รักเล่ห์เร้นใจ - ตอนที่ 161 คุกคาม
เซียวจิ่งสือพูดเสียงจริงจังว่า “เสี่ยวจาง คุณไปหานักข่าวมาหลายคนหน่อย เอาเรื่องที่อันซิงยกพวกอาละวาดหาเรื่องกับเรื่องเมาเหล้าแล้วอ่อยผู้ชายโพสต์ขึ้นอินเทอร์เน็ต นี่ไม่แค่ดึงดูดความสนใจเรื่องของพวกเราเท่านั้น ยังจะผลักภาระรับผิดชอบที่สองบริษัทเราไม่ร่วมมือกันอีกไปที่พวกเขา เรื่องนี้จัดการเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี”
“ครับ ประธานเซียว งั้นผมไปจัดการก่อนครับ” ผู้ช่วยพูดจบก็ออกจากห้องทำงานของเซียวจิ่งสือ
ที่จริงแล้วเซียวจิ่งสือไม่อยากจะนำเรื่องที่อันซิงยกพวกอาละวาดหาเรื่องกับเรื่องเมาเหล้าแล้วอ่อยผู้ชายมาบอกต่อกับผู้คน แต่ตอนนี้บนอินเทอร์เน็ตมีข่าวลือ ว่าเขาเป็นคนทรยศหักหลังกระจายออกไป เขาจึงต้องทำเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของผู้คน
เรื่องของอันซิงพอโพสต์ขึ้นอินเทอร์เน็ต ก็กลายเป็นจุดสนใจอย่างรวดเร็ว บ้านตระกูลอันกลายเป็นที่รังเกียจและด่าประณามของผู้คน ตลาดความต้องการของสินค้าของกลุ่มบริษัทตระกูลอันก็ลดลงไปมาก ตอนนี้กลุ่มบริษัทตระกูลอันสูญเสียความน่าเชื่อถือและศักดิ์ศรีไปแล้ว ด้วยฝีมืออันซิงเพียงคนเดียว ทำให้ผู้คนต่างเห็นว่าบ้านตระกูลอันสร้างกระแสวุ่นวายปั่นป่วนในสังคม
เรื่องนี้ก็ทำให้กลุ่มบริษัทบ้านตระกูลอันวุ่นวายมากเช่นกัน
อันโฮ่วสยงโมโหระเบิดลงที่ห้องทำงาน คนของบริษัทไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เขาอีก ต่างกลัวว่าอันโฮ่วสยงจะระบายความโกรธมาลงที่ตัวเอง
อันโฮ่วสยงด่ากราดเซียวจิ่งสืออยู่ในใจ อยากจะสับเขาเป็นหมื่นๆ ชิ้น อันโฮ่วสยงทนอยู่ที่บริษัทไม่ได้ คิดว่าต้องทำอะไรสักอย่าง เขาตัดสินใจไปหาหลินหว่าน
อันโฮ่วสยงรู้ว่าเซียวจิ่งสือชอบหลินหว่านจริงๆ ขอเพียงลงมือกับหลินหว่าน เซียวจิ่งสือย่อมจะทำอะไรบริษัทเขาอีกไม่ได้ เซียวจิ่งสือต้องยอมอ่อนข้อเพื่อหลินหว่าน
อันโฮ่วสยงมาถึงบ้านของหลินหว่าน
หลินหว่านเห็นเป็นอันโฮ่วสยง ก็สะดุ้งตกใจและรู้ว่าเรื่องนี้คงไม่ง่ายขนาดนั้น
หลินหว่านคิดว่าในขณะที่เธอยังไม่รู้ที่มาที่ไปของเรื่อง ยังคงปฏิบัติต่อเขาอย่างแขกที่มาเยี่ยมคนหนึ่งก็แล้วกัน
หลินหว่านพูดด้วยสีหน้าสงสัยว่า “ไม่ทราบว่าคุณมาหาฉันมีอะไรเหรอคะ? เชิญนั่งก่อนค่ะ ฉันจะไปยกน้ำดื่มมาให้”
อันโฮ่วสยงนั่งลงบนโซฟาด้วยสีหน้าเย็นชา รอให้หลินหว่านเดินมาหาจึงเตรียมจะพูดกับเธอ
อันโฮ่วสยงยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ พูดว่า “หลินหว่าน ไม่ต้องต้อนรับฉันดีขนาดนี้ก็ได้ พอฟังฉันพูดจบ เธอก็จะเกลียดฉัน หรืออาจไล่ฉันออกไปเลยก็ได้”
หลินหว่านหุบยิ้มฉับ เธอรู้สึกสังหรณ์ใจชอบกล
หลินหว่านพูดเสียงเบาว่า “สวัสดีค่ะ คุณมีเรื่องอะไรก็พูดออกมาเลยค่ะ”
หลินหว่านยิ่งคิดก็ยิ่งว้าวุ่นใจ กลัวว่าคำพูดของชายตรงหน้านี้เธอจะรับไม่ได้
อันโฮ่วสยงพูดเรื่อยๆ ว่า “หลินหว่าน เดิมทีเรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอหรอก ถ้าจะโทษก็ต้องโทษเซียวจิ่งสือที่มีความสัมพันธ์ที่พิเศษกับเธอ เนื่องจากพวกเรากลุ่มบริษัทตระกูลอันมีเซียวจิ่งสือคอยก่อกวนอยู่เบื้องหลัง ทำให้ตอนนี้บริษัทเราตกอยู่ในภาวะวิกฤต เครือข่ายกิจการของตระกูลอันตอนนี้ชื่อเสียงเสียหายหนักยอดขายตกฮวบ ถึงแม้ตอนนี้บริษัทจะกลายเป็นอย่างนี้แล้ว เซียวจิ่งสือก็ดูเหมือนจะยังไม่ยอมหยุดการบ่อนทำลายบริษัทของเรา”
หลินหว่านรู้ว่าสาเหตุที่อันโฮ่วสยงมาหาเธอ เพราะอยากจะให้เธอช่วยเขาพูดเกลี้ยกล่อมเซียวจิ่งสืองั้นเหรอ? หลินหว่ารู้ว่าคนของบ้านตระกูลอันปกติก็ไม่ใช่คนดีนัก ดังนั้นเธอจึงไม่อยากเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
หลินหว่านพูดกับอันโฮ่วสยงว่า “ฉันจะไม่ไปพูดเกลี้ยกล่อมเซียวจิ่งสือให้พวกคุณหรอก เขาทำแบบนี้ย่อมจะมีเหตุผลของตัวเอง ฉันย่อมสนับสนุนการตัดสินใจของเขา หวังว่าคุณจะไม่มาหาฉันอีกนะคะ”
อันโฮ่วสยงโมโหขึ้นมาบ้าง เมื่อเห็นท่าทีของหลินหว่านที่ปฏิบัติต่อเขาแบบนี้
เขาพูดขึ้นมาว่า “หลินหว่าน เธอยังไม่ต้องรีบร้อนปฏิเสธฉัน ครั้งนี้การที่ฉันกล้ามาหาเธอ แน่นอนว่าฉันมีจุดอ่อนของเธออยู่ในมือ เรื่องของแม่เธอไง ตอนนี้เธอน่าจะเข้าใจแล้วล่ะมั้ง ถ้าเธอไม่ไปพูดเกลี้ยกล่อมเซียวจิ่งสือให้หยุดโจมตีบริษัทของเรา ฉันจะเอาเรื่องในอดีตของแม่เธอมาตีแผ่ต่อหน้าสาธารณชนอีกครั้ง เอาให้ยิ่งใหญ่อลังการไปเลย ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องน่ากลัวอะไรขึ้นบ้างนะ”
หลินหว่านเบิ่งตากลมกว้าง เธอคิดไม่ถึงว่าอันโฮ่วสยงจะใช้เรื่องแม่ของเธอมาข่มขู่เธอ ชั่วขณะนั้นหลินหว่านไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี แม่เธอเป็นจุดตายของเธอจริงๆ ซะด้วย
หลินหว่านนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง เหม่อมองอันโฮ่วสยงนิ่งอยู่
อันโฮ่วสยงลุกขึ้นยืนยิ้มเย็นชาแล้วพูดว่า “หลินหว่าน ฉันเชื่อว่าเธอเป็นคนฉลาด รู้ดีว่าควรจะทำอย่างไร ในเมื่อพูดจบแล้ว ฉันก็ไปล่ะ”
หลินหว่านมองดูเงาหลังของอันโฮ่วสยงจากไป กำหมัดแน่น เธอเกลียดการถูกคนอื่นข่มขู่เป็นที่สุด แต่ตอนนี้เธอกลับต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้
หลินหว่านคิดเรื่องนี้กลับไปกลับมาหลายตลบ เธอไม่กล้าไปพบเซียวจิ่งสือด้วยซ้ำ
อีกทางหนึ่งก็รู้ว่าโอกาสครั้งนี้ของเซียวจิ่งสือได้มาไม่ง่ายเลย บางทีเขาใกล้จะล้มเครือบริษัทตระกูลอันได้อยู่แล้ว หลินหว่านตัดใจไม่ขาด เธอไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี จะไปขอให้เซียวจิ่งสือยั้งมือให้บ้านตระกูลอันดีไหม
วันนี้พอดีกับเซียวจิ่งสือนัดหลินหว่านออกไป หลินหว่านรู้สึกอึดอัดเมื่ออยู่ต่อหน้าเซียวจิ่งสือ รู้สึกว่าการที่ตัวเองไปพบอันโฮ่วสยงเป็นการส่วนตัวเป็นเรื่องผิดต่อเซียวจิ่งสืออยู่บ้าง ในตอนทานข้าวหลินหว่านมัวแต่คิดเรื่องนี้อยู่ทำอะไรก็ผิดพลาดตกหล่นไปหมด ดูแล้วป้ำๆ เป๋อๆ เหม่อลอยอยู่บ้าง
เซียวจิ่งสือสังเกตเห็นความผิดปกติทั้งหมดนี้ เขาเข้าใจหลินหว่านดี ตอนที่เธอเพิ่งเข้ามาเขาก็ดูออกแล้วว่าหลินหว่านมีเรื่องปิดบังเขา
“หลินหว่าน คุณบอกผมได้ไหมว่าเจอเรื่องลำบากอะไรเข้า? วันนี้ผมรู้สึกว่าคุณผิดไปจากเดิม มีเรื่องอะไรก็บอกผม ผมจะช่วยคุณเต็มที่เลย แต่ผมรู้สึกว่าเหมือนคุณมีเรื่องปิดบังผม ไม่กล้าสบสายตาผม คุณยิ่งทำแบบนี้ผมก็ยิ่งอยากรู้มากขึ้น บอกผมไม่ได้เหรอว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?” เซียวจิ่งสือพูดพลางมองดูหลินหว่านด้วยสายตาอ่อนโยน
หลายวันมานี้หลินหว่านทุกข์ใจกับเรื่องนี้มาตลอด เมื่อเธอได้ยินเซียวจิ่งสือพูดเช่นนี้ ก็ไม่รู้ว่าเพราะซาบซึ้งใจหรืออะไร น้ำตาเธอไหลพรากออกมา
“อันโฮ่วสยงมาหาฉัน เขาขู่ฉันเรื่องของแม่ จะให้ฉันห้ามคุณไม่ให้โจมตีบริษัทของเขาอีก แต่ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าควรจะทำอย่างไรดี ฉันไม่อยากห้ามคุณแต่ก็กลัวว่าเรื่องของแม่จะถูกขุดคุ้ย” หลินหว่าพูดเสียงเครือ
เซียวจิ่งสือปลอบหลินหว่าน พอถึงบริษัท เขาก็รีบหยุดแผนจัดการบ้านตระกูลอันไปบางส่วน เขาไม่อยากให้หลินหว่านต้องมารับเคราะห์เพราะเรื่องของเขา จึงหยุดการลงมือกับบ้านตระกูลอัน
หลินหว่านก็รู้เรื่องนี้ และเธอก็ขอบคุณเซียวจิ่งสือที่เข้าใจความรู้สึกของเธอ
เซียวเฉียงพอรู้เรื่องนี้ เขาไม่พอใจหลินหว่านอย่างมาก จึงไปหาหลินหว่าน ทั้งสองนัดพบกันที่ร้านกาแฟที่อยู่ลับตาคนแห่งหนึ่ง
เซียวเฉียงพูดกับหลินหว่าน “หลินหว่าน ฉันรู้ว่าเธอชอบเซียวจิ่งสือ แต่ถ้าอยู่ข้างกายเขาแล้วเป็นการทำร้ายเขา ฉันก็หวังว่าเธอจะไปจากเซียวจิ่งสือเอง อย่าสร้างเรื่องยุ่งยากอะไรให้เขาอีก”
หลินหว่านเดาได้เลยว่าเซียวเฉียงมาหาเธอด้วยเรื่องนี้ แต่เมื่อเธอตัดสินใจแล้วกลับพูดไม่ออก หลินหว่านก้มหน้านึกถึงเซียวจิ่งสือ แอบนึกเจ็บปวดใจ