ความลับแห่งจินเหลียน - ตอนที่ 215 ลุงงู
จ่านป๋ายกลัวว่าเธอจะทำเรื่องอะไรบุ่มบ่าม จึงพุ่งตัวรีบชิงเข้าไปในห้องก่อนเธอหนึ่งก้าว แสงสลัวของตะเกียงน้ำมันนั้นเผยให้เห็นชายชราผู้หนึ่งที่เอนกายกึ่งนั่งกึ่งนอน ไม่สิ…ถ้าพูดให้ถูก คนคนนี้ก็ไม่ได้แก่มาก เพียงแต่แวบหนึ่งเขาก็ขวัญหนีดีฝ่อ นี่เขาก็ยังเป็นคนอยู่ใช่ไหม?
ชายชราท่านนั้นมองจ่านป๋าย เข้าใจผิดว่าเขาเป็นคนพังประตูเข้ามา ทันใดนั้นเองสีหน้าก็พลันเปลี่ยนสี พูดขึ้นอย่างดุดันว่า “นี่คุณคิดจะทำอะไรกัน? บ้านเมืองมีขื่อมีแป ถ้าพวกคุณอยากซื้อหินหยก ก็ดูแค่สินค้าไปสิ ถ้าไม่ซื้อก็กลับไปเถอะ!”
จ่านป๋ายตกตะลึง เมื่อเห็นว่าซีเหมินจินเหลียนพยายามจะเข้ามา เขาจึงรีบปิดตาเธอและกระซิบพูดขึ้นว่า “จินเหลียน อย่าดูครับ!”
ซีเหมินจินเหลียนออกแรงปัดมือเขาออก เมื่อเงยหน้ามองคนที่อยู่บนเตียง ใบหน้าของคนคนนั้นมีรอยยับย่นไปหมด เหมือนเกล็ดของงูอย่างไรอย่างนั้น ถึงจะอัปลักษณ์น่าเกลียดเหมือนพวกผีสางก็ยังพอว่า แต่มีบางส่วนที่เริ่มเน่าเปื่อยแล้ว…ภายในห้องมีแต่กลิ่นเหม็นสาบกระจายตัวอยู่ทุกอณู
“จินเหลียน พวกเราออกไปกันเถอะครับ!” จ่านป๋ายจูงมือเธอให้ถอยห่างออกไป เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเขา ชายชราท่านนั้นพูดไว้ไม่ผิด ในบ้านของเขามีคนป่วยจริง แถมยังเป็นคนป่วยอาการโคม่ากุไม่กลับ
“ลุงงู?” ซีเหมินจินเหลียนเหมือนไม่ได้ยินที่เขาพูด สะบัดมือจ่านป๋ายออกและเดินไปข้างหน้าเตียงทีละก้าว
คนบนเตียงลืมตาขึ้นมา และกวาดสายตามองซีเหมินจินเหลียนอย่างมึนงง
“ลุงงู หนูคือจินเหลียนไงคะ!” ซีเหมินจินเหลียนเดินไปถึงข้างเตียง และไม่สนใจว่าคนคนนั้นจะสกปรกหรือเหม็นสาบเพียงใด เธอเอื้อมมือไปจับมือเขามากุมไว้ “ทำไมลุงถึงเป็นแบบนี้ได้?”
“จินเหลียน?” คนบนเตียงเปล่งเสียงเรียก ชายชราที่ขายสินค้าจึงเข้ามาประคองเขาและพูด “อย่าขยับซี้ซั้วสิ!”
“จินเหลียน…หนูคือจินเหลียนจริงๆ หรือ?” ลุงงูเดิมทีที่ดวงตาสะลึมสะลือ ตอนนี้กลับมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันตา จับมือซีเหมินจินเหลียนอย่างหนักแน่นและพูดว่า “ใช่หนูจริงๆ ด้วย ใช่หนูจริงๆ ย่าของหนูเป็นอย่างไรบ้าง”
“คุณย่าเสียไปหลายปีแล้วค่ะ…” ซีเหมินจินเหลียนได้ยินเช่นนั้นจึงก้มหน้าก้มตาลง ภายในดวงตาเอ่อล้นไปด้วยน้ำใสๆ ไหลลงมา
“แล้วอาจารย์ของหนูล่ะ?” ลุงงูถามอย่างตกใจ “เขาสบายดีไหม”
“เขาจากไปแล้วเหมือนกันค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนพูด
“เป็นไปไม่ได้…เป็นไปไม่ได้…จินเหลียน หนูอย่าหลอกฉันนะ…” ลุงงูพูดด้วยเสียงแหบแห้ง “อาจารย์ไม่มีทางตาย…”
“ลุงงู หนูเห็นอาจารย์ถูกฝังกับตา” ซีเหมินจินเหลียนส่ายหน้าอย่างเจ็บปวด “หลังจากที่คุณย่าเสียไปได้ไม่นาน อาจารย์ก็ตามไป…สำนักของเราตอนนี้มีแค่พวกเราสองคนแล้ว ทำไมสภาพลุงเป็นแบบนี้ได้คะ?”
ลุงงูพิงเตียงอย่างไร้เรี่ยวแรง น้ำตาไหลจากดวงตาผ่านใบหน้าอันอัปลักษณ์อย่างช้าๆ
ตอนนี้จ่านป๋ายเข้าใจแล้วว่าที่แท้ซีเหมินจินเหลียนก็รู้จักกับชายอัปลักษณ์คนนี้ บางทีตอนที่เขายังไม่ได้ป่วยเป็นโรค เขาก็อาจจะไม่ได้หน้าตาอัปลักษณ์เช่นนี้
“จินเหลียน…” ลุงงูไม่ได้ตอบกลับในสิ่งที่เธอถาม พยายามลุกขึ้นนั่งอย่างลำบากและกวักมือเรียกเธอมาพูดด้วย “หนูมานี่ มาให้ลุงงูดูหน่อย”
“ค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนเข้าไปใกล้ๆ
ลุงงูพินิจพิเคราะห์ดูหน้าของเธออย่างละเอียดอยู่นานจึงพูดขึ้น “เป็นเสี่ยวจินเหลียนของฉันจริงๆ…ตอนนี้โตมาเป็นหญิงสาวสวยกว่าเก่าแล้ว เพียงแต่…ลุงงูไม่ไหวแล้ว…” แม้ว่าซีเหมินจินเหลียนในตอนนี้กับในวัยเด็กจะไม่มีเค้าลางเหมือนกันเท่าไหร่ แต่ภาพรวมยังอยู่ เมื่อสักครู่ที่ซีเหมินจินเหลียนบอกเขาว่าเธอคือซีเหมินจินเหลียน เขายังสงสัยว่าตัวเองกำลังฝันอยู่หรือเปล่า
เขาตามหาเธอด้วยความยากลำบาก แต่ไม่ได้รับข่าวสารจากเธอเลย! เขารู้ว่าตัวเองคงทนอยู่ต่อไปไม่ได้นาน หากมีชีวิตอยู่แล้วไม่ได้เห็นซีเหมินจินเหลียนสักครั้ง เขาคงได้ตายไปไม่สงบแน่!
“ลุงงู ลุงจะต้องไม่เป็นไรนะคะ!” ซีเหมินจินเหลียนกุมมือเขาไว้อย่างแน่น ไม่ยอมปล่อย ญาติสนิทของเธอคนเดียวบนโลกใบนี้จะไปอย่างนี้เหรอ เธอรู้ว่าลุงงูไม่ไหวแล้ว ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ใช่วิธีเสี่ยงอันตรายเช่นนี้มายืดอายุตัวเอง “ลุงงู พวกเราไปเมืองใหญ่ๆ หนูจะหาหมอที่ดีที่สุดมารักษาลุง…”
“แม้แต่ยาชะลอความแก่ ยังช่วยลุงไว้ไม่ได้” ลุงงูส่ายศีรษะพูด “จินเหลียน ลุงเคยไปหาหนูที่เซี่ยงไฮ้ แต่ก็หาไม่เจอ”
ซีเหมินจินเหลียนได้ยินแล้วอดกลั้นน้ำตาไม่ไหว ตอนนั้นที่เห็นนางพญางูขาวอยู่ที่ร้านขายสัตว์เลี้ยง เธอก็แอบคิดว่าต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแน่ แต่ก็คิดว่าลุงอาจจะโชคดีผ่านอันตรายมาได้ คิดไม่ถึงว่าพบกันอีกครั้ง เขาจะสภาพเป็นเช่นนี้แล้ว
ยาถ้วยนั้นในตอนนั้น เธอยังจำได้ดี เธอรู้ว่าใช้พิษงูสามารถยืดอายุได้ แต่ถ้าดื่มไปก็เท่ากับว่าเอาชีวิตตัวเองผลักเข้าไปในห้วงแห่งความตาย
“จินเหลียน ลุงขายนางพญางูขาวไปแล้ว…ที่…” ลุงงูพูด
“ค่ะ นางพญางูขาวอยู่ที่หนูค่ะ คุณลุงวางใจได้!” ซีเหมินจินเหลียนยิ้ม
ลุงงูได้ยินแล้วดีใจเป็นอย่างมาก ใบหน้าอัปลักษณ์เผยรอยยิ้มจางๆ ออกมา พยายามออกแรงเงยหน้าขึ้นมองจ่านป๋ายและชายชราขายสินค้าพร้อมพูดว่า “พวกคุณออกไปก่อนเถอะ ฉันมีเรื่องอยากคุยกับจินเหลียนสักหน่อย”
จ่านป๋ายไม่ได้พูดอะไร ในใจของเขารู้ดี ที่แท้คนคนนี้ก็คือเจ้าของนางพญางูขาว งูสุดที่รักของซีเหมินจินเหลียน เมื่อเห็นแบบนี้แล้ว สำหรับเธอชายผู้นี้คงสำคัญกับเธอมาก และเขายังมองออกว่าชะตาชีวิตของชายผู้นี้กำลังจะสิ้นสุดลง จึงให้พวกเขาออกไป คงจะพูดคำสั่งเสีย
ชายชราขายสินค้าถอนหายใจ หันกายเดินออกไปข้างนอกและถือโอกาสปิดประตูไม้ที่ผุกร่อน
“จินเหลียน ได้เจอหนูที่นี่ เป็นเพราะพระเจ้าเห็นใจ…” ลุงงูกุมมือเธอแน่นขึ้นและพูด “มีสองเรื่อง หนูตั้งใจฟังให้ดีนะ หากวันนี้ลุงไม่ได้เห็นหนู ลุง…คิดว่าลุงต้องนำความลับทั้งสองนี้ฝังลงหลุมไปด้วยเสียแล้ว”
“ลุงว่ามาเถอะค่ะ…” ซีเหมินจินเหลียนเข้าใจดี เวลานี้ไม่ใช่เวลามาพูดปลอบใจ…ด้วยสภาพของลุงงูเขาคงทนไม่ไหวแล้วจริงๆ
“เรื่องแรกเกี่ยวกับหินปิดฟ้า ลุงหาตำแหน่งที่แน่นอนของมันเจอแล้ว!” ลุงงูพูด ในระหว่างที่พูดเขาก็ควานหาปิ่นหยกด้วยมือสั่นเทา เสียบไปที่ผมของซีเหมินจินเหลียนและพูดขึ้นว่า “แผนที่ซ่อนไว้ในปิ่นหยก หนูจำไว้นะ…ต้องหาเจ็ดสีเรืองแสงให้เจอ ไม่อย่างนั้นไม่มีทางไปหาหินปิดฟ้าได้…”
“ทำไมคะ?” ซีเหมินจินเหลียนถามอย่างไม่เข้าใจ “ในเมื่อรู้ตำแหน่งของหินปิดฟ้าแล้ว หรือว่าหลายปีมานี้มันไม่เคยถูกคนขุดออกมา?”
ลุงงูส่ายหน้าเบาบาง และกระซิบข้างหูเธอหลายประโยค ซีเหมินจินเหลียนยิ่งฟังยิ่งสงสัยไม่หยุด มีของในตำนานแบบนั้นอยู่จริงๆ หรือ?
“อย่างที่สอง เกี่ยวกับพ่อของหนู!” ลุงงูถอนหายใจพูด “เขายังไม่ตาย เขาอยู่ที่พม่า…เพียงแต่ไม่รู้ว่าทำไม เขา…เขา…ดูเหมือนไม่รู้จักลุง…”