หมอยาหวานใจท่านประธาน - ตอนที่ 248-249
ตอนที่ 248 เป็นคุณที่คอยดูแลผมตลอด
ลูกตาสองข้างของลูกบอลเงินกวาดไปรอบๆ สุดท้ายจึงหาตำแหน่งที่จะอยู่ได้โดยไม่ทำเสียงดัง วุ่นวายกันจนกลางดึก ทั้งสองต่างก็เหนื่อยล้า
ผ่านไปไม่นาน ขอบฟ้าเริ่มมีแสงรำไร แต่อีลั่วเสวี่ยซึ่งสูญเสียพละกำลังไปไม่น้อย พอถูกแสงสว่างแยงตา เธอก็มุ่นคิ้วโดยไม่รู้ตัว หดคอลง แล้วซุกศีรษะเข้ากับไหล่ หลับต่อ
แต่การเคลื่อนไหวของเธอกลับทำให้ใครอีกคนตื่น
เฉวียนหมิงพบว่าร่างกายถูกกระตุ้น แม้จะเมื่อยล้าเหมือนกับออกกำลังกายมาอย่างหนัก แต่ก็รู้สึกได้ว่าสามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้แล้ว
เขายกแขนขึ้น ลากม่านหน้าต่างข้างเตียงทีละน้อย โดยไม่ให้เกิดเสียงใดๆ จึงไม่ทำให้อีลั่วเสวี่ยตื่น
จากนั้นเขาก็ค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง สายตาจับจ้องไปยังร่างที่หลับสนิทบนโซฟาตัวเล็ก
‘หมอนี่เอาใจใส่เธอมาก มิน่าผู้ชายตั้งมากมายถึงไม่อยู่ในสายตาของหญิงคนนี้’ ตั้งแต่วันแรกที่เธอมาถึงโลกนี้ เฉวียนหมิงที่เธอเห็นก็ทุ่มเทให้เธออย่างสุดหัวใจ
คงเพราะแบบนี้ เขาจึงสามารถทำให้เธอรู้สึกประทับใจอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันการเสียสละของเขาก็มาจากใจจริง ไม่ได้แสดงละคร
เฉวียนหมิงพยายามทบทวนความจำหลังจากที่ตนตกลงไปในทะเล แต่กลับนึกอะไรไม่ออก เขาเลิกผ้าห่มขึ้นเล็กน้อย ก็พบว่าเสื้อผ้าถูกเปลี่ยนใหม่แล้ว ใบหูร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
เธอเป็นคนทำทั้งหมดนี้เหรอ ชั่วขณะนั้น เขารู้สึกทั้งตื้นตันและกระดากอาย รอยยิ้มอบอุ่นผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อเหล่าที่ซีดเผือดเล็กน้อย ไม่ว่าใครมาเห็นเขาในเวลานี้ จะต้องหลงใหลแน่นอน
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด อีลั่วเสวี่ยรู้สึกถึงสายตาร้อนแรงและท้องที่เริ่มส่งเสียงโครกคราก จึงค่อยๆ ลืมตาขึ้น สายตามองไปที่เฉวียนหมิงโดยไม่รู้ตัว
เมื่อปรับสายตาให้ชัดเจนได้ ก็ตกเข้าไปสู่ดวงตาที่น่าลุ่มหลงนั้นทันที เธอเริ่มรู้สึกเคลิบเคลิ้มเล็กน้อย
“คุณตื่นแล้ว รู้สึกไม่สบายตรงไหนบ้าง” ไม่รอให้เฉวียนหมิงเอ่ยปาก อีลั่วเสวี่ยรีบลุกขึ้น พุ่งมาที่ข้างเตียง คว้าข้อมือเขาไปตรวจชีพจรทันที
เธอคิดอะไรขึ้นได้ จึงยิ้มบอกว่า “อุณหภูมิไม่สูง ไม่มีไข้”
เมื่อคืนผมเป็นไข้เหรอ ก็จริงนะ น้ำทะเลเย็นเฉียบขนาดนั้น มีไข้ก็ไม่แปลก
“คุณดูแลผมทั้งคืนเลยเหรอ” เฉวียนหมิงคว้ามืออีลั่วเสวี่ยไว้ ดวงตาฉายแววซาบซึ้งและห่วงใย
เขามองเห็นเส้นฝอยในตาเธอ คิดว่าเหตุการณ์เมื่อคืนคงทำให้เธอตกใจมาก การลากผู้ชายตัวโตอย่างเขาขึ้นมาจากทะเล พากลับมาดูแลเป็นอย่างดี ต้องเหนื่อยแรงไม่น้อยเลย
เขาย่อมไม่รู้ว่าอีลั่วเสวี่ยสามารถจัดการเรื่องทั้งหมดนี้ได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที ถ้าเป็นคนธรรมดาคงลำบากแน่นอน แต่ไม่ใช่สำหรับเธอ
“ถามอะไรไร้สาระ ไม่ใช่ฉันแล้วจะเป็นใคร แต่คุณพูดผิด ไม่ถึงกับทั้งคืนหรอกค่ะ อย่างมากก็แค่ครึ่งคืนเท่านั้น” เธอพูดตามความจริง ครึ่งคืนหลัง อาการของเฉวียนหมิงคงที่แล้ว เธอมั่นใจว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น จึงพักผ่อนอย่างวางใจ
มุมปากเฉวียนหมิงยกขึ้น แววตาลึกล้ำ “จริงสิ คุณไม่ได้บอกเหล่าเกาใช่ไหม เขาอายุมากแล้ว ออกทะเลตอนกลางคืนทั้งอันตราย ไหนจะทำให้ตกอกตกใจ” ที่สำคัญที่สุดคือ ถ้าปู่รู้เรื่องนี้เข้า เราคงถูกบังคับให้กลับไปแน่
“ฉันเองก็อยากโทร.บอกเขา แต่มือถือของเราสองคนตกน้ำ เปิดไม่ได้แล้ว เฮ้อ” อีลั่วเสวี่ยเบ้ปาก หันไปมองมือถือสองเครื่องบนโต๊ะ
ที่จริงเธอสามารถจัดการกับอาการป่วยของเฉวียนหมิงได้ แต่ปัญหาคือหลังจากที่เขาฟื้นแล้วอาจจะนึกสงสัย เสียดายที่เธอใช้มือถือติดต่อใครไม่ได้
“ไม่เป็นไร ตอนนี้ผมไม่เป็นไรแล้ว พอถึงเวลา เหล่าเกาจะมารับเรา” เดิมเขาปิดมือถือไว้ เพราะไม่อยากให้ใครรบกวน
ตอนที่ 249 คุณต้องรับผิดชอบผม
“อาเสวี่ย ขอบคุณมาก ลำบากคุณแย่เลย” เฉวียนหมิงเม้มปาก น้ำเสียงอ่อนละมุนราวกับลมเย็นในฤดูใบไม้ผลิที่พัดเข้ามาในหัวใจ จนอีลั่วเสวี่ยซึ่งนิ่งสงบเสมอมารู้สึกหวั่นไหว
เธอถูกเฉวียนหมิงมองด้วยแววตารักใคร่จนรู้สึกอึดอัด “ไม่ลำบากหรอกค่ะ เรื่องแบบนี้ ถ้าเปลี่ยนเป็นฉัน คุณก็ต้องคอยดูแล จริงไหม”
ว่ากันอย่างยุติธรรมแล้ว เฉวียนหมิงดีต่อเธอมาก ในเมื่อเธอทำได้ จะมองเขาตายโดยไม่ช่วยได้หรือ
“แน่นอนอยู่แล้ว อาเสวี่ย ผมจะไม่ให้คุณได้รับอันตราย” สีหน้าเฉวียนหมิงจริงจัง ทันใดนั้นก็กางแขนโอบกอดเธอไว้
ตอนนั้นเขาเคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้ก็รู้สึกร้อนใจ ไม่ง่ายเลยกว่าจะพัฒนาความสัมพันธ์กับเธอมากขึ้นอีกก้าว เขาไม่อยากจากไป เขาดิ้นรนสุดชีวิต แต่ไร้กำลัง
ตอนที่กำลังคิดว่าตัวเองคงไม่รอดแล้ว สิ่งที่เขาหวังคือ ขออย่าให้อีลั่วเสวี่ยกระโดดลงมา อย่าเสี่ยงอันตรายเพื่อเขา
แต่สุดท้ายเธอก็มา ช่วยชีวิตเขาโดยไม่คำนึงถึงอะไรทั้งสิ้น เหมือนครั้งก่อน
“คุณแช่งฉันเหรอ อันตรายอะไร ฉันจะโง่จนทำให้ตัวเองตกลงไปในทะเลเหรอ” อีลั่วเสวี่ยดิ้นรนเล็กน้อย แต่ดิ้นไม่หลุด ก็เลยพูดแหย่เขา ฉันเป็นใคร คนอื่นตายแต่ฉันไม่ตายง่ายๆ อย่างนั้นหรอก
เฉวียนหมิงอึ้งไป โง่? งั้นก็หมายถึงผมโง่เหรอ แต่นั่นเป็นเหตุสุดวิสัย ผมก็ไม่ได้อยากให้เกิดขึ้นนะ
“จริงสิ คุณไม่ได้ถูกงูกัดใช่ไหม” พอนึกขึ้นได้ ก็ปล่อยเธอด้วยสีหน้าลนลาน อยากตรวจดูว่าเธอได้รับบาดเจ็บหรือไม่
อีลั่วเสวี่ยทั้งจนใจทั้งซาบซึ้ง เธอคว้ามือเขาไว้ “ไม่เป็นไร ตอนนั้นงูอยู่ไกลจากฉัน คุณลืมไปแล้วเหรอ”
ไม่ใช่ว่าลืม แต่เพราะเป็นห่วงจนสับสน ถ้าไม่ดูให้แน่ใจเขาย่อมไม่วางใจ
เฉวียนหมิงถอนหายใจอย่างหนักหน่วง “งั้นก็ดีแล้ว”
ถึงตอนนี้ทั้งคู่เหมือนฉุกใจขึ้นได้ มองมือที่กุมกันอยู่ อีลั่วเสวี่ยอยากดึงมือกลับ แต่พบว่าเฉวียนหมิงกระชับมือแน่นขึ้น
“แค่กๆ ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว คุณหิวหรือยัง อยากกินอะไร ฉันจะไปทำให้” สองวันนี้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่รุดหน้าเร็วเกินไป ชั่วขณะหนึ่งอีลั่วเสวี่ยรู้สึกไม่คุ้นเคยนิดๆ
“ไม่ต้องรีบหรอก ผมอยากรู้ว่าคุณเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ผมเหรอ” เฉวียนหมิงจงใจถามทั้งๆ ที่รู้ดี แววตาเรียบเฉยจนไม่อาจเรียบเฉยกว่านี้แล้ว
พอพูดถึงเรื่องนี้ ใบหน้าอีลั่วเสวี่ยก็แดงขึ้นมาทันที “ไม่ใช่ฉันแล้วจะเป็นคนอื่นหรือไง หรือคุณอยากนอนทั้งเสื้อผ้าเปียกๆ” ถึงตอนนั้นไม่ป่วยก็ต้องป่วยแหละ
ดวงตาเฉวียนหมิงฉายแววสับสนและเก้อเขิน แต่เขาไม่ลืมสิ่งที่อยากพูด “งั้นคุณก็เห็นผมแก้ผ้าล่อนจ้อนนะสิ?” แม้แต่กางเกงก็ถูกเปลี่ยน ต้องถูกเธอเห็นหมดแน่
อีลั่วเสวี่ยก้มหน้า ดวงตากลอกไปมา เรื่องที่เห็นเขาเปลือยไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้ง ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาอาบน้ำแล้วล้มลงหมดสติ รวมทั้งตอนที่ฝังเข็มให้เขา อย่างน้อยก็สองครั้งที่เห็นเขาเปลือยเปล่า
อย่าว่าไป คนอย่างเฉวียนหมิงถึงจะป่วยกระเสาะกระแสะ แต่ร่างกายมีเนื้อมีหนัง เพียงแต่อาจจะอ่อนแอและกล้ามเนื้อหย่อนไปบ้าง
“คุณเป็นผู้ชายยังกลัวฉันจะเห็นคุณแก้ผ้าเหรอ ฉันเป็นคนดูแลคุณ ฉันต่างหากที่เสียเปรียบ” สีหน้าเธอขึงขัง พูดอย่างมีเหตุผล คิดจะคิดบัญชีย้อนหลัง รู้อย่างนี้น่าจะปล่อยให้แช่ในน้ำทะเลนานหน่อย
เฉวียนหมิงเอียงคอ ตีหน้าซื่อ “ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนเห็นผมเปลือยมาก่อน คุณเป็นคนแรก เพราะฉะนั้นคุณต้องรับผิดชอบผม!”
“รับผิดชอบ?” อีลั่วเสวี่ยขึ้นหางเสียงสูง พูดออกมาได้ พวกดาราในทีวีก็เลี่ยงไม่ได้เวลาที่ต้องเจอบทโป๊บ้าง แบบนี้ผู้ชมหน้าจอไม่ต้องรับผิดชอบกันหมดเหรอ
นี่มันความคิดอะไรกัน วางอำนาจเกินไปแล้ว เป็นผู้ชายแท้ๆ ยังมาพูดแบบนี้ ยอมใจเลยจริงๆ