รักเล่ห์เร้นใจ - ตอนที่ 157 หลุมพรางที่ดิน
“ที่ดินผืนนี้อยู่ทางทิศตะวันตกของเมือง ค่อนข้างห่างไกลผู้คน การเดินทางก็ไม่สะดวก สภาพแวดล้อมก็ไม่ดีพอ ผมว่าไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด”
วันรุ่งขึ้น ในที่ประชุมความร่วมมือของวั่นหย่ากรุ๊ปและเทียนซิงกรุ๊ป คนที่เข้าร่วมประชุมพากันถกเถียงเพราะที่ดินผืนหนึ่ง
ธุรกิจของบ้านตระกูลเซียวกับตระกูลอันมีแผนความร่วมมือด้านโครงการอสังหาริมทรัพย์ร่วมกัน พวกเขากำลังวางแผนร่วมกันช่วงชิงที่ดินผืนหนึ่ง
“ที่ดินผืนนี้แม้จะประมูลในราคาต่ำ แต่มันไม่เหมาะกับโครงการความร่วมมือของเราที่จะสร้างบ้านพักคุณภาพชั้นเลิศในระดับไฮเอนด์ เราสามารถทุ่มเงินลงทุนที่สูงขึ้นเพื่อจะได้ผืนที่ดินที่ดีกว่านี้”
แต่ละคนต่างก็มีความคิดต่างกันไป แต่ความเห็นส่วนใหญ่คัดค้านการเข้าร่วมประมูลที่ดินผืนนี้
“ประธานเซียว คุณเห็นว่าไง?” อันจี๋อวี่หันมาถามเซียวจิ่งสือที่ไม่พูดอะไรเลย
อันจี๋อวี่เป็นลูกชายของอันโฮ่วสยง พ่อของอันซิง และเป็นผู้รับผิดชอบโครงการความร่วมมือระหว่างตระกูลเซียวกับตระกูลอันในครั้งนี้
ความร่วมมือครั้งนี้เขาออกปากขอมาจากอันโฮ่วสยงเอง เขาอยากจะใช้โอกาสนี้แสดงความสามารถให้อันโฮ่วสยงได้เห็นเป็นที่ประจักษ์สักหน่อย
เซียวจิ่งสือหมุนปากกาในมือ ท่าทางไม่เอาจริงเอาจังกับอะไร พอฟังคำพูดของอันจี๋อวี่ สายตาเซียวจิ่ง
สือหรุบต่ำลง แล้วหันมาทางอันจี๋อวี่ พูดว่า “ประธานอัน ความเห็นผมกับคนอื่นไม่ค่อยเหมือนกันสักเท่าไหร่ คุณอยากจะฟังจริงๆ เหรอ”
“งั้นเหรอ” อันจี๋อวี่ฟังแล้วรู้สึกประหลาดใจ “ประธานเซียวมีความเห็นอะไรก็พูดออกมาได้เต็มที่ พวกเราอยากจะลองฟังความคิดเห็นของคุณดูสักหน่อยน่ะ”
พออันจี๋อวี่พูดจบ ที่ประชุมก็เงียบสงบลง ผู้คนในที่ประชุมพากันหันมาทางเซียวจิ่งสือ อยากจะรู้ว่าเขามีความคิดเห็นที่ต่างไปอย่างไร
เซียวจิ่งสือวางปากกาลง รู้สึกได้ถึงสายตาที่พุ่งมารวมศูนย์บนร่างของเขา เซียวจิ่งสือวางท่าจริงจังขึ้นมา “ประธานอัน งั้นผมจะพูดไปตามจริงก็แล้วกัน”
“สภาพแวดล้อมของที่ดินผืนนี้ดูธรรมดาเพราะพื้นที่รอบข้างยังไม่ได้รับการพัฒนา ถ้าหากพวกเราได้ที่ดินผืนนี้มา แล้วพัฒนาพื้นที่รอบข้างก่อน นี่ก็อาจเป็นโอกาสที่ดีมากของเราเลยทีเดียว”
“แล้วก็ ที่ดินผืนนี้แม้จะอยู่ห่างไกลความเจริญ แต่รอบข้างเป็นธรรมชาติมีน้ำมีภูเขา พวกเราก็พัฒนาที่ผืนนี้ให้เป็นบ้านพักตากอากาศส่วนบุคคลได้ ลองคิดดูสิ บ้านพักตากอากาศแห่งนี้อยู่ห่างจากตัวเมืองที่จอแจวุ่นวาย มีสภาพแวดล้อมที่สงบเงียบ ทั้งยังมีความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยอย่างมาก อย่างนี้แล้วยังไม่เหมาะกับบ้านพักคุณภาพเลิศหรูระดับไฮเอนด์ของเราอีกงั้นเหรอ”
เซียวจิ่งสือพูดจบก็กวาดสายตามองทุกคนในที่ประชุม ประเมินดูท่าทีของพวกเขา
“ความคิดของประธานเซียวช่างโดดเด่นไม่เหมือนใครจริงๆ ” อันจี๋อวี่ฟังแล้วตาเป็นประกายวาววับ แจกคำชมไม่ยั้ง “จริงอยู่ที่ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์นี้ ส่วนใหญ่ล้วนต้องการโอกาสกันทั้งนั้น แต่โอกาสไม่ได้หล่นมาจากฟ้า ต้องไขว่คว้ามาด้วยตัวเอง เซียวจิ่งสือคุณทำให้เราได้เห็นความสามารถของคุณอย่างแท้จริง”
คนอื่นๆ ล้วนมีสีหน้าชื่นชม แม้แต่คนที่แต่แรกมีท่าทีที่ไม่ค่อยดีกับเซียวจิ่งสือนักก็ยังมองเขาด้วยสายตาแบบใหม่
แต่ว่า กลับมีคนที่เสนอความคิดที่แตกต่าง “แต่ว่า ถ้าหากพวกเราประมูลที่ผืนนี้ได้แล้ว ยังต้องใช้เงินทุนก้อนใหญ่ไปกับการพัฒนาที่ดินรอบข้างอีก ประธานเซียวเห็นว่า มันคุ้มค่าจริงเหรอครับ”
คนอื่นได้ฟังก็เห็นว่ามีปัญหาเช่นกัน ไม่อย่างนั้นหมู่บ้านบ้านพักตากอากาศสร้างเสร็จแล้ว แต่สาธารณูปโภคไม่สะดวก ก็จะส่งผลอย่างมากเช่นกัน
เซียวจิ่งสือตอบกลับอย่างไม่รีบร้อน “มีข่าวว่า รัฐบาลมีความตั้งใจว่าจะพัฒนาพื้นที่รอบข้างที่ดินผืนนี้เช่นกัน แม้เราจะยังไม่ทราบว่าเป็นโครงการอะไร แต่ผมคิดว่า ถ้าเราฉวยโอกาสนี้ประมูลที่ดินมา ไม่ว่าจะยังไงก็ไม่ขาดทุนหรอก”
“ประธานเซียว ข่าวนี้เชื่อถือได้แน่นะ?” อันจี๋อวี่ถามอย่างตกใจ
“แหล่งที่มาของข่าวน่าเชื่อถือ ประธานอัน คุณวางใจได้เลย” เซียวจิ่งสือพูดพลางผงกศีรษะกับเขา
“งั้นก็สุดยอดไปเลย!” อันจี๋อวี่อุทานอย่างดีใจ
จากนั้น อันจี๋อวี่ก็พูดกับคนในที่ประชุมว่า “อย่างนั้น โครงการความร่วมมือครั้งนี้ทั้งหมดดำเนินการตามแนวคิดของประธานเซียว ที่ดินผืนนี้ เราต้องประมูลมาให้ได้!”
ทุกคนในที่ประชุมต่างเห็นด้วยอย่างยิ่ง ไม่มีใครยืนยันความเห็นขัดแย้งอีก มีเพียงเซียวจิ่งสือเท่านั้น เมื่อฟังคำพูดนี้แล้ว เขายกมุมปากขึ้นเพียงเล็กน้อยจนเป็นรอยยิ้มที่แทบไม่อาจสังเกตเห็นได้
วันรุ่งขึ้น ผู้ช่วยของเซียวจิ่งสือก็รีบร้อนมารายงานกับเซียวจิ่งสือ “ท่านประธานเซียวครับ ตระกูลอันประมูลที่ดินผืนนั้นได้แล้วจริงๆ ใช้เงินทุนไปสามเท่าของแผนเดิม!”
“งั้นเหรอ?” เซียวจิ่งสือย้อนถามเสียงเรียบ แล้วถามอีกว่า “คนที่ผมให้คุณส่งตัวไป คุณจัดการเรียบร้อยแล้วใช่ไหม”
“ท่านประธานวางใจได้ครับ ผมจัดการเรียบร้อยแล้ว ตระกูลอันจะสืบไม่ได้ว่าคุณเป็นคนลงมือแน่” ผู้ช่วยตอบด้วยท่าทางนอบน้อม
เซียวจิ่งสือผงกศีรษะ ขณะที่ในใจคิดว่า ใช้เงินทุนมากกว่าแผนเดิมสามเท่ากว่า…ก็ร่วมร้อยล้าน ซื้อที่ดินธรรมดาผืนหนึ่ง อันจี๋อวี่นี่โง่ไปแล้วหรือไงกันนะ!
อันจี๋อวี่ประมูลได้ที่ดินผืนนี้แล้ว ยังรู้สึกประหวั่นใจอยู่มาก เงินทุนสามเท่าตัว สามารถซื้อที่ดินในทำเลและสภาพแวดล้อมที่ดียิ่งกว่านี้ได้เลย แต่ตอนประมูลมีคนของบริษัทอะไรไม่รู้สองคนคอยสู้ราคาขึ้นไปเรื่อยๆ เขานึกถึงคำพูดของเซียวจิ่งสือ จึงคิดว่าต้องประมูลที่ดินผืนนี้มาให้ได้ จึงสู้ราคากับพวกเขาอย่างไม่ยอมถอย จนสุดท้ายประมูลได้มาในราคาสูงขนาดนี้
อันจี๋อวี่คิดดูแล้วโทรหาเซียวจิ่งสือ แล้วบอกเขาเรื่องนี้อย่างใจไม่ดีนัก แต่ที่ไหนได้เซียวจิ่งสือได้ฟังแล้วกลับเป็นฝ่ายพูดปลอบเขา “ประธานอัน ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณคิดดูสิ ไม่แน่ว่าสองคนนั่นก็ได้ยินอะไรมาเหมือนกันจึงมาแย่งประมูลที่ดินผืนนั้น นี่ไม่ยิ่งเป็นการพิสูจน์ว่าที่ดินผืนนั้นจะเป็นทำเลทองในอนาคตหรอกเหรอครับ ในเมื่อคุณประมูลที่ดินมาแล้ว ไม่ว่าจะใช้เงินไปเท่าไหร่ ก็น่าจะสบายใจได้จึงจะถูก”
พอวางสายแล้ว อันจี๋อวี่รู้สึกว่าที่เซียวจิ่งสือพูดมาก็มีเหตุผล จึงสงบใจลงได้
อันที่จริงสองคนที่แข่งประมูลกับอันจี๋อวี่เป็นคนที่ผู้ช่วยของเซียวจิ่งสือจัดมา เป้าหมายคือยกราคาที่ดินให้สูงขึ้น ทำให้อันจี๋อวี่ต้องทุ่มเงินจำนวนมากยิ่งขึ้นกับการซื้อที่ดินผืนนี้
ที่ดินผืนนั้นความจริงแล้วไม่โดดเด่นอะไรนัก ทำเลที่ตั้งห่างไกลผู้คนมาก จนเหมือนกับเป็นที่ดินรกร้างว่างเปล่าทีเดียว สภาพรอบข้างเป็นธรรมชาติ ‘มีเขามีน้ำ’ จริงๆ เพียงแต่เป็นเนินดินเล็กๆ กับร่องน้ำแห้งขอด ส่วนข่าวที่จะมีการพัฒนาในอนาคตนั้น เขาแต่งเรื่องขึ้นเองทั้งหมด
อันจี๋อวี่ไม่ได้ลงพื้นที่จริงตรวจสอบ แค่ฟังคำพูดยกเมฆของเขาก็ยอมประมูลที่ดินผืนนี้โดยง่าย ช่างเหนือความคาดหมายเขาจริงๆ
ถ้าหากคนของบ้านตระกูลอันมีแต่คนไร้สมองแบบนี้ งั้นการที่เขาจะกำจัดบ้านตระกูลอันก็คงจะราบรื่นขึ้นอีกมากทีเดียว
เซียวจิ่งสือเห็นว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผนของเขาโดยราบรื่น ก็เรียกตัวผู้ช่วยเข้ามา
“ท่านประธานเซียว ท่านต้องการให้ผมทำอะไรครับ”
“แอบถอนเงินทุนทั้งหมดของบ้านตระกูลเซียวในการร่วมมือครั้งนี้ออกมาเงียบๆ ” เรื่องโง่ๆ แบบนี้ ปล่อยให้อันจี๋อวี่ทำไปคนเดียวเถอะ เขาไม่ขอร่วมด้วยหรอก
“แล้วก็ ไปสืบค้นวีรกรรมดำมืดของอันซิงเมื่อก่อนนี้ออกมาทั้งหมด” เซียวจิ่งสือเว้นวรรคไปครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น
“ครับ ท่านประธาน” ผู้ช่วยรีบออกไปทำตามคำสั่งของเซียวจิ่งสือ
เพียงไม่นานนัก วีรกรรมฉาวโฉ่ของอันซิงก็ถูกผู้ช่วยนำมาวางตรงหน้าเซียวจิ่งสือ ตั้งกองใหญ่เลยทีเดียว