หมอยาหวานใจท่านประธาน - ตอนที่ 512 เป็นตัวแทนทุกคน / ตอนที่ 513 ยิงเข้าเป้าร้อยเปอร์เซ็นต์
- Home
- หมอยาหวานใจท่านประธาน
- ตอนที่ 512 เป็นตัวแทนทุกคน / ตอนที่ 513 ยิงเข้าเป้าร้อยเปอร์เซ็นต์
ตอนที่ 512 เป็นตัวแทนทุกคน
เฉวียนหมิงขมวดคิ้วแต่ไม่พูดอะไร เรื่องแบบนี้ต้องให้อีลั่วเสวี่ยแสดงท่าทีเอง เขาไม่เหมาะที่จะแสดงความเห็น
“คุณหนูใหญ่ คุณว่าดีไหม หรือจะปล่อยให้พวกเราถูกข่มแบบนี้?” จ้าวจวินกะพริบตา ท่าทางราวกับว่าถ้าอีลั่วเสวี่ยปฏิเสธ เขาคงร้องไห้ทันที
รองหัวหน้าหน่วยมองจ้าวจวินด้วยความแปลกใจ นี่คือพี่จ้าวของพวกเขา ยังรู้จักออดอ้อนด้วย ราวกับดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกแล้ว
จ้าวจวินเป็นทหารติดตามใกล้ชิดอวิ๋นเว่ย ปกติได้เรียนรู้มากมายจากเขา เหมือนคำกล่าวที่ว่าอยู่ใกล้ผงชาดกลายเป็นสีแดง อยู่ใกล้หมึกกลายเป็นสีดำ เขาเรียนรู้ด้านที่เคร่งขรึมร้ายกาจมาจากอวิ๋นเว่ย
อีลั่วเสวี่ยเลิกคิ้วขึ้น “ฉันเข้าใจความหมายของอาจ้าวค่ะ แต่ฉันไม่ใช่สมาชิกในหน่วย หลังจากนี้คงอธิบายยากจริงไหมคะ?” เธอพูด แล้วกวาดตามองทหารในหน่วยห้าวหาญ
ทันใดนั้นทหารเหล่านี้รู้สึกเหมือนตนเองถูกท้าทาย แต่ละคนหน้าเสีย พูดตามจริงแล้วอีลั่วเสวี่ยก็แค่พูดไปตามตรง ไม่คิดจะท้าทายแต่อย่างใด
“คุณยิงปืนเป็น งั้นคุณก็คงเป็นลูกสาวท่านแม่ทัพอวิ๋นใช่ไหม?” หรือว่าเธอก็คือลูกสาวบุญธรรมของอวิ๋นเว่ยที่เป็นที่กล่าวขานในกองทหารในช่วงที่ผ่านมา ดูแล้วยังสาวมาก
มิน่าหัวหน้าและรองหัวหน้าหน่วยถึงไปรับด้วยตัวเอง แล้วคนนั้นเป็นใคร พวกเขามองดูเฉวียนหมิงด้วยความแปลกใจ แต่ไม่มีใครถาม
การอบรมอย่างดีในกองทัพทำให้พวกเขายอมรับกฎเกณฑ์ข้อหนึ่ง ใช่ก็คือใช่ ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่
อีลั่วเสวี่ยยิ้มเมื่อได้ยินที่พวกเขาถาม “คิดไม่ถึงว่าฉันจะมีชื่อเสียงขนาดนี้ ฉันอีลั่วเสวี่ย สวัสดีค่ะ” จากนั้นเธอจึงยื่นมือออกไป
ฝ่ายนั้นหรี่ตาลง แล้วยื่นมืออกมาเช่นกัน ขณะนี้เมื่อจ้าวจวินกับพวกมาถึงก็เปิดประตูแล้ว เพียงแต่อีลั่วเสวี่ยอยู่นอกรั้วเหล็ก ส่วนพวกเขาฝึกอยู่ด้านในของสนาม
“สวัสดีครับ ผมเฉวียนหมิง” ขณะที่มืออีลั่วเสวี่ยกำลังจะสัมผัสกับคนคนนั้น เฉวียนหมิงก็ยื่นมือออกไปจับข้อมือคนนั้นไว้
คิดจะจับมือกับผู้หญิงของเขาหรือ ไม่มีทาง ผู้หญิงของเขานั้น อย่าว่าแต่มือ แม้แต่ผมสักเส้นเขาก็ไม่อยากให้คนอื่นแตะต้อง โดยเฉพาะแววตาของคนคนนี้ ทำให้เขาอึดอัดมาก
ที่จริงแววตาเขาแค่แฝงด้วยความแปลกใจเท่านั้น เพราะอย่างไรอีลั่วเสวี่ยก็เป็นลูกสาวอวิ๋นเว่ย
เดิมทีอวิ๋นเว่ยไม่อยากให้คนอื่นไปรบกวนความสงบสุขของอีลั่วเสวี่ย แต่ภายหลังต้องโทษที่จ้าวจวินปากมาก แล้วข่าวนี้ก็ค่อยๆ แพร่ออกไปจากหน่วยบุกหน้า รวมทั้งอวิ๋นเว่ยมักจะยิ้มอย่างลืมตัวขณะที่คุยโทรศัพท์ จึงถูกพบเห็น
เขาก็เลยเปิดเผย เมื่อทำเช่นนี้ถือว่าเป็นการปกป้องเธอด้วย
“สวัสดีครับ” ฝ่ายนั้นน้ำเสียงราบเรียบ จับมือกับเฉวียนหมิงเบาๆ แล้วปล่อยมือ
จากนั้นสายตาเขาก็เบนไปที่อีลั่วเสวี่ย “ในเมื่อคุณอีอยากจะลองดู ย่อมได้ครับ แต่ว่าในกองทหารเรามีกฎ หลังจากประลองกันแล้ว ฝ่ายที่แพ้ต้องถูกลงโทษ”
“ลงโทษ แล้วลงโทษอย่างไรหรือ?”
“ก็ไม่ใช่การลงโทษที่ทำยากแต่อย่างไร แค่ทุกคนวิ่งรอบสนาม วิ่งคนละสามรอบเท่านั้น” สีหน้าเขาดูมั่นใจมาก ถ้าเป็นทหารที่อวิ๋นเว่ยเคยฝึก เขาคงจะกลัวบ้าง
แต่ขณะนี้คนชุดนั้นเหลือไม่กี่คนแล้ว ยังมีหลายคนที่ยังลาพักฟื้นอยู่ เวลานี้พูดได้ว่าพวกเขาไม่มีคู่ปรับแล้ว
อีลั่วเสวี่ยเลิกคิ้วขึ้น แล้วก้าวไปข้างหน้าสองก้าว “ก็ได้ ตกลงตามนี้เลย ส่วนที่ฉันจะเป็นตัวแทนพวกคุณไปประลอง มีความเห็นไหม?”
ทุกคนมองไปที่จ้าวจวิน จ้าวจวินไม่พูดอะไร พวกเขาจึงสั่นหัว “คุณหนูใหญ่ พวกเราไม่มีความเห็นครับ” ก็แค่วิ่งรอบสนาม พวกเขาทำได้อยู่แล้ว
ตอนที่ 513 ยิงเข้าเป้าร้อยเปอร์เซ็นต์
ต่อให้คุณหนูใหญ่แพ้ ก็ไม่เห็นจะเป็นไร ก็ถือว่าพวกเขาต้อนรับเธอ ลูกสาวท่านแม่ทัพ พวกเขาเคยบอกแล้วว่าจะช่วยดูแลคุณหนูใหญ่ ก็ต้องทำให้ได้
“คุณหนูใหญ่ พวกเราไม่มีความเห็นครับ” สีหน้าพวกเขาเป็นการแสดงท่าทีอย่างชัดเจน ถ้าเช่นนั้นไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็ต้องให้เธอลงมือทำเต็มที่
อีลั่วเสวี่ยรู้สึกหัวใจอบอุ่นเมื่อสัมผัสถึงความรู้สึกของทุกคน เห็นได้ชัดว่าทหารที่อวิ๋นเว่ยฝึกนั้นล้วนมีจิตใจกว้างขวาง ไม่คิดเล็กคิดน้อย
“ในเมื่อทุกคนเชื่อมั่นในตัวฉัน วางใจเถอะ ฉันจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง” อีลั่วเสวี่ยพูด สีหน้ามั่นใจมาก แต่ในสายตาของหน่วยห้าวหาญ เธอก็แค่มีท่าทางกระหยิ่มใจเท่านั้น
ใครบอกว่าคนเดียวเป็นตัวแทนคนทั้งหมดได้ สำหรับพวกเขาแล้ว คนที่ยิงปืนแม่นเป็นพิเศษก็ยังไม่กล้าบอกว่าเป็นตัวแทนทุกคนได้ จ้าวจวินนะจ้าวจวิน คุณอยากประจบอวิ๋นเว่ย ก็ไม่เห็นต้องทำให้ทุกคนเสียหน้าหรอก
ฝ่านตรงข้ามมองว่าที่อีลั่วเสวี่ยทำเช่นนี้แค่เอาแต่ใจตัวเองเท่านั้น
เฉวียนหมิงเดินมาข้างตัวเธอ “อาเสวี่ย คุณทำได้หรือ?” ยิงปืน หญิงสาวอย่างเธอจะยิงปืนเป็นหรือ หญิงสาวยุคโบราณที่ทะลุมิติมา จะใช้อาวุฯสมัยใหม่เป็นหรือ เขาสงสัยและวิตกแทน
อย่างไรปืนของโลกนี้ก็ไม่ใช่กระบี่ในโลกโบราณที่สามารถซื้อหาตามตลาดได้ มาถึงที่นี่แล้ว อาวุธจะถูกจำกัด
อีลั่วเสวี่ยพยักหน้า เธอชำเลืองมองทุกคน “วางใจเถอะ เชื่มมั่นในตัวฉัน”
หัวหน้าหน่วยห้าวหาญฝืนยิ้ม “งั้นคุณอี เชิญทางนี้ครับ” พูดจบก็ผายมือเป็นการเชิญ
พอเข้ามาในสนามฝึกยิงปืน คนของหน่วยบุกหน้าและหน่วยห้าวหาญต่างยืนอยู่ด้านข้าง เฝ้าดูอีลั่วเสวี่ยเงียบๆ
จากนั้นคนของหน่วยบุกหน้าวางปืนและกระสุนที่จะใช้ยิงไว้บนโต๊ะ ส่วนคนของหน่วยห้าวหาญต่างถือปืน ยืนเรียงเป็นแถว
“คุณอีครับ คุณเป็นแขกที่มาเยือน งั้นนัดแรกเชิญคุณก่อนเลย” อีกฝ่ายยิ้มจนหน้าบาน จะอย่างไรเธอก็เป็นหญิงสาว พวกเขาต้องดูแลบ้าง
“งั้นฉันไม่เกรงใจแล้ว” อีลั่วเสวี่ยยิ้ม เธอถือปืนด้วยมือเดียว เล็งไปข้างหน้า รอเป้าซึ่งไม่รู้ว่าจะโผล่ขึ้นมาเมื่อไหร่
เสียงปืนดังเปรี้ยง กระสุนนัดนี้เข้าที่จุดแดง ขณะที่ท่ายิงที่สวยงามของเธอทำให้ทุกคนตกตะลึง สมกับคำกล่าวที่ว่าพยัคฆ์ย่อมไม่มีลูกเป็นสุนัข คิดไม่กึงว่าหญิงสาวที่ดูอ่อนแอคนนี้ จะมีฝีมือไม่เบาเลย
“ร้ายกาจ ร้ายกาจ คิดว่าปกติคุณอีคงได้รับการฝึกฝนจากท่านแม่ทัพอวิ๋น ทุ่มเทฝึกยิงอย่างหนัก นับถือ นับถือ” หัวหน้าหน่วยฝ่ายนั้นยิ้มพลางปรบมือให้เธอ
ส่วนอีลั่วเสวี่ยหันมามอง สีหน้าจริงจัง “ไม่ใช่หรอก พ่อฉันงานยุ่งมาก ฉันเองก็ต้องเข้าชั้นเรียน นี่เป็นการยิงปืนครั้งที่สองเท่านั้น” เธอยิงปืนครั้งแรกที่คฤหาสน์สกุลอวิ๋น เพื่อจัดการผู้บุกรุก
คนอื่นๆ ถึงกับตะลึงงันเมื่อได้ยินที่เธอพูด ดูท่าทางที่คล่องแคล่วของเธอ ไม่เหมือนมือใหม่เลย
“ว่าไง พวกคุณไม่เชื่อหรือ?”
“ผมเป็นพยานได้ ครั้งนี้คุณหนูใหญ่ยิงปืนเป็นครั้งที่สอง ถ้าจำไม่ผิด ครั้งนี้น่าจะเป็นการยิงเป้าที่สามเท่านั้น” จ้าวจวินช่วยอธิบายแทนเธอ
อีลั่วเสวี่ยเลิกคิ้วขึ้น มองดูคนของหน่วยห้าวหาญ “เอาอย่างนี้เถอะ เพื่อไม่ให้เสียเวลา ถัดจากนี้พวกคุณยิงก่อน ยิงเสร็จแล้วฉันค่อยยิงอีกครั้ง พวกคุณว่าไง?”
“อย่างนี้ก็ดี” หัวหน้าหน่วยห้าวหาญยิ้ม เมื่อพวกเขาทำคะแนนไว้ก่อน คนทีหลังคิดจะเอาชนะย่อมยากกว่า
ผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมง คนของหน่วยห้าวหาญล้วนยิงครบแล้ว มี 56 นัดที่ยิงเข้าจุดแดง คะแนนดีกว่าก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ