ความลับแห่งจินเหลียน - ตอนที่ 255 ไอ้ลูกเวร
จ่านป๋ายขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง “น่าจะเป็นประเภทเดียวกับกระบองช็อตไฟฟ้า แต่แรงดันไฟฟ้าสูงกว่ามาก”
“สูงขนาดไหนเหรอ” ซีเหมินจินเหลียนถามขึ้นอย่างไม่กังวลใจ แต่ในใจมีประโยคหนึ่งที่ไม่ได้พลั้งปากออกไป สูงถึงขนาดปลิดชีวิตคนได้หรือเปล่า
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน” จ่านป๋ายส่ายหน้า เขาไม่ได้ดูขนาดไซซ์จะรู้ได้อย่างไร แต่ในใจพูดพึมพำว่า “แต่แรงดันไฟฟ้าไม่น่าจะต่ำ”
หูชีเยี่ยนค่อยๆ เช็ดรอยเลือดที่มุมปาก แสยะยิ้มออกมาอย่างเลือดเย็น จับกลอนประตูเพื่อเตรียมเปิดประตูเดินจากไป
กระบองช็อตไฟฟ้าที่อยู่ในมือของหูหวังไม่มีเวลาให้ได้ลังเล ทันทีที่แสงสีขาวทิ่มแทงสายตา มันก็ถูกตีกระทบลงบนเรือนร่างของหูชีเยี่ยนอย่างโหดเ**้ยม จมูกของซีเหมินจินเหลียนกับจ่านป๋ายได้กลิ่นเหม็นไหม้…และหูชีเยี่ยนคนนั้นก็ล้มกองอยู่บนพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรงทันที
“อย่าค่ะ!” ซีเหมินจินเหลียนเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ดูแล้วกระบองช็อตไฟฟ้าในมือของผู้อาวุโสหูถึงแรงดันไฟฟ้าจะไม่สูงมาก แต่ก็ไม่ได้ต่ำเกินไป ไม่ถึงกับเอาชีวิตคน แต่ก็ไม่ปล่อยผ่านไปง่ายๆ
มือไม้ของหูชีเยี่ยนสั่นระริก ท่าทางราวกับเจ็บปวดทุกข์ระทม ทันใดนั้นประตูก็เปิดออกอย่างรุนแรง เงามืดนำคนร่างกายบึกบึนสวมใส่ชุดสูทสีดำสองคนเข้ามา เมื่อเห็นสภาพของหูชีเยี่ยนแล้ว ไม่นานสายตาก็นิ่งงัน กระวนกระวายพูดขึ้น “เจ้านาย!”
“พาฉันไป!” หูชีเยี่ยนพูด
“ครับ!” เงามืดรับปากก่อนจะประคองหูชีเยี่ยนขึ้นมา แต่ไม่ได้จากไปไหน เขามองไปยังหูหวัง ซีเหมินจินเหลียนและจ่านป๋าย
หูชีเยี่ยนหลับตาลง ราวกับเหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก จนกระทั่งผ่านไปครู่หนึ่งเขาถึงพูดขึ้นว่า “ช่างเถอะ!”
ซีเหมินจินเหลียนรู้สึกว่าจ่านป๋ายจับมือของเธออยู่ และมันสั่นเทาเล็กน้อย จนถึงเวลานี้ถึงได้ผ่อนคลายลงมา เงามืดประคองร่างของหูชีเยี่ยนออกไป
ชายชุดสูทร่างกายกำยำทั้งสองที่พุ่งตัวเข้ามา เดินตัวตรงตามออกไปเป็นแถวอย่างมีระเบียบ
หูหวังนั่งลงบนโซฟาด้วยท่าทางกลัดกลุ้ม หากพลาดโอกาสในวันนี้ ครั้งหน้าอยากจะตามหาเขาอีกมันก็คงไม่ง่ายแล้ว? เดิมทีคิดไว้ว่าไม่ว่าจะใช้วิธีอะไร หรือสุดท้ายแล้วจนปัญญาต้องเข่นฆ่าเขา ตนก็จะไม่ลังเลหรือรู้สึกเสียดาย แต่คิดไม่ถึงว่าเงามืดจะพากันบุกเข้ามาทัน
จ่านป๋ายปิดประตูลงและถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ สีหน้าไม่สู้ดีนัก
“เสี่ยวป๋าย คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” ซีเหมินจินเหลียนถาม
“ไม่เป็นอะไร ยังดี…ที่เขายังนึกถึงความรู้สึกเก่าๆ บ้าง ไม่อย่างนั้นคืนนี้ถึงพวกเราสามคนคิดจะหนี แต่ก็คงไม่มีทางรอด” จ่านป๋ายยิ้มขื่นๆ “เมื่อสักครู่เขาคงสั่งให้คนล้อมที่นี่ไว้แล้ว บนร่างของชายสองคนนั้นมีปืน และดูจากช่วงเท้าที่เขาก้าวเดิน ฝีเท้ามั่นคงหนักแน่นมีระเบียบแบบนั้น น่าจะเป็นนายทหาร”
“ไอ้ลูกเวร!” หูหวังสบถด่าออกมา
“เขาทำอะไรกันแน่ครับ?” จ่านป๋ายมองไปที่หูหวังและลองถามหยั่งเชิง
หูหวังไม่ได้ตอบ เขานั่งพิงอยู่บนโซฟา ซีเหมินจินเหลียนเดินเข้าไปและถอนหายใจออกมาเบาๆ “ผู้อาวุโสหู…”
“จินเหลียน หนูน่าจะต้องเรียกฉันว่าปู่ถึงจะถูก” หูหวังยิ้มขื่น
ซีเหมินจินเหลียนนั่งลงข้างกายเขา เธอรู้ว่าเธอควรเรียกเขาว่าคุณปู่ แต่ตอนที่เห็นหูชีเยี่ยน ในใจของเธอก็เจ็บแปลบขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ คุณปู่…เฮ้อ…
“จินเหลียน พวกเราต้องชิงหาหินปิดฟ้าให้เจอก่อนเขา” หูหวังพูด
“ทำไมคะ?” ซีเหมินจินเหลียนถามขึ้นด้วยความสงสัย ความจริงเธอรู้สึกสงสัยเรื่องหินปิดฟ้ามากขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้ว่ามันมีความสำคัญอย่างไร หากบอกว่าเกี่ยวกับผลประโยชน์ เธอก็คงไม่ทุ่มเทแรงกายแรงใจถึงขนาดนี้ เงินหรือ…มีให้ใช้ก็ได้แล้ว การเดิมพันหินก็นำพาผลประโยชน์ที่เธอคาดเดาไม่ได้ ขอแค่ไม่ก่อเรื่องวุ่นวาย ชีวิตนี้ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะอดตาย หรือไม่มีเสื้อผ้าให้สวมใส่
“ในใจของปู่ตอนนี้สับสนเหลือเกิน ให้ผ่านไปอีกสักหน่อยเถอะแล้วปู่จะบอกกับหลานด้วยตัวเอง” หูหวังพูดจบลุกขึ้นยืนและเดินออกไปด้านนอก
…
ที่ปากประตูของโรงแรมย่างกุ้ง แกรนด์ ด้วยความช่วยเหลือของเงามืดที่ประคองหูชีเยี่ยนไว้ พวกเขาจึงนั่งอยู่บนรถเป็นที่เรียบร้อย
“เจ้านาย ท่านอยากไปดูอาการที่โรงพยาบาลสักหน่อยไหมครับ?” เงามืดถามขึ้น
“ไม่ต้อง กลับเถอะ!” หูชีเยี่ยนตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ได้ข่าวของปีศาจงูบ้างหรือเปล่า?”
“ยังไม่มีเลยครับ!” เงามืดตอบอย่างนอบน้อม
“ประกาศออกไป ตามจับปีศาจงูอย่างเต็มกำลัง เอาตัวมันมาเป็นๆ!” หูชีเยี่ยนออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“แล้วทางคุณหนู…ทำอย่างไรดีครับ?” เงามืดลองถามหยั่งเชิง
หูชีเยี่ยนไม่ได้ตอบ เมื่อได้พบกับซีเหมินจินเหลียนเขาถึงรู้ว่าเรื่องราวระหว่างพวกเขาทั้งคู่มีระยะห่างมากเหลือเกิน ช่างเถอะ ถึงเธอไม่ฟังเขา เขาก็หมดปัญญา
“เธอปีกกล้าขาแข็งขึ้นแล้ว ทำไมต้องฟังฉันด้วย?” หูชีเยี่ยนพูด “หญิงชราของตระกูลอวิ๋นคนนั้นใจไม่สู้เลย ในงานพนันหินหยกใหญ่ก็แพ้ไปราบคาบ ไม่อย่างนั้นคงไม่เกิดเรื่องแบบนี้หรอก?”
“เจ้านาย ในเมื่อหูหวังคอยขัดมือขัดเท้าท่าน ไม่สู้อาศัยจังหวะที่เขาอยู่ที่นี่ส่งเขาให้…” เงามืดพูดได้เพียงเท่านี้ เมื่อเห็นสีหน้าของหูชีเยี่ยนที่ยิ่งย่ำแย่กว่าเดิมเลยไม่กล้าพูดต่อ
“ทำไม? ถึงขั้นที่แกต้องมาคอยสอนฉันว่าควรทำอย่างไรแล้วเหรอ?” หูชีเยี่ยนมองไปที่เงามืดและถามด้วยความสงสัย
เงามืดร่างสั่นเทาน้อยๆ ไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก หูชีเยี่ยนนั่งพิงเบาะรถหนังแท้ ด้วยความไม่ระวังทำให้ไปกระแทกกับแผลด้านหลังเข้า ได้แต่ส่งเรียงร้องครวญครางออกมาด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าซีดขาวแต่เดิมยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ บรรยากาศเงียบเหงาในรถดูอนาถขึ้นกว่าเก่า…
“คุณชายตระกูลหลินยังอยู่ที่นี่ใช่ไหม?” ผ่านไปพักหนึ่ง หูชีเยี่ยนก็ถามขึ้นอย่างกะทันหัน
“ยังอยู่ครับ เขาพักอยู่ที่โรงแรมย่างกุ้ง แกรนด์เหมือนพวกคุณหนูเช่นกัน” เงามืดกลืนน้ำลายรีบตอบกลับ
“พรุ่งนี้ให้เขาไปที่ถนนพนันหิน” หูชี่เยี่ยนพูด
“ครับ!” ครั้งนี้เงามืดไม่กล้าซักถามให้มากความ ขับรถเบนซ์ตรงไปยังคฤหาสน์พักหรูในพม่า ประตูเปิดออก รอบด้านมีตำรวจติดอาวุธเฝ้าระวังไว้อย่างแน่นหนา เมื่อเห็นรถเมอร์เซเดสเบนซ์จึงรีบพากันทำความเคารพ
รอให้หูหวังไปแล้ว จ่านป๋ายก็เดินไปหาซีเหมินจินเหลียนและกุมมือเธอไว้ แต่กลับพบว่ามือของเธอนั้นเย็นเฉียบ…
“จินเหลียน คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ?” จ่านป๋ายถาม
“ฉันไม่เป็นไร แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย ไม่รู้จะทำอย่างไรดี!” ซีเหมินจินเหลียนยิ้มขมขื่น “แค่เพียงพริบตาเดียวก็เกิดเรื่องมากมายถึงขนาดนี้แล้ว ฉันรู้สึกตั้งตัวไม่ทัน…”
“ไม่เป็นไร นอนพักผ่อนสักหน่อยนะครับ พรุ่งนี้จะดีขึ้นเอง!” จ่านป๋ายถอนหายใจเบาๆ ไม่รู้ว่าจะปลอบใจเธออย่างไรดี แต่มีประโยคหนึ่งที่เขาจะไม่พูดไม่ได้ “จินเหลียน พ่อแท้ๆ ของคุณคนนั้นเก่งกาจเกินไป คำขู่ของเขาคุณฟังไว้สักหน่อยก็ดีนะครับ”
“หา?” ซีเหมินจินเหลียนสับสน วันนี้ตอนบ่ายจ่านป๋ายยังกล้าพุ่งหมัดใส่เขา แต่ตอนนี้เขากลับมาพูดแบบนี้เสียแล้ว?
ซีเหมินจินเหลียนรู้สึกสงสัยไม่หยุด หลายปีมานี้เขาทำอะไรกันแน่? ทำไมหูหวังถึงต้องโกรธขนาดนี้ เขาทำเรื่องอะไรร้ายแรงขนาดนั้นเชียวหรือ? หากเป็นเช่นนั้นจริง ทำไมหูหวังต้องคอยหลบเลี่ยงไม่คุยกับเธอ? เรื่องเกินจริงกว่านั้นก็คือ…คนอื่นๆ หวังอยากจะตามหาหินปิดฟ้า มีแค่เขาที่ไม่อยากให้เธอมาที่พม่าอีก ไม่ให้เธอตามหาหินปิดฟ้า…
ตอนกลางคืน ท่ามกลางความสงสัยมากมายในใจได้ผ่านพ้นไป วันถัดมาก็คืองานประมูลหยกใต้ดิน ซีเหมินจินเหลียนกับจ่านป๋ายมาที่นี่ก็เพื่อมาพนันหิน ในเมื่อเป็นอย่างนี้จะไม่ยอมพลาดโอกาสแบบนี้เด็ดขาด
เพราะฉะนั้นวันที่สองพวกเขาก็ยังคงเรียกรถให้พาไปยังหอประชุมใหญ่ใกล้ๆ กับถนนพนันหิน…สถานที่ประมูลหยกใต้ดิน