ความลับแห่งจินเหลียน - ตอนที่ 110 อุดมไปด้วยสามสีอันล้ำค่า
ใบมีดหยุดหมุน เจียหยวนฮวาค่อยๆ ยกหินหยกที่เจียระไนขึ้นมาอย่างเบามือ ไม่เพียงแต่ถอนหายใจ เขารู้ว่าทุกครั้งซีเหมินจินเหลียนล้วนแต่สร้างความประหลาดใจอย่างคาดไม่ถึงอยู่เสมอ แต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่า ภายในงานเปลี่ยนหินให้เป็นทองเธอจะสามารถหาของมีมูลค่าแบบนี้ออกมาได้
พยานผู้สูงอายุยืนอยู่ข้างเจียหยวนฮวา มองสถานการณ์อย่างละเอียดเป็นครั้งที่สอง แม้ว่าพื้นผิวจะมีชั้นของหินสีขาวเบาบางคอยปกคลุมสีอยู่ แต่สีสันที่สดใสนั่นกลับปิดเอาไว้ไม่มิด
“สีเหลืองน้ำมันไก่ นี่คือสีเหลืองน้ำมันไก่?” พยานผู้สูงอายุพูดขึ้นมาอย่างตกใจ
“อะไรนะ?” ผู้คนที่ได้ยินก็พลอยสับสน ไม่นานก็รีบแย่งกันมาดู ทำให้ซีเหมินจินเหลียน จ่านมู่ฮวาและฉินเฮ่าเบียดเสียดเข้าด้วยกัน
จ่านมู่ฮวาไม่เคยได้ยินว่ามีสีนี้อยู่ด้วย สีเหลืองน้ำมันไก่หรือ? สีนี้ก็สวยเหรอ? ไม่นานก็ถามซีเหมินจินเหลียนไปอย่างสงสัย “อะไรคือสีเหลืองน้ำมันไก่ครับ”
“คุณเคยฆ่าไก่ไหม” ซีเหมินจินเหลียนยกยิ้มมุมปาก เธอกล้ายืนยันว่าจ่านมู่ฮวาแค่เคยกินเนื้อไก่ แต่ไม่เคยต้องมาเห็นคนที่คอยวิ่งตามจับไก่มาก่อน
“เขาเคยแต่จ้างผู้หญิง คงไม่เคยฆ่าไก่มาก่อนแน่!” ฉินเฮ่าพูดเย้นหยันขึ้น
ซีเหมินจินเหลียนได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะออกมา นี่เรื่องอะไรกัน? จ่านมู่ฮวาไม่เพียงแต่ไม่พอใจ เขาตอบโต้กลับด้วยฝีปากร้ายลึก “คนแบบผมยังต้องจ้างด้วยเหรอ? ถ้าเป็นคุณยังจะน่าคิดเสียกว่า! ว่าแต่คุณเถอะ คุณก็เคยฆ่าไก่เหรอไง?”
“ผม…” ฉินเฮ่านิ่งอึ้งไป เขาเองก็ไม่เคยฆ่าไก่มาก่อนเช่นกัน
ซีเหมินจินเหลียนรีบพูดอธิบายว่า “ได้ยินมาว่าสีเหลืองน้ำมันไก่ที่ว่ากันนั้น มาจากตอนที่เราฆ่าไก่ ตรงกลางของส่วนท้องไก่จะมีสีน้ำมันไก่ออกมา”
“สีมันสวยไหม” ฉินเฮ่าขี้เกียจต่อปากต่อคำกับจ่านมู่ฮวา ถามขึ้นอย่างสงสัย สีตรงส่วนท้องข้างในของไก่จะสามารถมีสีได้เหรอ?
“ได้ยินมาว่าก็ไม่เลวนะคะ” ซีเหมินจินเหลียนพูด
ผู้คนที่มุงดูล้อมรอบมาอยู่สักพักถึงค่อยๆ แยกย้ายกันไป เจียหยวนฮวาเปลี่ยนเป็นเครื่องเจียระไนมือ ระมัดระวังในการเจียระไนชั้นเบาบางของหินสีขาวแล้วพูด “จินเหลียน เป็นเนื้อแก้วโบราณ เนื้อผิวนุ่มลื่น สีชัดเจน เป็นสีเหลืองน้ำมันไก่ จากที่ผมดูแล้วมูลค่าของหยกก้อนนี้ชนะหยกสีเขียวเนื้อน้ำแข็งของคุณถูอย่างขาดรอย”
ถึงจะเป็นสีเขียวเหมือนกัน เนื้อแก้วย่อมชนะเนื้อน้ำแข็งอย่างขาดลอย ยิ่งไปกว่านั้นหินหยกก้อนนี้ของซีเหมินจินเหลียนยังเป็นสีเหลืองน้ำมันไก่ที่พบได้ยาก
“เดี๋ยวก่อน!” จู่ๆ คุณถูก็พูดขึ้น
“ทำไมหรือครับ” เจียหยวนฮวาถามอย่างใจเย็น “หรือว่าคุณถูไม่ยอมรับ? คุณลองดูให้ดีสิ นี่เป็นสีเหลืองน้ำมันไก่เนื้อแก้วดั้งเดิมไม่มีผิดเพี้ยน!”
“ไม่ผิด นี่เป็นสีเหลืองน้ำมันไก่เนื้อแก้ว” คุณถูพูด “แต่เมื่อครู่ผมกับคุณผู้หญิงท่านนี้ตกลงกันไว้ว่า หยกของใครมีมูลค่ามากกว่า คนนั้นจะเป็นผู้ชนะ หยกก้อนนี้เปิดมาแค่ด้านเดียว ใครจะไปรู้ว่าอีกด้านจะเป็นจุดด่างมีตำหนิหรือเปล่า ถ้าหากเป็นหยกเปลือกหนาก็ทำอะไรได้ยาก แล้วนี่ยังจะมีมูลค่าเหรอ?”
พูดถึงประโยคสุดท้ายคุณเหยียดริมฝีปาก ความจริงแล้วเขาที่พูดอย่างนี้ก็ถือว่าไม่มีเกียรติจริงๆ แต่ตอนนี้ยังไม่รู้หินหยกก้อนนี้มีสีเหลืองลึกตื้นอยู่เท่าไหร่ ขอแค่ลึกไปกว่าหินข้างในหนึ่งเซนติเมตร คืนนี้เขาก็แพ้ไปจนไม่มีอะไรค้ำหัว แพ้จนบ้านสั่นคลอนแล้ว
เพราะฉะนั้นถึงนี่จะเป็นแค่ความหวังอันริบหรี่ แต่เขาก็ปล่อยมันไปไม่ได้
เมื่อประโยคเมื่อสักครู่ที่เขาพูดจบไป ท่ามกลางผู้คนก็ไม่รู้ว่าใครพูดขึ้นมาว่า “ราชาหยกหลากสีอะไรนั่น ตอนนั้นก็ได้รับฉายาปลอมๆ มาหรือเปล่า คุณต้องยอมรับสิว่าคุณแพ้แล้ว ทำไมถึงพูดคำพูดที่ไร้ยางอายแบบนั้นออกมา”
คนข้างๆ อีกคนก็พูดแทรกขึ้นมาอย่างเยือกเย็นและแดกดันว่า “คงไม่ใช่ว่าเขาไม่มีปัญญาชดใช้หรอกนะ ถ้าไม่มีปัญญาก็อย่ามาพูดจามั่วซั่วสิ!”
“ใช่! บอกว่าคุณหนูคนนั้นตามทิศทางลมตัวเองแล้วแย่งซื้อหินหยกที่เขาสนใจไป ไม่แน่ว่าก็เป็นเขาเองนั่นแหละที่เป็นคนแย่งเธอซื้อ!” ไม่รู้ว่าใครพูดขึ้นมา
ใบหน้าของคุณถูเปลี่ยนเป็นสีเขียว ไม่นานก็เริ่มแดงก่ำขึ้น แต่เขาจะแพ้ได้อย่างไร? ถ้าแค่สิทธิ์ในการซื้อหินหยกก้อนหนึ่งก็ว่าไปเถอะ แต่เมื่อครู่เขาและจ่านมู่ฮวาต่างวางเดิมพันลงที่ทรัพย์สินของบ้านของแต่ละคน ครั้งนี้ถ้าเขาแพ้ไป ทรัพย์สมบัติหลายร้อยล้านคงต้องหายมลายจนหมดแน่
“เริ่มตัดจากทางนี้ค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนมองไปพื้นผิวของหินหยกก้อนนั้นแล้วคิดคำนวณ “ลองให้คุณถูดูสิว่าสีเหลืองนี่เป็นเหลืองเปลือกหนาหรือเปล่า”
“ตกลง” เจียหยวนฮวาพยักหน้า ก่อนเริ่มทำการตั้งตำแหน่งหินหยกให้คงที่อีกครั้ง และยังคงวาดเส้นทำสัญลักษณ์เพื่อลงมีดต่อไป มีดครั้งนี้ตัดไปลึกพอสมควร ดูแล้วน่าจะสองเซนติเมตร เมื่อเนื้อผิวถูกเปิดออก ผู้คนก็อดใจไม่ไหวที่จะผลักดันกันเข้ามาเพื่อที่จะมาชื่นชม
“คุณจินเหลียน…” เจียหยวนฮวาดูหยกที่เปิดออกมาแล้ว ไม่นานก็ตกตะลึงไม่หยุด เขาเชื่อมั่นในความสามารถในการเดิมพันหินของเธอ และรู้ว่าเธอไม่ใช่คนดูพลาด แต่ลักษณะของหินหยกก้อนนี้ห่างไกลจากความคาดหมายของเขามาก มีดเมื่อสักครู่เขาตัดตามแนวตั้งลงมา ตอนนี้หินหยกก้อนนี้แยกออกเป็นสองด้าน ด้านหนึ่งเป็นสีเหลืองวาวใส อีกด้านมีสามสี นอกจากสีเหลืองน้ำมันไก่แล้ว ยังมีสีแดงคอยคาดผ่านตัดกันอย่างกว้างขวาง จากนั้นสีแดงเบาบางนั่นเปลี่ยนเป็นสีม่วงดอกไลแอค
หยกทั้งก่อนล้วนแต่ความโปร่งใสพุ่งกระจาย ความอิ่มน้ำแวววาวในตัวดี แถมสามสีนี้ยังเป็นหยกฮกลกซิ่วชั้นดี หยกฮกลกซิ่วในบ้านของซีเหมินจินเหลียนเป็นสีแดงเขียวม่วง สีสันสว่างสดใสมาก แต่คนส่วนมากชอบสีเหลืองแดงม่วงเสียมากกว่า เพราะมันเป็นสีสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ร่ำรวย
ครั้งนี้ ไม่ต้องรอให้ซีเหมินจินเหลียนกำกับ เจียหยวนฮวาก็จัดวางตำแหน่งหินหยกให้มั่นคงอีกครั้งแล้วเริ่มเจียระไนออกมา
ผู้คนในงานราวกับฝันไป คิดไม่ถึงเลยว่างานเปลี่ยนหินให้เป็นทองจะมีหยกชั้นดีโผล่ออกมาแบบนี้ มันช่างน่าตื่นตาตกใจจนพูดไม่ออก
ไม่นานเจียหยวนฮวาก็เจียระไนหินหยกจนเสร็จทั้งหมด ดูตามลักษณะคุณภาพแล้วชนะหินหยกของคุณถูไปหลายเท่าตัว สีสันงดงาม ความอิ่มน้ำและสียอดเยี่ยม…
คุณถูแพ้อย่างราบคาบ แม้แต่ประโยคสักประโยคก็ไม่พูดออกมา นี่เป็นไปได้อย่างไร? ที่นี่เป็นงานเปลี่ยนหินให้กลายเป็นทอง เป็นหินหยกเหลือใช้จากบริษัทอัญมณีต่างๆ ทำไมถึงได้มีหยกชั้นดีขนาดนี้โผล่อยู่ที่นี่ได้…
เธอโกงแน่ ต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ เธอต้องโกงแน่ๆ!
ไม่นานคุณถูก็เปล่งเสียงดังที่สุดเท่าที่เคยมีมาว่า “ขี้โกง คุณขี้โกง ผมจะฟ้อง!”
เจียหยวนฮวาส่งหยกชั้นดีก้อนนั้นไปให้ซีเหมินจินเหลียนแล้วพูดว่า “คุณถูพูดอย่างนี้หมายความว่าอย่างไรกัน ขี้โกง? โกงยังไง คุณพูดออกมาต่อหน้าผู้คนสิ”
“ผมไม่เชื่อ นี่มันเป็นไปไม่ได้!” คุณถูโกรธจนขาดสติ ดวงตาแดงกล่ำจดจ้องมองไปที่ซีเหมินจินเหลียนอย่างดุดัน
ซีเหมินจินเหลียนตกใจเป็นอย่างมาก เธอรีบถอยหลังออกไปสองสามก้าว จ่านมู่ฮวายื่นมือไปพยุงเธอพร้อมพูดปลอบใจ “ไม่เป็นไร นักเดิมพันมักเป็นแบบนี้”
ผู้คนที่คอยล้อมรอบอยู่ ต่างเดือดดาลขึ้นมาแล้วพูดเสียงดังขึ้นว่า “ถ้ายอมรับความพ่ายแพ้ไม่ได้ ก็อย่ามาเดิมพันเลย”
“ตัวเองไม่มีความสามารถแท้ๆ แล้วยังกล้าบอกอีกเหรอว่าคนอื่นแย่งซื้อตามตัวเอง?” มีคนพูดมาอีก