หมอยาหวานใจท่านประธาน - ตอนที่ 406 ผมคือพญายม / ตอนที่ 407 เธอเคยช่วยชีวิตเขา
ตอนที่ 406 ผมคือพญายม
เฉวียนหมิงชะงัก จ้องมองอีลั่วเสวี่ย เขามองเห็นแล้ว แต่ที่ผ่านมาคิดว่าเธอชอบแต่งตัว ใช้เครื่องสำอางบวกกับการแต่งตัว ทำให้บุคลิกเธอเปลี่ยนไป
จะอย่างไรไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง ถ้าทาหน้าปะแป้งแต่งตัวให้ดี เด็กสาวคนไหนบ้างที่จะไม่สวย อีกทั้งในใจเขานั้นอีลั่วเสวี่ยสวยเสมอ
“อาเสวี่ย…” เฉวียนหมิงเผยอปากขึ้น ร้องเรียกชื่อเธอ
อีลั่วเสวี่ยขมวดคิ้ว “ฉันบอกแล้วว่าฉันชื่อมั่วเสี่ยวชิง อีลั่วเสวี่ยตัวจริงไปสวรรค์แล้วตั้งแต่ตอนที่กลิ้งตกบันได ที่โรงพยาบาลเหลือเพียงดวงจิตค้างอยู่ ต่อมาฉันเข้าครอบครองร่างเธอ เธอจากไปแล้ว”
จากนั้นอีลั่วเสวี่ยก็เล่าคร่าวๆ ว่าเธอมาที่โลกนี้ได้อย่างไร รวมทั้งความรู้สึกต่อที่นี่หลังจากที่เธอมาถึงโลกนี้แล้ว ยังพูดชัดเจนว่าเหตุใดจึงต้องปกปิดความสามารถของตนเอง
เฉวียนหมิงหลุบตาลง “งั้นก็หมายความว่าตอนนั้นที่คุณต้องการซื้อหยกดิบ ต้องการหยกข้างใน ก็เพื่อใช้ในการบำเพ็ญเพียรของคุณใช่ไหม?” เขาสงสัยตลอดมาว่าอีลั่วเสวี่ยจะเอาหยกดิบไปทำอะไร
อีลั่วเสวี่ยพยักหน้า “ถูกต้อง หรือคุณไม่ได้สังเกตว่าหลังจากที่ฉันเอาหยกดิบพวกนั้นมาแล้ว อากาศในคฤหาสน์ดีขึ้น นี่เป็นเพราะค่ายดูดพลังทิพย์ แม้อากาศจะมีไอทิพย์เบาบางมาก ก็สามารถดึงดูดไอทิพย์มาทำให้เข้มข้นขึ้น”
เขาย่อมสังเกตเห็น เดิมดอกไม้ในสนามจะบานไม่กี่วันก็เ**่ยวเฉา แต่หลังจากนั้นดอกไม้จะบานต่อเนื่องนานมาก แม้แต่ต้นไม้ในสนามไม่ต้องรดน้ำบ่อยยังเขียวสดอยู่ได้
“ผมย่อมสังเกตเห็น อาเสวี่ย…เสี่ยวชิง คุณจะจากผมไปไหม?” มือที่เฉวียนหมิงกุมมือเธอไว้กระชับแน่นขึ้นอย่างไม่รู้ตัว แววตาจริงจัง
อีลั่วเสวี่ยเกือบจะหลุดปากออกมาว่าไม่ไป แต่เธอคิดว่าควรจะต้องคุยกันให้ชัดเจน “ฉันบอกแล้ว ฉันคืออีลั่วเสวี่ย แต่ไม่ใช่อีลั่วเสวี่ยคนนั้นที่คุณต้องการ ขอโทษนะ เฉวียนหมิง ฉันควรบอกคุณก่อนหน้านี้แล้ว” ถ้าบอกก่อนหน้านี้บางที่เธออาจจะไม่หลงรักเขาจนไม่อาจตัดใจได้
“แต่คุณก็คืออาเสวี่ยของผม ผมไม่สนใจว่าคุณจะเป็นอีลั่วเสวี่ยหรือเป็นมั่วเสี่ยวชิงก็ตาม คุณก็คืออาเสวี่ย ก่อนนี้ผมแต่งงานกับอีลั่วเสวี่ยเพื่อตอบแทนบุญคุณเธอที่มีต่อผม ดังนั้นไม่ว่าเธอทำอะไรผมล้วนยอมรับได้ แต่ต่อมาคุณเข้ามาในหัวใจผม อาเสวี่ย คุณเข้าใจที่ผมพูดไหม?”
“คุณไม่ต้องปลอบใจฉันหรอก บางทีคงเพราะฉันครอบครองร่างนี้ ที่จริงคุณไม่…”
“ไม่! อาเสวี่ย ผมไม่เคยโทษที่คุณปิดบังผมเรื่องนี้ ผมโทษตัวผมเองที่ทำให้คุณไว้ใจผมไม่พอ คุณจึงไม่กล้าเปิดเผย” ท่าทางเฉวียนหมิงจริงจังเป็นพิเศษ
สีหน้าอีลั่วเสวี่ยตื่นเต้น “หรือว่าที่คุณดีต่อฉันไม่ใช่เพราะอีลั่วเสวี่ย อีกอย่างที่คุณบอกว่าเพื่อตอบแทนบุญคุณเธอ หมายความว่าอย่างไร ฉันสืบทอดความจำของเธอแต่กลับไม่รู้เรื่องเลย”
ในความทรงจำดูเหมือนก่อนหน้านี้ไม่เคยเจอเฉวียนหมิงมาก่อน
“จำเหตุการณ์อุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อห้าปีก่อนได้ไหม ตอนนั้นอยู่ที่ชานเมือง เป็นคุณ ไม่สิ เป็นเธอที่ดึงผมออกมาจากรถแล้วโทรแจ้งตำรวจ ถ้าช้ากว่านั้นผมอาจตายไปแล้วเพราะเสียเลือดมาก” เฉวียนหมิงเชิดมุมปากขึ้น ดังนั้นหลังจากนั้นเขาจึงตามหาเธอตลอดมา
ห้าปีแล้ว ในเมืองเดียวกัน แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะตามหาคนคนหนึ่งท่ามกลางทะเลคนที่เวิ้งว้าง เขาใช้เวลาห้าปีจึงตามเจอ แน่นอนวาย่อมต้องตอบแทนเธอโดยไม่คำนึงถึงอะไรทั้งสิ้น เรื่องทั้งหมดนี้แม้แต่ปู่เขาก็ไม่รู้
อีลั่วเสวี่ยนิ่งคิด มีภาพเลือนรางผุดขึ้นในสมอง เจ้าของร่างเดิมเคยช่วยผู้ชายที่รถเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ข้างถนนที่ชานเมืองจริง ตอนนั้นเขาบาดเจ็บเลือดเต็มใบหน้า เธอเองก็ร้อนรน จำหน้าตาเขาไม่ได้ จากนั้นก็ถือว่าเป็นการทำความดี ไม่เคยบอกเรื่องนี้กับใคร
ตอนที่ 407 เธอเคยช่วยชีวิตเขา
แน่นอนว่าต่อมาตระกูลเฉวียนประกาศหาพลเมืองดีที่โทรแจ้งตำรวจ แต่เธอไม่สนใจและไม่ได้ปรากฏตัว ไม่เช่นนั้นทั้งสองคนคงพบกันตั้งแต่ห้าปีก่อนแล้ว หลังจากนั้นบางทีอาจจะไม่เกิดเรื่องระหว่างหนานหลิวเฟิงกับเธอก็ได้ อีลั่วเสวี่ยถอนหายใจ
“นึกขึ้นได้แล้วใช่ไหม?” เฉวียนหมิงมองดูอีลั่วเสวี่ยด้วยความชื่นชม เขารู้ดีว่าตนเองไม่ได้เจอผิดคน
อีลั่วเสวี่ยพยักหน้า “นั่นเป็นเพียงความทรงจำ คนที่ช่วยคุณไม่ใช่ฉัน”
เฉวียนหมิงยิ้มอย่างขมขื่น “ผมย่อมรู้ ในเมื่อเธอตายไปแล้ว ผมจะไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้อีก ที่ผมสามารถทำได้ก็ทุ่มเททำไปแล้ว” เขาช่วยเธอรักษาสกุลอีไว้ แต่ต่อมาอีลั่วเสวี่ยเล่นงานสกุลอี เขาก็แอบช่วยเงียบๆ
เวลานี้เขาคิดดูแล้ว มีการเปลี่ยนแปลงมากจริงๆ ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าเพราะเธอรู้ว่ามีคนคอยช่วย จึงไม่อ่อนแอช่วยตัวเองไม่ได้อย่างเมื่อก่อน กลับคิดไม่ถึงว่าเป็นเพราะในร่างมีการสลับเปลี่ยนวิญญาณ
เรื่องที่เกิดขึ้นในนิยายและละครทีวีแบบนี้กลับเกิดขึ้นกับตัวเขา ดีที่เขาเองเป็นคนเข้าใจอะไรได้ จึงสามารถยอมรับเรื่องนี้ได้
“คุณไม่โทษฉันที่กำจัดสกุลอี ยังใช้ฐานะของเธอหลอกคุณหรือ?” อีลั่วเสวี่ยเหมือนพูดล้อเล่น ที่จริงเวลานี้ในใจเธอเข้าใจดีแล้ว
เฉวียนหมิงเงยหน้าขึ้น สีหน้าเรียบเฉยแต่จริงจัง “พูดถึงเรื่องหลอกลวง ผมเองก็หลอกคุณ อาเสวี่ย ผมไม่ใช่เป็นแค่ประธานเฉวียนกรุ๊ป ง่ายๆ แค่นั้น ผมยังมีอีกสถานะหนึ่ง นั่นคือพญายมแห่งโรงประมูลใต้ดินของเมืองเอฟ”
เขาพูดต่อ ”โรงประมูลใต้ดินก็คือ…”
อีลั่วเสวี่ยยิ้ม “ฉันรู้”
“คุณรู้เรื่องโรงประมูลใต้ดิน รู้เรื่องผมงั้นหรือ?” เฉวียนหมิงประหลาดใจ ผู้หญิงตรงหน้ารู้เรื่องต่างๆ ไม่น้อยไปกว่าเขา ไม่ธรรมดา ไม่ธรรมดาเลย
เธอย่อมรู้ ที่จริงก่อนหน้านั้นมีการคาดเดาบ้าง เพียงแต่เฉวียนหมิงไม่อยากบอก เธอเองก็ไม่ถาม ระหว่างสามีภรรยายังมีเรื่องที่เป็นความลับของตนเองที่ไม่พูด ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงระหว่างเธอกับเขา
“คนขนาดพญายม ราชาแห่งรัตติกาลของเมืองเอฟ มีใครบ้างที่จะไม่รู้จัก?” อีลั่วเสวี่ยแย้งกลับอย่างล้อเล่น ทำให้เฉวียนหมิงรู้สึกว่าว่าเธอขี้เล่นน่ารัก
อีลั่วเสวี่ยครุ่นคิดแล้วพูดต่อ “คุณต้องปิดบังฐานะของคุณไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงบอกให้ฉันรู้? ไม่กลัวว่าฉันจะเปิดเผยฐานะคุณหรือไง” พญายม นี่เป็นบทบาทในมุมมืด โดยเปิดเผยแล้วมีบางคนอยากกำจัดเขา
เฉวียนหมิงที่เป็นถึงประธานของเฉวียนกรุ๊ป กลับเป็นพญายม ถ้าเรื่องนี้แพร่สะพัดออกไป จะต้องทำใหแวดวงธุรกิจและโรงประมูลใต้ดินสั่นสะเทือนแน่นอน
เฉวียนหมิงไม่เห็นว่าสำคัญอะไร “คุณบอกความลับของคุณให้ผมรู้ ผมย่อมต้องบอกคุณบ้าง อาเสวี่ย คราวนี้เราเสมอกันแล้ว คุณเองก็อย่านึกโทษตัวเอง เพราะผมไม่โทษคุณหรอก”
อีลั่วเสวี่ยยิ้ม “ฉันไม่ใช่เด็กสาวที่คุณอยากตอบแทนบุญคุณ และไม่ได้อ่อนหวานน่ารักอย่างเธอ คุณชอบฉันตรงไหน?” ตัดเรื่องการตอบแทนบุญคุณอีลั่วเสวี่ยออกไป เฉวียนหมิงยังจะชอบอะไรเธอ
“คุณเป็นคนที่ตรงมาก มีเสน่ห์เฉพาะตัว มีหลักการของตัวเอง คุณยังดีต่อผม ทั้งยังเคยช่วยชีวิตผมไม่ใช่หรือ ที่ห้องอาบน้ำก็ครั้งหนึ่ง” เฉวียนหมิงยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ที่เจ้าของร่างเดิมช่วยชีวิตเขาไว้ เขาได้ตอบแทนเธอแล้ว ช่วยให้เธอพ้นจากการถูกสกุลอีทำร้าย
ส่วนอีลั่วเสวี่ยในภายหลัง ไม่สิ เป็นมั่วเสี่ยวชิงที่ช่วยชีวิตเขาครั้งหนึ่ง ต่อมายังแทงเข็มและถ่ายทอดพลังทิพย์ให้เขา ตอนนี้น่าจะครั้งที่สามแล้ว ครั้งที่อยู่ริมทะเล ถ้าไม่มีเธอเขาคงไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว
“ห้องอาบน้ำ ตอนนั้นคุณหมดสติไปแล้วไม่ใช่หรือ จะจำได้อย่างไร?” คงจะโกหก ตอนนั้นเขาไข้สูงมาก แทบจะสลบไปแล้ว ตอนนั้นเธอช่วยเขา เขาแทบจะไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบ เธอไม่เชื่อว่าเขาจะจำได้