ความลับแห่งจินเหลียน - ตอนที่ 137 หาเรื่องใส่ตัว
บนศีรษะของเลี่ยวก่วงมีเหงื่อแตกพลั่ก จะทำอย่างไรอย่างนั้นหรือ? เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าต้องทำอย่างไร? ซีเหมินจินเหลียนควานหาโทรศัพท์ออกมาและถามว่า “โทรหาเพื่อนร่วมงานของคุณไหม พวกเขามีใครจับงูเป็นบ้าง”
“ไม่…มี…” เลี่ยวก่วงพูด ในขณะนั้นขาก็สั่นระริกๆ!
“คุณเป็นผู้บังคับบัญชาตำรวจอาชญากรรมของเมืองเซี่ยงไฮ้จริงๆ เหรอ?” ซีเหมินจินเหลียนถาม “ตำรวจอย่างพวกคุณก็ไม่ใช่ว่าจะกล้าหาญและมีฝีมือหรอกเหรอไง? ทำไมแม้แต่งูตัวเล็กๆ ก็ยังกลัวอีก?”
เลี่ยวก่วงเหลือบไปมองซีเหมินจินเหลียนแวบหนึ่ง งูตัวเล็กๆ อย่างนั้นหรือ? คุณก็ลองให้งูตัวเล็กๆ มาพันคอบ้างสิ? เขาอดปากพูดขึ้นไม่ได้ว่า “เวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับศัตรู พวกเราต้องกล้าที่จะเผชิญหน้าอยู่แล้ว อย่างน้อย…อย่างน้อยๆ ตายไปก็ยังได้ชื่อว่าต่อสู้มาอย่างบากบั่น…แต่…แต่ถ้าหากผมถูกงูตัวจ้อยนี่กัดตาย ตายไปคงไม่…รู้ว่า…เป็นเรื่องบ้าอะไร!”
“คุณก็กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ไม่ใช่เหรอไง?” ซีเหมินจินเหลียนเจตนาถาม
“ผม…” เลี่ยวก่วงเพิ่งพูดคำนี้ไป แต่ก็ค้นพบว่าหัวของงูตัวนี้เกือบจะเข้าไปในปากของเขาแล้ว เพราะฉะนั้นเขาเลยเงียบปากเสียสนิท หัวของงูเลยไปแนบอิงที่แก้มของเขา หลับตาลงราวกับสิ้นหวัง ให้ตายเถอะ! ถ้าแกจะกัดก็รีบกัดเถอะ อย่ามาทำให้ทุกข์ทรมานแบบนี้เลย ทำไมจู่ๆ เขาถึงรู้สึกปวดท้องน้อยขึ้นมาล่ะ ฉี่จะราดอย่างนั้นหรือ?
ไม่ใช่ว่าเขาถูกงูทำให้ตกใจจนอั้นฉี่ไม่ไหวจนราดใส่กางเกงหรอกนะ? แต่เขาก็ฝืนกลั้นไว้ไม่อยู่จริงๆ…
“ไม่ใช่ว่าคุณปฏิบัติหน้าที่อยู่เหรอไง?” ซีเหมินจินเหลียนถามขึ้น
“ผม…ไม่ได้…” เลี่ยวก่วงรู้สึกว่าสมองของเขาหยุดตอบสนองแล้ว งูตัวนี้รัดคอเขาแน่นขึ้นกว่าเดิม
“ขุดคุ้ยความลับส่วนตัวของฉัน?” ซีเหมินจินเหลียนถามขึ้นอีกครั้ง
“ผม…เพียงแค่สงสัย…สงสัยเท่านั้น…” เลี่ยวก่วงพูดตะกุกตะกัก พูดเสร็จก็อยากจะตบหน้าตัวเอง ในใจรู้สึกเสียใจ ทำไมเขาต้องบอกเรื่องนี้กับเธอด้วย? เขาเวียนหัวไปหมด! ความรู้สึกนี้ก็เหมือนถูกบีบบังคับ หัวของงูแนบอิงไปที่ใบหน้าเขาอีกครั้งด้วยความเยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง
“เบอร์ล่ะ ฉันจะโทรไปหาเพื่อนร่วมงานของคุณ!” ซีเหมินจินเหลียนพิสูจน์แล้วว่าเขาทำเพื่อตอบสนองความสงสัยของตนเอง และตอนที่มาขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัวของเธอก็ทำตัวถามตามสบาย
“…” เลี่ยวก่วงไม่มีคำพูดใดๆ เรียกให้เพื่อนมาหัวเราะเยาะเขาเนี่ยนะ? นอกจากนี้ถ้าเพื่อนเขามาก็ไม่อาจจะรับรองได้ว่าจะเอางูตัวนี้ออกจากคอเขาได้อย่างปลอดภัย
ส่วนซีเหมินจินเหลียนก็ไม่ได้คิดที่จะบอกให้นางพญางูขาวลงมาจากลำคอของเขา เธอกลับสนุกที่ได้เห็นผู้บังคับบัญชากองอาชญากรรมเหงื่อแตกพลั่กท่วมตัว ในระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังให้ความสนใจไปที่งูตัวนั้น ก็มีรถยนต์เฟอร์รารีคันหนึ่งขับเคลื่อนมาจอดที่คฤหาสน์ของจินเหลียนอย่างช้าๆ
ประตูรถเปิดออก จ่านมู่ฮวาลงมาจากรถและมองเขม่นไปที่เลี่ยวก่วง พร้อมกับถามซีเหมินจินเหลียนด้วยความแปลกใจ “จินเหลียน คนคนนี้เป็นใครกัน ทำไมถึงต้องต้อนรับเขาขนาดนี้ด้วย?” เพียงแวบแรกเขาก็เห็นว่าบนลำคอของเลี่ยวก่วงมีนางพญางูขาวเกี่ยวพันไว้อยู่ งูตัวนี้รับมือไม่ได้ง่ายๆ เขาไม่เคยลืมงูตัวนี้ที่เคยฟาดหางใส่เขา จนเกือบจะทำร้ายรูปโฉมของเขาเสียแล้ว
“ได้ยินเขาบอกกับฉันว่าเขาเป็นผู้บังคับบัญชาตำรวจอาชญากรรมของเมืองเซี่ยงไฮ้ แต่ฉันดูแล้วเขาก็เหมือนพวกหลอกลวงต้มตุ๋นเสียมากกว่า ไม่อย่างนั้นคุณก็ดูสิ ทำไมงูตัวเล็กๆ แค่นี้เขาถึงได้กลัวล่ะ?” ซีเหมินจินเหลียนพูด “ไม่ใช่ว่าตำรวจจะต้องกล้าหาญชาญชัยเหรอ หน้าใหญ่แต่ใจเล็กอย่างนี้น่ะเหรอ?”
สีหน้าของเลี่ยวก่วงดูอยากร้องแต่ไร้น้ำตา พระเจ้า ที่โบราณว่าไว้ก็ไม่ผิดเพี้ยน ความสงสัยทำร้ายชีวิตช้างให้ตายได้ เขาก็แค่สงสัยและทำร้ายตัวเองจนตาย ถ้ารู้มาก่อนว่าที่นี่มีงู อีกทั้งยังมารัดคอเขาอีก ตีเขาให้ตาย อย่างไรวันนี้เขาก็ไม่มีทางมาที่นี่แน่
เห็นซีเหมินจินเหลียนกับจ่านมู่ฮวาหยอดมุกล้อเรื่องเขา ในใจก็ก่นด่าไม่หยุด ชายโฉดหญิงชั่ว…รอให้ฉันเอางูลงจากคอให้ได้ก่อนเถอะ ฉันจะจัดการกับพวกแกทั้งคู่ อย่างน้อยๆ ก็ได้ไปกระทงนึงล่ะ คดีดูหมิ่นเจ้าพนักงาน…
แต่เขายังคิดไม่ทันจบ หางแหลมคมของงูตัวนั้นก็แหย่เข้าไปในรูจมูกของเขา เขารู้สึกว่าตัวเองได้ฉี่แตกใส่กางเกงอีกครั้งแล้ว
“จินเหลียน คนคนนี้ก็เป็นผู้บังคับบัญชาจริงเหรอ? ทำไมเขาถึงโดนนางพญางูขาวเล่นงานล่ะ” จ่านมู่ฮวาถามอย่างสงสัย ความจริงเขาอยากจะถามว่า คนคนนี้ทำไมถึงถูกคุณลงโทษ? เสียมากกว่า
“นางพญา…งูขาว…” เลี่ยวก่วงตกตะลึงในทันที ในที่สุดสมองก็มีปฏิกิริยาตอบสนอง หรือว่างูตัวนี้ไม่ใช่งูป่า แต่เป็นงูเลี้ยง?
“คุณไว้รอถามนางพญางูขาวก็ได้แล้ว ฉันจะไปรู้ได้ยังไงกัน?” ซีเหมินจินเหลียนพูดขึ้น เมื่อเห็นขาสองข้างที่สั่นไหวของเลี่ยวก่วง อีกทั้งตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่าเป็นงูเลี้ยง คงจะไม่ตื่นตูมตกใจกลัวเหมือนดั่งตอนแรก แต่กลัวว่าเขาจะทำร้ายนางพญางูขาวเลยรีบเรียกทักทาย
นางพญางูขาวได้ยินเสียงเรียกของซีเหมินจินเหลียน ลำตัวก็เคลื่อนไหวคลายเลี่ยวก่วงออก แต่หางก็ยังฟาดไปที่ลำคอของเขาอย่างหนักหน่วง ก่อนจะเลื้อยลงไป
“อ๊ะ?” เลี่ยวก่วงเห็นภาพที่เงาสีขาวฟาดไปที่ลำคอของตัวเองอย่างเ**้ยมโหด สมองสั่งการอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังคงหลบหลีกไม่ทันการ รอยเลือดไหลเป็นทางเนื่องจากลำคอมีแผลสดเปิดออก
เมื่อรอจนเขาได้สติคืนกลับมา นางพญางูขาวก็เลื้อยไปพันรัดที่ข้อมือของซีเหมินจินเหลียนแล้ว
“คุณทำร้ายเจ้าพนักงาน!” เลี่ยวก่วงหน้าเสีย ตะคอกใส่ซีเหมินจินเหลียน
“ฉันทำร้ายอะไรคุณเหรอ?” ซีเหมินจินเหลียนเบิกตากว้างอย่างใสซื่อ ถามขึ้นด้วยท่าทางราวไม่มีความผิด “ผู้ชายมาดแมนอย่างคุณ มีทั้งปืนติดตัว แล้วฉันจะไปทำร้ายคุณเนี่ยนะ? คุณพูดออกไปใครจะเชื่อ คุณจ่านคุณเชื่อหรือเปล่า?”
จ่านมู่ฮวาโบกมือบอกปัดพร้อมพูดว่า “คุณครับ จะกล่าวหาอะไรก็ควรหาหลักฐานมาให้ชัด ไม่อย่างนั้นพวกเราก็สงสัยในการเป็นตำรวจของคุณเหมือนกัน ถ้าหากไม่มีอะไรแล้วคุณจะมาก่อเรื่องวุ่นวายที่บ้านหญิงสาวโสดทำไม ผมสามารถแจ้งความข้อหาบุกรุกได้นะ ใช้อิทธิพลมาทำเรื่องไม่ดี!”
ซีเหมินจินเหลียนน่ากลัวมาก ส่วนเลี่ยวก่วงเหงื่อแตกพรั่งพรูออกมาอีกระรอบ คนคนนี้ดูดีกว่าดาราอยู่หลายเท่าตัว แต่ปากคอเราะรายเสียยิ่งกว่าความเผ็ดของงูตัวนั่นเสียอีก ตนเองไม่มีเหตุผลที่จะมาโผล่ที่นี่ อยากจะหาข้ออ้างบ้าๆ ก็ยังไม่มีเลย อีกอย่างถ้าฝ่ายตรงข้ามแจ้งความจริง…ถึงไม่ได้ต้องการจะตัดสินลงโทษ…แต่ในใจเขารู้ดีกว่าใคร เรื่องใหญ่แบบนี้เขาจัดการไม่ไหวแน่ ผู้ชายคนนี้ดูเผินๆ ก็รู้แล้วว่าต้องเป็นลูกคนมีเงินและมีอำนาจจากตระกูลใหญ่โต คนธรรมดาทั่วไปใครจะดูแลร่างกายผิวพรรณได้ดีขนาดนี้?
“งูตัวนี้…เป็นงูเลี้ยงจริงๆ เหรอ?” เลี่ยวก่วงลูบคลำไปที่ลำคอตัวเอง ความปวดแสบปวดร้อนเข้ามาคืบคลาน เบี่ยงหัวข้อถาม ได้ยินมาว่า คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่จะมีสิ่งที่ไม่เหมือนกับคนธรรมดาทั่วไป ในวันนี้คำร่ำลือไม่ผิดเพี้ยนจริงๆ ดูท่าทางภายนอกเด็กผู้หญิงคนนี้จะใสซื่อไม่มีพิษภัย แต่คิดไม่ถึงว่าเธอกลับเลี้ยงสัตว์ที่น่าหวาดผวาเช่นนี้?
“บางทีอาจจะไม่ใช่ก็ได้มั้งคะ?” ซีเหมินจินเหลียนส่ายหน้า “หัวหน้าเลี่ยวคะ ถ้าหากคุณไม่เป็นอะไรแล้ว อย่างนั้นก็เชิญค่ะ”
เมื่อสักครู่เลี่ยวก่วงเป็นคนยอมรับเองว่าเขามาหาเธอ เพื่อตอบสนองความสงสัยในใจ ดังนั้นเวลานี้ซีเหมินจินเหลียนก็เลยเริ่มส่งแขกอย่างไม่เกรงใจ
จะให้กลับไปทั้งอย่างนี้น่ะหรือ? เลี่ยวก่วงรู้สึกไม่ยินยอม เขาก็แค่สงสัย แต่กลับคิดไม่ถึงว่า…จะไม่ได้ถามอะไรทั้งนั้น แถมยังถูกทำร้ายอีก
“คุณซีเหมิน ผมอยากจะขอใช้ห้องน้ำของคุณสักหน่อยได้ไหม คำขอร้องนี่คงไม่เกินไปใช่ไหมครับ?” เลี่ยวก่วงส่งเสียงพูดดังฉับพลัน
ซีเหมินจินเหลียนหยุดฝีเท้าก่อนหันกลับไปมองเขา ตำรวจเลี่ยวนี่อยากจะทำอะไรกันแน่? จ่านมู่ฮวาเองก็ขมวดคิ้ว คดีปล้นอัญมณีและการตายของหวังหมิงเหยา ซีเหมินจินเหลียนก็อยู่เงียบๆ ทำไมเขาถึงมารบกวนเธออยู่นั่น ตำรวจอาชญากรรมปัญญาอ่อนเหรอ ที่สำคัญคดีก็ได้ถูกปิดลงไปแล้ว เขาจะตามมาก่อกวนทำไมอีก?
“เข้ามาเถอะค่ะ” หลังจากไตร่ตรอง ซีเหมินจินเหลียนก็พูดขึ้น
“ขอบคุณมากครับ!” เลี่ยวก่วงพูดพลางรีบเข้าไปข้างใน
“ห้องน้ำอยู่ทางนี้” จ่านมู่ฮวาชี้ไปที่ประตูห้องน้ำแล้วพูด “ใช้เสร็จก็รีบไปซะ!”
“ไม่ต้องให้คุณไล่ ผมก็จะรีบไปทันที” พูดจบ เลี่ยวก่วงรีบแล่นไปที่ห้องน้ำ เขาอดกลั้นไม่ไหวจริงๆ พระเจ้าช่วย ครั้งนี้เขาตกใจจนฉี่ราด เกือบที่จะรดใส่กางเกงหมดแล้ว ผู้บังคับบัญชาที่ยิ่งใหญ่กลับต้องมาถูกงูเลี้ยงตัวหนึ่งขู่ขวัญจนตกใจฉี่ราดใส่กางเกง ขายหน้าชะมัด!
ในขณะที่ล้างมือเขาก็ส่องกระจกไปด้วย ในใจของเลี่ยวก่วงยิ่งสงสัยมากขึ้น ถ้าไปทั้งอย่างนี้เขาคงไม่สบายใจแน่
“นี่ คุณเสร็จแล้วหรือยัง?” ข้างนอกมีเสียงของจ่านมู่ฮวาแทรกผ่านเข้ามา
เลี่ยวก่วงคิดไปมาจึงเปิดประตูและเดินออกมา สายตาหันไปเห็นซีเหมินจินเหลียนนั่งบนโซฟากำลังหยอกล้อเล่นกับงูตัวน้อยนั่น เลยถามเสียงเบาออกไปทันควันว่า “แฟนของคุณมีสไตล์ดีนิ สวยมากด้วย ว่าแต่ คุณก็ไม่กลัวเลยเหรอ…”
“กลัวอะไร?” จ่านมู่ฮวาถาม เขากลัวแค่จ่านมู่หรงจะแย่งซีเหมินจินเหลียนไป เรื่องอื่นเขาจะกลัวทำไม?
“วันไหนที่คุณจะมีอะไรกับเธอ งูตัวนั้น…” เลี่ยวก่วงทำไม้ทำมือพูดเปรียบเปรย “ก็จะจัดการคุณทันที ถ้าผมดูไม่ผิด มันน่าจะเป็นงูพิษใช่ไหม?”
จ่านมู่ฮวาพินิจพิเคราะห์ตัวเขาอยู่ครู่หนึ่งถึงพูดขึ้น “แล้วเกี่ยวอะไรกับคุณด้วย?”
เลี่ยวก่วงหมดคำพูด ที่แท้ก็เป็นคนแปลกจากคนทั่วไปจริงๆ คนแบบนี้ส่วนมากจะแปลก ยากที่จะทำความเข้าใจ
“หัวหน้าเลี่ยวใช่ไหม?” จ่านมู่ฮวาถามขึ้น “ผมหวังว่าเรื่องในวันนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก คดีการตายของหวังหมิงเหยาก็จบลงแล้ว ส่วนคุณซีเหมินก็เลิกกับเขาไปตั้งครึ่งปีแล้ว คุณจะรบกวนเธอต่อไปเพื่ออะไรกัน? อย่าเอาอนาคตมาทิ้งที่นี่เลย!”
ประโยคนี้พูดขึ้นมาอย่างจริงจัง เลี่ยวก่วงมองสำรวจเขาอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็คลับคล้ายคลับคลาว่าเหมือนจะจำหน้าได้ ไม่น่าล่ะถึงรู้ได้สึกคุ้นหน้า ที่แท้เขาก็คือคุณชายใหญ่แห่งตระกูลจ่าน ตระกูลที่มีชื่อเสียงเลื่องลือในเมืองเซี่ยงไฮ้ เป็นบุคคลที่ทำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ ส่วนตนที่เป็นแค่ผู้บังคับบัญชาต่ำต้อยเรี่ยดิน เขาคงไม่เก็บเอามาใส่ใจ
“คุณจ่าน ผมขอตัวลาก่อน แต่คดีนี้ผมต้องสืบหาต่อไปแน่!” พูดจบเลี่ยวก่วงเดินจ้ำอ้าวไปที่ปากประตู
“เดี๋ยวก่อน!” ตอนที่เขาเดินถึงปากประตู จู่ๆ ซีเหมินจินเหลียนส่งเสียงเรียกขึ้นอีกครั้ง
“หรือว่าคุณซีเหมินอยากจะให้ผมอยู่รับประทานอาหารด้วย?” เลี่ยวก่วงขมวดคิ้วถาม
ซีเหมินจินเหลียนเผยยิ้มออกมา ให้เขากินข้าวด้วยกัน เขาเห็นว่าเธอทำอาหารอร่อยหรือยังไง? เธอเปิดปากถามว่า “หัวหน้าเลี่ยวไม่ได้ต้องการให้ฉันร่วมมือในการให้ปากคำเรื่องคดีของหวังหมิงเหยาหรอกหรือคะ? …วันนี้แล้วกัน ฉันก็ว่างอยู่พอดี ครั้งหน้าคุณจะได้ไม่ต้องมาหาฉันอีก!”