รักเล่ห์เร้นใจ - ตอนที่ 164 น้ำโหของท่านประธานใหญ่เซียว
เซียวเฉียงพบว่าเซียวจิ่งสือถึงกับกล้าวางสายของเขา ก็รู้สึกโกรธมาก
เขาเป็นคนมอบภารกิจซื้อกิจการเทียนซิงกรุ๊ปให้กับเซียวจิ่งสือเอง เขาย่อมจะรู้ว่าด้วยบุญคุณความแค้นของบ้านตระกูลอันกับหลินหว่าน เซียวจิ่งสือจะไม่ยอมรับปากแน่
ในตอนแรก เป็นอย่างที่เขาคาดเอาไว้ เซียวจิ่งสือแสดงออกว่ากระตือรือร้นอย่างมากต่อการซื้อกิจการเทียนซิงกรุ๊ป เขาบีบตระกูลอันทุกทางมาตลอด ราคาหุ้นของเทียนซิงกรุ๊ปล่วงดิ่งลงแบบฉุดไม่อยู่ภายในเวลาไม่กี่วันเท่านั้น
ความสำเร็จที่จะได้ซื้อเทียนซิงกรุ๊ปมาอยู่ตรงหน้า แต่จู่ๆ เซียวจิ่งสือกลับมาบอกว่าเขาตัดสินใจหยุดการซื้อกิจการของเทียนซิงกรุ๊ป เซียวเฉียงรู้สึกไม่เข้าใจเอามากๆ ว่าเพราะอะไรกันแน่ ท่าทีของเซียวจิ่งสือจึงเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือในเวลาเพียงชั่วพริบตาเท่านั้น
เขาเรียกหาพ่อบ้านอย่างโมโห ให้พ่อบ้านไปสืบมาว่าระยะนี้เซียวจิ่งสือพบกับใครมาบ้าง ทำอะไรบ้าง ทำไมจึงเกิดการพลิกผันขนาดนี้
พ่อบ้านส่งคนไปสืบจนได้ความแล้ว กลับมารายงานเซียวเฉียงด้วยอาการลังเล “นายท่าน นายน้อยเขา…เขา…”
“เขาทำไม?” เซียวเฉียงเห็นท่าทางยึกยักของพ่อบ้านแล้วถามอย่างรำคาญ
“เมื่อวานนายน้อยเขา…อยู่กับคุณหลินตลอดเวลา” พ่อบ้านรายงานไปตามจริง
“หลินหว่าน?” เซียวเฉียงได้ฟังคำพูดของพ่อบ้านก็ขมวดคิ้วฉับ “ไอ้ลูกหัวดื้อ!”
ต้องเป็นหลินหว่านแน่ ที่พูดอะไรให้เซียวจิ่งสือเปลี่ยนความตั้งใจกะทันหันขนาดนี้! นอกจากนี้แล้วเซียวเฉียงนึกไม่ออกว่าจะมีเหตุผลอะไรที่เปลี่ยนการตัดสินใจของเซียวจิ่งสือได้
เซียวเฉียงคิดพลาง โมโหจนเขวี้ยงถ้วยชาใกล้มือไปใบหนึ่ง
พ่อบ้านแอบถอนใจเฮือก จากนั้นเรียกคนงานมาเก็บกวาดทำความสะอาด ชุดถ้วยชาหายากคิดจะ
เขวี้ยงก็เขวี้ยงทิ้ง ดูท่าว่านายท่านจะไม่ชอบคุณหลินเอามากๆ เลยนะ
“พ่อบ้าน ให้คนรถเตรียมเอารถออก ฉันจะไปบริษัทของเซียวจิ่งสือ” เสียงของเซียวเฉียงดังขึ้น ยังบอกถึงอารมณ์โกรธนั้นอยู่
“ครับ” พ่อบ้านรับคำอย่างนอบน้อม จากนั้นออกไปถ่ายทอดคำสั่งของเซียวเฉียงด้วยอาการหวาดหวั่น
เซียวเฉียงมาถึงบริษัทของเซียวจิ่งสือ ทำเอาเหล่าพนักงานบริษัทพากันแตกตื่นไม่ได้ตั้งตัวกันทีเดียว พวกเขาต่างพากันรีบเร่งทำงานในมือของตัวเองด้วยท่าทีหวั่นเกรง เนื่องจากนี่เป็นพ่อของเจ้านายพวกเขา ผู้ก่อตั้งวั่นหย่ากรุ๊ป ผู้กุมอำนาจสิทธิ์ขาดของบ้านตระกูลเซียว! ถ้าหากเขาเกิดไม่ชอบหน้าใครขึ้นมา ก็สามารถไล่ออกได้ทุกเมื่อ
พวกพนักงานบ้างคอยจ้องมาที่เซียวเฉียงอย่างเคารพนบนอบ บ้างก็แอบมองเขาอย่างหวาดๆ และบ้างก็มองสำรวจอย่างประหลาดใจ เซียวเฉียงไม่ได้มองคนพวกนั้นเลยสักแวบเดียว เขาเดินตรงดิ่งเข้าห้องทำงานของเซียวจิ่งสือ จากนั้นปิดประตูห้องดัง ‘ปัง’ ทิ้งพ่อบ้านกับคนขับรถที่มาด้วยไว้ด้านนอก
เซียวจิ่งสือได้ยินเสียงดังขนาดนี้ ก็เงยหน้าขึ้นมอง แล้วถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “พ่อ ทำไมมานี่ได้?”
เซียวเฉียงมองเซียวจิ่งสืออย่างโมโห เค้นถามเขาว่า “เมื่อวานแกอยู่กับหลินหว่านตลอดเลยเหรอ?”
“ครับ” เซียวจิ่งสือตอบตามจริง จากนั้นขมวดคิ้ว พูดอีกว่า “พ่อครับ ในเมื่อพ่อก็สืบมาแล้ว งั้นคำถามที่พ่อเองก็รู้คำตอบดีอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องถามหรอกครับ”
นี่มันชัดเจนมาก พอเขาบอกพ่อว่าตัดสินใจหยุดการซื้อเทียนซิงกรุ๊ป พ่อเขาก็มาบริษัทเค้นถามว่าเมื่อวานเขาอยู่กับหลินหว่านหรือเปล่า นี่เป็นการบอกว่าพ่อเขาได้สืบทราบความเคลื่อนไหวของเขาในช่วงหลายวันนี้จนแจ่มแจ้งชัดเจนแล้ว และสงสัยว่าหลินหว่านทำให้เขาเปลี่ยนความตั้งใจที่จะซื้อกิจการของเทียนซิงกรุ๊ป
เซียวเฉียงถูกคำพูดของเซียวจิ่งสือจุดประกายความโกรธขึ้นอีก เขาลดดีกรีความฉุนเฉียวลง ถามอีกว่า “ดี งั้นฉันถามแกว่า เมื่อวานหลินหว่านพูดอะไรกับแกเหรอ เธอให้แกปล่อยมือจากเทียนซิงกรุ๊ปงั้นสินะ?”
“ถ้าใช่แล้วจะทำไม? หรือถ้าไม่ใช่แล้วจะทำไม?” เซียวจิ่งสือคัดง้างกับพ่อของเขา “พ่อ สรุปก็คือ เรื่องการซื้อเทียนซิงกรุ๊ปนี่ผมตัดสินใจวางมือแล้ว พ่อไม่ต้องยุ่งยากลำบากใจเรื่องนี้อีกแล้ว”
“แก…แกนี่มันน่าโมโหนัก!” เซียวเฉียงเห็นว่าเซียวจิ่งสือยอมรับอย่างเปิดเผยว่าเขายอมวางมือจากเทียนซิงกรุ๊ปเพราะหลินหว่าน กลับยิ่งโมโหหนักกว่าเดิม “เซียวจิ่งสือ ฉันเลี้ยงดูสั่งสอนแกมาอย่างลำบากจนโตขนาดนี้ ไม่ใช่ให้แกมายั่วน้ำโหฉันเพื่อผู้หญิงคนหนึ่ง!”
“แกเป็นผู้สืบทอดกิจการในอนาคตของบ้านตระกูลเซียว ต่อไปต้องดูแลวั่นหย่ากรุ๊ปและกิจการทั้งหมดของตระกูลเซียว ทำไมแกถึงยอมละทิ้งผลประโยชน์ตรงหน้าเพื่อผู้หญิงคนหนึ่งแบบนี้ล่ะ?” เซียวเฉียงพูดกับเซียวจิ่งสืออย่างขัดเคืองที่ไม่ได้ดั่งใจ
“พ่อ…” เซียวจิ่งสือกำลังจะโต้กลับ ก็ได้ยินเสียงแค่นหัวเราะของพ่อเขา เยาะหยันว่า “เมื่อวานหลินหว่านพูดถึงพ่อแม่ของเธอให้แกฟังหรือเปล่า?”
เซียวจิ่งสือได้ยินก็รู้สึกประหลาดใจมาก เขากับหลินหว่านคุยกันทำไมพ่อเขารู้ด้วย? เซียวจิ่งสือมองพ่อเขาอย่างสงสัย “พ่อรู้ได้อย่างไร?”
“แกยังดูไม่ออกหรือไง? หลินหว่านเธอใช้ประโยชน์จากแก! ใช้แกให้แก้แค้นบ้านตระกูลอันแทนพ่อแม่ของเธอ!” เซียวเฉียงเห็นว่าส่วนหนึ่งของสาเหตุเป็นไปตามความคาดหมายของเขา ก็พูดกับเซียวจิ่งสืออ่อนใจ
“เป็นไปได้อย่างไรกัน? หว่านหว่านไม่ใช่คนแบบนั้น” เซียวจิ่งสือรีบแย้งขึ้น
“ฮึ! ตอนนี้พ่อแม่ของหลินหว่านอยู่ในมือของบ้านตระกูลอัน เธอย่อมจะหวังให้แกยอมปล่อยบ้านตระกูลอัน แต่ว่าแกจะไม่รู้ได้อย่างไร เมื่อก่อนตอนที่แกเผชิญหน้ากับบ้านตระกูลอัน เธอขัดขวางแกหรือเปล่า เธอกำลังใช้ประโยชน์แกอยู่หรือเปล่า!” เซียวเฉียงพูดอย่างขุ่นเคือง
หลินหว่านจะเป็นคนแบบนี้ไปได้อย่างไรกันนะ? เซียวจิ่งสือไม่เชื่อคำพูดของพ่อ แต่กลับได้ยินพ่อเขาพูดว่า “แกดูตัวแกซิ สารรูปแกตอนนี้มันถูกความรักบดบังจนตามืดบอดไปหมด คิดอะไรไม่เป็นแล้ว ช่างเหมือนกับพวกผู้หญิงโง่ๆ ไร้สมองที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อความรักพวกนั้น! ฉันจะบอกแกนะ ต้องมีสักวันที่แกจะได้รู้ว่าหลินหว่านเป็นจอมหลอกลวง เธอหลอกใช้แกมาตลอด! ถึงตอนนั้น แกอย่ามานั่งเสียใจทีหลังก็แล้วกัน!”
พูดจบ เซียวเฉียงก็มองเซียวจิ่งสือด้วยสายตาขัดเคืองใจแต่พูดไม่ออก จากนั้นสะบัดหน้าจากไป
เซียวเฉียงจากไปแล้ว เซียวจิ่งสือก็พลิกดูเอกสารในมือต่อ เพียงแต่ในใจเขารู้สึกเหมือนถูกบางอย่างรบกวนจิตใจอยู่ตลอดเวลาจนไม่อาจสงบใจลงได้
พักเที่ยง เซียวจิ่งสือนึกถึงคำพูดของพ่อเขา จึงตัดสินใจว่าจะโทรคุยกับหลินหว่านให้ชัดเจนกันไปเลย เขาหยิบโทรศัพท์มือถือมาโทรหาหลินหว่าน แต่ก็มีเสียง ‘ตู๊ด’ ‘ตู๊ด’ ดังจากปลายสาย ตามมาด้วยเสียงจากระบบว่าไม่มีผู้รับสาย
เซียวจิ่งสือโทรหาอีกหลายครั้ง ยังคงเป็นเช่นเดิม เขาสงสัยมาก ทำไมหลินหว่านไม่รับสายเขานะ?
เซียวจิ่งสือจึงไปที่บ้านของหลินหว่านซะเลย พร้อมกันนั้นก็ให้ผู้ช่วยส่งคนออกไปหาตัวเธอตามสถานที่ที่เธอไปเป็นประจำ
แต่ว่า ผลสุดท้ายกลับทำให้เซียวจิ่งสือตื่นตกใจสุดๆ …หลินหว่านหายตัวไปแล้ว!
เซียวจิ่งสือกลัวว่าหลินหว่านอาจเจอกับอันตรายอะไรเข้า จึงเพิ่มกำลังคนออกไปค้นหาตัวเธอ ส่วนตัวเองก็ไปหาหลินหว่านตามสถานที่ในความทรงจำของพวกเขา แต่ไม่นานนัก เขาก็ได้รับโทรศัพท์จากผู้ช่วย ยังไม่มีข่าวของหลินหว่าน
เซียวจิ่งสือโมโหและร้อนใจมาก ตวาดใส่ผู้ช่วยว่า “จำไว้นะ ไม่ว่าพวกคุณจะใช้วิธีการอะไร ต้องหาตัวหลินหว่านให้พบ หาไม่เจอก็หาต่อไป จนกว่าจะพบตัวเธอ!”