ความลับแห่งจินเหลียน - ตอนที่ 88 นิทรรศการเครื่องประดับอัญมณี
“ไม่สามารถเจรจาได้จริงๆ เหรอครับ” ชายวัยกลางคนถามด้วยความผิดหวัง
“ทั้งสองท่านสามารถสั่งจองอย่างอื่นได้นะคะ” ซีเหมินจินเหลียนยิ้มขึ้น ระหว่างที่พูดนั้นเธอก็มองไปยังจ่านป๋าย
จ่านป๋ายยิ้มน้อยๆ ก่อนจะรีบแนะนำสินค้าหยกที่โดดเด่นหลากหลายชนิดให้ทั้งสองคนทันที ทั้งสองคนเองก็มีความรู้สึกสนใจอยู่บ้าง เพราะอย่างไรก็ตามของที่เหมือนแสงดาวส่องแพรวพราวเช่นนั้นก็พบเจอได้ไม่มากนัก แถมเครื่องประดับหยกของบริษัทจินเหลียนจิวเวอรี่ในงานจัดแสดงสินค้าครั้งนี้ นอกจากหยกประกายดาวแล้วก็ยังมีสินค้าดีๆ อย่างอื่นอีกมาก
แม้ว่าทั้งสองจะรู้สึกเสียดายอยู่บ้าง แต่แน่นอนว่าก็ยังสั่งจองเครื่องประดับอื่นๆ อีกมูลค่ามหาศาล
แถมราชางูก้อนนั้น แน่นอนย่อมดึงดูดสายตาของแขกในงานให้เข้ามารุมล้อม เช่นเดียวกับจ่านป๋ายและซีเหมินจินเหลียน ผู้ชมในงานต่างอยากรู้ว่างูที่อยู่ในหยกก้อนนั้นมีชีวิตหรือว่ากลายเป็นหยกไปแล้ว
แม้กระทั่งมีคนเสนอความคิดเห็นขึ้นมาว่า นี่ก็อาจจะเป็นไปได้ที่งูนั้นจะเป็นหยกเช่นเดียวกัน? คำถามเดียวกันนี้ซีเหมินจินเหลียนก็อยากรู้ นี่ก็อาจจะเป็นหยกได้จริงๆ สินะ? แต่แน่นอนไม่มีใครสามารถตอบคำถามของเธอได้ ผู้ที่มามุ่งดูก็มองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจออกมา มีกำลังถึง มีความพอใจ ก็ย่อมสั่งจองสินค้าหยกได้เล็กน้อย ยิ่งไปกว่านั้นเครื่องประดับหยกของทางซีเหมินจินเหลียน บางอันก็เป็นเหมือนตำนาน แม้กระทั่งผู้ชมเหล่านี้เคยได้ยินแต่ไม่เคยเห็น
ยังมีคนเสนอความคิดเห็นขึ้นมาว่าทำไมมันช่างเป็นหยกที่งดงามไร้ที่ติแบบนี้ ดูแล้วไม่เหมือนของจริงเลย แน่นอนว่าในเมื่อมีสมาคมอัญมณีหยกเป็นเครื่องยืนยัน บวกกับมาแสดงในงานนิทรรศการหยกแบบนี้ ไม่ว่าใครก็ไม่กล้าที่จะถามถึงคำถามที่ไม่มีมารยาทแบบนี้ออกมาได้
เวลาใกล้เที่ยง พนักงานต่างพาลูกค้าเข้ามาสั่งจองเครื่องประดับด้วยความนอบน้อม ซีเหมินจินเหลียนเห็นจ่านป๋ายและอีกฝ่ายกำลังเจรจาเรื่องราคาและรูปแบบของเครื่องประดับต่างๆ การชำระเงินล่วงหน้ารายละเอียดการติดต่อ ยุ่งจนพูดอะไรมากไม่ได้ เธอจึงดีใจจนเก็บอารมณ์ไม่อยู่ บริษัทจิวเวอรี่ของตนเองอาศัยโอกาสการจัดนิทรรศการครั้งนี้ ถือเป็นการใช้โอกาสเปิดแบรนสินค้าไปในตัว
รวมไปถึงการที่บริษัทจินเหลียนจิวเวอรี่ที่ขายแต่ของดีมีคุณภาพ ทำให้ราคาย่อมสูงเป็นธรรมดา หากใช้คำพูดของหลินเสวียนหลาน นั่นก็เป็นเงินธุรกิจ มีเพียงพอให้กินไปได้หลายเดือนแม้กระทั่งเป็นหลายปี เพียงแค่การสั่งสินค้าในตอนเช้า ก็ทำให้ซีเหมินจินเหลียนยิ้มไปทั้งหน้าแล้ว ภายในสองสามเดือนนี้ เธอก็คงไม่ต้องกังวลในเรื่องประสิทธิภาพของบริษัทแล้ว
เวลาสิบเอ็ดโมงโดยประมาณ จู่ๆ จ่านมู่ฮวาก็มาร่วมยินดี ซีเหมินจินเหลียนรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง เวลานี้เขามาทำอะไรกัน?
“จินเหลียน คุณไม่ออกไปเดินเล่นข้างนอกหน่อยหรือครับ” จ่านมู่ฮวาเลียนแบบจ่านป๋าย เรียกชื่อเธออย่างตรงๆ แม้ว่าซีเหมินจินเหลียนจะยืนยันกี่ครั้งให้เขาเปลี่ยน แต่เขาก็ไม่ยอมฟัง เธอก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี นอกจากนี้เพราะว่าผ่านการซื้อสินค้าเพชรจากเขา ทั้งสองคนก็ถือว่าเป็นผู้ร่วมธุรกิจด้วยกัน จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแสดงให้เขาเห็นมากเกินไป
“จริงๆ ก็อยากจะออกไปดูอยู่เหมือนกันค่ะ แต่ทางนี้กำลังเป็นไปได้ด้วยดี คิดว่าตอนบ่ายฉันค่อยไปดูก็ได้” ซีเหมินจินเหลียนยิ้มออกมา พูดพลางลุกขึ้นยืนและรินชาหนึ่งถ้วยส่งให้จ่านมู่ฮวา
“ทางนี้ยังมีคุณมู่หรงและหลินเสวียนหลานอยู่ ไม่สู้คุณไปดูเครื่องประดับอัญมณีของคนอื่นบ้างไม่ดีกว่าหรือครับ อย่างน้อยๆ ก็ถือโอกาสนี้สำรวจสักรอบ?” จ่านมู่ฮวาเอ่ย
“นายคิดจะทำอะไร?” จ่านป๋ายพ่นลมหายใจออกมา เขาไม่เคยลืมว่าครั้งก่อนจ่านมู่ฮวาหลอกให้ซีเหมินจินเหลียนไปร่วมงานเลี้ยง ผลสุดท้ายกลับหลอกเธอให้ไปหมั้น อีกทั้งยังพาตัวเขาไปเป็นเครื่องมือ
“ฉันก็แค่อยากจะออกไปเดินเล่นเป็นเพื่อนจินเหลียนก็เท่านั้น เรื่องธุรกิจมีแกก็พอแล้ว จะว่าไปหากจินเหลียนต้องลงมือทำเองทุกอย่าง ถ้าอย่างนั้นจะมีแกไว้ทำไม?” จ่านมู่ฮวาพูด “ข้างนอกมีคนตั้งมากมาย คิดว่าฉันจะทำอะไรเธอได้อย่างนั้นเหรอ?”
จ่านป๋ายคิดว่าเขาทางนี้เดินไปไหนไม่ได้ อีกทั้งข้างนอกหลินเสวียนหลานก็ยังยุ่งอยู่ นี่ยังเป็นครั้งแรกที่ซีเหมินจินเหลียนมาร่วมงานนิทรรศการอัญมณีนี้ ถ้าไม่ให้เธอออกไปดูก็จะเกินไปหน่อย แม้ว่านิทรรศการจะจัดขึ้นเป็นเวลาสามวัน แต่ยังมีสินค้ามากมายที่อาจจะจัดตั้งแสดงเพียงแค่วันเดียว อย่างเช่นหยกราชางูของบริษัทเธอ
ถ้าหากผ่านวันนี้ไปแล้ว อาจจะไม่มีโอกาสได้ดูอีก
“จินเหลียน คุณออกไปดูข้างนอกเถอะครับ พวกเราควรจะต้องไปสำรวจสินค้าของคนอื่นบ้าง” จ่านป๋ายพูด
“โอเค ถ้าอย่างนั้นฉันจะออกไปดูแล้วเดี๋ยวจะรีบกลับมา” ซีเหมินจินเหลียนรู้สึกตื่นเต้น เธอยุ่งมาทั้งช่วงเช้า แม้ว่าธุรกิจจะไม่ใช่สิ่งที่เธอถนัด แต่ก็สามารถช่วยอยู่ข้างๆ ได้ จ่านป๋ายเองก็ไม่ได้วางใจที่จะปล่อยเธอให้ออกไปข้างนอกคนเดียว เพราะฉะนั้นทำได้แค่รอไปอย่างนั้น
“ไปกันเถอะครับ” จ่านมู่ฮวาทำหน้าตาเหมือนมีลับลมคมในก่อนมองไปทางจ่านป๋าย ทำท่าเชื้อเชิญให้ซีเหมินจินเหลียนเดินออกไปด้วยกัน
ที่หน้าประตูู เขาเบี่ยงตัวเล็กน้อยคอยมองหน้าตาหล่อเหลาของหลินเสวียนหลาน คนคนนี้หรือจะเป็นคนในใจของซีเหมินจินเหลียน? ดูแล้วน่าจะไม่ใช่นี่นา
“คุณเรียกฉันออกมาทำอะไร” เมื่อซีเหมินจินเหลียนเดินออกมาข้างนอกแล้วก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น “คงไม่ใช่แค่เดินดูนิทรรศการง่ายๆ แค่นั้นใช่ไหม?”
“ผมมีข่าวของราชาหยกมาบอก” จ่านมู่ฮวาพูด
“ห๊ะ…” ซีเหมินจินเหลียนสับสน เขารู้เรื่องนี้ได้อย่างไรกัน
“ผมคิดว่า คุณน่าจะสนใจหยกชิ้นนั้น” จ่านมู่ฮวาพูด พลางสายตาของเขาก็ช้อนขึ้นไปตกอยู่ที่ราชางูก้อนนั้นที่อยู่ไกลออกมา “หยกที่มีงูก้อนนั้น เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ”
“ครั้งก่อนฉันไปซื้อหินหยกที่เจียหยาง เลยซื้อมาโดยไม่ได้ตั้งใจ” ซีเหมินจินเหลียนไม่บอกตำนานหยกราชางูให้เขารู้เด็ดขาด ยิ่งพูดยิ่งยุ่งยาก
“หยกก้อนนั้นดูแล้วเหมือนมีพลังชั่วร้ายอะไรบางอย่าง” จ่านมู่ฮวาส่ายหน้าแล้วพูดขึ้น
“อืม” ซีเหมินจินเหลียนพยักหน้า เธอชอบหยกก้อนนั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่เธอก็ยอมรับว่าหยกก้อนนั้นดูมีพลังชั่วร้ายจริงๆ แน่นอนหยกราชางูก้อนนั้นมันเป็นหนึ่งในการจัดแสดงที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในนิทรรศการเครื่องประดับวันนี้
ซีเหมินจินเหลียนยืนอยู่ที่ตู้จัดนิทรรศการของบริษัทอัญมณีที่มาจากฮ่องกง มองดูเพชรที่เปล่งประกายอย่างพิถีพิถัน และสำรวจบริษัทอัญมณีนี้ คิดว่าน่าจะทำเพชรเป็นหลัก ส่วนอีกด้านก็มีจัดแสดงสินค้าหยก แต่แบบอย่างและชนิดค่อนข้างเก่าคร่ำครึ อีกทั้งหยกที่ดีที่สุดก็มีแค่หยกเนื้อแก้วสีเขียวสด
แต่ซีเหมินจินเหลียนก็รู้สึกแปลกใจ เธอไม่ใช่คนที่เข้าใจเรื่องเพชร แต่เธอรู้ว่าเพชรดูจากความโปร่งใสสะอาดเป็นหลัก อย่างที่สองมองขนาดเล็กใหญ่และสีสัน
ราคาของเพชรมูลค่าสูงเหล่านั้น ภายใต้แสงไฟก็ส่องแสงระยิบระยับ แต่ดูแล้วเทียบไม่ได้กับเพชรที่สมบูรณ์แบบที่จ่านมู่ฮวาให้เธอหกเม็ดครั้งนั้นเลย
“จินเหลียน คุณดูนี่…” จ่านมู่ฮวาเรียกเธอ
ซีเหมินจินเหลียนเดินเข้าไปดู นั่นเป็นสร้อยข้อมือเส้นหนึ่ง ตรงกลางมีเพชรสีน้ำเงิน รอบๆ นั้นเป็นชุดของเพชรแตกละเอียด ลักษณะเป็นรูปหัวใจ ภายใต้แสงเพชรสีน้ำเงินส่องแสงพริบพรับยิ่งกว่าเดิม
“ถ้าคุณได้ใส่คงต้องสวยแน่” จ่านมู่ฮวาพูด “หรือผมจะซื้อให้คุณดี?”
“เมื่อกี้คุณพูดว่า…หยกก้อนนั้น…” ซีเหมินจินเหลียนรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา สายตาจ้องไปที่ราคาของมัน เขาล้อเล่นอะไร ซื้อเพชรให้เธอเนี่ยนะ? เขาก็มีเงินเยอะเกินไปเหรอ? สิ่งที่เธอสนใจกว่านั้นคือราชาหยกต่างหาก
จ่านมู่ฮวาเห็นเช่นนั้นแล้วก็ถอนหายใจ ก่อนจะจูงมือเธอไปที่มุมที่ไม่มีใครสังเกตเห็น พร้อมพูดขึ้นว่า “หลินเจิ้งและฉินซินมีความสัมพันธ์กันทางธุรกิจ ตอนนี้แม้ว่าบริษัทหลินซื่อจิวเวอรี่จะถูกคุณซื้อไว้ แต่ฉินซินไปหาหลินเจิ้ง แล้วรู้มาจากปากเขาว่า เมื่อยี่สิบปีก่อนคุณปู่หลินเคยแอบส่งหินหยกชุดหนึ่งลับๆ ไปเก็บที่เจียงหนาน… ”