ความลับแห่งจินเหลียน - ตอนที 229 ไหสีเขียวสด
เหล่าหลี่มองไปทางซีเหมินจินเหลียนอย่างไม่เป็นมิตร ก่อนหัวเราะและพูดว่า “คุณซีเหมิน คุณสนใจผิวสีดำอีกานี้หรือเปล่าครับ?”
“เอ่อ…” ซีเหมินจินเหลียนรู้สึกว่าฝ่ามือของเธอมีเหงื่อแตกพลั่ก แต่ก็ยังคงยิ้มแน่วแน่แล้วพูดว่า “ฉันยังไงก็ได้ค่ะ เพราะอีกเดี๋ยวก็ยังต้องดูรายการหลักของวันนี้ ถ้าหากคุณอวิ๋นต้องการทั้งสองก้อนนี้ นั่นก็ดีมากเลยไม่ใช่เหรอคะ!”
อวิ๋นเจียคิดแค่ว่าอยากจะเลือกหินหยกในนั้นสักก้อนมาเล่นเท่านั้น เพราะอย่างไรอำนาจในการดูแลบริษัทหมิงฮุยจิวเวอรี่ก็ไม่ได้อยู่ที่เธอ แต่อยู่ที่อวิ๋นอวิ้น เพื่องานประมูลหยกใต้ดินที่พม่าครั้งนี้ อวิ๋นอวิ้นคงไม่ยอมมอบเงินก้อนใหญ่ขนาดนั้นให้อวิ๋นเจียลองฝีมือหรอก
จากที่เธอได้ยินจ่านป๋ายพูดมา อวิ๋นเจียเล่นกวาดตัดหินหยกทั้งหมดในถนนหยกโบราณ เกรงว่าคงต้องมีบางก้อนที่คุณภาพไม่ดี และเธอคงขายไปเสียตั้งแต่ตอนนั้นเพื่อรวบรวมเงินทุนไปเดิมพันหินใหม่ต่อ
ดังนั้นอวิ๋นเจียจึงไม่มีทางที่จะซื้อหินหยกทั้งสองก้อนนั้นในเวลาเดียวกัน เพราะอีกเดี๋ยวเธอยังต้องดูการประมูลหินหยกในคืนนี้อีก ไม่อย่างนั้นหากงานประมูลหยกในค่ำคืนนี้มีหินหยกลักษณะดีปรากฏขึ้นมา เธอคงได้ช้ำชอกใจแน่?
ส่วนฉินเฮ่าที่ได้ยินที่ซีเหมินจินเหลียนพูดอย่างนั้นแล้ว เขาก็ได้แต่ยิ้มและถามว่า “ลดหน่อยได้ไหมครับ”
“หากต้องการจริงๆ พวกคุณก็เสนอราคามาเถอะครับ” เหล่าหลี่ท่าทีลำพองใจ ทำให้ซีเหมินจินเหลียนกับอวิ๋นเจียที่มองอยู่รู้สึกไม่พอใจ…นี่มันจิ้งจอกเฒ่าชัดๆ!
“ยี่สิบล้าน!” ฉินเฮ่าพูด
“ไม่ได้หรอกครับ ราคานี้ต่ำเกินไป คุณเพิ่มอีกหน่อยเถอะ” ศีรษะของเหล่าหลี่สั่นเหมือนกลอป๋องแป๋ง “คุณจะให้ผมขาดทุนไม่ได้นะครับ คุณลองคิดดูสิ จุดหยกแบบนี้ ผิวแบบนี้ จากพะกันเชียวนะครับ!”
“ก็เพราะว่ามีลักษณะให้เห็นแบบนั้นผมถึงให้ยี่สิบล้าน” ฉินเฮ่ายิ้ม “ไม่อย่างนั้นหินก้อนหนึ่ง ผมจะให้ราคาขนาดนี้เลยหรือครับ?”
“ราคานี้ผมขายให้ไม่ได้หรอกครับ” เหล่าหลี่สีหน้าลำบากใจ ถอนหายใจแล้วพูดต่อว่า “เห็นแก่มิตรภาพที่เคยมีต่อกันมา สี่สิบแปดล้านเป็นอย่างไรครับ?”
“แพงเกินไป มากสุดผมให้ยี่สิบห้าล้าน!” ฉินเฮ่าเพิ่มราคาจากเดิม
จากนั้นทั้งคู่ก็เข้าสู่โหมดปะทะต่อรองราคากันไปมา ทีละล้านๆ ไปเรื่อยๆ ซีเหมินจินเหลียนก็ถอนหายใจออกมา ขอแค่พวกเขาไม่สนใจผิวสีดำอีกาก้อนนั้น หินหยกก้อนนี้พวกเขาจะขายเท่าไหร่ก็ไม่เกี่ยวกับอะไรเธอ
แต่เหนือความคาดหมาย เมื่อเหล่าหลี่ลดราคาลงเหลือสามสิบหกล้าน ถ้าน้อยกว่านี้เขาก็ไม่ยอมแล้ว แต่ฉินเฮ่าก็ยังเสนอราคามาที่สามสิบล้านอยู่ดี ทำให้ฉินเฮ่ากับอวิ๋นเจียต้องเดินออกไปเจรจากันอยู่ข้างนอก
ซีเหมินจินเหลียนยิ้มออกมา หรือว่าทั้งเนื้อทั้งตัวของอวิ๋นเจียจะมีแค่สามสิบล้าน?
“คุณซีเหมิน ไม่อย่างนั้นเราออกไปคุยราคาของหินหยกก้อนนี้กันข้างนอกดีไหมครับ?” เหล่าหลี่มองซีเหมินจินเหลียนกับจ่านป๋ายอยู่ด้วยกัน ก็ได้แต่ยิ้มและสื่อเป็นนัยไปทางหินหยกผิวสีดำอีกานั่น วันนี้ด้วยความไม่ตั้งใจ เขาได้ทำผิดกับเจ้าหญิงหยกไป เขาหวังว่าจะได้ชดเชยอะไรได้สักหน่อย เพราะในอนาคตก็ยังต้องทำธุรกิจกันอยู่!
“ค่ะ ฉันก็คิดอยู่เหมือนกัน” ซีเหมินจินเหลียนพูด “ในเมื่ออวิ๋นเจียไม่ต้องการ ก็ไม่นับว่าฉันทำผิดกฎใช่ไหมคะ?”
“แน่นอนอยู่แล้วครับ” เหล่าหลี่ได้ยินแล้วยิ้มแห้งๆ “อีกเดี๋ยวถ้าคุณอวิ๋นไม่ต้องการก้อนนี้ และคุณซีเหมินตัดสินใจที่จะซื้อก็สามารถซื้อไปได้เลยครับ”
ซีเหมินจินเหลียนยิ้มออกมาบางๆ แต่ไม่ได้พูดจาให้มากความ ถามกลับไปว่า “หินหยกก้อนนี้เท่าไหร่คะ”
เหล่าหลี่ลูบคางพลางถอนหายใจออกมา “คุณซีเหมินเป็นคนที่ผู้อาวุโสเจียแนะนำมา ผมไม่ให้ราคาเกินจริงหรอก คุณก็เห็นแล้วว่าผิวสีดำอีกาก้อนนี้ ความจริงลักษณะภายนอกก็เทียบเท่ากับหินหยกสีเทาขาว ขนาดก็เท่าๆ กัน ไม่มีใครได้เปรียบกว่ากันถูกไหมครับ?”
แม้ว่าซีเหมินจินเหลียนจะมีความคิดขัดแย้ง แต่เธอก็อดกลั้นและปั้นหน้ายิ้มต่อไป “คุณหลี่พูดไม่ผิดค่ะ แต่หินหยกสีอีกาดำก้อนนี้เป็นรองกว่าหน่อย ไม่อย่างนั้นคุณอวิ๋นคงไม่เลือกผิวสีเทาขาวก้อนนั้นหรอกจริงไหมคะ?”
เหล่าหลี่ยิ้มออกมาอย่างกระอักกระอ่วน “หากคุณซีเหมินต้องการจริงๆ ก็เป็นราคาเมื่อสักครู่นี้ สามสิบหกล้าน…ราคาเดิม น้อยกว่านี้ผมคงขายให้ไม่ได้แล้วล่ะครับ”
“สามสิบห้าล้าน ฉันเอาค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนยิ้ม ราคานี้เธอรับได้
เหล่าหลี่ตกตะลึง เดิมทีเขาคิดว่าซีเหมินจินเหลียนคงต่อรองราคาต่ำกว่านี้ แต่คิดไม่ถึงว่าเธอกลับใจกว้างกว่าอวิ๋นเจียตั้งเยอะ
“เจ้าหญิงหยกก็คือเจ้าหญิงหยกวันยันค่ำ ตกลงครับ!” เหล่าหลี่ยิ้มชอบพอ “หากคุณซีเหมินไม่สะดวก สามารถจ่ายเงินมัดจำก่อนได้ แล้วพรุ่งนี้ค่อยโอนมาก็ไม่มีปัญหา”
“หากคุณยินดีรับเงินสด ฉันก็พร้อมจ่ายตอนนี้เลยค่ะ” ซีเหมินจินเหลียนพูด
“แน่นอนครับ!” เหล่าหลี่ยิ้มแหะๆ บริษัทจินเหลียนจิวเวอรี่มีชื่อเสียงโด่งดังในตอนนี้ บวกกับที่ เจียหยวนฮวาเป็นคนแนะนำมา เขาเลยไม่มีอะไรที่ต้องกังวล
ซีเหมินจินเหลียนรีบควานหาเช็คเงินสดและเขียนราคาลงไปพร้อมยื่นไปให้
เหนือจากที่ซีเหมินจินเหลียนและจ่านป๋ายคาดการณ์ไว้ หลังจากฉินเฮ่าและอวิ๋นเจียเจรจากันเสร็จ พวกเขาก็ตัดสินใจที่จะไม่ซื้อ เหตุผลเพราะมีเงินติดตัวไม่พอ
ซีเหมินจินเหลียนแปลกใจ เบื้องหลังของอวิ๋นเจียเธอไม่รู้ แต่สำหรับฉินเฮ่าแค่เงินหลักสิบกว่าล้านถึงขั้นไม่ควักออกมาเชียวหรือ? แต่กลับยอมถอยไปง่ายๆ เสียอย่างนั้น? แต่เรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ คิดไปก็เท่านั้น เพราะสำหรับผิวสีเทาขาวก้อนนั้นเธอไม่มีทางซื้ออยู่แล้ว
กำลังจะหันตัวออกมาจากก้อนหิน สายตาก็ไปตกกับกับรูปทรงของหินหยกก้อนนั้นอย่างสงสัย
หินหยกก้อนนี้กับหินหยกผิวสีดำอีกาไม่เหมือนกัน หินหยกผิวสีดำอีกาไม่มีรูปทรงที่กำหนดได้ แต่ก้อนนี้แม้ว่าจะไม่ได้มีรูปทรงเท่าไหร่ แต่ก็ยังมีความเหลี่ยม โดยเฉพาะพื้นผิวที่วางอยู่บนพื้นอย่างราบเรียบ
ถ้าซื้อมันมาและเจียผิวออกมาให้หมด จากนั้นก็แซะหินบริเวณส่วนตรงกลางออกมา ทำของตกแต่ง ไม่สนว่าจะเป็นไหหรือว่าขวด แกะสลักด้วยลวดลายประณีต เกรงว่ามูลค่าคงมหาศาลแน่ เพราะนี่คือสีเขียวสดชนิดเนื้อแก้วอย่างแท้จริง
ชนิดดี น้ำดี ความโปร่งใสสูง บวกกับความเนียนลื่น มันต้องเป็นของชั้นดีพบเจอได้ยากแน่นอน
คิดได้เท่านี้ซีเหมินจินเหลียนหยุดฝีเท้าลง “คุณหลี่คะ ในเมื่อคุณอวิ๋นไม่ซื้อหินหยกผิวเทาขาวก้อนนั้นแล้ว แสดงว่าฉันก็สามารถซื้อได้ใช่ไหมคะ?”
“แน่นอนสิครับ!” คุณหลี่รีบพูด “สามสิบหกล้าน น้อยกว่านี้ไม่ได้แล้วนะครับ!”
ซีเหมินจินเหลียนได้ยินเช่นนั้นก็คิดถึงเมื่อสักครู่ที่อวิ๋นเจียต่อรองราคาไม่สำเร็จ ถ้าตัวเองอยากได้ราคาต่ำกว่านี้คงซื้อไม่ได้แน่ แต่…หินหยกก้อนนี้ก็คุ้มค่ามาก
แค่เธอลงแรงใช้งานฝีมืออย่างละเมียดละไม รับรองว่าต้องเป็นสมบัติล้ำค่าที่ไม่มีชิ้นที่สองบนโลกใบนี้ เมื่อถึงเวลานั้นก็คงไม่ใช่แค่ราคาสามสิบหกล้านแล้ว ของแบบนี้ไม่ใช่แค่เอาเงินทองเป็นตัวชี้วัดได้
หินก้อนแสงสีน้ำเงินเปล่งประกายแม้ว่าล้ำค่า แต่ก้อนนี้หากลงฝีมือสักหน่อยคงไม่ด้อยไปกว่ากัน