ความลับแห่งจินเหลียน - ตอนที่ 297 สิ่งลี้ลับที่แก้ไม่คลาย
หูชีเยี่ยนไม่ได้เอ่ยปากพูด ซีเหมินจินเหลียนออดอ้อนคลอเคลียอยู่บนตัวเขา “พ่อคะ!”
แต่ครั้งนี้หูชีเยี่ยนไม่เหมือนเมื่อก่อนที่คอยโอบกอดเธอด้วยความรักเอ็นดู ปลอบประโลมเธออย่างไม่มีขีดจำกัด เขากลับตีหน้าพูดจริงจัง “แน่นอน ลูกก็ไปไม่ได้เหมือนกัน…ไม่ว่าใครที่มีทักษะเดิมพันหินที่เหนือชั้นกว่าคนธรรมดาทั่วไป พ่อก็ไม่มีทางให้พวกเขาก้าวเท้าไปที่พม่าอีกครั้งแน่”
“พ่อคะ…” ซีเหมินจินเหลียนสีหน้าเปลี่ยนสีทันใด ไม่ให้เธอไปพม่า ถึงไม่ให้เธอไปตามหาหินปิดฟ้าก็เถอะ แต่ในอนาคตเธอจะไปเลือกซื้อหินหยกดิบอย่างไร? แล้วบริษัทจิลเวอรี่จะเปิดต่อไปได้ยังไง? ภาพยนตร์เรื่องหินปิดฟ้าของเทพธิดาหนี่ว่าก็ทำมาเพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมหยกนะ
“หูชีเยี่ยน แกนี่มันรังแกคนอื่นเกินไปแล้ว!” ลุงงูลุกขึ้นชีหน้าด่าหูชีเยี่ยน
“รังแกก็รังแกเถอะ รังแกก็ต้องใช้กำลังความสามารถ ฉันแค่แก้แค้นแกให้กับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้น!”
“แก…แกมันไม่ใช่คน!” ลุงงูโกรธจัด “เหตุผลไม่มีน้ำหนักอะไรของแก? แกคิดว่าแกเป็นเทพเจ้าเหรอไงที่จะลิขิตชะตาชีวิตทุกอย่างของคนอื่นได้ แค่แกไม่อนุญาตก็จบสิ้นแล้วอย่างนั้นเรอะ?”
“แกลองดูสิ!” หูชีเยี่ยนพูด “ขืนแกกล้าแอบลักลอบเข้ามาพม่า ถึงแกจะเดินทางไปได้ แต่ฉันก็ไม่มีทางให้แกนำหินกลับมาด้วยแม้แต่ก้อนเดียว”
ลุงงูเองก็โมโหเดือดดาล ชี้หน้าหูชีเยี่ยน “เว้นเสียแต่หิน[1]ไร้ค่าที่ถูกฝังไว้ในส้วมอย่างแก ทั้งเหม็นทั้งแข็งไม่มีใครต้องการ ส่วนหินอื่นฉันจับจองไว้หมดแล้ว แกรอฉันเถอะ!” ในขณะที่พูดเขาก็ลุกยืนไปทางด้านนอก
“ลุงงู!” ซีเหมินจินเหลียนมองหูชีเยี่ยน เห็นเขานั่งอยู่บนโซฟาสีหน้าเคร่งขรึมไม่พูดจา ทันใดนั้นจึงรีบลุกขึ้นตามออกไป
จ่านป๋ายถอนหายใจยาวมองไปที่หูชีเยี่ยน “คุณหูครับ คุณจะกลุ้มอกกลุ้มใจไปทำไมกัน ถ้าคุณมีความทุกข์ระทมก็พูดออกมาดีกว่าครับ ไม่เห็นจำเป็นต้องทำให้ผู้คนตีตัวออกห่างเลย?”
หูชีเยี่ยนมองจ่านป๋ายอย่างเยือกเย็น แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา จ่านป๋ายเห็นเขาไม่ได้โกรธจึงพูดต่อว่า “ความจริงคุณก็หวังดีทำเพื่อพวกเขาทั้งนั้น ผมพูดถูกไหมครับ? หินปิดฟ้านั่นคงต้องอันตรายมากเลยสินะครับ?”
“ไอ้หนู พอเถอะ!” หูชีเยี่ยนพูดเยือกเย็น “เรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่นายจินตนาการไว้ อย่าสุ่มทายมั่วซั่วเลย ความอดทนของฉันมีขีดจำกัด”
…
ซีเหมินจินเหลียนเดินตามหลังลุงงูออกไปข้างนอก ก่อนรีบเรียกขึ้นที่หน้าประตู “ลุงงูคะ!”
ลุงงูหยุดฝีเท้าลง หันหน้ามามองซีเหมินจินเหลียน แม้แต่นิ้วมือยังสั่นระริก “หนูว่า หนูว่าทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ มันไม่สมเหตุสมผลเลย?”
“ขอโทษนะคะ!” ซีเหมินจินเหลียนน้ำเสียงรู้สึกผิด
“จินเหลียน เรื่องนี้ไม่โทษหนูหรอก!” ลุงงูพูดเสียงเบา “ลุงรู้ว่าหลายปีมานี้เขาอาจจะมีชีวิตไม่ราบรื่น ในใจคงมีแต่ความเคียดแค้นลุง ดังนั้นลุงก็ไม่อยากจะไปคิดเล็กคิดน้อยกับเขา เขาไม่อยากตามหาหินปิดฟ้ามันก็เป็นเรื่องของเขา แต่เขาไม่เห็นจำเป็นต้องขัดขวางคนอื่นเลย ถูกไหม?”
ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้า ใช่แล้ว เรื่องนี้เธอก็เห็นด้วย หูชีเยี่ยนคงจะเจอเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ถึงได้รู้สึกท้อแท้ใจ ไม่อยากตามหาของในตำนานที่พูดถึงแล้ว เขาเลยเห็นแก่ตัวไม่อยากเอาชีวิตเข้าไปเสี่ยง เรื่องพวกนี้เธอสามารถเข้าใจได้ แต่การที่ไม่ให้พวกเขาไปตามหาหินปิดฟ้า อีกทั้งไม่ให้พวกเขาไปมาที่พม่า เรื่องพวกนี้มันดูเกินไปหน่อย
“จินเหลียน ลุงเคยเจอซีเหมินน่งเย่ว์ หนูน่าจะรู้ว่าซีเหมินน่งเย่ว์คือใครใช่ไหม?” ลุงงูถามขึ้นทันใด
“รู้ค่ะ พ่อเคยพูดให้หนูฟัง” ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้าพูด “หนูเกลียดคนคนนี้มาก!”
“ลุงก็เกลียดมัน!” ลุงงูพยักหน้าพูด “ตอนนั้นพ่อของลุงทำเรื่องไม่น่ายินดีเท่าไหร่ ซีเหมินน่งเย่ว์เป็นพี่ชายแท้ๆ ของลุง เขากลับเคียดแค้นโทษพ่อของหนู…เมื่อยี่สิบปีก่อน เขาวางแผนล่อลวงลุง จากนั้นยืมชื่อลุงหลอกพ่อหนูให้เข้าไปในเหมืองหยกใต้ดิน ส่วนเขาเตรียมตัวพาคนดักซุ่มอยู่ใต้เหมืองหยก เป็นคนบงการทุกอย่าง หลังจากนั้นเขาก็ใช้ระเบิดดินชนวนทำลายล้างเหมืองหยกทั้งหมด”
“หนูเคยได้ยินมาก่อนค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนกะพริบขนตางอนยาว ภายใต้เงาของแสงไฟที่คลุมเครือมีดวงตาเปล่งประกายแอบซ่อนเร้นอยู่
“จินเหลียน หนูไม่เคยสงสัยมาก่อนเลยเหรอว่าเขามีชีวิตอยู่ได้ยังไง” ลุงงูพูดเสียงต่ำถาม ในระหว่างที่พูดก็มองไปในห้องรับแขกข้างใน
“ไม่เป็นไรค่ะ เสี่ยวป๋ายยังอยู่” ซีเหมินจินเหลียนรู้ว่าลุงงูกังวลอะไร ตอนนั้นจึงพูดอธิบาย มีเสี่ยวป๋ายนั่งอยู่เป็นเพื่อนหูชีเยี่ยน ถ้าเขาออกมาจ่านป๋ายคงต้องขัดขวางไว้ก่อน แต่คำถามอีกข้อของลุงงูเธอไม่รู้จะตอบอย่างไรดี “เขามีชีวิตอยู่ก็ดีแล้วค่ะ”
“ลุงเคยถามซีเหมินน่งเย่ว์ว่าเขาจำคนผิดหรือเปล่า?” ลุงงูยิ้มเฝื่อน “แต่ซีเหมินน่งเย่ว์แต่ไหนแต่ไรก็เป็นคนระมัดระวังอยู่ตลอด และเขาจะจำผิดคนได้ยังไง? อีกอย่างก่อนเกิดเรื่อง ชีเยี่ยนก็ไม่รู้ว่าซีเหมินน่งเย่ว์ดักซุ่มอยู่ในเหมืองใต้ดิน แล้วเขาจะวางแผนให้คนอื่นลงไปแทนได้ยังไง? เพราะอย่างนั้นซีเหมินน่งเย่ว์จึงสรุปได้ว่า…คนที่ตายในเหมืองหยกใต้ดินนั้นไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเป็นหูชีเยี่ยนแน่…”
“แต่เขายังมีชีวิตอยู่ นี่เป็นเรื่องจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้!” ซีเหมินจินเหลียนโคลงศีรษะพูด “หนูไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้แล้ว แม้เขาจะไม่อยากบอกว่าหลายปีมานี้เขามีชีวิตรอดมาได้อย่างไร แต่หนูก็รู้สึกได้ว่าหลายปีมานี้เขาไม่เคยได้สมใจหวัง ไม่เคยทำเพื่อลูกและผู้หญิงที่ตัวเองรัก ไม่เคยทำให้พ่อได้มีความสุข ที่เขามีชีวิตอยู่บางทีก็แค่รอกลับไปตายที่บ้านเกิดเท่านั้น หนูไม่มีทางไปพม่าแล้วค่ะ เรื่องหินปิดฟ้า…ต่อจากนี้หนูคงไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว เว้นเสียแต่…”
ลุงงูแอบฟังอยู่เงียบๆ ได้ยินเช่นนั้นจึงถาม “เว้นเสียแต่อะไร?”
“เว้นเสียแต่…เขาจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยอีกครั้ง!” ซีเหมินจินเหลียนเงยหน้าขึ้นมองลุงงู พูดขึ้นอย่างจริงจัง “ถ้าเป็นแบบนั้นจริง แม้จะต้องพลิกพม่าทั้งฟ้าหนูก็จะไปตามหาหินปิดฟ้าให้เจอ”
ลุงงูพยักหน้า “ลุงก็ไม่อยากบังคับหนู แผนที่เก่าแก่ในตอนนั้นถูกแบ่งเป็นสอง ได้ยินว่าสถานที่ในแผนที่ก็บันทึกตำแหน่งของหินปิดฟ้าไว้ ตัวอักษรด้านหลังลุงบันทึกเกี่ยวกับเรื่องราวของหินปิดฟ้า ลุงไม่รู้เรื่องพวกอักษรเหนี่ยวจ้วนหรอก แต่สวี่อี้หรานจะพอรู้บ้าง จากที่เขาพยายามแปลได้ผลออกมาก็คือ…หินปิดฟ้าในตัวมันเองมีความข้องเกี่ยวกับสรีระร่างกาย พรุ่งนี้เขาจะกลับมาที่เซี่ยงไฮ้ ถึงเวลานั้นพวกเราค่อยนัดมาพูดคุยก็แล้วกัน”
ซีเหมินจินเหลียนอยากปฏิเสธ แต่คิดถึงสภาพหูชีเยี่ยนที่ไม่ปกติจึงพยักหน้าตอบรับ “โอเคค่ะ” ตอนนี้สิ่งที่เธอสามารถทำได้ก็คือพยายามค้นหาข้อมูลในตอนนั้นให้มากที่สุด บางทีแค่หนทางนี้ก็อาจพอเข้าใจได้ว่าทำไมหูชีเยี่ยนถึงมีชีวิตรอด ทำไมเขาถึงไม่อยากให้ใครไปพม่าตามหาหินปิดฟ้า?
“จินเหลียน ลุงงูมีเรื่องหนึ่งที่ไม่ได้พูดมาตลอด” ลุงงูขมวดคิ้ว “ลุงว่าเขาเองก็คงไม่เคยพูดเช่นกัน”
“คะ?” ซีเหินจินเหลียนถามอย่างไม่เข้าใจ “พวกคุณมีอะไรปิดบังหนูเหรอคะ”
“แผนที่ชำรุดแผ่นนั้นพวกเราขโมยมันมาจากมือของหูหวัง ลายเส้นที่อยู่บนแผนที่แตกขาดไม่ชัดเจน เหมือนเป็นรอยขูดขีดเขียนของเด็กเสียมากกว่า” ลุงงูขมวดคิ้วพูด “พูดตามตรง นั่นดูไม่ออกว่าเป็นแผนที่ แม้ว่าจะมีชื่อสถานที่เขียนกำกับไว้ แต่ก็ไม่รู้จัก หรือยุคสมัยผ่านไปนานชื่อสถานที่เลยเปลี่ยนใหม่หมด แต่ลุงกับชีเยี่ยนบังเอิญเจอที่นั่นประจวบเหมาะพอดี…”
“ที่นั่นก็คือเหมืองหยกเหรอคะ?” ซีเหมินจินเหลียนส่งเสียงตกใจ
ลุงงูพยักหน้าพูด “ก็คือที่นั่นล่ะ สถานที่ที่ยูนนานและพม่าบรรจบกัน ตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบันก็คือสถานที่รกร้างไม่มีใครดูแล การคมนาคมไม่สะดวก บวกสามเหลี่ยมทองคำอยู่ใกล้กับด้านซ้าย ยิ่งยุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบ ขโมยขโจรอาละวาดกันเจ้าละหวั่น”
“พูดแบบนี้ ตอนนั้นพวกท่านไปเพื่อตามหาหินปิดฟ้าเหรอคะ?” ซีเหมินจินเหลียนถาม
“ใช่” ลุงงูพยักหน้า “ตอนนั้นบังเอิญเจอหูหวังโดยไม่ได้ตั้งใจ รู้ว่าบนตัวเขาเก็บสะสมของมีค่าแบบนั้น พวกเราทั้งคู่เลยมีเจตนาไม่ดีขึ้นมา แย่งขโมยแผนที่ของเขา…”
ซีเหมินจินเหลียนเข้าใจว่าทำไมหูหวังถึงไม่อยากเจอหูชีเยี่ยนแล้ว!
“เริ่มแรกลุงไม่รู้ตัวตนของหูหวัง และไม่รู้ว่าเขามีความสัมพันธ์กับชีเยี่ยน น่าจะหลังเกิดเรื่องชีเยี่ยนขึ้นถึงรู้ล่ะมั้ง?”
ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้าพูด “เขาเคยบอกว่า หลังจากนั้นเขาเคยไปขอโทษถึงหน้าประตู แต่หูหวังก็รีบไล่เขาออกไป…ปมนี้เกรงว่าจะแก้ไม่ออกแล้ว”
“หลังจากที่เขาเกิดเรื่องขึ้น ลุงรีบไปที่นั่น แต่ทุกอย่างก็สายไปหมดแล้ว เหมืองหยกทั้งหมดหายไปตรงหน้า ไหนจะแผ่นดินไหวระดับเล็กอีกหลายครั้ง สถานที่นั้นห่างไกลจากความเจริญ ลุงพักอยู่แถวนั้น หลังจากผ่านไปสามเดือน ตอนดึกมีฝนตกกระหน่ำรุนแรง ลุงเจอกับหูหวังเข้า…เขานั่งอยู่ท่ามกลางสายฝนที่ซัดกระหน่ำ ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน ตอนนั้นเหมือนเขาแก่ขึ้นไปกว่าเดิมทันตา ผมโพลนขาวไปทั่ว ลุงกลัวว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับเขา พยายามใช้แรงอยู่พอสมควรถึงได้ลากเขาไปพักกับลุงที่นั่น” ลุงงูถอนหายใจพูด
“จากนั้นล่ะคะ” ซีเหมินจินเหลียนด่วนถาม
“ตอนนั้นลุงไม่รู้ว่าเขาคือหูหวัง และไม่รู้ว่าเขามีความข้องเกี่ยวกับหูชีเยี่ยน แต่เขาวันๆ ไม่ยอมพูดจา ได้แต่ไปมาที่ซากปรักหักพังของเหมืองหยกด้วยสติเลื่อนลอยถึงสามปี จากนั้นลุงอยากไปจากที่นั่น คิดว่าหูชีเยี่ยนคงตายไปแล้ว เลยนำแผนที่คืนให้เขา เขาถึงบอกว่าชีเยี่ยนเป็นลูกของเขา…” ลุงงูพูดต่อ
ความจริงลุงงูก็พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยไปหน่อย ตอนนั้นที่เขาเห็นหูหวัง เขาราวกับคนบ้าคลั่ง พยายามใช้มือขุดดินโคลนบนพื้นดิน ทั้งสิบนิ้วเต็มไปด้วยเลือดสดไหลอาบ…
ลุงงูทุ่มเทแรงและเวลานานอยู่นานถึงลากตัวหูหวังมาพักที่กระต๊อบของตัวเอง ไม่นานหูหวังป่วยหนัก หลังจากหายดีแล้วเขาก็เปลี่ยนเป็นคนหมดอาลัยตายอยาก ชอบนั่งเหม่อลอยไปทางซากเหมืองหยกที่พังทลายนั่นทั้งวัน
ซีเหมินจินเหลียนได้ยินแล้วถอนหายใจไม่หยุด แม้ว่าหูหวังกับหูชีเยี่ยนจะเจอกันครั้งแรกแต่มันก็ดูเหมือนละครฉากหนึ่ง ทำให้ทั้งสองกลายเป็นศัตรูมองหน้ากันไม่ติด แต่สำหรับหูหวังเมื่อได้ทราบข่าวว่าหูชีเยี่ยนตาย เกรงว่าคงเสียใจเหมือนคุณย่าของเธอแน่ แม่ฆ่าตัวตายหลังจากทราบข่าวร้าย ส่วนคุณย่าก็ตรอมใจตายตามกันไปในที่สุด
“จินเหลียน เขาเป็นพ่อของหนูไม่ผิดแน่ แต่เขาไม่ใช่สือโทวคนนั้นที่ลุงเคยรู้จักอีกแล้ว!” ลุงงูพูด “หนูพักอยู่กับเขาต้องระวังหน่อย ไม่มีใครรู้ว่าเขาอาจจะทำเรื่องแปลกๆ อะไรออกมาก็ได้”
ในใจของซีเหมินจินเหลียนยังคงนิ่งเฉย ไม่สนว่าเขาจะเปลี่ยนไปอย่างไร สุดท้ายเขาก็ยังเป็นพ่อของเธอ พ่อที่รักและเอ็นดูเธอ ในระหว่างที่พูดคุยกันอยู่นั้นก็พลันได้ยินที่ปากประตูมีเสียงฝีเท้าเดินเข้ามา ไม่นานหูชีเยี่ยนเดินออกมาพร้อมสบถด่า “ปีศาจงู แกรีบออกไปให้พ้นๆ หน้าฉันสักที อย่าสอนเด็กเสียๆ หายๆ…ที่นี่ไม่ต้อนรับแก! จินเหลียนลูกกลับเข้าไปข้างใน ต่อไปห้ามเจอเขาอีกเด็ดขาด”
ซีเหมินจินเหลียนมองลุงงูเป็นเชิงขอโทษ ส่วนลุงงูยิ้มพรายให้ซีเหมินจินเหลียน ทางกลับกันหูชีเยี่ยนแค่นเสียงใส่ สาวเท้าแล้วเดินเข้าไป!
[1] หิน ในภาษาจีนเรียกว่าสือโทว หรือก็คือชื่อเล่นของหูชีเยี่ยน