รักเล่ห์เร้นใจ - ตอนที่ 236 ฝันเฟื่อง
พอหวังจงไห่ดื่มเหล้าจนหมดแก้ว หลินจิ้งเห็นว่าอินเสี่ยวเสี่ยวยังไม่มีท่าทียอมก้มหัว เธอคว้าแขนอินเสี่ยวเสี่ยวหันไปยิ้มเป็นเชิงขอโทษกับหวังจงไห่ว่า “ผู้กำกับหวังคะ ขอโทษด้วยค่ะ เสี่ยวเสี่ยวเกิดไม่สบายขึ้นมากะทันหัน พวกเราขอตัวสักครู่นะคะ”
“อ้อ? คุณอินไม่สบายตรงไหนเหรอ?” หวังจงไห่ทำท่าห่วงใยเกินพอดี
“เสี่ยวเสี่ยวเธอเวียนหัวนะค่ะ ฉันจะพาเธอไปห้องน้ำสักครู่เดี๋ยวก็ดีขึ้นค่ะ ผู้กำกับหวังไม่ต้องห่วงนะคะ” หลินจิ้ง ‘อธิบาย’
“งั้นเหรอ? คุณอินต้องดูแลสุขภาพหน่อยนะ” หวังจงไห่พูดกับอินเสี่ยวเสี่ยว
แต่พอหลินจิ้งคว้าตัวอินเสี่ยวเสี่ยวลากออกไปอย่างเร็ว สีหน้าของหวังจงไห่ก็เปลี่ยนไป มองดูเงาหลังของอินเสี่ยวเสี่ยวด้วยสายตาอาฆาตมาดร้าย ด่าออกมาว่า “ไม่รู้จักดีชั่ว…”
พอหลินจิ้งดึงอินเสี่ยวเสี่ยวมาที่ห้องน้ำ เห็นไม่มีคนก็ปิดประตูลงกลอน ไม่ให้คนอื่นโผล่เข้ามาได้
อินเสี่ยวเสี่ยวกลับฉวยโอกาสนี้สลัดหลุดจากหลินจิ้งที่จับแขนเธอไว้ตลอด ใครจะไปรู้ว่าหลินจิ้งมีเรี่ยวแรงมหาศาลขนาดนี้ ข้อมือเธอเขียวช้ำไปแถบหนึ่ง เจ็บจนมือแทบหักแน่ะ
หลินจิ้งเห็นว่าอินเสี่ยวเสี่ยวหลุดจากการยึดกุมของเธอก็ไม่โมโหอะไร สองมือกอดอก มองดูอินเสี่ยวเสี่ยวด้วยสายตาเย็นเฉียบ ถามว่า “เมื่อกี้คุณพูดอะไร? จะยกเลิกสัญญากับฉันงั้นรึ?”
“ใช่! คุณหลิน ทัศนคติของฉันกับคุณมันไปกันไม่ได้ ฉันไม่ใช่คนที่ยอมขึ้นเตียงกับใครก็ได้เพื่อให้ได้เล่นหนัง ดังนั้นถ้าคุณอยากได้ศิลปินที่เชื่อฟังและรู้จักเอาอกเอาใจคนอื่น ก็ไปหาคนอื่นก็แล้วกัน!” อินเสี่ยวเสี่ยวขึ้นเสียงกับหลินจิ้ง
หลินจิ้งไม่สนใจคำพูดพวกนี้ของอินเสี่ยวเสี่ยว พออินเสี่ยวเสี่ยวพูดจบ เธอก็หยิบเอกสารจากกระเป๋าออกมาชุดหนึ่ง ยิ้มเยาะพลางพูดว่า “อินเสี่ยวเสี่ยว ถ้าคุณคิดจะยกเลิกสัญญา ก็ฝันเฟื่องเกินไปหน่อยกระมัง! นี่เป็นสัญญาที่เธอทำไว้กับบริษัท ในสัญญาระบุเงื่อนไขการชดเชยกรณีผิดสัญญาไว้อย่างชัดเจน คุณดูให้ละเอียดสิ!”
หลินจิ้งพูดพลาง ยัดหนังสือสัญญาให้อินเสี่ยวเสี่ยว อินเสี่ยวเสี่ยวถือหนังสือสัญญา พออ่านถึงเงื่อนไขกรณีผิดสัญญาแล้ว รู้สึกทั้งโกรธและตกใจ
“อินเสี่ยวเสี่ยว คุณเซ็นสัญญากับฉันแล้วยังคิดจะยกเลิกสัญญา? ฉันจะบอกให้ ไม่มีทาง ในเมื่อเธอเซ็นสัญญาแล้วก็น่าจะรู้ว่า ถ้าหากเธอฝืนยกเลิกสัญญาเพียงฝ่ายเดียว ต้องจ่ายเงินค่าปรับให้บริษัทสิบเท่า ก็เท่ากับห้าสิบล้านเชียวนะ!” เสียงเย้ยหยันของหลินจิ้งดังมาอีกว่า “อินเสี่ยวเสี่ยว คุณมีเงินมากขนาดนั้นไหมเล่า? ถ้าไม่มี คุณก็ไม่ต้องคิดเรื่องนี้อีกแล้ว กลับไปกับฉัน…”
“แก! นี่มันสัญญาเผด็จการชัดๆ!” อินเสี่ยวเสี่ยวพูดขัดหลินจิ้งขึ้นมา เธอพูดอย่างโมโหว่า “ฉันจะฟ้องร้องพวกคุณ!”
ตอนนี้อินเสี่ยวเสี่ยวนึกเสียใจที่ตอนเซ็นสัญญาเธอไม่ได้อ่านดูเนื้อหาในสัญญาโดยละเอียด ถ้าหากรู้แต่แรกว่าหนังสือสัญญามีเงื่อนไขที่ไม่เป็นธรรมแบบนี้ และบริษัทมีคนอย่างหลินจิ้ง ตอนนั้นต่อให้ฆ่าเธอให้ตายก็ไม่เซ็นสัญญานี่หรอก!
หลินจิ้งหัวเราะเหมือนได้ฟังเรื่องขำขัน พูดว่า “เธอไปฟ้องเลย อินเสี่ยวเสี่ยว ในหนังสือสัญญาระบุชัดทั้งมีลายมือชื่อของเธอเองด้วย เธอคิดว่าเธอชนะคดีได้ไหมล่ะ”
แต่ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ไม่มีคำว่าถ้าหาก อินเสี่ยวเสี่ยวคิดดูแล้ว ตัดใจเด็ดขาด เธอโยนสัญญากลับคืนให้หลินจิ้ง พูดว่า “ได้ แค่ห้าสิบล้านใช่ไหม? ฉันจ่ายให้ก็ได้ สัญญานี่ ฉันยกเลิกแน่!”
“หึ อินเสี่ยวเสี่ยว เธอมีเงินมากขนาดนั้นหรือไง?” หลินจิ้งเก็บสัญญาลงกระเป๋า เยาะเย้ยว่า “อย่าโม้ไปหน่อยเลย ใครก็พูดได้! แต่แค่พูดจะมีประโยชน์อะไร? เธอไม่มีเงิน ยังไงก็ต้องเชื่อฟังคนอื่นอยู่ดี เพราะฉะนั้นนะ เธอก็กลับไปกับฉันซะโดยดี ไปดื่มเป็นเพื่อนผู้กำกับหวังซะ ไม่แน่ว่าเขาเกิดใจดีขึ้นมาจะให้บทเธอแสดงก็ได้!”
“ฉันไม่ยอมขายร่างกายตัวเองเพื่อแลกกับงานแสดงหรอก!” อินเสี่ยวเสี่ยวพูดเน้นทีละคำ “เงินห้าสิบล้าน ฉันจะหาทางรวบรวมมาให้ได้ วันนี้ฉันไม่ยอมกลับไปกับคุณเด็ดขาด!”
พูดจบ เธอก็จะพุ่งสวนผ่านหน้าหลินจิ้งเพื่อออกไปจากที่นี่
แต่หลินจิ้งขวางอินเสี่ยวเสี่ยวไว้ได้อีกครั้ง เธอหัวเราะเบาๆ พูดว่า “เหอะ อินเสี่ยวเสี่ยว ต้องบอกว่าเธอนี่ช่างไร้เดียงสาเสียจริง ในวงการบันเทิง ปลาใหญ่กินปลาเล็ก คนเข้มแข็งกว่าย่อมได้เปรียบ เธอคิดอยากจะได้ในสิ่งที่ต้องการ ก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อกัน เหตุผลนี้ไม่มีใครเคยบอกคุณเลยรึไง?”
พูดจบ หลินจิ้งก็พูดโน้มน้าวว่า “แน่นอนว่า ถ้าเธอไม่เต็มใจจริงๆ ฉันก็จะไม่บังคับเธอ แต่เธอเป็นเพื่อนฉันไปดื่มกับผู้กำกับหวัง แล้วขอโทษเขาซะ ถึงยังไงผู้กำกับหวังก็เป็นคนที่ทรงอิทธิพลในวงการบันเทิงคนหนึ่ง ถ้าเธอล่วงเกินเขาเข้า จะอยู่ในวงการต่อไปไม่ได้นะ ว่ายังไง?”
ที่หลินจิ้งพูดมาก็มีเหตุผลดี อินเสี่ยวเสี่ยวฟังแล้วคิดดูรอบหนึ่ง ได้แต่ตอบตกลงในที่สุด
“ผู้กำกับหวังคะ ต้องขอโทษจริงๆ ทำให้คุณต้องรอนานแล้ว” พอหลินจิ้งกับอินเสี่ยวเสี่ยวกลับมาที่งานเลี้ยง ก็เข้ามากล่าวขอโทษกับหวังจงไห่
“ไม่เป็นไรหรอก” หวังจงไห่พูดด้วยรอยยิ้มใจดี จากนั้นถามอินเสี่ยวเสี่ยวว่า “คุณอิน ตอนนี้คุณสบายดีแล้วรึยังล่ะ”
หน้าตาของอินเสี่ยวเสี่ยวดูสดใสบริสุทธิ์ ทั้งมีชีวิตชีวา เป็นแบบที่หวังจงไห่ชอบที่สุด
เมื่อครู่หวังจงไห่แค่มองอินเสี่ยวเสี่ยวแวบแรก ก็รู้สึกถูกใจ แม้เขาจะรู้สึกว่าอินเสี่ยวเสี่ยวไม่รู้จักดีชั่ว แต่ก็ยังไม่เป็นอุปสรรคที่เขาจะอยากได้เธอ
“ฉันดีขึ้นมากแล้วค่ะ ขอบคุณผู้กำกับหวังที่เป็นห่วง” อินเสี่ยวเสี่ยวเห็นว่าสายตาของหวังจงไห่จ้องเป๋งมาที่ร่างของเธอก็รู้สึกหนาวเยือก เธอพูดด้วยรอยยิ้มพอเป็นมารยาท
“งั้นก็ดีแล้ว ใช่แล้ว เมื่อครู่ได้ยินว่าคุณอินไม่ค่อยสบาย ผมเปิดห้องเอาไว้ คุณอินไปพักผ่อนกับผมในห้องสักครู่เถอะ” หวังจงไห่เอ่ยขึ้นกับอินเสี่ยวเสี่ยวอีก
“ไม่…” อินเสี่ยวเสี่ยวกำลังจะปฏิเสธ ก็พบว่าหลินจิ้งแย่งเธอตอบว่า “ผู้กำกับหวังคะ คุณก็เกรงใจไปแล้วนะคะ ฉันขอบคุณแทนเสี่ยวเสี่ยวล่วงหน้าก็แล้วกัน ได้ยินว่าคุณมีหนังเรื่องหนึ่งอยากจะคุยกับเสี่ยวเสี่ยว เสี่ยวเสี่ยว ยังไม่รีบไปพักผ่อนกับผู้กำกับหวังอีก!”
คำพูดประโยคหลังเธอพูดกับอินเสี่ยวเสี่ยว ไม่เปิดโอกาสให้เธอปฏิเสธ หลินจิ้งพูดข่มขู่อินเสี่ยวเสี่ยวที่ข้างหูว่า “อินเสี่ยวเสี่ยว เธอจำไว้นะ วันนี้ไม่ว่ายังไงเธอต้องเอางานแสดงในมือของผู้กำกับหวังมาให้ได้ ไม่อย่างนั้นเรื่องยกเลิกสัญญา เธอก็เลิกคิดได้เลย เข้าใจไหม!”
หลินจิ้งดึงตัวอินเสี่ยวเสี่ยวให้เข้าห้องพักไปกับหวังจงไห่ จากนั้น เธอเห็นว่าสายตาของหวังจงไห่วนเวียนอยู่บนร่างของอินเสี่ยวเสี่ยวตลอด ตอนที่พูดกับเธอก็มีท่าทีรำคาญอย่างเห็นได้ชัด จึงบอกว่าตัวเองมีธุระ บอกลาไปก่อน
พอหลินจิ้งจากไป ภายในห้องก็เหลือแค่อินเสี่ยวเสี่ยวกับหวังจงไห่เพียงสองคน อินเสี่ยวเสี่ยวพอเห็นเช่นนั้นก็นึกเสียดายว่ารู้อย่างนี้เมื่อครู่เธอหนีกลับไปแต่แรกแล้ว ไม่กลับมากับหลินจิ้งซะให้ยากหรอก
เมื่อต้องเผชิญกับสายตาหื่นของหวังจงไห่ อินเสี่ยวเสี่ยวรู้สึกขนลุกซู่ เธอกำลังจะหาข้ออ้างจากไป ก็ได้ยินหวังจงไห่พูดกับเธอว่า “คุณอิน ในเมื่อที่นี่มีแค่เราสองคนแล้ว ผมก็พูดให้ชัดกันไปเลย ได้ยินหลินจิ้งบอกว่าคุณสนใจบทหนังเรื่องหนึ่งของผม?”