ความลับแห่งจินเหลียน - ตอนที่ 113 สีสันค่อยๆ ทยอยปรากฏขึ้น
ซีเหมินจินเหลียนดูหินหยกไปหลายก้อน เห็นว่าต่างธรรมดาไม่มีอะไร อย่างดีที่สุดก็คือชนิดน้ำแข็งสีเขียวอ่อน เพียงแต่ตอนที่ดูหินหยกหมายเลขเก้านั้น เพราะว่าจ่านป๋ายเคยพูดไว้ เธอจึงจับตาเฝ้ามองเป็นพิเศษ หินหมายเลขเก้าน้ำหนักประมาณยี่สิบกิโลกรัม ผิวหินสีน้ำตาล เหมือนจะมีสีน้ำเงินแต้มติดอยู่เล็กน้อย แต่ถ้าหากไม่ได้ดูอย่างละเอียด ย่อมจะดูไม่ออก
จุดหยกเบาบางปกติ ไม่เห็นเส้นลายหยก ซีเหมินจินเหลียนคิดถึงสิ่งที่จ่านป๋ายพรรณนาบอกถึงเจ้าของหินหยกหมายเลขเก้าคนนั้น เจ้าหมอนั่นถึงแม้จะดูหินไม่เป็น แต่เขาดูคนได้อย่างเฉียบขาด หินจากคนแปลกประหลาด ก็คงจะไม่ใช่หินธรรมดาสินะ? ในใจคิดไปและใช้มือขวาแตะเข้าไป
ผิวหินสีน้ำตาลแกมน้ำเงินค่อยๆ เข้าไปในม่านตาก่อนจะจางหายไป ปรากฏให้เห็นสีน้ำเงินใสเกลี้ยง ราวกับท้องฟ้าหลังฝนตกผ่านสายตาของเธอ
เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ หินจากคนไม่ธรรมดา มักจะไม่เปกติ ในใจของซีเหมินจินเหลียนชมเชย เนื้อแก้วชนิดโบราณเป็นของดีอย่างไม่ต้องสงสัย ความลื่นนุ่มใสบริสุทธิ์ บ่งบอกได้ว่าเป็นหยกชั้นดี
นอกจากนี้ได้ยินมาว่าหยกสีน้ำเงินที่ไต้หวันและญี่ปุ่นเป็นที่นิยมมาก สามารถขายได้ราสูงทีเดียว แม้ว่าเธอจะมีหยกสีน้ำเงินเหมือนกัน แต่เมื่อเวลานี้เห็นเข้าก็อดอิจฉาขึ้นมาไม่ได้
ถ้าหากคืนนี้ไม่มีหินหยกที่แปลกประหลาด เจ้าของหมายเลขเก้าอาจจะมีโอกาสชนะก็ได้ ซีเหมินจินเหลียนคาดเดาอยู่ในใจ
หินหยกหมายเลขสิบและหมายเลขสิบเอ็ดต่างก็ธรรมดา ส่วนหินหยกหมายเลขสิบสองนั้น แม้ว่าจะเป็นชนิดเนื้อแก้วสีเขียวเบาบาง แต่ก็ทำให้ซีเหมินจินเหลียนครุ่นคิดไม่หยุด การเดิมพันหินใหญ่นี้เก็บซ่อนคนมีความสามารถไว้มากมายจริงๆ
จากนั้นก็ดูเรื่อยๆ ไปจนถึงหินหยกหมายเลขสิบเจ็ด นิ้วมือของซีเหมินจินเหลียนเพิ่งจะได้สัมผัสลงไป แต่ก็มีความรู้สึกประหลาดใจอย่างบอกไม่ถูก หินหยกก้อนนี้ไม่เหมือนใครจริงๆ ดูจากชื่อแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่ามาจากบริษัทหมิงฮุยจิวเวอรี่ของคุณนายซูคนนั้น?
หินหยกขนาดไม่ใหญ่ ขนาดประมาณสิบห้ากิโลกรัมโดยประมาณ ผิวทรายสีหมอกดำได้ตามมาตรฐาน น่าจะมาจากโรงงานหมาเหมิง ลักษณะผิวทรายละเอียดสม่ำเสมอกัน ถ้าหากเผยสีเขียว น่าจะเป็นสีเขียวขั้นสูงสุด อีกทั้งความอิ่มน้ำน่าจะไม่เลว ซีเหมินจินเหลียนคิดในใจไปพลาง ส่วนมือก็สัมผัสลงไป
เป็นอย่างที่คิดไว้ ผิวสีดำหมอกทรายค่อยๆ หายไปในม่านตา เผยให้เห็นสีเขียวแก่ ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าจะเป็นสีเขียวจักรพรรดิ?
ซีเหมินจินเหลียนสูดลมหายใจเข้าไปอย่างเยือกเย็น คนพวกนี้บ้าเหลือเกิน หินหยกแบบนี้ทำไมถึงมาโผล่ที่งานเดิมพันหินครั้งใหญ่นี้ได้? สีเขียวจักรพรรดิที่จัดอยู่ในสีเขียวชั้นดีแต่สีเขียวจักรพรรดิถ้าหากไปเจอกับหยกสีน้ำเงินที่สว่างสดใส เกรงว่ากรรมการคืนนี้คงจะปวดหัวหนักเลย
ซีเหมินจินเหลียนเบามือลง และมองลงลึกต่อไป หมายเลขสิบแปดและสิบเก้าดูธรรมดา ตอนนี้ถึงแม้หินหยกพวกนี้จะมีลักษณะไม่เลว แต่หากมีหยกสีน้ำเงินและสีเขียวจักรพรรดิอยู่ ถึงอยากจะชนะก็ไม่มีทางเป็นไปได้
แต่เมื่อเธอเห็นหยกหมายเลขยี่สอบ ซีเหมินจินเหลียนก็ต้องสูดหายใจอีกครั้ง ผิวสีน้ำตาลแกมเทามีหมอกสีแดงครอบคลุมอยู่ เป็นหยกสีแดงอย่างไม่ต้องสงสัย ยื่นมือไปสัมผัสทรายมีความละเอียดอ่อน ความสม่ำเสมอของผิวหินมีความสมดุลกัน…
ปีศาจเกิดขึ้นแล้ว? ในใจของซีเหมินจินเหลียนแอบคิดว่า เมื่อก่อนถ้าหากอยากเห็นหินหยกแบบนี้ ช่างยากนัก แต่วันนี้ในงานเดิมพันครั้งใหญ่ กลับมีแต่เรื่องแปลกๆ ปรากฏขึ้นไม่หยุดหย่อนเลย
“หินหยกก้อนนี้ มาจากคนญี่ปุ่นนั่น จินเหลียนคุณว่าเป็นอย่างไรบ้าง” จ่านป๋ายพูดอธิบายขึ้น คิดดูแล้วหินหยกของผู้ร่วมงานพวกนี้ เขาพอจะเข้าใจภาพรวมออกแล้ว
“ไม่เลวเลย” ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้าพูด ในขณะที่พูดนั้นมือขวาของเธอก็สัมผัสลงไป เป็นอย่างที่เธอคาดหวังไว้ว่าเป็นหยกสีไฟอย่างไม่ต้องสงสัย แม้ว่าสีจะไม่ได้สว่างมาก แต่ก็หาพบเจอได้ยาก เพียงแต่ถ้าเทียบกับหยกสีน้ำเงินก้อนนั้น รวมถึงสีเขียวจักรพรรดิก็ต่างชั้นกันเหลือเกิน
“หมายเลขยี่สิบเอ็ด เป็นของเถ้าแก่โจวครับ” จ่านป๋ายพูดขึ้น “หมายเลขยี่สิบสองเป็นของเจียหยวนฮวา ส่วนหมายเลขยี่สิบสามเป็นของคุณนายผู้หญิงที่อยู่ด้วยกันกับหลินเสวียเหวิน…”
“ถือว่าคุณไปสืบหาข้อมูลมาอย่างละเอียดมาก” ซีเหมินจินเหลียนพูด
“ผมรู้ว่าคุณจะมาดู เพราะอย่างนั้นเลยไปสืบข้อมูลมาให้ก่อน” จ่านป๋ายยิ้ม
“ไม่ใช่ว่าเถ้าแก่โจวอยู่กับหลินเสวียเหวินหรอกเหรอ? ทำไมถึงแยกมาเดิมพันล่ะ” ซีเหมินจินเหลียนขมวดคิ้วถามขึ้น
“น่าจะอยากเล่นละมั้งครับ” จ่านป๋ายพูด “ของพวกนี้ ก่อนที่จะตัดออกมาใครจะไปรู้รายละเอียดลึกซึ้งล่ะ”
“ก็จริง” ซีเหมินจินเหลียนพูดพร้อมยื่นมือสัมผัสไปที่หินหยกหมายเลขยี่สิบเอ็ด ทันใดนั้นก็เดินไปดูหินหยกหมายเลขยี่สิบสองที่ผู้เข้าร่วมแข่งขันอย่างเจียหยวนฮวาเป็นคนส่งเข้ามา เมื่อมือสัมผัสเข้ากับหมายเลขยี่สิบสอง เธอก็ขมวดคิ้วขึ้นอย่างไม่รู้ตัว…
เจียหยวนฮวาบ้าไปแล้ว เขาต้องบ้าไปแล้ว งานเดิมพันหินใหญ่ครั้งนี้ เขาจะเล่นแบบนี้น่ะหรือ?
เมื่อเธอสัมผัสไปที่หินหยกหมายเลขยี่สิบสาม ซีเหมินจินเหลียนก็ขมวดคิ้วขึ้นอย่างลุ่มลึก ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้?
เมื่อดูหินหยกไปหมดแล้วรอบหนึ่ง ซีเหมินจินเหลียนก็หามุมนั่งลง ไม่พูดจาและสติเหม่อลอย
“จินเหลียน…จินเหลียนครับ…” จ่านป๋ายเรียกเธอสองครั้ง ซีเหมินจินเหลียนถึงได้สติขึ้นมาแล้วถามว่า “มีอะไรเหรอ”
“อยากจะวางเดิมพันสักหน่อยไหม” จ่านป๋ายถามขึ้น
“วางที่หมายเลขยี่สิบสองค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนพูดขึ้น “อุดหนุนผู้อาวุโสเจียสักหน่อย”
“จะวางเท่าไหร่ดีครับ” จ่านป๋ายถามขึ้น
“คุณไปวางที่หมายเลขยี่สิบสองสักห้าสิบล้าน ฉันจะไปวางที่หมายเลขยี่สิบสามอีกห้าสิบล้าน” ซีเหมินจินเหลียนพูดและยืนขึ้นมา
“ครับ?” จ่านป๋ายฟังแล้วตกตะลึง ทำไมถึงต้องแยกกันเดิมพัน หรือว่าวันนี้เธอไม่มั่นใจ? ตั้งแต่รู้จักกันมาความสามารถในการเดิมพันหินของซีเหมินจินเหลียนเขาก็เลื่อมใสมาตลอด ถ้าหากแม้แต่เธอยังไม่มั่นใจ แล้วการเดิมพันหินใหญ่คืนนี้คงจะต้องตระการตาแน่
ส่วนในใจของซีเหมินจินเหลียนคิดย้ำไปมาเปรียบเทียบกัน หินหยกหมายเลขยี่สิบสองและยี่สิบสามอันไหนดีกว่ากันแน่? เธอตัดสินใจไม่ถูกว่ากรรมการวันนี้จะตัดสินผลออกมาอย่างไร ฉายาราชาแห่งนักเดิมพันหยกอย่างเจียหยวนฮวา แม้เมื่อวานจะแพ้ไปรอบหนึ่งคงไม่ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงหรอก เมื่อวานหินหยกที่เขาพามาเข้าร่วมเป็นถึงหยกสีม่วงดอกไลแลคสีสด เขาแพ้เพราะโชคไม่ดีเท่านั้น
ส่วนคุณนายผู้หญิงที่อยู่ด้วยกันกับหลินเสวียเหวินนั้น เกรงว่าคงไม่ใช่ธรรมดาๆ! คณะกรรมการถ้าลำเอียงไปสักฝั่ง เกรงว่าคงไม่ได้จบอย่างง่ายๆ แน่
เมื่อเห็นจ่านป๋ายมีท่าทางมึนงง ซีเหมินจินเหลียนก็พูดขึ้น “นี่เรียกว่าขยายตาข่ายจับปลา จะมาตายอยู่ที่เดียวกันไม่ได้”
“มีใครเปรียบเทียบเหมือนคุณบ้างเนี่ย?” จ่านป๋ายยิ้ม “ผมคิดว่าตัวเองจะเข้าใจในหินหยกอยู่พอสมควร แต่ผลคือมองผิดไป”
“ที่ไหนที่มีการเจียระไนหินเยอะ ก็สามารถดูออก แต่หินหมายเลขเก้าที่คุณชอบ ลักษณะไม่เลวจริงๆ เพียงแต่เมื่อเทียบกับหมายเลขยี่สิบสองและยี่สิบสามแล้วแย่กว่าหน่อย” ซีเหมินจินเหลียนยิ้ม ความจริง จ่านป๋ายไม่เคยดูหินหยกมาก่อน เขามองแต่คน เพราะว่าดูคนถึงทำให้ได้เปรียบเรื่องการวิเคราะห์หินหยก นี่ไม่รู้ว่าทฤษฎีอะไรกันแน่แล้ว