกิดเรื่อง!” ขณะลู่อวี้เหิงพูดถึงเหตุการณ์ในอดีตเหล่านี้สีหน้าของเขาไม่น่าดูเป็นอย่างมาก
สิ่งนี้มันชัดเจนมากอยู่แล้ว
เหตุเพราะหลี่รุ่ยอิงรู้เรื่องนี้เข้า อีกทั้งองค์รัชทายาทยังเป็นบุคคลโหดเ**้ยมอำมหิตจึงย่อมไม่มีทางปล่อยเขาไป
ที่ตามเขาไปหาคาดว่าคงเพราะต้องการอยากให้เขาปิดปากและปกปิดเรื่องเหล่านี้เอาไว้ แต่หลี่รุ่ยอิงย่อมไม่มีทางตกลงแน่ ถ้าหากเขาตอบตกลงเขาก็คงจะไม่ใช่หลี่รุ่ยอิง แล้วก็ไม่มีทางได้รับจุดจบเช่นนี้ด้วย
เมื่อซูหลีฟังถึงตรงนี้ร่างกายก็เริ่มสั่นเทาเล็กน้อย
ท่านพ่อของนางผู้นี้ดีไปเสียทุกอย่าง แต่แค่ทำตัวซื่อตรงจนเกินไป ไม่รู้จักปรับตัว
มิใช่ว่าจะให้หลี่รุ่ยอิงตอบตกลงยอมรับเงื่อนไขขององค์รัชทายาทองค์ก่อนแต่อย่างใด เพียงแต่ให้รับปากไปชั่วขณะเท่านั้น… แต่ทว่าผู้คนเหล่านั้นเคยโหดเ**้ยมอำมหิตอยู่แล้ว เกรงว่าไม่ว่าอย่างไรคงจะรู้สึกไม่สบายใจวางใจไม่ลง
ต่อให้ท่านพ่อของนางตอบตกลงไปแล้ว เกรงว่าก็คงยังหนีไม่พ้นความตายอยู่ดี
ภายในใจของซูหลีเต็มไปด้วยความทุกข์ เจ้าองค์รัชทายาทองค์ก่อนนั้นตายไปหลายปีแล้ว ถ้าไม่อย่างนั้นนางก็อยากจะให้อีกฝ่ายชดใช้อย่างเลือดต้องล้างด้วยเลือด
ตระกูลหลี่ทั้งหนึ่งร้อยสี่สิบสามชีวิต นั่นหาใช่เพียงตัวเลขธรรมดาๆตัวหนึ่งไม่ แต่มันเคยมีชีวิตเป็นใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มที่เคยปรากฏต่อหน้าซูหลีทุกใบ!
หัวใจของซูหลีเจ็บช้ำ นางพูดไม่ออกอยู่เป็นเวลานาน
“ตอนนั้น ผู้หนึ่งในบรรดากลุ่มขององค์รัชทายาทองค์ก่อนที่มีอำนาจมากที่สุดคือป๋ายไต้ซือ!” และยังคงเป็นประโยคหนึ่งของลู่อวี้เหิงที่ช่วยดึงความคิดสติของนางกลับมา
ซูหลีพลันลืมตาขึ้นมาในทันที
ใช่ ป๋ายไต้ซือเป็นอาจารย์ขององค์รัชทายาทองค์ก่อนมาตั้งแต่แรก ต่อมาก็คอยสนับสนุนองค์รัชทายาทองค์ก่อนมาโดยตลอด เพียงแต่ไม่รู้ว่าเขาสามารถขโมยเอาชีวิตรอดออกมาจากสถานการณ์ความวุ่นวายในครั้งอดีตมาได้อย่างไร