ความลับแห่งจินเหลียน - ตอนที่ 107 เปลี่ยนหินกลายเป็นทอง (2)
ซีเหมินจินเหลียนรู้สึกว่าคนคนนี้น่าจะมีความสามารถในการพูดจากลับกลอกเปลี่ยนเรื่องขาวให้กลายเป็นดำ มากกว่าการเดิมพันหินเป็นแน่
“คุณผู้หญิง คุณทำไม่ถูกแล้ว…” ท่ามกลางผู้คนก็มีคนหนึ่งที่พูดขึ้นแก้ต่างให้ชายวัยกลางคนนั้น“ใครๆ ก็รู้ว่าคุณถูเป็นราชาหยกหลากสีมาจากอวิ๋นหนาน คุณจะมาตามดูแล้วแย่งไปไม่ได้นะครับ ไม่เช่นนั้นการเดิมพันนี้ก็ยุ่งวุ่นวายหมดน่ะสิ?”
ท่ามกลางผู้คน มีแต่เสียงคนพูดซุบซิบนินทา ซีเหมินจินเหลียนได้แต่ขมวดคิ้วไม่คลาย คุณถูคนนี้เป็นราชาหยกหลากสีจากอวิ๋นหนาน? ถึงจะพูดแบบนี้เขาก็น่าจะเป็นคนที่เข้าใจในกฎการเดิมพันมากที่สุดสิ แล้วทำไมถึงทำเรื่องแบบนี้ได้? แต่ไม่ว่าจะเป็นใคร วันนี้เธอก็ต้องซื้อหยกก้อนนี้ให้ได้ แม้จะไม่ได้มองอย่างละเอียดถี่ถ้วน แต่ซีเหมินจินเหลียนก็แน่ใจได้ว่าหินหยกก้อนนี้ต้องเป็นหยกสีเขียวจักรพรรดิแน่
แม้ว่าเธอจะมีหินหยกสีเขียวสดชนิดเนื้อแก้วมากมาย แต่หินหยกสีเขียวจักรพรรดินี้ เธอไม่เคยเจอมาก่อน ยิ่งไปกว่านั้นเดิมทีก็แค่ราชาหลากสีนั่นพูดจาโวยวายไร้สาระ แต่ทำไมภายหลังกลับกลายเป็นพูดว่าเธอตามทิศทางลม?
“คุณผู้หญิง หินหยกก้อนนี้ผมซื้อแล้ว คุณจะดันทุรังไปปก็ไม่มีประโยชน์ ราคาที่นี่กำหนดไว้อย่างชัดเจน ผมก็ไม่กลัวว่าคุณจะตั้งราคาเพื่อแย่งซื้อตัดหน้าหรอกนะ” คุณถูพูดต่อด้วยน้ำเสียงมีการบีบบังคับ
ซีเหมินจินเหลียนส่ายหน้าแล้วพูด “คุณถูใช่ไหม คงเป็นราชาหยกหลากสีจากอวิ๋นหนานอะไรนั่นสินะ?”
“นี่เป็นฉายาที่เพื่อนผมตั้งให้เพื่อยกย่อง!”คุณถูพูด
“ตอนนี้คุณจะบอกว่า ฉันเห็นว่าคุณเป็นราชาหยกหลากสีก็เลยจะซื้อหยกตามคุณถูกไหม?” ซีเหมินจินเหลียนพูดอย่างเรียบเย็น ตามทิศทางลม? ล้อเล่นอะไรกัน เธอนี่นะตามเขา?
“หรือว่าไม่ใช่?” คุณถูใบหน้ายิ้มชื่น ท่ามกลางผู้คนเหล่านี้คนมากมายต่างรู้จักเขา ถ้าเด็กตรงหน้าไม่ได้เอาเปรียบด้วยการตามทิศทางลม เขาก็ไม่มีทางเชื่อ
“ทุกท่านก็คิดเช่นนี้เหรอ?” ซีเหมินจินเหลียนขมวดคิ้ว ในคำพูดมีท่าทางที่มั่นใจและพลังแห่งความเย็นยะเยือก
“หนู ช่างมันเถอะ พวกเราก็เข้าใจหนูนะ แต่ถ้าหากหนูทำลายกฎแล้วซื้อหินหยกตามคนอื่นจนวุ่นวายแบบนี้ มันก็ไม่ถูก เพราะฉันก็ยังต้องใช้สายตาในการทำมาหากินในสายนี้เหมือนกัน” ท่ามกลางฝูงชนมีผู้สูงอายุท่านหนึ่งพูดปลอบประโลมเพื่อเกลี้ยกล่อมซีเหมินจินเหลียน
ปล่อยไปเหรอ? ให้เธอปล่อยหยกสีเขียวจักรพรรดินี่นะ? แถมถ้าหากเธอปล่อยหินหยกก้อนนี้ไป อย่างนั้นก็เท่ากับว่าเธอเป็นคนตามทิศทางลมอย่างที่คนอื่นเขาว่าจริงๆ น่ะสิ?
“ฉันไม่ได้ตามทิศทางลมนะคะ!” ซีเหมินจินเหลียนพูด “ฉันไม่เคยรู้จักคุณด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นหินหยกก้อนนี้ ฉันมีสิทธิ์ที่จะครอบครองมัน”
“นี่คุณมีเหตุผลหน่อยสิ” คุณถูพูดอย่างดุดัน
“คุณถูถ้าหากคุณยังไม่ยอมรามือ ฉันก็มีวิธีแก้ปัญหาอย่างยุติธรรม” จู่ๆ ซีเหมินจินเหลียนก็พูดขึ้นมา “ไม่ทราบว่าคุณถูจะเชื่อมั่นในฝีมือการเดิมพันหินของตัวเองมากพอหรือเปล่า?” คนคนนี้เรียกตัวเองว่าเป็นราชาหยกหลากสี แต่ซีเหมินจินเหลียนรู้สึกว่าท่าทางลักษณะแบบนี้มันไม่ใช่
หินหยกก้อนนี้ เขาไม่เคยแม้แต่จะได้ดูมัน แล้วทำไมถึงพูดว่าเธอไม่ทำตามกฎ ซื้อตามทิศทางลม?
เมื่อถูกคนท้าทายต่อหน้าคนอื่นเช่นนี้ ใบหน้าของคุณถูก็ยิ่งเครียดขมึง โกรธจนจมูกเกือบจะบิดเบี้ยวหมดแล้ว เขามีฉายาว่าราชาหยกหลากสี ความสามารถในการเดิมพันหินของตัวเองล้วนเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ หินหยกก้อนนั้นที่ซีเหมินจินเหลียนดู เขาก็เหลือบมองไปแวบหนึ่ง ตามความรู้สึกบอกว่าน่าจะไม่เลวเลย เพราะอย่างนั้นเลยรีบเร่งซีเหมินจินเหลียน ในสายตาของเขาซีเหมินจินเหลียนน่าจะเป็นลูกสาวของบ้านคนมีเงินที่ออกมาเพื่อเปิดหูเปิดตาดูเครื่องประดับก็เท่านั้น
มีผู้เชี่ยวชาญที่ไหนกัน เมื่อดูหินหยกแล้วแม้แต่แว่นขยาย ไฟฉายพกพาก็ไม่ใช้ ดูก็รู้แล้วว่าเป็นคนนอกวงการ!
เดิมทีเขาคิดว่าอยากจะลองสัมผัสสักหน่อยแล้วค่อยตัดสินใจ คิดไม่ถึงว่าซีเหมินจินเหลียนจะไม่ยอม เขาเลยตัดสินใจที่จะซื้อเก็บไว้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน เพราะอย่างไรราคาของหินหยกก้อนนี้ก็ระบุไว้ชัดเจนอยู่แล้ว มันก็แค่หินหยกก้อนหนึ่งเท่านั้น
แต่คิดไม่ถึงว่าเมื่อผู้หญิงคนนี้กลับไม่ยอมท่าเดียว นิสัยใจคอถึงได้แกร่งกล้าขนาดนี้
“คุณจะให้ทำอะไร” คุณถูถามกลับ
ในตอนนั้นเอง คนที่คอยมุงดูความสนุกสนานก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ซีเหมินจินเหลียนใช้โอกาสนี้สางผมยาวมาไว้ตรงที่หน้าอกแล้วพูดว่า “พวกเรามาแข่งเดิมพันเปลี่ยนหินให้เป็นทองกัน ใครชนะก็มีสิทธิ์ที่จะซื้อหินหยกก้อนนี้ เป็นอย่างไร?”
“จะใช้กติกาการเล่นอย่างไร” ในขณะที่คุณถูยังไม่ทันได้อ้าปาก ก็มีคนถามขึ้นมาก่อน
“ที่นี่นอกจากจะหินหยกก้อนนี้แล้ว ยังมีหินหยกอีกมากมาย พวกเราสองคนใช้เวลายี่สิบนาที เพื่อเลือกหินหยกในนั้นมาสักก้อน จากนั้นก็เปิดดูต่อหน้าผู้คน ถ้าหากหินหยกของใครมีลักษณะดีกว่า คนคนนั้นก็ชนะไป และก็จะมีสิทธิซื้อหินหยกก้อนนี้กลับไป” ซีเหมินจินเหลียนยิ้มเชิดมุมปากขึ้น
เห็นได้ชัดว่าคุณถูมีท่าทีลังเลใจ ผู้ชมที่อยู่ในงานต่างมึนงงเช่นกัน ความมั่นใจในตัวของซีเหมินจินเหลียนไม่ใช่คำขี้โม้โอ้อวดเกินจริงแน่ นอกจากนี้ท่ามกลางหินหยกเกรดเหลือใช้พวกนี้ถ้าอยากจะหาหินหยกลักษณะดีสักหน่อยออกมา มันก็ง่ายดายขนาดนั้นเชียวหรือ? แม้ว่าจะเป็นราชาเดิมพันหยกอย่างผู้อาวุโสเจียก็เกรงว่าจะไม่กล้าพูดพล่ามมั่นใจตัวเองขนาดนี้
“ว่าอย่างไรคะ?” ซีเหมินจินเหลียนขมวดคิ้วถามกลับ “ถ้าคุณถูไม่กล้า อย่างนั้นคุณก็แค่ยอมรับมาตรงๆ ว่าคุณแพ้ แล้วก็ยกหินหยกก้อนนี้ให้ฉันก็ถือว่าจบ”
“ไร้สาระ!” คุณถูยิ้มอย่างแสยะ “ฉันน่ะหรือไม่กล้า? คนอย่างฉันนี่นะจะกลัวเด็กน้อยอย่างเธอ?” ในใจของเขาพยายามอดกลั้นไฟโกรธที่ลุกโชนขึ้น คำพูดที่ออกมายิ่งไม่ได้เกรงใจกันแล้ว
“จินเหลียน…จินเหลียน” จ่านมู่ฮวาฝ่าฝูงชนในงานเข้ามา รีบเข้ามาหาเธออย่างกระวนกระวาย “เกิดอะไรขึ้น?”
“ไม่มีอะไรค่ะ แค่เจอเรื่องยุ่งยากนิดหน่อย” ซีเหมินจินเหลียนพูด “คุณมาได้ทันเวลาพอดี ฉันกำลังจะหาคุณอยู่เหมือนกัน” พูดพลางเธอก็กระซิบอธิบาย ในตอนนั้นก็กำชับจ่านมู่ฮวาว่าอย่าให้คนแตะต้องหินหยกก้อนนี้ ไม่เช่นนั้นเท่ากับความทุ่มเทของเธอคงเสียเปล่า
“คุณวางใจได้” จ่านมู่ฮวาพูด “ถ้ายังไม่รู้ผลแพ้ชนะระหว่างคุณกับคุณถู ไม่ว่าใครก็ไม่อาจแตะต้องหยกก้อนนี้แม้แต่ปลายนิ้ว ถ้าใครกล้าแตะผมจะตัดนิ้วเขาทิ้ง ผมก็ไม่สนใจที่จะต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ใครอยู่แล้ว” ประโยคนี้เขาพูดออกมาอย่างเสียงดัง ทำให้ผู้คนในงานได้ยินอย่างชัดเจน ก่อนทุกอย่างจะเงียบสงบลง ผู้ชายที่ใบหน้ารูปงามเช่นนี้ แต่กลับมีพลังนักฆ่าซ่อนไว้ในตัว
พวกจ่านป๋ายกับฉินเฮ่าต่างก็พากันไปเล่นการเดิมพันหินใหญ่ที่อยู่ด้านหลัง แทบไม่ได้รู้เรื่องที่เกิดขึ้นด้านหน้าเลย แต่เขาเป็นเพราะว่าทนไม่ได้กับคุณนายซูเลยรีบออกมาหาซีเหมินจินเหลียน แต่คิดไม่ถึงว่ามาเจอเรื่องนี้เข้า
ซีเหมินจินเหลียนเมื่อเห็นจ่านมู่ฮวาก็ถอนหายใจผ่อนคลายลง ไม่เช่นนั้นถึงเธอจะเสนอให้เล่นเกมเปลี่ยนหินให้เป็นทอง แต่ถ้าหากระหว่างนี้มีใครเล่นตุกติก เธอก็ถือว่าเป็นฝ่ายแพ้ แต่เมื่อมีจ่านมู่ฮวาที่เป็นเจ้าถิ่นอยู่ในงาน มันทำให้เธอวางใจลงได้ไม่น้อย
“คุณถู เตรียมตัวพร้อมแล้วยัง? คนที่อยู่ในงานล้วนเป็นพยานของพวกเรา! คุณไม่ต้องกังวลว่าฉันจะขี้โกงด้วยการตามลมคุณหรอกค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนพูดขึ้นอีกครั้ง ถ้าหากไม่ใช่ว่าหินก้อนนั้นเป็นสีเขียวจักรพรรดิที่หาพบได้ยาก ถ้าไม่ใช่คุณถูเริ่มที่จะบีบบังคับคนก่อน เธอก็ไม่อยากจะใช้วิธีโอ้อวดแบบนี้