ความลับแห่งจินเหลียน - ตอนที่ 165 ไข่หยก
สวี่อี้หรานพึมพำออกมาประโยคหนึ่ง “ผมเคยเห็นหยกราชางูมาแล้ว”
“งูตัวนั้นน่ารักไหม” อวิ๋นอวิ้นถาม
“น่ารัก” สวี่อี้หรานพูดตอบอย่างเคร่งขรึม “ผมไม่เคยเห็นงูที่ไหนสวยเท่านี้มาก่อนเลย”
สุดปลายบันไดหินก็เป็นอีกประตู อวิ๋นอวิ้นยื่นมือออกไปสัมผัส ซีเหมินจินเหลียนขมวดคิ้ว ล็อกด้วยรหัสผ่านว่าพอแล้ว ประตูบานนี้ยังใช้นิ้วมือในการควบคุม เป็นอย่างที่อวิ๋นอวิ้นพูดไว้ ที่นี่สามารถพูดว่าการควบคุมหนาแน่น…ถ้าหากมีแรงกระทบจากข้างนอก เกรงว่าที่นี่คงจะมีการติดตั้งระบบระเบิดทำลายอย่างที่ว่าไว้จริงๆ
ในเวลานี้ประตูถูกเปิดออกอย่างช้าๆ
“มาตรการความปลอดภัยไม่เลวเลยนี่คะ?” ซีเหมินจินเหลียนถอนหายใจแล้วพูดขึ้น “ทำไมถึงทำห้องใต้ดินไว้ข้างล่างแบบนี้ล่ะ คุณคงใช้จ่ายไปไม่น้อยเลยใช่ไหม”
อวิ๋นอวิ้นพยักหน้าพูด “เงินเหรอ? หลายปีมานี่ฉันใช้จ่ายเหมือนกระแสน้ำไหลผ่าน เธอว่า ที่ฉันพูดขึ้นเมื่อครู่นี้ หากคนอื่นอยากจะมาฮุบ เป็นเธอ…เธอจะยอมไหม?”
“แน่นอนว่าไม่อยู่แล้ว” ซีเหมินจินเหลียนส่ายหน้าพูด ของบางอย่างจะอย่างไรก็ได้ แต่ของบางอย่างเธอต้องยืนหยัดไว้
“เข้ามาดูเถอะ” อวิ๋นอวิ้นพูดเชิญชวนขึ้น
ซีเหมินจินเหลียนเดินตามหลังเธอต้อยๆ เข้าไปข้างใน ข้างในมีเครื่องมือวางกองอยู่สะเปะสะปะ แต่ทว่าเธอไม่รู้เรื่องสักนิด ตรงกันข้ามสวี่อี้หรานกลับสนอกสนใจ ไปแตะนู่นสัมผัสนี่ แทบอยากที่จะทดลองใช้ดูสักหน่อย
“นี่…” อวิ๋นอวิ้นพูด “คุณอย่าจับมั่วซั่วนะ เครื่องมือพวกนี้นำเข้ามาจากต่างประเทศเชียวนะ”
“แตะนิดแตะหน่อยคงไม่ทำให้บุบสลายหรอกมั้งครับ!” สวี่อี้หรานทำหน้าสงสาร แต่ไม่ได้ขยับเขยื้อนมือไม้ไปไหน ทำได้แค่มองจ้องไปที่เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์พวกนั้น
“ที่นี่ไม่มีคน?” ซีเหมินจินเหลียนถามแปลกใจ ห้องทดลองขนาดใหญ่แต่ไม่มีใครอยู่สักคน
“คุณเฉาอยู่ข้างใน มาเถอะ!” อวิ๋นอวิ้นเรียก ในขณะที่พูด เธอก็เดินเข้าไปยังประตูข้างใน
“นี่คืออะไรหรือคะ” ซีเหมินจินเหลียนมองไปที่ห้องทดลองข้างในที่มีตู้ยาวลักษณะคล้ายโลงศพขนาดใสอยู่หลายตู้
เพียงแต่ตู้กระจกใสสี่เหลี่ยมข้างบนนั้นมีท่อหลากหลายสีหลายรูปแบบเชื่อมต่อกันอยู่ ไม่รู้ว่าช่วยทำอะไร แต่ข้างนอกตู้กระจกเสริมความงามนั้นต่างมีหยกชั้นดีอยู่หนึ่งก้อน หยกสวยสง่าขนาดนี้เดิมทีน่าจะเอาไปทำเครื่องประดับหรือไม่ก็ของตกแต่ง น่าจะส่องแสงเจิดจรัสท่ามกลางผู้คนให้ตกตะลึง แต่ตอนนี้กลับมาปรากฏอยู่ในสถานที่แห่งนี้ ทำให้รู้สึกน่าเสียดายมาก
“นี่คือตู้เสริมความงาม!” คนที่ตอบคำถามเธอคือสวี่อี้หราน จากนั้นเขาเงยหน้าไปมองอวิ๋นอวิ้น “พวกคุณทดลองมนุษย์?”
ซีเหมินจินเหลียนสับสน เหมือนกระตุ้นให้วิญญาณสั่นสะท้านอย่างไม่รู้ตัว งานทดลองมนุษย์? พระเจ้าช่วย! เอาคนที่มีชีวิตอยู่เข้าไปในตู้กระจกใสข้างในเพื่อทำการทดลองน่ะเหรอ?
“คนฉลาดจะไม่ถามคำถามไร้สาระพวกนี้” อวิ๋นอวิ้นยิ้มเยือกเย็น
แม้ว่าเธอไม่ได้ตอบคำถามโดยตรง แต่ซีเหมินจินเหลียนก็รู้ว่าพวกอวิ๋นอวิ้นกำลังทดลองมนุษย์อยู่จริงๆ
“น่าเสียดาย!” ซีเหมินจินเหลียนพูดขึ้น
“หืม?” อวิ๋นอวิ้นหยุดฝีเท้าเดินและถาม “เสียดายอะไร”
“เสียดายหินหยกพวกนี้” ซีเหมินจินเหลียนสีหน้าไม่แสดงความเคลื่อนไหว ยิ้มอย่างเยือกเย็นแล้วพูดขึ้น “ถ้าไม่มีใครชื่นชม พวกมันก็ไม่ต่างอะไรไปกับหินธรรมดา หรือคุณคิดว่ามันจะสามารถพาความฝันที่ไม่มีทางเป็นจริงของคุณมาได้?”
“อะไรที่เรียกว่าความฝันที่ไม่มีทางเป็นความจริง ไม่ใช่ว่าเธอก็พยายามเพื่อมันอยู่เหรอ?” อวิ๋นอวิ้นแสยะยิ้ม “เวลานี้ยังจะมาปั้นหน้าหลอกกันอีก?”
“ฉันไม่เหมือนกับคุณ!” ซีเหมินจินเหลียนส่ายศีรษะ “ฉันแค่อยากจะตามหาหยกชั้นดียิ่งๆ ขึ้นไป ส่วนคุณอยากใช้ความสวยงามของหยกพวกนี้มาเติมแต่งความฝันที่ไม่อยากแก่ของคุณ? ไม่ต้องพูดถึงการก่อตัวของหยกว่าเป็นเพราะฝีมือของเทพธิดาปิดฟ้าหรือเปล่า ถึงจะใช่…ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าเทพธิดาถูกฝังกระดูกไปไม่รู้กี่ปีแล้ว ถ้าเธอมียาที่ทำให้ไม่ตายได้จริง จนถึงวันนี้เธอต้องมีชีวิตอยู่สิคะ?”
อวิ๋นอวิ้นตกตะลึง แต่สวี่อี้หรานคนโง่เง่านั่นรับช่วงพูดต่อ “ในตำนานเทพธิดาทำเพื่อปกปิดฟากฟ้า ไม่เสียดายชีวิตตัวเองถึงได้ตกลงมา!”
ซีเหมินจินเหลียนกลอกตาขาวใส่สวี่อี้หราน สิ่งที่เขารู้จำเป็นต้องโอ้อวดด้วยหรือไง?
สวี่อี้หรานยิ้มเจ้าเล่ห์ แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา อวิ๋นอวิ้นเรียกเสียงสูงขึ้น “คุณเฉา คุณเฉา?”
เรียกไปถึงสองรอบผู้อาวุโสรูปร่างอ้วนเตี้ยสวมใส่เสื้อตัวบนสีขาว เดินออกมาจากตู้เสริมความงามด้านหลัง มองไปที่อวิ๋นอวิ้นและซีเหมินจินเหลียนพวกเขาสามคนพร้อมถาม “คุณอวิ๋นมีธุระอะไรหรือครับ”
ซีเหมินจินเหลียนอดไม่ได้ที่จะกวาดสายตาหันไปพิจารณาคุณเฉา เขาก็เป็นคนแปลกประหลาดจริงๆ อ้วนเตี้ยไม่ว่า แต่นี่ใบหน้าอ้วนกลมมีดวงตาเล็ก จมูกเล็ก เมื่อทั้งหมดสรรสร้างรวมตัวอยู่ด้วยกันก็เหมือนกับคนประหยัดที่กลัวใช้กระดาษมากเกินไป เห็นได้ชัดว่ากระดาษตั้งใหญ่โต เขากลัวว่าจะไม่พอเหรอ เขียนตัวหนังสือขนาดเล็กไปกองกระจุกอยู่ด้วยกัน ดังนั้นผลลัพธ์ที่ได้ทำให้ผู้อาวุโสคนนี้ดูว่างเปล่าแต่ทว่าเกิดความรู้แปลกประหลาดยากที่จะเอ่ยออกมา
แม้แต่เธอยังกล้ารับรองเลยว่า ถ้าหากคุณเฉาท่านนี้ไม่อยู่ในศูนย์วิทยาศาสตร์ ไปเล่นละครตลก ไม่ปริปากพูดจาอะไรก็สามารถทำให้ผู้คนหัวเราะกร๊ากได้ทั้งบางแน่ ไม่มีทางหิวตายอย่างแน่นอน
“ราชาหยกล่ะ” อวิ๋นอวิ้นถาม
“คุณหนูอวิ๋น ผมขอร้องล่ะ เอาหยกราชางูนั่นมาเจียระไนสักทีเถอะครับ” คุณเฉาพูดพลางเดินนำทุกคนเข้าไปข้างใน
“ไม่ได้!” อวิ๋นอวิ้นรีบตัดบท
ซีเหมินจินเหลียนมองไปทางสวี่อี้หราน ทำไมผู้อาวุโสเรียกอวิ๋นอวิ้นว่า ‘คุณหนู’ แล้วดูไม่สบอารมณ์ชอบกลเลย
“ถ้าหากไม่เจียระไนออกมาดู ก็ไม่อาจรู้ได้ว่าข้างในมีอะไร?” คุณเฉาพูด ระหว่างพูดเขาก็เปิดตู้เซฟไปด้วยพร้อมหยิบกล่องกระจกใสขนาดเล็กออกมาส่งไปให้
กั้นกลางระหว่างกระจกใส ซีเหมินจินเหลียนกวาดมองไปที่ในมือของอวิ๋นอวิ้น ในใจรู้สึกงุนงัน นี่คืออะไร? นี่เป็นหยกไม่มีผิด หยกแก้วชนิดโบราณ ไร้สีโปร่งแสง มีความใสวาวกว่าคริสตัลใสบริสุทธิ์ ใสกว่ามาก ดูแล้วไม่เหมือนจะเบา
ขนาดไม่ใหญ่ ผู้อาวุโสหูพูดไม่ผิด หินหยกก้อนนี้ขนาดใหญ่แค่กำปั้นมือ เมื่อเจียระไนเสร็จคงต้องเล็กกว่านี้อีกหน่อย ดูแล้วขนาดใหญ่พอๆ กับไข่ไก่ แต่หยกก้อนใหญ่เพียงเท่านี้คิดไม่ถึงว่าข้างในจะมีรูปร่างกลมรี…
“นี่คืออะไร” ซีเหมินจินเหลียนถามแปลกใจ
“ดูแล้วเหมือนไข่ไก่เลย” สวี่อี้หรานพูดแทรกอยู่ข้างๆ
คุณเฉารู้หน้าที่ดี จึงนำตู้กระจกใสวางไว้บนโต๊ะทำงาน “พวกคุณดูให้ดีๆ ดูให้ทั่ว!”
ซีเหมินจินเหลียนได้ยินเช่นนั้นก็สัมผัสได้เหมือนกัน ไม่นานสาบตาก็เพ่งจ้องไปที่ราชาหยกก้อนนั้น น่าจะสักสามสิบสี่สิบวินาทีได้ ไข่ใบนั้นกำลังหายใจเหมือนมนุษย์ ค่อยๆ สั่นไหวอย่างแผ่วเบา แต่ประเดี๋ยวเดียวก็เร็วขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว ทำให้คนคิดว่ามันเป็นภาพลวงตา…
“มัน…มันกำลังขยับ?” สวี่อี้หรานตะโกนร้องตกใจ “มันมีชีวิต?”
“ผมใช้การวิจัยทุกชนิดมายืนยัน ข้างในนี้ต้องมีสิ่งมีชีวิตอยู่แน่ๆ!” คุณเฉายิ้มอธิบาย คนคนนี้ปากก็เล็กเหมือนกัน เวลายิ้มแปลกพิกลอย่างไม่ทราบสาเหตุ