ความลับแห่งจินเหลียน - ตอนพิเศษ 5 หยกสีม่วงมรกต
หูชีเยี่ยนเอามือจับ หยกดิบก้อนนี้เป็นสีเทาขาว ทรายมีความละเอียดมาก ลวดลายกินพื้นที่ไปเกือบครึ่งของเปลือกนอก นี่ยังไม่นับลวดลายที่คาดอยู่ตรงกลาง ซึ่งบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าหยกดิบนี้ซ่อนความลึกลับงดงามเอาไว้ และเป็นไปได้ที่จะเป็นหยกระดับสูง
เขาถือไฟฉายส่อง ถึงขั้นที่เขาสามารถมองเห็นแสงประกายสีเขียวจากจุดรวมของแสงรางๆ
การพนันหินดูที่แหล่งกำเนิดหิน แต่เขาไม่มีความรู้เกี่ยวกับแหล่งกำเนิดหยกดิบของพม่าเลยสักนิด อย่างอื่นที่เหลือถือว่าแปลกใหม่มากสำหรับเขา นี่คือความรู้นอกตำราที่เขาเพิ่มพูนมาได้ในช่วงนี้ เอามาหลอกตายังพอได้
สุดท้ายเขากดมือขวาลงไปเต็มแรง ฉากอันแปลกประหลาดนี้เกิดขึ้นในสายตาของเขาเท่านั้น เปลือกนอกสีเทาขาวของหยกดิบ ค่อยๆ เลือนหายไปจากตรงหน้าเขา หลังจากหนึ่งเซนติเมตร ส่องแสงสีเขียวมรกต เท่าที่เขารู้จักหยก ผลึกละเอียดอ่อนและให้ความชุ่มชื้น น้ำงาม โปร่งแสงอย่างมาก เป็นประเภทแก้วได้อย่างแน่นอน
สำหรับสี เป็นสีราวกับใบอ่อนหลังเกิดฝนตกในยามฤดูใบไม้ผลิ เป็นสีเขียวสดคลาสสิก สดใสและงามสง่า
แต่เพียงหนึ่งวินาทีเท่านั้น หูชีเยี่ยนไม่เพียงแค่อึ้ง สีเขียวชั้นบางๆ นั่นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ภายในเป็นหินสีขาวกระจ่างน่าเวทนาเกินกว่าที่จะทนดูได้
“น่าเสียดาย” หูชีเยี่ยนแอบพูดในใจ เขากำลังจะถอดใจ แต่ในขณะนั้นเอง แสงสีเขียวอันชวนหวั่นไหว ขวางกั้นอยู่ตรงหน้าเขา
ขยายเข้าไปอีกประมาณห้าเซนติเมตร ภาพภายในและภายนอกนั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิง สีเขียวเป็นประกายที่หายไปแล้ว ปรากฏตรงหน้าเขาอีกครั้ง ความเขียวขจีนั่นราวกับภูเขาในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่สดใสและทอดยาวไปเป็นแถบกว้าง เขาคาดการณ์คร่าวๆ เห็นว่าความกว้างอยู่ที่ประมาณยี่สิบเซนติเมตร ความยาวประมาณสามสิบเซนติเมตร ที่แปลกไปกว่านั้นคือ ตรงขอบของแถบสีเขียวขจีนั่น มีแสงสีม่วงหนาประมาณนิ้วโป้ง ประณีตสมบูรณ์แบบ
“หยกสีม่วงมรกต” หูชีเยี่ยนพึมพำในใจ ตาเฒ่านี้โชคดีมาก
เปลือกหยกที่ไม่ว่าเครื่องมือใดก็ไม่สามารถมองทะลุได้ กลับไม่สามารถรอดพ้นสายตาของเขาไปได้เลยสักนิด
หลังจากนั้นหูชีเยี่ยนเก็บไฟฉายและแว่นขยายอย่างไม่ทิ้งร่องรอย ถอยหลังไปหลายก้าว เพื่อเว้นที่ แน่นอนว่าผู้อาวุโสเจี่ยได้ซื้อหยกดิบนี่ไปแล้ว ย่อมไม่หวังให้ใครแนะนำอะไร ยิ่งไปกว่านั้น การพนันหยกนั้นมีกฎ ดูได้แต่พูดไม่ได้
ไม่ว่าคุณจะเห็นด้วยหรือไม่ ตอนที่คนอื่นซื้อหรือผ่าหยก ก็ห้ามพูดออกมา มิฉะนั้นจะถูกวงการนี้คว่ำบาตร
ผู้อาวุโสเจี่ยเห็นว่าไม่มีคนมาดูแล้ว ก็ขนเครื่องขัดไฟฟ้ามาท่ามกลางความช่วยเหลือของเจ้าของร้าน และเริ่มขัดหิน ขั้นตอนนี้มีชื่อเรียกว่า เปิดช่องหน้าต่าง
โดยทั่วไปแล้ว ล้วนขัดถูเพื่อเปิดช่องหน้าต่างจากตำแหน่งพื้นผิวที่ดีที่สุด ถ้าปรากฏเป็นสีเขียว มูลค่าของหยกดิบนั่น ก็จะพุ่งสูงขึ้นทันที
ผู้อาวุโสโชคดีมากจริงๆ ตำแหน่งที่ถูก็เหมาะเจาะ เพียงครู่เดียวเท่านั้น ก็ถูกเขาขัดถูออกจนขนาดเท่าฝ่ามือแล้ว ผู้ช่วยของเขาที่อยู่ข้างๆ ช่วยเขาสาดน้ำเปล่าเข้ามานิดเดียว ก็เห็นสีเขียวขจีเปล่งประกายเป็นแถบ
“เขียวขจีดั่งแก้ว” เด็กหนุ่มคนนั้นร้องนำขึ้นอย่างควบคุมไม่อยู่
“ตาเฒ่านี่โชคดีมาก” ซีเหมินเวิ่นเสว่ยิ้มพูดเสียงต่ำ “เป็นสีเขียวจริงๆ งั้นหรือ?”
“รอดูเถอะ” หูชีเยี่ยนยิ้ม ในใจมีความรู้สึกไร้สาระและแปลกประหลาด
ผู้ช่วยคนนั้นตะโกนขึ้นมาเช่นนี้ ทุกคนก็ล้อมกันเข้าไปดู ถึงขั้นที่แม้แต่ซีเหมินเวิ่นเสว่ที่ต่อต้านการพนันหินของหูชีเยี่ยนมาโดยตลอด ยังอดเข้าไปดูความครื้นเครงไม่ได้
“เว้ย นายไม่ไปดูหน่อยเหรอ?” ”ซีเหมินเวิ่นเสว่ยิ้มพูด
“ของของคนอื่น ดูไปแล้วจะมีประโยชน์อะไร?” หูชีเยี่ยนยิ้มพูด
ซีเหมินเวิ่นเสว่ได้ยินเขาพูดเช่นนี้ก็เพียงยิ้ม หูชีเยี่ยนจ้องรูขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือที่ผู้อาวุโสเจี่ยเปิดออก ผู้อาวุโสเจี่ยคนนี้ถือว่าตาถึง ตำแหน่งที่เขาขัดถู เป็นแถบที่ใกล้กับเปลือกสีเขียว ที่ตรงนั้นมีสีเขียวแถบใหญ่ แต่กลับเป็นเพียงแค่ชั้นบางๆ ที่ไม่ได้ลึกเข้าไปถึงด้านในของตัวหิน ถ้าถูอีกไม่กี่ที เหล็กต้องถูสีเขียวนั่นออกหมดแน่
ฝูงชนส่งเสียงดังกันอย่างวุ่นวาย มีคนเริ่มถามผู้อาวุโสเจี่ยว่ายินยอมขายต่อหรือไม่ ถึงขั้นที่เสนอราคามาถึงยี่สิบล้านแล้ว แต่ผู้อาวุโสเจี่ยบอกว่าต้องการถูออกทั้งหมด ทุกคนจึงพูดอะไรไม่ได้
ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลงแล้ว แต่ผู้ชมไม่เพียงไม่น้อยลง แต่กลับเพิ่มขึ้น
เนื่องจากหยกดิบก้อนนั้นใหญ่โตพอ และผู้อาวุโสเจี่ยก็มีความรอบคอบ ไม่คิดจะผ่าออก จึงให้เพื่อนเก่าคนหนึ่ง ช่วยเขาขัดถูหินด้วยกัน
คนคนนั้นเป็นคนรูปร่างอ้วนท้วน ยกเครื่องขัดไฟฟ้า ไปเริ่มถูกจากอีกฝั่ง…แต่ตำแหน่งที่ถูกลับเป็นหินสีขาวลาย หลายคนไม่เห็นด้วยอย่างมาก
ทว่าหากแม้จะเป็นเช่นนี้ ฝั่งที่ผู้อาวุโสเจี่ยขัด กลับปรากฏเป็นสีเขียวแถบใหญ่ ทั้งยังเป็นที่ชื่นชมของทุกคนอย่างมาก ถึงอย่างไรก็ไม่มีใครหวังว่า หยกก้อนนี้จะเป็นสีเขียวทั้งหมด มิฉะนั้นมูลค่านั้นคงไม่อาจประเมิน
หูชีเยี่ยนหูไว ได้ยินเสียงกระซิบกระซาบของสองคนที่อยู่ข้างๆ คร่าวๆ ก็คือ ผู้อาวุโสเจี่ยเตรียมจะผ่าหินที่เจียหยาง แล้วขายออกทันที เตรียมระดมเงิน เพื่อไปแข่งขันหยกที่พม่า
แข่งขันหยกงั้นเหรอ? คืออะไรอีกแล้ว? หูชีเยี่ยนขยับเข้าไปใกล้ด้วยความแปลกใจเต็มประดา หลังจากสืบมาคร่าวๆ แล้วก็รู้ว่า ที่แท้ก็คือเป็นการประมูลหยกปีละครั้งของพม่า หยกดิบชั้นดีมากมายจะถูกแสดงในการประมูลหยก เขาได้ยินแล้วหวั่นไหว แต่คิดๆ แล้ว ก็รู้สึกละอาย การแลกเปลี่ยนที่แม้แต่บริษัทจิวเวลรี่ยังรับมือไม่ไหว แล้วนับประสาอะไรกับเขา?
และอีกด้าน ก็เป็นอย่างที่หูชีเยี่ยนเห็นในตอนแรก ผู้อาวุโสเจี่ยขัดถูหยกดิบไปได้ไม่เท่าไหร่ สีเขียวขจีอันเป็นประกายนั่นก็หายไปแล้ว สิ่งที่เข้ามาแทนที่ คือหินสีขาวลาย และสีเขียวนั่นมีขนาดเพียงจานใบหน้าเท่านั้น หากแม้จะเป็นเช่นนี้ ทุกคนก็ชื่นชมอย่างมาก ขอเพียงแค่สีเขียวขจีนี้สามารถลึกเข้าไปได้อีกไม่กี่เซนติเมตร และหยกประเภทแก้วนี้ ยังเป็นแบบเก่า มูลค่าก็ไม่น้อยเช่นกัน แม้กำไรอาจจะไม่มาก แต่ก็คุ้มทุน
ผู้อาวุโสเจี่ยหยุดขัด หยิบบุหรี่มวนหนึ่งออกมาจุด แล้วเริ่มสูบอย่างไม่เร่งไม่รีบ จ้องหยกดิบก้อนใหญ่นั่น ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
แต่ตอนนี้กลับไม่มีใครเสนอราคา ยิ่งไม่มีใครพูดอะไร และไม่เร่งเขา ถึงอย่างไร ของราคาหลายล้านเช่นนี้ ใครๆ ก็ต้องระวัง
“คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นสีเขียวแค่แถบเดียว แต่ก็ไม่เลว” ซีเหมินเวิ่นเสว่พูดเสียงต่ำ
“เหอะเหอะ…” หูชีเยี่ยนหัวเราะเบาๆ สีเขียวแค่นี้ ก็เพียงพอแล้ว
“มาๆๆ พ่อหนุ่ม มาช่วยฉันที” ผู้อาวุโสเจี่ยสูบบุหรี่มวนหนึ่งหมด ก็เริ่มเรียกผู้ช่วยสองคนของเจ้าของร้านมา ใช้รถยกขนาดเล็กเข็นหยกดิบก้อนใหญ่นั่น ขึ้นไปที่เครื่องผ่าหิน หลังจากนั้นเขาวาดเส้น แล้วผ่าลงไปจากตำแหน่งที่เป็นสีเขียว
ทุกคนเห็นเช่นนี้ต่างอึ้งไป ผู้อาวุโสเจี่ยคนนี้ช่างใจกล้าเหลือเกิน ถ้าเป็นคนทั่วไปเจอสถานการณ์เช่นนี้ คงผ่าเพียงนิดเดียว เพื่อดูว่าเขียวลึกลงไปเท่าไหร่ แต่เขากลับผ่าลงไปตรงๆ ตามขอบบริเวณที่เป็นสีเขียว ผ่าลงไปเช่นนี้เท่ากับแบ่งหยกดิบก้อนใหญ่นี้ออกมาหนึ่งในสาม ย่อมสามารถมองเห็นว่าเป็นสีเขียวหรือไม่ในทันที
ด้วยเสียงของใบมีดที่หมุนปั่นลงไป ทุกคนต่างอดหัวใจแขวนลอยไม่ได้ ระยะเวลาสั้นๆ เพียงหนึ่งนาทีกว่าๆ เท่านั้น กลับรู้สึกเหมือนผ่านไปเนิ่นนาน
ในที่สุดใบมีดของเครื่องผ่าหินก็หยุดลง ภายใต้ความช่วยเหลือของผู้ช่วยทั้งสอง รอยผ่าทั้งสองด้านของหยกดิบก็ปรากฏต่อหน้าทุกคนอย่างสมบูรณ์แบบ
เพียงแต่ท้องฟ้ามืดสลัวลง เจ้าของร้านเปิดไฟให้ตั้งนานแล้ว ท่ามกลางแสงไฟบนรอยผ่าของหินเป็นสีขาวทั้งแถป ดูไม่สวยเลยจริงๆ
ทุกคนต่างไม่ได้พูดอะไร และสีหน้าของผู้อาวุโสเจี่ยเองก็ดูแย่อย่างมาก จากพื้นผิวรอยผ่าสามารถเห็นได้ว่า มีความเป็นไปได้สูงมากที่หยกดิบก้อนนี้จะมีเพียงบริเวณขอบข้างเท่านั้นที่เป็นสีเขียว
คิดๆ แล้วเขาก็ตัดสินใจผ่าอีกครั้ง เมื่อลงมือไปแล้วก็ต้องทำให้ถึงที่สุด ให้ยอมแพ้ง่ายๆ แบบนี้ เขาไม่จำยอมจริงๆ
ทิ้งก้อนที่เป็นหนึ่งในสามของก้อนใหญ่นั่นเอาไว้ก่อน แล้วให้ผู้ช่วยทั้งสองรีบเอาส่วนที่ใหญ่กว่าของหยกดิบนั่น ซึ่งเป็นสองในสามของทั้งหมด ยึดติดกับเครื่องผ่าหิน กวาดเส้นจากตรงกลางแล้วผ่าลงไป
ตอนนี้สีหน้าของหูชีเยี่ยนแปลกประหลาดอย่างที่สุด ในใจมีความคิดอันเหลือเชื่อ
“สือโท่ว เขาผ่าหินกัน นายจะตื่นเต้นขนาดนี้ทำไม?” ซีเหมินเวิ่นเสว่หัวเราะเสียงต่ำพูด
และข้างๆ ชายวัยกลางคนคนหนึ่งถลึงตาจ้องซีเหมินเวิ่นเสว่แวบหนึ่ง ซีเหมินเวิ่นเสว่ตะลึง หันไปมองจึงพบว่าคนที่ตื่นเต้นไม่ใช่แค่หูชีเยี่ยนคนเดียวแน่
แต่ไม่ว่าจะตื่นเต้นแค่ไหน หยกดิบก้อนใหญ่นี้ก็ถูกผ่าออกเป็นสองก้อนอีกครั้ง พลิกพื้นผิวรอยผ่าขึ้นมาวางอยู่บนพื้น หลังจากทุกคนเห็นแล้ว ต่างเผยสีหน้าตกใจ และสีหน้าของผู้อาวุโสเจี่ยก็ยิ่งดูแย่กว่าเดิม
ผลการผ่าหินครั้งที่สอง ยังคงเป็นก้อนหินสีขาว ไม่เห็นสีเขียวเลยแม้แต่เสี้ยวเดียว ผู้อาวุโสเจี่ยยังคงไม่จำยอม ผ่าลงไปอีกหลายครั้ง แต่ผลลัพธ์ก็ยังคงเหมือนเดิม ก้อนหินก็คือก้อนหินอยู่วันยังค่ำ ไม่มีเนื้อหยกเลยแม้แต่น้อย
“ผู้อาวุโสเจี่ย จะผ่าอีกหรือไม่?” เจ้าของร้านเดินเข้ามา ยื่นบุหรี่มวนหนึ่งให้พร้อมรอยยิ้ม ผู้อาวุโสเจี่ยรับมาสูบเข้าไปเต็มปอดคำหนึ่ง พลันส่ายหน้ารัวพูด “ซวย ซวยจริงๆ เถ้าแก่ ที่ร้านรับคืนหินหยกดิบมั้ย”
“รับ หนึ่งหมื่นหยวน” เจ้าของร้านยิ้มตาหยี หัวเราะอย่างร่าเริง
ทุกคนได้ยินเช่นนี้ ต่างอดถอนหายใจไม่ได้ หยกดิบที่เพิ่งซื้อในราคาสิบเอ็ดล้าน หลังจากผ่าไปไม่กี่ครั้ง ก็เหลือมูลค่าเพียงหนึ่งหมื่นหยวนแล้วหรือ
“เหลือเชื่อเกินไปแล้ว” ซีเหมินเวิ่นเสว่พูดเสียงต่ำ
“พนันหินก็แบบนี้แหละ” ข้างๆ คนวัยกลางคนคนหนึ่งพูดแทรกขึ้น ก่อนจะถอนหายใจพูด “ถ้าโชคดีก็รวยในคืนเดียว แต่ถ้าโชคร้าย มั่งคั่งแค่ไหนก็ไม่เพียงพอสำหรับก้อนหินก้อนเดียว”
“หนึ่งหมื่นหยวนน้อยเกินไปแล้ว” ผู้อาวุโสเจี่ยพ่นควันบุหรี่แล้วพูด
เจ้าของร้านเพียงยิ้มตาหยี ก่อนจะส่ายหน้า หูชีเยี่ยนคิดๆ แล้วสุดท้ายก็กัดฟัน เดินไปอยู่ตรงหน้าผู้อาวุโสเจี่ยแล้วพูดพร้อมรอยยิ้ม “ผู้อาวุโส ผมเพิ่งเข้ามาอยู่ในวงการนี้ รู้ไม่มากและไม่มีเงิน ผมมีแค่สามหมื่น ถ้าคุณยอม ขายให้ผมเถอะ”