รักเล่ห์เร้นใจ - ตอนที่ 239 มือถือช่วยชีวิต
พอได้ฟังคำพูดของหลินจิ้ง เซียวจิ่งสือก็มีสีหน้าดำคล้ำลงไปทุกที เขาถามอีกว่า “จากนั้นล่ะ? พวกเขาตอนนี้อยู่ที่ไหน?”
“หลังจากนั้น หลังจากนั้นฉันก็กลับมาค่ะ คุณอินธ…เธอน่าจะยังอยู่ในงานเลี้ยงที่ห้องส่วนตัวของหวังจงไห่มังคะ…” เมื่อครู่หลินจิ้งอาบน้ำอยู่ตลอด เธอยังไม่ได้เห็นข่าวรอบดึก จึงตอบตามความเป็นจริง
เซียวจิ่งสือฟังแล้ว หัวคิ้วกลับขมวดแน่น แต่ตอนที่เขาเพิ่งออกมาจากงานเลี้ยง ได้ถามคนทำงานที่นั่นแล้ว พวกเขาพากันบอกว่าหวังจงไห่กับอินเสี่ยวเสี่ยวไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว และต่างบอกว่าเห็นหวังจงไห่ลากตัวอินเสี่ยวเสี่ยวไปจากหน้าประตูโรงแรม
ถ้าอย่างนั้น ตอนนี้อินเสี่ยวเสี่ยวอยู่ที่ไหนกันแน่นะ?
แล้วเซียวจิ่งสือก็นึกถึงรูปถ่ายบนเน็ตพวกนั้นขึ้นมาได้ ถ้าหลินจิ้งไม่ได้โกหก งั้นพอหลินจิ้งออกมาแล้ว หวังจงไห่ก็มอมเหล้าอินเสี่ยวเสี่ยว ทั้งสองไม่ทราบว่าไปอยู่หน้าประตูโรงแรมได้อย่างไร จากนั้นก็ถูกคนถ่ายภาพเอาไว้
“ที่คุณพูดเป็นความจริงทั้งหมดรึเปล่า?” เซียวจิ่งสือเค้นถามเอากับหลินจิ้งอีก หลินจิ้งเฝ้าย้ำว่าตัวเองไม่ได้พูดโกหก “ท่านประธานเซียว ที่ฉันพูดเป็นความจริงทั้งนั้นเลยนะคะ ที่ฉันรู้ก็มีแค่นี้แล้ว อ้า ใช่แล้ว…” จู่ๆ หลินจิ้งก็เหมือนกับนึกบางอย่างขึ้นมาได้ สีหน้าเปลี่ยนไป
“มีอะไร?” เซียวจิ่งสือจ้องเขม็งถามอย่างร้อนใจ
“ฉันได้ยินว่า…ฉันได้ยินมาว่า หวังจงไห่เขาชอบใส่ยาให้พวกดาราสาวๆ ที่ไม่เชื่อฟัง ไม่รู้ว่าอินเสี่ยวเสี่ยวเธอ…” หลินจิ้งพูดไปพูดไปสีหน้าก็ยิ่งซีดขาว ถ้าอินเสี่ยวเสี่ยวถูกวางยาจริง งั้นผู้ชายตรงหน้านี้ต้องฆ่าเธอกับมือแน่
แล้วก็เป็นดังคาด เซียวจิ่งสือพอได้ฟังคำพูดของหลินจิ้ง พริบตาต่อมาหมัดหนึ่งก็อัดเข้ากำแพงข้างตัวเธออย่างแรง นี่ถ้าไม่ใช่เพราะเขาไม่ทำร้ายผู้หญิง หมัดนี้คงพุ่งเข้าใส่ร่างของหลินจิ้งไปแล้ว
ถ้างั้น…บ้าชิบ! ตอนนี้อินเสี่ยวเสี่ยวอยู่ไหนกันแน่นะ?
ในงานเลี้ยงก็ไม่มี หลินจิ้งก็ไม่รู้เรื่อง หรือว่าเธอจะโดนวางยาจริงๆ ถูกหวังจงไห่พาไปที่ไหนสักแห่ง?
เซียวจิ่งสือยิ่งคิดก็ยิ่งเป็นห่วง อินเสี่ยวเสี่ยวคงไม่เกิดเรื่องจริงๆ หรอกกระมัง?
ตอนนี้เอง มือถือของเซียวจิ่งสือมีเสียงสายเข้า เขาหยิบขึ้นดู เป็นสายจากเลขาของเขาเอง
เซียวจิ่งสือรีบรับสาย “พวกคุณเจอว่าเสี่ยวเสี่ยวอยู่ไหนแล้วใช่ไหม?”
“ท่านประธานเซียว หาพบแล้ว! ตำแหน่งมือถือของคุณอินตอนนี้อยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่ง…เอ๋ แปลกแฮะ ตำแหน่งเคลื่อนออกมาจากโรงแรมแล้ว…” เลขาจ้องตามจุดเล็กๆ ที่แสดงตำแหน่งบนหน้าจอ พลางรายงานกับเซียวจิ่งสือ
ชั่วขณะนั้นเซียวจิ่งสือไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร เขาถามอีกว่า “โรงแรมอะไร?”
“ท่านประธานเซียว ผมจะส่งที่อยู่ให้คุณเดี๋ยวนี้ครับ” เลขาตอบ
เซียวจิ่งสือขับรถบึ่งตรงไปยังโรงแรมที่ถูกระบุตำแหน่ง ร้อนใจจนแทบไม่อาจรอได้แม้แต่นาทีเดียว
โรงแรมนั้นอยู่ใกล้ๆ กับโรงแรมที่จัดงานเลี้ยง หลังจากเซียวจิ่งสือได้วิธีติดต่อหลินจิ้ง ก็โทรหาเธอ แต่โทรศัพท์ของเธอไม่มีคนรับสาย เขาจึงถามที่อยู่ของหลินจิ้ง ตรงมาที่บ้านของเธอ ขอเพียงหาตัวอินเสี่ยวเสี่ยวพบ เขาจะไม่ยอมทิ้งโอกาสแม้แต่หนึ่งเดียว
ไม่ว่าอินเสี่ยวเสี่ยวจะอยู่ที่ไหน เขาต้องไปช่วยเธอออกมาให้ได้ แค่หวังว่าอินเสี่ยวเสี่ยวจะยันเอาไว้อยู่รอจนเขามาช่วยเธอ!
พอนึกถึงตรงนี้ เซียวจิ่งสือก็ยิ่งเร่งความเร็วรถ
หลังจากหวังจงไห่พาอินเสี่ยวเสี่ยวไปแล้วก็เรียกรถตรงไปยังโรงแรมที่อยู่ใกล้ที่สุดทันที
ตอนที่นักข่าวถ่ายรูปนั้น หวังจงไห่ก็พบว่าฤทธิ์ยาในตัวอินเสี่ยวเสี่ยวดูเหมือนเริ่มจะออกฤทธิ์แล้ว เธอตัวอ่อนพิงอยู่บนร่างเขา สภาพเหมือนคนเมาเหล้าจนเคลิบเคลิ้มสลึมสลือ ทำให้หวังจงไห่เกิดอารมณ์ขึ้นมาทันควัน แค่นึกภาพอินเสี่ยวเสี่ยวที่นอนอยู่ใต้ร่างเขา เขาก็แทบจะอดใจไว้ไม่อยู่
พอมาถึงโรงแรม เข้าห้องพัก หวังจงไห่ก็ช้อนตัวอินเสี่ยวเสี่ยวอุ้มขึ้นมา แล้วโยนลงบนเตียงอย่างแรง
การโยนครั้งนี้ทำให้ศีรษะของอินเสี่ยวเสี่ยวโขกเข้ากับตู้หัวเตียงดัง “โป๊ก” และเคราะห์ดีที่การโยนนี้ทำให้อินเสี่ยวเสี่ยวที่ตกอยู่ในฤทธิ์ยาเกิดได้สติขึ้นมาชั่วครู่หนึ่ง
“อูย…เจ็บจัง…” อินเสี่ยวเสี่ยวขมวดคิ้ว ครางออกมาแล้วค่อยๆ ลืมตาขึ้น
จากนั้นเธอก็เห็นหวังจงไห่ที่กำลังเดินเข้ามาหาเธอ อินเสี่ยวเสี่ยวพูดอย่างตื่นกลัวว่า “ค…คุณอย่าเข้ามานะ…”
“คุณอิน ไม่ต้องกลัวนะ ผมรับรองได้ คืนนี้ผมจะทำให้คุณไม่มีวันลืมคืนนี้ไปได้เลย!” หวังจงไห่มองดูอินเสี่ยวเสี่ยวที่อยู่บนเตียง ดวงตาเป็นประกายวาววับ
อินเสี่ยวเสี่ยวเห็นหวังจงไห่จะเข้ามาหา ก็พูดเสียงเครือว่า “ฉันขอร้องล่ะ ไม่นะ! ฉันไม่ต้องการ! คุณปล่อยฉันไปเถอะนะ…ขอร้องล่ะ ปล่อยฉันไปนะ!”
หรือว่าคืนนี้เธอจะต้องมาพลาดท่าเสียทีอยู่นี่? เธอหนีไม่พ้นเงื้อมมือของหวังจงไห่จริงๆ เหรอ?
พอคิดดูแล้ว อินเสี่ยวเสี่ยวก็กวาดสายตาไปรอบห้อง พอเห็นว่าตู้หัวเตียงมีของบางอย่างวางโชว์อยู่เธอก็ไม่ขัดขืนอีก ปิดตาลง…
“ดี ต้องว่าง่ายแบบนี้สิ” หวังจงไห่เห็นอินเสี่ยวเสี่ยวไม่ขัดขืนแล้ว ก็พูดอย่างพอใจ “คืนนี้ผมจะทำให้คุณมีความสุขได้แน่!”
จากนั้น หวังจงไห่ก็ถอดเสื้อผ้าออกอย่างรวดเร็ว สายตาฉายชัดถึงความหื่นกระหาย เขาโถมร่างเข้าหาอินเสี่ยวเสี่ยวที่อยู่บนเตียงอย่างไม่รั้งรอ
ขณะที่หวังจงไห่จะจูบปากอินเสี่ยวเสี่ยวนั้น จู่ๆ อินเสี่ยวเสี่ยวก็ลืมตาขึ้น จากนั้นเธอก็ยื่นมือออกไปอย่างเงียบกริบคว้าได้แจกันดอกไม้ก็ฟาดเข้าที่ศีรษะหวังจงไห่อย่างแรง
โป้งเดียวอยู่ เลือดสดๆ ไหลโกรกออกมาจากศีรษะของหวังจงไห่
“ธ…เธอ…” หวังจงไห่ลูบที่ศีรษะ ได้เลือดสดๆ มาเต็มมือ เขายังตกตะลึงอยู่กับสภาพของตัวเอง ใครจะไปคิดว่า คืนนี้แค่ช่วงเวลาสั้นๆ เขาจะถูกคนคนเดียวกันใช้ขวดเหล้ากับแจกันดอกไม้ตีหัวถึงสองครั้ง?
อินเสี่ยวเสี่ยวฉวยโอกาสที่หวังจงไห่ยังตกตะลึงอยู่รีบพลิกตัวลงจากเตียง อันที่จริงเธอยังมึนงงอยู่ ฝีเท้ายังเบาหวิว แต่ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือหนีออกจากเงื้อมมือของหวังจงไห่ให้ได้
อินเสี่ยวเสี่ยวใช้เศษกระเบื้องแจกันในมือทิ่มแทงฝ่ามือตัวเองอย่างแรง เธอหวังจะใช้ความเจ็บปวดมาสะกดฤทธิ์ยาที่รุมเร้าเข้ามา
“ก…แกนังบ้านี่!” ในที่สุด หวังจงไห่ก็รู้สึกตัว เข้าไปจะคว้าตัวอินเสี่ยวเสี่ยวที่อยู่อีกด้านหนึ่ง
ส่วนอินเสี่ยวเสี่ยวก็รีบเผ่นออกจากห้องนี้ไป ตอนที่ออกมานั้นก็ไม่ลืมที่จะเก็บมือถือของตัวเองที่หล่นอยู่บนพื้น
“อินเสี่ยวเสี่ยว หยุดนะ! แกนังบ้า อย่าให้ฉันเจอกับแกอีกเชียว!”
ภายในห้อง มีเสียงคำรามอย่างโกรธจัดของหวังจงไห่ดังลอดออกมา อินเสี่ยวเสี่ยวเกรงว่าหวังจงไห่จะตามออกมา แล้วเอาตัวเธอเข้าไปอีก จึงได้แต่วิ่งสุดแรงไปข้างหน้า วิ่งไปเรื่อยๆ!
ในที่สุด อินเสี่ยวเสี่ยวก็วิ่งออกมาจากโรงแรม พอแน่ใจว่าข้างหลังไม่มีคนตามเธอออกมา ก็หยุดหอบหายใจ
แต่ว่าอาจเป็นเพราะฤทธิ์ยา เธอรู้สึกอ่อนแรงอีกครั้ง อินเสี่ยวเสี่ยวฉวยโอกาสที่ตัวเองยังพอมีสติอยู่บ้างกำมือถือไว้แน่น โทรออกไปมั่วๆ สายหนึ่ง “มาเร็ว…ชช่วย…ฉัน”
“ฉันอยู่ที่โรงแรม…ใกล้กับ…” อินเสี่ยวเสี่ยวไม่รู้ว่าโรงแรมนี่ชื่ออะไร จึงต้องบอกชื่อโรงแรมที่เธอไปร่วมงานเลี้ยง
จากนั้น เสียงตอบรับจากปลายสายอินเสี่ยวเสี่ยวฟังไม่รู้เรื่องแล้ว เพราะเธอค่อยๆ หมดสติไปแล้ว