หมอยาหวานใจท่านประธาน - ตอนที่ 258-259
ตอนที่ 258 เขารู้จักแหวนหยก
“แบบนี้ก็ยังเอามาให้นายน้อยของเราดู ไม่มีที่ดีกว่านี้หรือไง” ชายคนที่ท่าทางเหมือนบอดี้การ์ดมุ่นคิ้ว แววตายั่วโมโห
พนักงานคนนั้นไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี ส่วนผู้จัดการร้านกัดฟันแน่น เตรียมรับมือเอง ต่อให้คิดจนหัวระเบิดก็ต้องสยบลูกค้าที่รับมือยากสองคนนี้ให้ได้
ที่จริงตามหลักแล้ว ถ้าอีกฝ่ายมายั่วยุแบบนี้ พวกเขาไม่จำเป็นต้องยอมอดทนทุกกรณีก็ได้ แต่กฎที่หลิ่วเฟยอวิ๋นวางไว้ มีข้อหนึ่งคือถ้าเลี่ยงไม่ทำให้ลูกค้าไม่พอใจได้ก็ให้เลี่ยง ว่าไปแล้วก็ยังไม่รู้ว่าคนที่มาเก่งกาจมาจากไหน รอให้รู้ชัดก่อนแล้วค่อยดูว่าจะจัดการอย่างไร
ในสังคมชั้นสูงมีคนบางประเภทที่ชอบอวดเบ่ง เวลาซื้อของก็อยากดึงดูดสายตาของคนอื่นๆ เลยทำเรื่องเรียกร้องความสนใจผู้คน ขณะที่พวกเขาเปิดร้านทำการค้า ย่อมไม่อยากให้เกิดเรื่องเกิดราว ถ้าไม่หมดหนทางจริงๆ ย่อมเลือกวิธีที่สันติ
“อาเซิง อย่าใจร้อน ยังมีอีกมากที่ไม่ได้ดู เราค่อยๆ ดู” เสียงสุภาพน่าฟังดังขึ้นราวกับหิมะที่ละลายบนเขาเทียนซานไหลลงสู่ผืนน้ำ ฟังแล้วน่าหลงใหล
ชายในชุดสูทสีดำถอยหลังหนึ่งก้าวทันที ค้อมกายอย่างนอบน้อม “ครับ นายน้อย ค่อยๆ ดูครับ”
“สวัสดีค่ะ ฉันหลิ่วเฟยซวง เป็นรองประธานร้านเครื่องหยก คุณต้องการดูหยกชนิดไหนคะ เป็นจี้หยกหรือกำไลหยกคะ” หลิ่วเฟยซวงซ่อนความไม่พอใจในแววตา แล้วยิ้มให้อย่างมืออาชีพ พลางเดินช้าๆ เข้าไปหา
พอเห็นหลิ่วเฟยซวงเดินมา ผู้จัดการก็ถอนหายใจอย่างแรง รีบเดินตามหลังเธอ แล้วอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเบาๆ
พอได้ยินเสียง ชายสองคนที่ดูหยกอยู่ก็หันมา
บอดี้การ์ดสวมสูทสีดำดูวางอำนาจ เย็นชา ท่าทางเหมือนจะตะเพิดให้คนอื่นๆ ถอยออกไปไกลๆ สมกับเป็นบอดี้การ์ด แต่คนข้างๆ เขาต่างออกไป
ผู้ชายคนนี้ดูแล้วอายุไม่น่าเกินสามสิบปี สวมเสื้อเชิ้ตลายการ์ตูนน่ารักสีเทาดำกับกางเกงขายาวสีแทบจะเหมือนกัน เป็นชุดเข้ากันที่เสื้อผ้าแบรนด์เนมยี่ห้อหนึ่งเพิ่งออกจำหน่ายเมื่ออาทิตย์ก่อน สวมรองเท้าหนัง ขัดจนขึ้นเงา
ใบหน้าหล่อเหลาขาวใสราวกับหินอ่อนปรากฏต่อสายตา ทำให้ทุกคนในที่นั้นไม่อยากละสายตาไป ดวงตาแวววาววูบไหวเล็กน้อย จมูกโด่งเป็นสันเข้ากับริมฝีปากบางสีแดงอ่อนๆ เป็นใบหน้าที่สวยงามจนแทบไม่มีที่ติ
เครื่องหน้าประกอบกันเป็นใบหน้าหล่อเหลางดงามราวกับเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ กลิ่นอายเหมือนคนธรรมดา แต่เปี่ยมด้วยความสูงส่ง
“ผมอยากดูแหวน…แหวนหยก แบบที่คุณหลิ่วสวมที่นิ้ว” รอยยิ้มปรากฏที่มุมปากเขา แต่แผ่ไปไม่ถึงส่วนลึกในดวงตา เมื่อเขาเห็นแหวนหยกบนนิ้วมือหลิ่วเฟยซวง ดวงตาก็เปล่งประกายทันที
อีลั่วเสวี่ยซึ่งยืนอยู่ด้านหลังมองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เธอเดินมาพร้อมกับเหอเย่ว์เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วหยุดเดินไม่ใกล้ไม่ไกลจากหลิ่วเฟยซวง เรื่องแบบนี้ให้หลิ่วเฟยซวงซึ่งเป็นเจ้านายจัดการจะเหมาะกว่า
หลิ่วเฟยซวงแปลกใจ ยกมือตัวเองขึ้น เธอไม่เห็นว่าบอดี้การ์ดซึ่งอยู่ข้างหลังชายคนนั้นเดินมาข้างหน้าเล็กน้อย แต่ถูกชายคนนั้นห้ามไว้
“ที่แท้ก็แหวนหยก เชิญตามฉันมาทางนี้ค่ะ นี่เป็นแหวนหยกเนื้อดีที่สุดของร้านเรา” หลิ่วเฟยซวงยิ้ม ผายมือเชื้อเชิญไปยังอีกเคาน์เตอร์หนึ่งซึ่งราคาสูงกว่า
ชายคนนี้พยักหน้าให้อย่างสุภาพ แล้วเดินตามเธอไป พอคนอื่นเห็นเช่นนี้ก็หมดความสนใจจะดูต่อ
ในสถานการณ์ปกติ เมื่อเจ้านายออกโรงเอง เรื่องที่เหลือย่อมจัดการได้อย่างรวดเร็ว
‘แม่คุณ เขารู้จักแหวนหยกนี่ คงไม่ใช่มาเพราะแหวนหยกวงนี้นะ จุ๊ๆๆ มีคนไม่น้อยเลยที่อยากได้แหวนหยกวงนี้ วิธีของคุณเป็นวิธีที่มองการณ์ไกลทีเดียว’
ตอนที่ 259 ถือโอกาสโฆษณาเลย
ขืนบุ่มบ่ามสวมแหวนออกมา ใครจะรู้ว่าจะไปเจอคนที่เข้าออกโรงประมูลใต้ดินเมื่อไร ถึงตอนนั้นฐานะเธอก็จะถูกเปิดเผยได้ง่าย ยังไม่พูดที่ก่อนหน้ามีคนคิดจะชิงแหวนหยกวงนี้ไปด้วย
ดังนั้นสิ่งที่อีลั่วเสวี่ยตัดสินใจเอาไว้ก่อนหน้าจึงมีเหตุผล เห็นได้จากเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้ก็เหมือนจะเป็นกรณีเดียวกัน
‘ดูกันไปก่อน’ สีหน้าอีลั่วเสวี่ยไม่เปลี่ยน ที่จริงเมื่อครู่เธอเองก็ตกใจ อีกฝ่ายถึงกับตามมาถึงที่นี่ ไม่แน่อาจมาเพราะแหวนหยกวงนี้ การที่ร้านเครื่องหยกของหลิ่วเฟยอวิ๋นผลิตแหวนหยกแบบนี้ ย่อมทำให้เกิดความสงสัย
เชื่อกันว่าแหวนหยกวงนี้เคยเป็นของราชครูประเทศซีกั๋ว จึงถือเป็นวัตถุทางประวัติศาสตร์ที่หลงเหลือมาของประเทศ แน่นอนว่าต้องมีคนรักชาติหรือพวกนักสะสมบางคนที่อยากได้แหวนวงนี้กลับคืนไป
เป็นไปได้ว่าการประมูลแหวนหยกที่เมืองเอฟครั้งก่อน มีคนมาไม่ทันร่วมประมูล หรืออาจมีเงินไม่พอ ตอนนั้นไม่มีใครคิดว่าแหวนหยกเล็กๆ วงเดียวจะประมูลขายได้ในราคาสูงถึงห้าแสนล้าน
“ของพวกนี้ไม่ใช่ที่ผมต้องการ คุณหลิ่วขายแหวนของคุณให้ผมได้ไหม ผมยินดีจ่ายในราคาสูง” ชายคนนี้มองหลิ่วเฟยซวง นัยน์ตาจริงจังแฝงแววค้นหาและประเมิน
เธอคือหมอปีศาจเหรอ เธอเปิดร้านหยก แล้วใช้แหวนหยกเป็นต้นแบบผลิตแหวนแบบเดียวกันออกมาเป็นจำนวนมาก
หลิ่วเฟยซวงได้ยินก็ส่ายหน้าทันที “แหวนหยกวงนี้ขายให้คุณไม่ได้ค่ะ ต้องขออภัยด้วย ถ้าคุณต้องการ ต้องรออีกสักระยะนะคะ”
เขาคิดว่าหลิ่วเฟยซวงต้องการเวลาใคร่ครวญ จึงมุ่นคิ้วทันที “คุณหลิ่วยอมตัดใจเถอะครับ แหวนหยกวงนี้สวยมาก ผมไม่อยากพลาดเลย จริงสิ เรื่องราคาไม่ใช่ปัญหานะครับ เราคุยกันได้ คุณเสนอราคามาได้เลย”
“เอ่อ…คงไม่ได้หรอกค่ะ ฉันดีใจมากที่คุณชอบ แต่ขายให้คุณไม่ได้จริงๆ ค่ะ”
“ก็บอกแล้วไงว่าเรื่องเงินไม่มีปัญหา” บอดี้การ์ดคนนั้นพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ
หลิ่วเฟยซวงยิ้มอย่างเย็นชา “คุณมีเงิน แต่ฉันไม่ขาย ฉันว่าพวกคุณไม่ได้มาซื้อหยกหรอก ถ้าอย่างนั้นก็ขอเชิญ” พูดจบก็ผายมือเชิญออกจากร้าน
“เฟยเฟย” เหอเย่ว์เห็นสถานการณ์ก็รีบเดินมา เธอเม้มปาก แย่แล้วสิ ทำไมเขามาอยู่ที่นี่ได้
สายตาเขาจับอยู่ที่แหวนบนมือเหอเย่ว์ พลันชะงัก หรือว่านั่นเป็นแหวนจริง
“เฟยเฟย ในเมื่อลูกค้าชอบสินค้าใหม่ที่กำลังจะออก งั้นก็แจ้งให้ลูกค้าทราบวันที่กำหนดออกจำหน่ายสิ เขาจะได้รีบมาซื้อ” อีลั่วเสวี่ยเก็บแววตาขี้เล่น พลางแนะนำอย่างจริงจัง เธอเก็บกลิ่นอายรอบตัวจนหมดสิ้น ไม่ให้หลงเหลือกลิ่นอายตอนที่อยู่โรงประมูลใต้ดินแม้แต่น้อย
“นายน้อย ทำยังไงดีครับ…” หญิงสาวสามคนนี้มีแหวนหยก ดูแล้วพวกเธอไม่น่าใช่หมอปีศาจ แหวนหยกก็ไม่น่าจะใช่ของจริง
ชายหนุ่มเลิกคิ้ว “ที่แท้ก็เป็นสินค้าใหม่ของร้าน มิน่าถึงสวยขนาดนี้ รบกวนถามหน่อยครับ แหวนของพวกคุณสองคนได้มายังไง ผมอยากซื้อสักวง”
“เกรงว่าคงไม่ได้หรอกค่ะ แหวนสามวงนี้เป็นของตัวอย่างที่พี่ชายฉันมอบให้เรา ตอนนี้ไม่มีเหลือแล้ว อีกอย่างก็ยังไม่ได้กำหนดราคา ก็เลยยังขายไม่ได้ ถ้าคุณชอบ รอวันมะรืนนะคะ เราจะเริ่มวางจำหน่ายค่ะ” นับว่าหลิ่วเฟยซวงมีฝีมือ พูดจาได้ไหลลื่น
ถึงตอนนี้อีลั่วเสวี่ยจึงเอ่ยขึ้นว่า “ใช่ค่ะ เราดีใจมากที่คุณชอบแหวนหยกนี้ แต่บังเอิญตอนนี้ยังไม่ออกวางจำหน่าย อีกอย่างไม่ว่าคุณหรือใคร ถ้าเห็นว่าแหวนหยกสวย ก็สามารถมาซื้อตามวันที่กำหนดได้ ถึงตอนนั้นเราจะลดราคาให้”
พูดจบ เธอและเหอเย่ว์รวมทั้งหลิ่วเฟยซวงต่างชูมือของตัวเองขึ้นมาพร้อมกัน วางมือไว้ในจุดที่มองเห็นได้เด่นชัด รอบๆ มีคนขยับเข้ามา จ้องไปยังแหวนหยก
‘แม่คุณ เจ้าเล่ห์จริงนะ ถือโอกาสโฆษณาเลย ถึงตอนนั้นจะมีแหวนหยกแบบนี้ทั่วไปหมด คิดจะแยกของจริงของปลอมก็ยากแล้ว’