รักเล่ห์เร้นใจ - ตอนที่ 194 ตัวแทน
หลังจากอินเสี่ยวเสี่ยวกับฮั่วเทียนอวี่มาทำงานที่บริษัทของเซียวจิ่งสือ พวกพนักงานในบริษัทต่างพากันฮือฮายกใหญ่
เนื่องจากอินเสี่ยวเสี่ยวหน้าเหมือนกับหลินหว่านเกินไปจริงๆ! ไม่ใช่สิ เหมือนกันเด๊ะ เลยต่างหาก!
แม้แต่บุคลิกท่าทางนุ่มนวลและแน่วแน่ของเธอก็เหมือนกับหลินหว่านทุกประการ
แต่ว่าพนักงานของบริษัททุกคนต่างรู้ดีว่าหลินหว่านตกทะเลไปแล้ว หาตัวอย่างไรก็ไม่พบ ดังนั้นพวกเขาจึงพากันเข้าใจว่าอินเสี่ยวเสี่ยวเป็นคนที่ท่านประธานของพวกเขาหามาเป็นตัวแทนหลินหว่านด้วยความคิดถึงเธอ
ดังนั้น พวกเขาจึงรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมต่อหลินหว่าน
แม้หลินหว่านจะหายสาบสูญไปชั่วคราว แต่ก็แค่หายตัวไป พวกเขาเห็นว่า หลินหว่านต้องกลับมาอีกแน่! ดังนั้น จะให้พวกเขายินดีต้อนรับอินเสี่ยวเสี่ยว แม่ตัวแทนที่โผล่เข้ามาแทรกกลางได้อย่างไรกัน?
แต่ก็มีบางคนที่ไม่คิดแบบนี้
หลินหว่านตกไปในทะเล ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร ซึ่งก็น่าจะจมน้ำเสียชีวิตไปแล้ว พวกผู้หญิงในบริษัทตั้งเท่าไหร่ ที่พอได้ข่าวว่าหลินหว่านตกทะเลไปก็ตื่นเต้นดีใจจนลืมตัว ต่างพากันกระเ**้ยนกระหือรือเตรียมเข้าเสียบแทนอยู่นี่ แต่พวกเธอยังไม่ทันดีใจได้ไม่กี่วัน จู่ๆ เซียวจิ่งสือก็พาอินเสี่ยวเสี่ยวที่เหมือนกับหลินหว่านเป๊ะจนเป็นตัวแทนได้กลับมา ทำให้พวกเธอไม่พอใจเอามากที่ต้องชวดโอกาสอีกจนได้
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่ในบริษัทก็รู้สึกไม่ชอบหน้าอินเสี่ยวเสี่ยวเป็นอย่างมาก ทุกวันเป็นต้องขยันหาเรื่องสร้างความลำบากให้เธออยู่เรื่อย
“สวัสดีค่ะ ประธานเซียว คุณต้องอะไรเหรอคะ” วันนี้ ขณะทำงานอินเสี่ยวเสี่ยวได้รับโทรศัพท์สายในจากห้องทำงานของประธานบริษัท
“จัดเรียงเอกสารเมื่อตอนเช้าแล้วส่งมาให้ผมที่ห้องทำงานนะ” เซียวจิ่งสือพูดจบก็วางสาย
อินเสี่ยวเสี่ยวในฐานะที่เป็นพนักงานบริษัทของเซียวจิ่งสือ ได้แต่ทำตามคำสั่งของเขา จัดเรียงเอกสารของเมื่อตอนเช้า แล้วส่งไปให้เขาที่ห้องทำงาน
แต่ว่า ที่เธอไม่เข้าใจก็คือ คนในออฟฟิศมีตั้งมากมาย ทำไมเซียวจิ่งสือต้องให้เธอไปส่งเอกสารให้ทุกครั้งเลยนะ?
พออินเสี่ยวเสี่ยวไปแล้ว พนักงานอื่นๆ ในออฟฟิศก็รีบล้อมวงกันเข้ามาเมาท์กันเสียงขรม
“ฮึ ท่านประธานเซียวให้เธอไปส่งเอกสารที่ห้องทำงานทุกครั้งเลย ไม่รู้ว่าเธอมีอะไรดีนักนะ ก็แค่หน้าเหมือนหลินหว่านเท่านั้นไม่ใช่เหรอไง” พนักงานตัวเล็กๆ คนหนึ่งพูดอย่างขุ่นเคือง
“เห่ย เขาแค่หน้าเหมือนหลินหว่านนี่ก็เกินพอแล้ว” มีคนพูดเสริมขึ้น “แต่ฉันว่านะ หล่อนก็เป็นได้แค่ตัวแทนเท่านั้นล่ะ พอหลินหว่านกลับมาแล้ว หล่อนก็ต้องม้วนเสื่อกลับบ้านอยู่ดี!”
“หลินหว่านตกทะเลไปแล้ว ยังจะกลับมาได้อีกหรือไง?” พนักงานที่พูดขึ้นก่อนหน้าฟังแล้วทนไม่ไหวแย้งขึ้น
“จะพูดอย่างนั้นก็ไม่ได้นะ แค่หาตัวหลินหว่านไม่เจอ ทำไมจะกลับมาไม่ได้ล่ะ?” ตอนนั้นก็มีคนพูดแทรกขึ้น
“ว่าแต่อินเสี่ยวเสี่ยวนี่ หล่อนไม่รู้หรือไงว่าตัวเองเป็นแค่ตัวแทนน่ะ? พอท่านประธานเซียวเบื่อเธอ จะช้าเร็วก็ต้องทิ้งเธอไปอยู่ดี!”
“นั่นสิ! ท่านประธานมีผู้หญิงห้อมล้อมตั้งมากมายขนาดนั้น ทำไมต้องหาตัวแทนด้วยนะ?”
……
ก่อนที่อินเสี่ยวเสี่ยวจะกลับมา ภายในออฟฟิศก็หยุดการเมาท์เรื่องของเธอ
เพียงแต่ว่า ด้วยเรื่องที่คุยกันเมื่อครู่ ทำให้คนในออฟฟิศเกิดความรู้สึกแบ่งพรรคแบ่งพวกกับเธอขึ้นมา
“เสี่ยวเสี่ยว เธอช่วยชงกาแฟให้ฉันหน่อยได้ไหม” มีคนเอ่ยถามอินเสี่ยวเสี่ยว
ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน หลินหว่านต้องปฏิเสธคำขอที่ไร้เหตุผลแบบนี้ไปตรงๆ อย่างไม่กลัวเกรง แต่ตอนนี้ อินเสี่ยวเสี่ยวเป็นเพียงพนักงานตัวเล็กๆ ที่ทำงานในออฟฟิศของเซียวจิ่งสือเท่านั้น เธอไม่อาจมีเรื่องกับคนอื่นได้ จึงได้แต่รับปากว่า “ได้ค่ะ”
“ขอบคุณนะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ” อินเสี่ยวเสี่ยวพูดจบ กำลังเตรียมจะไปชงกาแฟที่ห้องแคนทีน ตอนนั้นเอง เสียงเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ก็ดังขึ้น “เสี่ยวเสี่ยว ชงให้ฉันด้วยแก้วหนึ่ง”
“ฉันด้วย ฉันด้วย” “งั้นช่วยชงให้ฉันสักแก้วด้วยแล้วกัน” “เพิ่มของฉันอีกแก้ว”
“ได้ค่ะ…” อินเสี่ยวเสี่ยวเห็นว่าปฏิเสธไม่ได้ จึงได้แต่ไปที่ห้องแคนทีน เพื่อชงกาแฟให้ทุกคนคนละแก้ว แล้วยกไปให้พวกเขา
อินเสี่ยวเสี่ยวชงกาแฟเสร็จ เพิ่งกลับมานั่งที่โต๊ะของตัวเอง ก็มีเพื่อนร่วมงานมาหาอินเสี่ยวเสี่ยว ยกเอกสารกองโตมาวางตรงหน้าเธอ พูดด้วยท่าทางร้อนใจว่า “เสี่ยวเสี่ยว เธอช่วยฉันส่งเอกสารพวกนี้ไปที่ห้องทำงานของผู้จัดการฝ่ายเงินให้หน่อยได้ไหม ฉันยังต้องทำรายงานอีก เอกสารต้องส่งไปด่วนเลย ฉันแยกร่างไปไม่ได้จริงๆ ”
“ได้ค่ะ ฉันจะช่วยส่งไปให้นะคะ” อินเสี่ยวเสี่ยวพอฟังว่าเป็นเรื่องด่วน ก็รับปากทันที
“ขอบคุณจริงๆ นะ เสี่ยวเสี่ยว” เพื่อนร่วมงานนั้นเอ่ยขอบคุณ ขณะที่สายตากลับบอกถึงความดูแคลนและเย้ยหยัน
อินเสี่ยวเสี่ยวส่งเอกสารเสร็จ กลับมาจากห้องทำงานของผู้จัดการฝ่ายการเงิน ก็เห็นว่าบนโต๊ะทำงานของเธอมีเอกสารกองพะเนินราวกับภูเขา แทบจะกองเต็มโต๊ะไปหมด
“เสี่ยวเสี่ยว ช่วยส่งเอกสารกองริมซ้ายสุดไปที่ฝ่ายเทคนิคให้หน่อยได้ไหม”
“เสี่ยวเสี่ยว ระหว่างทางก็แวะส่งแฟ้มพวกนี้ไปที่ห้องทำงานของผู้จัดการฝ่ายบุคคลให้ทีนะ”
“เสี่ยวเสี่ยว ข้อมูลพวกนี้ ฝ่ายการตลาดต้องใช้ประชุมตอนบ่ายนี้แล้ว เธอรีบไป…”
……
พวกคนในออฟฟิศนั่งอยู่กับโต๊ะของตัวเอง พอเห็นเธอเข้าห้องมา ก็ชี้ไปที่เอกสารกองโตนั่น พูดสั่งเธอหน้าตาเฉย
อินเสี่ยวเสี่ยวฟังคำพูดของพวกเขาแล้วก็เข้าใจกระจ่างแจ้ง ว่าพวกเขาตั้งใจหาเรื่องสร้างความลำบากให้เธอ ในฐานะที่เป็นพนักงานใหม่อายุสองวันของบริษัท พวกเขาจะตัดไม้ข่มนามไว้ก่อนก็เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่เข้าใจกันได้
อินเสี่ยวเสี่ยวคิดดูแล้ว ก็รับปากทุกคน ที่จริงแล้วเธออยากจะทำงานที่บริษัทนี้ต่อไป ถ้าตอนนี้ยอมเสียเปรียบบ้าง แลกกับความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงาน ที่จะทำงานได้กลมเกลียวยิ่งขึ้น เธอก็ยอมให้ได้
ดังนั้น อินเสี่ยวเสี่ยวจึงหอบเอกสารกองแล้วกองเล่า วิ่งวุ่นไปตามแผนกต่างๆ ในบริษัท จนในที่สุดก่อนพักเที่ยงเธอก็จัดส่งเอกสารทั้งหมดไปตามฝ่ายต่างๆ ตามที่ได้รับการขอมาจนเสร็จ
พักเที่ยง อินเสี่ยวเสี่ยวกับฮั่วเทียนอวี่ทานข้าวด้วยกันที่โรงอาหารของบริษัท ตอนทานข้าว ฮั่วเทียนอวี่ขมวดคิ้วมองดูหลังมือของอินเสี่ยวเสี่ยวแล้วถามว่า “เสี่ยวเสี่ยว มือเธอไปโดนอะไรมา”
อินเสี่ยวเสี่ยวยกมือตัวเองขึ้นดู ก็เห็นว่าหลังมือมีรอยแดงเป็นแถบ น่าจะเป็นตอนชงกาแฟไม่ทันระวังถูกน้ำร้อนลวกเข้า หลังจากนั้นก็มัวแต่ช่วยคนอื่นส่งเอกสาร จึงไม่ทันได้สังเกตเห็น
อินเสี่ยวเสี่ยวพูดเรื่องทุกอย่างกับฮั่วเทียนอวี่ จึงเล่าเรื่องให้เขาฟังคร่าวๆ
ฮั่วเทียนอวี่ได้ฟังก็โกรธมาก เขาถามว่า “เสี่ยวเสี่ยว ตอนอยู่ในบริษัท พวกเขาก็รังแกเธอแบบนี้เสมอเหรอ?”
“ก…ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ” อินเสี่ยวเสี่ยวกำลังคิดจะพูดว่าเธอต้องการตั้งใจทำงานต่อไป แต่ฮั่วเทียนอวี่พูดขัดขึ้นก่อน
“เสี่ยวเสี่ยว พวกเราไปจากที่นี่ด้วยกันเถอะนะ ที่นี่ไม่น่าอยู่เลย เราไปจากที่นี่ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ผมก็ไม่อยากให้คุณถูกรังแกอีกต่อไป” พูดพลาง ฮั่วเทียนอวี่มองอินเสี่ยวเสี่ยวอย่างรอคอยคำตอบ ถามว่า “นะ เสี่ยวเสี่ยว?”
อินเสี่ยวเสี่ยวฟังแล้วกลับส่ายศีรษะ พูดว่า “พี่อวี่ ขอโทษนะคะ ฉันไม่อยากไปจากที่นี่”
“ทำไมล่ะ” ฮั่วเทียนอวี่ถามอย่างสงสัย
“เพราะว่า ไม่รู้ทำไม ตอนมาที่บริษัทนี้ จู่ๆ ฉันก็รู้สึกสงบใจขึ้นมา” หลินหว่านพูดเรื่อยๆ “ถึงแม้จะมีเพื่อนร่วมงานที่ทำความลำบากให้ แต่ฉันก็ยังอยากจะตั้งใจทำงานที่นี่ต่อไป…”