ความลับแห่งจินเหลียน - ตอนที่ 244 ฐานขาวแต้มเขียว
ใบมีดของเครื่องตัดหินหยุดเคลื่อนไหว จ่านป๋ายแยกหินหยกที่ถูกตัดทั้งสองฝั่งออกมาด้วยท่าทีสบายๆ ชั่วครู่นั้นเขาก็ตกตะลึงไปหมด ช่วงนี้ทำบุญมาดีหรืออย่างไร นี่ก็เจอของดีเข้าให้แล้ว?
“จินเหลียน…จินเหลียน…” จ่านป๋ายพูดลุกลี้ลุกลน “คุณรีบมานี่หน่อยครับ!”
“เผยสีเขียวเหรอ?” ซีเหมินจินเหลียนค่อนข้างแปลกใจ โชคในการเดิมพันหินของจ่านป๋ายดีเกินไปหรือเปล่า เลือกง่ายๆ เหมือนเลือกแตงโมลูกหนึ่ง จู่ๆ ก็เผยสีเขียวเสียอย่างนั้น? บางทีเธอก็เริ่มสงสัยแล้วว่าเขาคนนี้มีความสามารถมองทะลุผ่านสิ่งของเหมือนเธอหรือเปล่า?
“ไม่ได้เผยสีเขียวครับ” จ่านป๋ายส่ายศีรษะ
แต่ถูกเขาเรียกแบบนั้น ผู้คนก็เลยรีบมามุงดูกันเป็นกลุ่ม ไม่นานสีหน้าของทุกคนผิดแปลกไปจากเดิม จนกระทั่งส่อแววอิจฉาริษยา ซีเหมินจินเหลียนรอให้คนอื่นๆ ดูให้หมดก่อน เธอกับอวิ๋นเจียค่อยเข้าไปดู
จ่านป๋ายกลัวว่าซีเหมินจินเหลียนจะเห็นไม่ชัด ยังช่วยถือไฟฉายส่องไปยังหินหยกที่ถูกตัด
ตัดผิวบางๆ หนึ่งชั้นของหินออกไป หินที่ถูกตัดทั้งสองฝั่งมีสีขาวชุ่มชื้น ใสแวววับ ซีเหมินจินเหลียนครุ่นคิดดู ความรู้สึกนี้ช่างเหมือนดั่งเนื้อติดไขมันล้วน เป็นก้อนสีขาวชุ่มฉ่ำ เห็นแล้วจิตใจเบิกบานเหลือเกิน
ทำให้เธอนึกถึงหยกสีขาวที่จ่านป๋ายซื้อมาจากชายชราจางเถี่ยฮั่นคนนั้น หยกก้อนนั้นก็มีความชุ่มชื้น รวมถึงสีอาจจะชนะก้อนนี้ด้วย แต่ไม่เหมือนกับหยกสีขาวหิมะก้อนนั้น
ไม่ถึงขั้นชนิดเนื้อแก้ว แต่ต้องถึงชนิดเนื้อน้ำแข็งแน่ มีความขุ่นนิดหน่อย แต่สีสว่างชัดแจ๋ว
“พ่อหนุ่ม คุณจะขายไหม” มีคนหนึ่งในฝูงชนถาม
จ่านป๋ายมองซีเหมินจินเหลียน เรื่องนี้เขาไม่เคยสนใจใคร่รู้ว่าจะขายแลกเปลี่ยนเป็นเงินดี หรือซื้อกลับไปทำเป็นเครื่องประดับหรือของตกแต่งแล้วค่อยขาย?
“คุณลองเปิดเปลือกหินให้หมดก่อน ระวังด้วย” ซีเหมินจินเหลียนพูดกำชับ หินหยกก้อนนี้แม้จะหนักประมาณสิบกว่ากิโลกรัม แต่ถือว่าขนาดไม่เล็กแล้ว หากเปิดหินหมดไม่รู้ว่าทำเป็นของตกแต่งได้หรือเปล่า? ถ้าใหญ่ยังพอขนกลับไปทำเป็นของตกแต่ง หรือไม่ก็ขายทิ้งซะตอนนี้เพื่อแลกเปลี่ยนเป็นเงินสด
“โอเคครับ” จ่านป๋ายพยักหน้าตอบรับ มองไปยังหินหยกที่ถูกตัดเป็นสองฝั่ง ในนั้นมีฝั่งหนึ่งเล็กกว่าหน่อย เขาจึงนำหินหยกก้อนเล็กไปจัดวางตำแหน่งให้เหมาะสมไว้ก่อนด้วยความรวดเร็ว ไม่นานหินหยกครึ่งก้อนนั้นเปิดออกมาหมดอย่างรวดเร็วเหมือนผ่าแตงโม ขนาดไม่ใหญ่หนาประมาณสามเซนติเมตร เพราะสีดูฉ่ำวาว เสริมกับสีขาวชุ่มชื้นยังถือว่าเป็นที่นิยมชมชอบของทุกคน
เปลือกผิวหนา หากเปิดเปลือกหินเหมือนคนธรรมดาทั่วไป แค่ใบมีดครั้งเดียวคงเฉือนได้แค่ผิวประมาณหนึ่งเซนติเมตร ไม่มีทางค้นพบอะไร
จ่านป๋ายมองดูแล้วส่งไปให้ซีเหมินจินเหลียนที่ยืนอยู่ “เหมือนกับหยกสีไขมันแพะ แต่ดูแล้วเหมือนจะเย็นกว่า”
ซีเหมินจินเหลียนยิ้มอ่อน เธอไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับหยกไขมันแพะเท่าไหร่ แต่ตลับเครื่องสำอางที่จ่านป๋ายเคยให้เธอนั้นเป็นหยกไขมันแพะจริงๆ และยังเป็นหยกโบราณ หากไม่มีอะไรทำเธอก็ชอบเอาออกมาเล่น คงเป็นเพราะเคยสัมผัสของดีมาก่อน ดังนั้นหยกไขมันแพะทั่วไปเลยไม่ได้เตะตาต้องใจเธอ
“คล้ายนิดหน่อย” ซีเหมินจินเหลียนผงกศีรษะ ในใจคิดไปว่าหากสีนี้แกมแดงนิดหน่อย เธอจะได้เอาไปทำเป็นแหวนหยกสวมนิ้วหัวแม่มือ และให้ชื่อกับมันว่าน้ำตาลูกผู้หญิง
ในขณะที่พูด จ่านป๋ายก็เริ่มเปิดเปลือกหินหยกอีกฝั่ง ครึ่งก้อนนี้ใหญ่กว่าก้อนนั้นหน่อย ใช้วิธีเดียวกันโดยจัดวางตำแหน่งไว้ให้ดีและลงใบมีดไป
ซีเหมินจินเหลียนเบื่อหน่ายไม่มีอะไรทำ ก้มหน้าก้มตามองหินหยกในมือ หินหยกที่ยังไม่ได้ขัดเจียแต่ยังชุ่มชื้นได้ขนาดนี้ สวยเหลือเกิน หากนำไปทำเป็นเครื่องประดับ เกรงว่าคงต้องได้รับความนิยมจากเด็กสาวมากแน่ๆ เพราะเด็กสาวๆ ไม่ชอบสีเขียวมรกตดั้งเดิมสักเท่าไหร่ แต่กลับชอบสีอ่อนๆ ไม่ก็เนื้อแก้วไร้สี
ส่วนตัวเธอเองชอบสีแดงสีสันสดใสมาก และชอบสีแดงทุกเฉดเป็นพิเศษ
จนกระทั่งมีบางทีคิดว่า ถ้าเป็นไปได้เธออยากจะเก็บหยกเกรดดีสีแดงหลากหลายเฉดและนำไปทำเป็นเครื่องประดับหยกหรือไม่ก็ของตกแต่ง แต่สีแดงที่เธอมีอยู่ตอนนี้ก็ไม่น้อยเลย แดงดอกท้อ แดงดอกกุหลาบ แดงเลือด แดงเกล็ดทองบลาๆ
ในใจคิดไปเรื่อย แต่ก็เงยหน้าขึ้นทันทีเมื่อเห็นเงาที่คุ้นเคยหายไปในฝูงชน
คนคนนั้นความเร็วว่องไวราวกับมีวิชาตัวเบา แต่ซีเหมินจินเหลียนยังทันเห็น ทันใดนั้นสติสตังเลื่อนลอยและมึนงง คนคนนั้นเป็นใคร? ทำไมถึงได้รู้สึกคุ้นเคยแบบนี้?
ในเวลานี้เธอคิดจนหัวแทบจะระเบิดแตกเป็นเสี่ยงๆ แต่ก็คิดไม่ออกว่าเป็นใครกันแน่?
“จินเหลียน…” จ่านป๋ายลงใบมีดตัดต่อไป จนหินหยกแยกออกเป็นสองส่วน สติเลื่อนลอยอีกครั้ง ดวงช่วงนี้ดีเกินไปหรือเปล่า? ทำไมเมื่อก่อนไม่เห็นค้นพบว่าตัวเองมีพรสวรรค์ในการเดิมพันหินเลย?
ด้านบนของสีขาวที่ชุ่มชื้นนั้น มีสีเขียวแต้มอยู่ในนั้นลึกประมาณหนึ่งเซนติเมตรครึ่ง สีได้มาตรฐาน แวววาวชุ่มชื้น ผู้คนเห็นแล้วได้แต่ชื่นชอบ โดยเฉพาะสีเขียวมรกตที่ล่องลอยอยู่บนหยกสีขาวใส ดึงดูดสายตาผู้คนมากกว่าสีเขียวสดบริสุทธิ์เดี่ยวๆ ซะอีก
ซีเหมินจินเหลียนได้ยินเขาเรียกแบบนั้น ก็ฟื้นสติคืนกลับมา มองไปยังสีเขียวมรกตที่ตะแต้มอยู่บนสีขาวที่เหมือนกับหยกไขมันแพะ ยิ้มและพูดว่า “สีสว่างสดใสเหลือเกิน” แต่ในใจบ่นพึมพำว่า น่าเสียดาย ถ้าเป็นสีแดงก็ดีสิ
“สีเขียว? หรือคล้ายสีไขมันแพะ?” ซีเหมินจินเหลียนมึนงง หยกผักกาดขาวก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอ?
เพียงแต่ว่าหินหยกก้อนนี้เล็กกว่าก้อนนั้นมาก ถึงจะสลักมาเป็นหยกผักกาดขาว แต่ก็ยังมีขนาดเล็กใหญ่ไม่เพียงพอ
“สวยมากใช่ไหม!” จ่านป๋ายยิ้ม
“อืม!” ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้า หันกายมองหาฉินเฮ่าและอวิ๋นเจียในกลุ่มคน ของเดิมพันหนึ่งหมื่นยูโรของเธอถือว่าชนะใสๆ เดิมทีคิดว่าจะเป็นฝ่ายแพ้ เพราะฉินเฮ่าดูมีความรู้เรื่องเดิมพันหินมากกว่าจ่านป๋าย
แต่เธอมองหาไปรอบหนึ่ง สีหน้าก็ยิ่งไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี ฉินเฮ่ากับอวิ๋นเจียหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยท่ามกลางผู้คน หนีอย่างนั้นเหรอ?
สองคนนี้ไม่คิดหรืออย่างไรว่าวิ่งให้ตายยังไงสุดท้ายก็หนีไม่พ้นอยู่ดี? ของเดิมพันครั้งนี้เธอต้องเอาคืนมาให้ได้ อย่างน้อยก็ตั้งหนึ่งหมื่นยูโร เอาไว้กินไว้ใช้ในพม่าได้สุขสบายแล้ว
“พ่อหนุ่ม คุณอยากจะเปลี่ยนมือไหม! ผมให้แปดหมื่นยูโร!” มีคนส่งเสียงออกมา
จ่านป๋ายได้แค่ยิ้มออกมา ซีเหมินจินเหลียนไม่ปริปากเขาก็ไม่มีสิทธิจะบอกขาย และดูจากท่าทางของซีเหมินจินเหลียนแล้ว ดูเหมือนตอนนี้เธอจะไม่อยากขาย ถ้าเอากลับไปแกะสลักเป็นเครื่องประดับหยกคงได้กำไรมหาศาลเป็นหลายเท่าตัว คงเยอะกว่านี้อยู่หลายเหมือนกัน
ไม่นานหินหยกทั้งก้อนก็ถูกเปิดออกมาหมด ซีเหมินจินเหลียนเสียดายเล็กน้อย หากตัวเองสนใจตอนที่จ่านป๋ายเปิดหินให้มากหน่อย หินหยกก้อนนี้คงใหญ่และสวยกว่านี้มาก แต่ถึงเป็นอย่างนั้นก็ยังโชคดี สูงไม่ถึงสิบสองเซนติเมตร รูปทรงสี่เหลี่ยม ความยาวและลึกราวๆ ห้าถึงหกเซนติเมตร
หินหยกทั้งก้อนเป็นสีขาวฉ่ำเหมือนหยกไขมันแพะ มีแค่ส่วนบนที่มีสีเขียวมรกตสว่างใสสุกสกาวประมาณหนึ่งเซนติเมตร